November 05, 2024
×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 10974

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมโชว์ความเป็น "ครัวของโลกที่ยั่งยืน" ในงานมหกรรมภาคอุตสาหกรรมแห่งปี Thailand Industry Expo 2019 ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารชั้นแนวหน้าระดับโลก

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผนึกกำลัง ภาครัฐ ภาคเอกชน ในงาน Thailand Industry Expo 2019 งานมหกรรมภาคอุตสาหกรรมแห่งปี จัดโดย กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งในปีนี้ชูแนวคิด Synergy for Success สานพลัง ร่วมใจ วิวัฒน์อุตสาหกรรมสู่อนาคต ร่วมแสดงนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตของซีพีเอฟ ภายใต้แนวคิด "ครัวของโลกที่ยั่งยืน"

โดยนำนวัตกรรมอาหารที่โดดเด่นจากฝีมือของคนไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สด "เบญจา ชิคเก้น" (Benja Chicken) ภายใต้แบรนด์ยูฟาร์ม (U Farm)  ซึ่งเป็นอาหารสดเพียงรายเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50 สุดยอดนวัตกรรม THAIFEX Taste Innovation Finalist 2019 พร้อมด้วย หมูดำ ซีพี คูโรบูตะ และผลิตภัณฑ์อาหารอีกมากมายมาร่วมจัดแสดง นอกจากนี้ ภายในบูธยังจัดแสดงกระบวนการผลิตอาหารที่ใส่ใจในคุณภาพทุกขั้นตอนด้วยมาตรฐานสากล ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์อุตสาหกรรมอาหาร ตอบโจทย์การมีสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคทุกช่วงวัย ร่วมสร้างความยั่งยืนให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย ดร.พสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมเยี่ยมชมบูธซีพีเอฟ

 

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมชมงาน “Thailand Industry Expo 2019” พร้อมสัมผัสนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์จากซีพีเอฟได้ ระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2562 เวลา 10.00-20.00 น. ณ บูธที่ AA10 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ซีอีโอซีพีเอฟ เผยทิศทางนำบริษัทเดินหน้าสานต่อวิสัยทัศน์องค์กรสู่ “ครัวของโลก” โดยเน้นเทคโนโลยีสมัยใหม่ สร้างสรรค์นวัตกรรมตอบโจทย์ความต้องการของกระแสโลกทั้งในเชิงธุรกิจและสังคม ควบคู่การบริหารจัดการภายในองค์กรที่เน้นการสร้างคนภายใต้บรรยากาศ Leadership at all level  

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ  ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า“ซีพีเอฟมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการมุ่งสู่ครัวของโลก ภายใต้ความท้าทายใหม่ๆในการบริหารธุรกิจยุค Digital ซึ่งจะต้องเลือกใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยยังคงดำเนินธุรกิจด้วยปรัชญา 3 ประโยชน์เช่นที่ผ่านมา”

ทั้งนี้ กลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรยุค 4.0 คือการนำแนวคิดนวัตกรรมสู่ความยั่งยืน (Innovation towards Sustainability) เข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจและทุกๆผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟ  โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) คลาวด์ (Cloud Computing) บิ๊กดาต้า(Big Data) ไอโอที (Internet of Thing : IOT) ตลอดจนระบบอัตโนมัติ มาใช้ในการยกระดับและเชื่อมโยงกระบวนการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่ เช่น การพัฒนาเกษตรอัจฉริยะ-โรงงานอัจฉริยะ (Smart Farm-Smart Factory) หรือ ระบบการตลาดดิจิทัลและช่องทางการจำหน่ายสินค้า e-Commerce ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพธุรกิจ สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า และรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการบริโภค

 

“นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันให้แก่ซีพีเอฟทั้งในประเทศไทยและในเวทีโลกได้อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จในการวิจัยพัฒนานวัตกรรมอาหารสัตว์-พันธุ์สัตว์-อาหารเพื่อการบริโภค  สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารครั้งใหม่ของโลก เช่น ไก่เบญจาได้สำเร็จ รวมถึงคิดค้นอาหารสุขภาพ กลุ่ม Smart อาทิ อาหารเพื่อผู้ป่วยและผู้สูงวัยอย่าง Smart Soup, อาหารมังสวิรัติ Smart Meal และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ Smart Drink อาหารและเครื่องดื่มจากนวัตกรรมเหล่านี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว  และด้วยประสิทธิภาพของศูนย์ RD Center มาตรฐานระดับโลกของเราจะทำให้ซีพีเอฟสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารสู่ตลาดโลกได้อย่างต่อเนื่อง”นายประสิทธิ์กล่าว 

 

ขณะที่ความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่สังคมโลกให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด ซีพีเอฟจึงนำแนวคิด “เศรษฐกิจหมุนเวียน” หรือ Circular Economy เข้ามาใช้ในการผลักดันความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดการสูญเสียน้อยที่สุด รวมถึงการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ตลอดกระบวนการผลิต เพื่อให้การทำธุรกิจของซีพีเอฟสร้างผลกระทบแก่ทรัพยากรโลกให้น้อยที่สุด ดังเช่น โครงการจัดหาวัตถุดิบยั่งยืน โครงการ Solar Rooftop โครงการ CPF Coal Free 2022  โครงการฟาร์มสีเขียว หรือการประกาศใช้บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เพื่อร่วมบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก

