ลุ้นแลกของรางวัลมากมาย พร้อมยกขบวนสินค้าคลายร้อนกับส่วนลดจัดเต็มสูงสุด 20% และลดเพิ่มอีก 15% เมื่อช้อปที่สโตร์อิเกีย  

บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณนพพร บุญลาโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมบริจาคทรัพย์ทำบุญงานประเพณีบุญผะเหวดเกษมทรัพย์สามัคคี ประจำปี 2567 เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวอีสาน และร่วมบริจาคทุนทรัพย์ยกอุโบสถที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ในพื้นที่ต่ำไม่เหมาะกับการปฏิบัติศาสนกิจของพุทธศาสนิกชน ซึ่งเป็นงานประวัติศาสตร์ครั้งแรกของจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ณ วัดเกษมทรัพย์พัฒนาราม จ.ร้อยเอ็ด

 

ซีพี ออลล์ และบริษัทในกลุ่ม จัดงาน “ประกาศทิศทางนโยบายบรรษัทภิบาล 2024”  ปลุกพลังพนักงาน  Store Business Partner (SBP) และคู่ค้า ร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรแห่งธรรมาภิบาลตลอดห่วงโซ่คุณค่า คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย “DNA ความดี 24 ชั่วโมง”  ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมา  ภิบาล ร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ  มุ่งมั่นเคียงข้างชุมชน ร่วมสร้างสรรค์สังคมอย่างยั่งยืน ภายใต้ปณิธาน Giving and Sharing

โดยซีพี ออลล์ ได้วางแผนกลยุทธ์ด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ เป็นหนึ่งในแผนพัฒนาความยั่งยืนระยะยาวขององค์กร ครอบคลุมการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2564-2573 ภายใต้การกำกับดูแลของคณะอนุกรรมการพัฒนาความยั่งยืน โดยบูรณาการแนวปฏิบัติสากลและแนวโน้มของโลก (Global Trend)  เข้าไปในกระบวนการทางธุรกิจทั้งในระดับองค์กร และตลอดห่วงโซ่อุปทาน ห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Supply & Value Chain) พร้อมทั้งประเมินผลการดำเนินงาน และสร้างการรับรู้เรื่องการประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืนไปสู่ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับผ่านการจัดโครงการอบรม ให้ความรู้ และสร้างการมีส่วนร่วมทั่วทั้งองค์กร พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกและการมีจิตสาธารณะให้อยู่ใน DNA ของพนักงานและขยายไปสู่คู่ค้าทางธุรกิจ

นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ เปิดเผยว่า ในฐานะองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานทั้งบริษัทและบริษัทในกลุ่มรวมกว่า 250,000 คน และมีคู่ค้าลำดับที่ 1 มากกว่า 2,200 ราย บริษัทจึงมุ่งมั่นนำเสนอสินค้าคุณภาพและบริการความสะดวกแก่ทุกชุมชน ควบคู่กับการสร้างสรรค์และส่งต่อคุณค่า ตอบแทนคุณประเทศชาติ สังคม ชุมชน พร้อมทั้งต่อต้านการคอร์รัปชันอย่างเคร่งครัด ภายใต้คาถาบรรษัทภิบาล “ซื่อสัตย์ โปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม” 

และในปี 2567 นี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตามหลักบรรษัท    ภิบาลขององค์กร กฎหมาย และแนวปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้องภายใต้ 2 กลยุทธ์หลักได้แก่ 1. ปลูกฝัง DNA ความดี 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างธรรมาภิบาลจากภายในองค์กร โดยสนับสนุนให้พนักงาน ดำเนินงานอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน โดยร้อยละ 100  ของพนักงานทุกระดับได้รับการอบรม (Training) ทบทวน (Refresh Training) และผ่านการทดสอบในหลักสูตรธรรมาภิบาล และการต่อต้านทุจริต การพัฒนาความยั่งยืน การบริหารความเสี่ยงด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมทั้งสร้างผู้นำรุ่นใหม่หัวใจ ธรรมาภิบาล หรือ “Mister & Miss Good Governance: MMGG” ต่อเนื่องสู่รุ่นที่ 3 เพื่อสร้างตัวแทนจากทุกหน่วยงานช่วยเป็นกระบอกเสียงไปยังเพื่อนพนักงาน ในการส่งเสริมให้ทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมกับกิจกรรมด้านธรรมาภิบาล

2. ผนึกกำลังภายนอกองค์กร (Change agent) เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างการตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนให้กับคู่ค้า  โดยขับเคลื่อนตามกลยุทธ์ผ่านโครงการประเมินความเสี่ยงและพัฒนา ศักยภาพคู่ค้า  "Responsible Supply Chain Management" ตามกรอบแนวทางความยั่งยืน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนคู่ค้ากลุ่มSMEs ในการเข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่นของภาคเอกชนไทย (Thai Private Sector Collective Action Against Corruption: CAC) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจดูแลช่วยเหลือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสังคม ชุมชนที่เกี่ยวข้อง  

“เป้าหมายของ 2 กลยุทธ์ดังกล่าว คือการสร้าง DNA ความดี 24 ชั่วโมง  โดยเรามีพนักงานกว่า 250,000 คน มีร้านกว่า 14,700 สาขา ใน 77 จังหวัด  928 อำเภอ และเกือบทุกตำบล ถือเป็นศูนย์กลางชุมชนที่แท้จริง หิวเมื่อไหร่ก็แวะไปเซเว่นฯ ลืมของเมื่อไหร่ก็แวะไปเซเว่นฯ ต้องการความช่วยเหลืออะไรก็แวะไปเซเว่นฯ จุดแข็งของเรานอกเหนือจากจำนวนร้านสาขา คือเรื่อง “คน” ปีที่ผ่านมาเรามีเคสลูกค้าชื่นชมพนักงานทำความดีกว่า 9,300 เคส สิ่งดีๆ เหล่านี้อาจเริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆ ในแต่ละพื้นที่ แต่เราเชื่อว่าเมื่อปลูกฝังให้กลายเป็น DNA ขององค์กร พอรวมกันแล้วก็จะกลายเป็นคุณค่าต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร ให้สามารถเติบโตร่วมกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นอกเหนือจาก 2 กลยุทธ์ดังกล่าวแล้ว บริษัทยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ 1.การกำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับดูแลด้านความยั่งยืนและบรรษัทภิบาล โดยให้ความสำคัญกับสัดส่วนกรรมการอิสระที่เป็นบุคคลภายนอก 2.การทบทวนนโยบายกำกับดูแลกิจการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและแนวปฏิบัติด้านบรรษัทภิบาลในระดับสากล 3.การมีนโยบายคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส (Whistleblowing Policy) ดูแลด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ได้รับความเสียหาย

ที่ผ่านมา ซีพี ออลล์ ถือเป็นหนึ่งในองค์กรที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนด้านธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง จนได้รับการยอมรับและการการันตีจากหลายหน่วยงาน อาทิ ได้รับการประเมินระดับดีเลิศ (Excellence) หรือระดับ 5 ดาว โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน ได้รับรางวัล CAC Change Agent Awards จาก CAC ต่อเนื่องถึง 3 ปีซ้อน

นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท  บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ในหมวดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ไตรมาสแรกของปี 2024 พบว่ามียอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 75% และมีจำนวนครั้งในการใช้บัตรเพิ่มขึ้น 78% รวมทั้งมีสมาชิกใช้จ่ายในหมวดนี้เพิ่มขึ้น 93%  เมื่อเทียบกับปี 2023 ในช่วงเดียวกัน เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับ บริษัท เดอะ กอล์ฟ เอนเตอร์ เทนเมนท์ คอมปะนี (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารจัดการศูนย์รวมกีฬา กอล์ฟและความบันเทิงที่เป็นมากกว่ากอล์ฟ “ท็อปกอล์ฟ ประเทศไทย” (Topgolf Thailand) มอบ 2 สิทธิพิเศษคุ้มค่า ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ “คะแนนน้อยแลกได้" พร้อมส่งเสริมให้สมาชิกออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี”

สิทธิพิเศษ  1. รับส่วนลด 10% สำหรับค่าเกมกอล์ฟ ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่เบย์ปกติ รวมถึงร้านอาหารและบาร์ที่ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ (โซน Sports Bar, Pink Giraffe Rooftop Bar, ร้านอาหาร The Patio & Busted และ The Devil's Lounge) 2. แลกรับเครดิตเงินคืน 12% โดยลงทะเบียนผ่าน https://www.ktc.co.th/promotion/travel/air-ticket/ktc-travel-redeem ตั้งแต่วันที่  1 เมษายน 2567 – 30 มิถุนายน 2567