 

สำหรับการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น ซีพีเอฟจะยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนา“คน” โดยสร้างบรรยากาศให้พนักงานทุกคนมีความกล้าแสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์ กล้าพูด กล้าทำ และลงมือทำในสิ่งใหม่ๆที่จะเพิ่มคุณค่าให้แก่ตัวเอง ลูกค้า ชุมชน ฯลฯ อันจะช่วยส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีความเป็นผู้นำ ภายใต้บรรยากาศการทำงานที่เรียกว่า Leadership at all level ซึ่งจะสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า พร้อมจะนำองค์กรให้เติบโตต่อไป

 

ด้วยความแข็งแกร่งของกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัย ตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ๋การผลิต ทั้งFeed-Farm-Food ผนวกกับการที่ซีพีเอฟมีการลงทุนใน 17 ประเทศและส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก เมื่อเสริมกลยุทธ์ด้านการบริหารยุคดิจิตอลเข้าด้วยกัน เชื่อว่าจะสนับสนุนให้ซีพีเอฟก้าวสู่ “ครัวของโลก” ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

นายประสิทธิ์กล่าวอีกว่า ซีพีเอฟจะยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา “3 ประโยชน์” ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดมั่นปฏิบัติมาโดยตลอดร่วมศตวรรษ นั่นคือ การคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ประโยชน์ของประชาชน และสุดท้ายคือประโยชน์ของบริษัท โดยมุ่งมั่นที่จะนำองค์กรให้เติบโตต่อเนื่องในเวทีโลกอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม โปร่งใสและ มีธรรมาภิบาล ซึ่งจะเอื้อให้ซีพีเอฟยืนหยัดในสังคมโลกได้อย่างสง่างามเช่นที่ผ่านมา

นายเอ็มมานูเอล  แมนนี่  ปินยอล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และ นายวศิน เรืองประทีปแสง เอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา นำเจ้าหน้าที่จากกรมประมง เจ้าหน้าที่ธนาคาร BDO, RCBC, Metro Bank, DPB, LANDBANK และนักธุรกิจท้องถิ่น ในพื้นที่เขตมินดาเนา เข้าเยี่ยมชมนวัตกรรมการเลี้ยงกุ้งในฟาร์มกุ้งดาเวา ซึ่งเป็นฟาร์มกุ้งต้นแบบบ่อขนาดเล็ก (BEST SMALL POND) ที่มีระบบการอนุบาลลูกกุ้งก่อนการปล่อยลงเลี้ยงในบ่อ มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ฟิลิปปินส์ คอร์ปอร์เรชั่น หรือ ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้ส่งเสริมการเลี้ยงทั่วประเทศ โดยใช้ลูกกุ้ง CPF Turbo ที่มีคุณสมบัติเติบโตแตกต่างจากลูกกุ้งทั่วไป โดยมี นายสุนทร ตันทนะเทวินทร์ รองประธานกรรมการ และ นายอุดมศักดิ์ อักษรภักดี กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจสัตว์น้ำ และพนักงานซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ ให้การต้อนรับ ณ เมืองดิกอส จังหวัดดาเวา เดลซอร์ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์

ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เยี่ยมชมบูธ ซีพีเอฟ ในงาน “หอการค้าแฟร์” ขอนแก่น (TCC Fair 2019) ซึ่งจัดโดย หอการค้าไทย ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) โดยมี ดร.สมบัติ ธีระตระกูลชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และนายตันโจ เอี่ยมละออง ผู้จัดการทั่วไปเขตการขายภาคอีสาน 3 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ

ภายในงาน ซีพีเอฟได้นำผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ไปจัดจำหน่ายในราคาพิเศษหลายรายการ ทั้ง ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแช่เย็นและแช่แข็ง รวมถึงอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน ไก่ย่างเชสเตอร์ ห้าดาว กาแฟ "สตาร์คอฟฟี่" เป็นต้น ให้กับพี่น้องชาวขอนแก่นและชาวอีสานได้เลือกซื้อเลือกทานได้ ที่ บูธ ซีพีเอฟ C1 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) จ.ขอนแก่น ระหว่างเวลา 10.00 – 21.00 น. จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2562 นี้.

H.E. Veng Sakhon (ซ้าย) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมง ราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการ เรื่อง โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) โดยร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกร และภาคเอกชน เพื่อให้เกษตรกรตระหนักถึงการควบคุมป้องกันโรค รวมถึงชี้แจงให้ผู้บริโภคไม่ตื่นตระหนกเนื่องจากโรคนี้ไม่ติดต่อสู่คน และเน้นย้ำเรื่องการบริโภคอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ในงานนี้ รัฐมนตรีฯ ได้รับมอบสนับสนุนอุปกรณ์ด้านการควบคุมป้องกันโรค มูลค่าประมาณ 1.2 ล้านบาท จากนายปรีดา จุลวงษ์ (ขวา) รองประธานกรรมการ บริษัท ซี.พี. กัมพูชา จำกัด ทั้งนี้ ผศ.น.สพ.คัมภีร์ กอธีระกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านสุกรในอาเชียนและจีน ได้เข้าร่วมบรรยายพิเศษอีกด้วย ณ ห้องประชุมลำดวน กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ประเทศกัมพูชา

X

Right Click

No right click