ท็อปกอล์ฟ เมกาชิตี้ (Topgolf Megacity) เป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยว ครอบครัว เพื่อนหรือคู่ค้าธุรกิจ เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ ที่รวมความสนุกสนานของกีฬา อาหารและความบันเทิงต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีบาร์และร้านอาหารรวม 5 ร้าน และยังมี Topgolf Academy และ The Puttyard ซึ่งเป็นสนามมินิกอล์ฟ 18 หลุมที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ และตั้งอยู่ติดกับศูนย์การค้าเมกาบางนา สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.topgolfthailand.com

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/book-hobby-entertainment/others/topgolf-megacity หรือสอบถามที่ KTC PHONE 02 123 5000 สำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card  หรือศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขา ทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ พร้อมด้วย ผศ.สุดา ปีตะวรรณ คุณสุมาลี บำรุงชาติอุดม ที่ปรึกษา และนายภารวี ชัยรักษ์วัฒนา รองผู้อำนวยการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เยี่ยมชมโรงงาน บริษัท สมาร์ท เวท จำกัด (SVG) ประกอบกิจการผลิตและจำหน่าย อาหาร อาหารเสริม ยารักษาและป้องกันโรค สำหรับคนและสัตว์ เคมีภัณฑ์ โดยมี น.สพ.นันทพงษ์ พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ น.สพ.สุพจน์ หนุนไธสง กรรมการผู้จัดการ ให้การต้อนรับ เมื่อเร็วๆ นี้

FWD ประกันชีวิต ส่งแคมเปญ FWD Time to Play สนับสนุนทุกคนออกไปใช้ชีวิตอย่างที่คิด ทำตามสิ่งที่ชอบ เลือกทำทุกวันให้เป็นชีวิตที่อยากใช้ ดึง 4 ศิลปินคนดนตรีจากภูมิภาคเอเชีย ร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนทำสิ่งที่รัก เอ็นจอยกับการใช้ชีวิตให้เต็มที่ ผ่านหนังโฆษณาบนช่องทางออนไลน์

นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“FWD ประกันชีวิต”) กล่าวว่า “FWD ประกันชีวิต เดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการสร้างการรับรู้และสื่อสารแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ล่าสุด ทางเอฟดับบลิวดี กรุ๊ป (FWD Group) ได้เปิดตัว FWD Time to Play” แคมเปญในการสร้างแรงบันดาลใจ สนับสนุนให้ทุกคนออกไปใช้ชีวิตอย่างที่คิด ชอบใช้ชีวิตแบบไหน ก็ทำตามสิ่งที่ชอบ ในทุกเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้น และทุกเย็นที่พระอาทิตย์ตก ให้ทุกวันของเราได้ใช้ชีวิต โดยมีศิลปินคนดนตรีจากภูมิภาคเอเชีย 4 คน ที่มีความทุ่มเทและความฝันแบบไม่สิ้นสุด เป็นแรงสนับสนุนให้วงการเพลงนั้นไปข้างหน้าร่วมกัน ร่วมแสดงผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่หลากหลายเวอร์ชั่นให้ติดตามบนช่องทางออนไลน์”

ศิลปินทั้ง 4 ได้แก่ WOKEUP โปรดิวเซอร์เพลงชาวเวียดนามที่มีชื่อเสียงในด้านการสร้างสรรค์ผลงานดนตรีในแบบฉบับของตัวเอง เขาได้ค้นหาแนวดนตรีฮิปฮอปที่หลากหลาย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแนวเพลงของฝั่งยุโรป และอเมริกา

Heyo แรปเปอร์ นักแต่งเพลง และนักแสดงชาวฮ่องกง ที่วิ่งตามความฝันด้านเพลงแรปในสไตล์จีนกวางตุ้ง โดยเพลงของเขาติดชาร์ตเพลงฮิปฮอปบน iTunes ในปี 2016 และปัจจุบันเป็นไอคอนศิลปินฮิปฮอปในฮ่องกง

Risa ดีเจชาวญี่ปุ่น หรือที่รู้จักในฉายา LISACHRIS เป็นศิลปินและดีเจฮิปฮอปใต้ดิน โดยเปิดแผ่นหลากหลายสไตล์เพลงในคลับดนตรี

และ Zea นักร้องชาวฟิลิปปินส์ ศิลปินยุคใหม่ ที่ไม่ได้เป็นเพียงพนักงานของ FWD ประกันชีวิตของประเทศฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่ยังเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง อีกทั้งยังสามารถเล่นกีตาร์ อูคูเลเล่ และเปียโน ได้ด้วย ให้เป็นผู้ถ่ายทอดความสนุกจากเสียงเพลง และสร้างแรงบันดาลใจไปสู่ทุกคนให้ทำในสิ่งที่รัก ออกไปใช้ชีวิตอย่างที่ชอบได้แบบที่คิด

“เรายังคงมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ FWD ประกันชีวิต ให้เป็นแบรนด์ที่น่าจดจำและอยู่ในใจของผู้บริโภค ด้วยการนำเสนอวิธีการสื่อสารที่แตกต่าง โดยมุ่งหวังให้ FWD Time to Play เป็นแคมเปญในการสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนให้ทุกคนออกไปใช้ชีวิตอย่างที่คิด ได้ทำตามสิ่งที่ชอบและตั้งใจ หากใครที่กำลังหยุดทำสิ่งที่รัก ให้ศิลปินทั้ง 4 ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจบอก ให้ทุกวันของเราได้ใช้ชีวิต และเปลี่ยนจากคำว่า ‘วันหลัง’ เป็นคำว่า ‘วันนี้’ โดยทุกท่านสามารถชมภาพยนตร์โฆษณาได้ในทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ และโซเชียลมีเดียของ FWD ประกันชีวิต” นางสาวปวริศา กล่าวทิ้งท้าย

สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) จัดทำ “แพลตฟอร์ม EF ปี 2567: ร่วมด้วยช่วยกันสร้างทักษะสมอง EF เด็กไทย (Platform EF: Building Brains EF Together)” ซึ่งเป็นช่องทางการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเสริมสร้างความเข้าใจในการพัฒนาเด็กด้วยทักษะสมองอีเอฟ (Executive Functions) โดยมุ่งเน้นให้ครู นักวิชาการสาธารณสุข ผู้ปกครอง และผู้สนใจทั่วไปมีโอกาสเข้าถึงสื่อการเรียนรู้และการเสวนาจากนักวิขาการผู้ทรงคุณวุฒิของไทย ที่สามารถนำไปปรับใช้ในการเลี้ยงดูบุตรหลานให้เติบโตเป็น ‘คนดี’ และ ‘คนเก่ง’ ขยายผลการพัฒนาพลเมืองคุณภาพที่พร้อมจะขับเคลื่อนประเทศชาติในอนาคต

ทักษะสมองอีเอฟ (Executive Functions) เป็นการทำงานของสมองส่วนหน้าที่ส่งผลเกี่ยวกับความจำ การเรียนรู้ การทำงาน (Working Memory) การควบคุมตนเอง ยับยั้งชั่งใจ (Inhibitory Control) ความยืดหยุ่น และปรับตัวแก้ปัญหาได้เอง (Cognitive Flexibility) พัฒนาได้ดีที่สุดในช่วงปฐมวัยตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ขวบ หากได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างเหมาะสมจากครอบครัว จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นเป็น ‘คนดี’ และ ‘คนเก่ง’ ของสังคม มีภูมิต้านทานชีวิต และป้องกันปัญหาสังคมเชิงรุก อาทิ ยาเสพติด ติดเกม ท้องก่อนวัยอันควร ปัญหาความรุนแรงต่างๆ เป็นต้น 

รศ. นพ. อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “สถาบันมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความร่วมมือในการพัฒนาและคุ้มครองเด็ก เยาวชน และครอบครัว เพื่อนำไปสู่สังคมที่เป็นธรรมและยั่งยืน ผ่านการใช้ประโยชน์จากการวิจัยวิชาการ รวมทั้งสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ สุขภาพ และปลอดภัยที่เหมาะสมกับเด็ก นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่องค์ความรู้ในวงกว้างและขับเคลื่อนองค์ความรู้สู่สังคมทั้งในภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการวางนโยบายการพัฒนาเยาวชนให้เติบโตด้วย EF ซึ่งเป็นทักษะที่ช่วยให้เด็กมีการควบคุมอารมณ์ ความคิด และการกระทำที่เป็นไปตามเป้าหมาย และมุ่งสู่พฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ เกิดความเข้าใจและการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อเด็กและสังคมในอนาคต”

นางภรณี กองอมรภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow เป็นบริษัทวิทยาศาสตร์ที่มีความเชื่อมั่นในการพัฒนาทักษะสมองของเยาวชนให้เป็นคนดีและคนเก่ง ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันปัญหาสังคมและส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมของคนไทยในอนาคต เราจึงดำเนินโครงการ ดาว-อีเอฟ พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อพัฒนาสมองส่วนหน้าของเยาวชนไทยมาตลอด 9 ปี โดยเริ่มต้นที่จังหวัดระยอง ตั้งแต่ปี 2559 และขยายผลสำเร็จสู่กรุงเทพมหานครในปีที่ผ่านมา เราจึงมีความยินดีที่ได้ร่วมสนับสนุนร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ในการจัดทำแพลตฟอร์มการเรียนรู้ EF แบบออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสและขยายองค์ความรู้ในการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลานให้เป็นคนดีและคนเก่งตามแนวทาง EF ให้กับผู้ปกครองและคุณครูทั่วประเทศที่สนใจ ซึ่งจะช่วยสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพเพื่อการพัฒนาประเทศไทยต่อไป”

แพลตฟอร์ม EF ปี 2567 ร่วมด้วยช่วยกันสร้างทักษะสมอง EF เด็กไทย จะมีกิจกรรมและการอบรมฟรีจากนักวิขาการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในรูปแบบ online และ on-site เดือนละ 1 ครั้ง รวม 12 หัวข้อ โดยเน้นไปที่การพัฒนาทักษะ EF สำหรับเด็กปฐมวัย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมอย่างน้อย 1,000 คนต่อครั้ง หรือตลอดปีไม่น้อยกว่า 12,000 คนทั่วประเทศ ท่านที่สนใจสามารถสมัครเรียนฟรีผ่านระบบสมาชิกเครือข่ายของสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวได้ หรือดูงานเสวนาย้อนหลังได้ที่ https://nicfd-member.mahidol.ac.th/course/detail/275  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่ม Line “แพลตฟอร์ม EF

บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด คว้ารางวัล Best of the Best Award Winner 2024 ประเภทรางวัล “Best Bond Manager – Thailand” จาก นิตยสาร Asia Asset Management โดยมี นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง  (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมคณะผู้บริหาร ขึ้นรับรางวัลจาก นาย Tan Lee Hock ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Asia Asset Management สะท้อนถึงความสามารถของทีมผู้จัดการกองทุนของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กองทุนเปิด เอไอเอ อินคัม ฟันด์ (AIA Income Fund)” ซึ่งถือเป็นกองทุนคุณภาพระดับต้น ๆ สำหรับกองทุนประเภทตราสารหนี้ในประเทศ ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นเครื่องการันตีที่ตอกย้ำถึงศักยภาพของกระบวนการทำงาน และทีมงานการลงทุนของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) รวมถึงกลุ่มการลงทุนของเอไอเอ (AIA Investments) ที่มีความมุ่งมั่นในการบริหารกองทุนรวมให้ได้ผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นในระยะยาว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือกรมธรรม์ของเอไอเอ ยูนิต ลิงก์ ต่อไป โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม Parkroyal Collection Marina Bay ประเทศสิงคโปร์

ตอกย้ำความสำเร็จ ขึ้นแท่นสุดยอดองค์กรให้บริการด้านการเงินดิจิทัลแห่งปี

Dr.TATTOF คลินิกลบรอยสักชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ประกาศชูจุดเด่นและตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านการลบรอยสัก ด้วยประสบการณ์และความชำนาญ พร้อมกับการเลือกใช้นวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นการสร้างมาตรฐานอันยิ่งใหญ่และเปิดมิติใหม่ให้กับผู้ที่ต้องการลบรอยสักอย่างสมบูรณ์แบบ ว่า  “Dr.TATTOF ลบรอยสัก ได้ทุกแบบ ทุกขนาด ทุกสีไม่มีรอยแผลเป็น”

นพ.นัทธพงศ์ จิรุระวงศ์ ประธานบริษัท/แพทย์ผิวหนังและเลเซอร์ Dr.TATTOF กล่าวว่า ที่ Dr.TATTOF เลือกใช้โปรแกรม PicoWay Laser ในการลบรอยสัก เนื่องจากโปรแกรม PicoWay Laser นี้ ใช้พลังงานคลื่นแสงที่มีระยะเวลาสั้นมากในระดับ Picosecond (ล้านล้านของวินาที) ทำให้สามารถทำลายหมึกของรอยสักให้แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายผิวหนังรอบข้าง การใช้โปรแกรมเลเซอร์ดังกล่าว ช่วยทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูง ส่งเสริมการฟื้นฟูของผิวหลังการรักษาให้เร็วขึ้น และลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นอย่างมีนัยสำคัญ

“Dr.TATTOF ใช้โปรแกรม PicoWay Laser ที่ครอบคลุมทุกความยาวคลื่นสำหรับการลบรอยสักสี โดยมี PicoWay Zoom 1064 นาโนเมตร สำหรับลบรอยสักสีดำ PicoWay Zoom 532 นาโนเมตร สำหรับลบรอยสักสีแดง สีเหลือง สีส้ม และ PicoWay 785 / 730 นาโนเมตร สำหรับลบรอยสักสีเขียว สีฟ้า แต่ละความยาวคลื่นมีพลังงานจำเพาะที่ช่วยปรับพลังงานให้เข้ากับสีของรอยสักแต่ละสี ทำให้สามารถขจัดเม็ดสีได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพในการลบรอยสัก” นพ.นัทธพงศ์ กล่าว

พงศยา ตราชูนิตย์ ผู้บริหาร Dr.TATTOF กล่าวว่า ในปี 2023 Dr.TATTOF ได้ประกาศความสำเร็จบนเส้นทางการเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านการลบรอยสักในเอเชีย-แปซิฟิก โดยได้รับรางวัล “APAC Top Performance for Tattoo Removal Treatment” และ “Top Achievement of 350 Million PicoWay Pulses in Southeast Asia” โดยการใช้ช็อตในการรักษา 350 ล้านช็อต ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  จากบริษัท Candela Medical ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ผลิตเลเซอร์ทางการแพทย์ชั้นนำระดับโลก

คุณพงศยา กล่าวต่อความว่า สำหรับกลยุทธ์การขับเคลื่อนทางธุรกิจที่นำพา Dr.TATTOF มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการลบรอยสัก ประกอบไปด้วยกลยุทธ์หลักดังต่อไปนี้:

  1. ความเชี่ยวชาญ (The Expert): โดยเน้นที่ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทาง Dr.TATTOF มุ่งมั่นในการพัฒนาบุคคลากรวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ทั้งแพทย์และบุคคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง รวดเร็ว เห็นผล และปลอดภัย
  2. นวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US-FDA Cleared): เป็นการยืนยันเกี่ยวกับความปลอดภัยของนวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์ที่นำมาใช้ในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ผู้รับบริการมั่นใจในการรักษาที่มีมาตรฐานและปลอดภัย
  3. การรับรองมาตรฐานสถานพยาบาลระดับสากล (International Accreditation): Dr.TATTOF ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลอย่าง American Accreditation Commission International (AACI) เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของสถานพยาบาลให้แก่ผู้รับบริการ โดยนำร่องที่สาขาเซ็นทรัลพลาซ่าเวสต์เกต เป็นสาขาแรก
  4. การรักษาเฉพาะบุคคล (Personalized Treatment): Dr.TATTOF ยกระดับการให้บริการ “การรักษาเฉพาะบุคคล” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา ลดความเสี่ยงที่ไม่พึงประสงค์ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้รับบริการ

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการลบรอยสักที่เห็นผล มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น ที่ Dr.TATTOF เป็นคำตอบสำหรับคุณครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Dr.TATTOF ทั้ง 10 สาขา

สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ 090-546-2424

สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว 095-428-9424

สาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา 097-428-2424

สาขาเอท ทองหล่อ 099-614-2424

สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 083-535-2424

สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า 064-679-2424

สาขาเดอะ พรอมานาด 064-756-2424

สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต 064-568-2424

สาขาเซ็นทรัล พระราม2 063-856-2424

สาขาเมกาบางนา 090-895-2424

Inbox: http://m.me/dr.tattof 

Line@: http://line.me/ti/p/~@dr.tattof 

Page 3 of 595
X

Right Click

No right click