NOSTRA ผู้ให้บริการข้อมูลแผนที่ดิจิทัล และโซลูชันด้าน IoT โดยบริษัท โกลบเทค จำกัด ติดตั้งฟังก์ชันนำทางที่มีการเชื่อมต่อกับบริการข้อมูลแผนที่ และโลเคชันคอนเท้นต์ NOSTRA Infotainment บนระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ  i-SMART ใน NEW MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย กลายเป็น Smart Car เพื่อการขับขี่ในอนาคต สอดรับเทรนด์ด้านการขับขี่อัจฉริยะที่จะทำให้รถยนต์เป็น “มากกว่ารถ” สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

นายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลบเทค จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี เปิดเผยว่า จากภาคอุตสาหกรรมฉบับหนึ่งบ่งชี้ว่า ภายในปี 2563 ร้อยละ 90 ของรถยนต์ จะมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และจะเป็นองค์ประกอบหลักของการแพร่ขยายของยุค “Internet of Things” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน ชี้ให้เห็นว่าเทรนด์ของรถยนต์กำลังเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหน้าที่ของค่ายรถต่างต้องปรับตัว เร่งนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้การบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า เป็นที่มาของบริษัทฯ ที่ได้มีการจัดทำข้อมูล NOSTRA Infotainment ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความบันเทิงเพื่ออุตสาหกรรมรถยนต์ และได้ถูกนำไปบูรณาการในระบบ i-SMART ในรถยนต์  MG

“NOSTRA MAP ได้สนับสนุนบริการแผนที่สำหรับระบบนำทาง (Map for Navigation) ในรถยนต์สำหรับ MG มาตั้งแต่เริ่มเข้าตลาด เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ MG โดยมีการนำข้อมูลที่มีอยู่พัฒนาเป็น NOSTRA Infotainment ที่จะสามารถสนับสนุนฟังก์ชั่นการทำงานต่าง ๆ ในระบบ  i-SMART ให้สามารถมอบบริการที่เหนือกว่าแค่การนำทางไปยังจุดหมาย สำหรับรถยนต์ MG ใน Segment Connected Car  ที่ได้เชื่อมกับข้อมูล Online Lifestyle Content จะมีบริการคอนเท้นต์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลร้านอาหาร โรงแรมที่พัก คาดว่าจำนวนรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี i-SMART ที่มีคอนเท้นต์ของ NOSTRA ให้บริการลูกค้านั้นจะเพิ่มขึ้นจากปี 2562 กว่า 37% รวมไปถึงผู้ใช้รถยนต์ MG ZS EV ก็จะได้รับบริการของ NOSTRA จาก MG เช่นกัน” นายวิชัยกล่าว

 

นายวิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า NOSTRA Infotainment ได้ให้บริการด้านข่าวสารและความบันเทิงที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า อาทิ ระบบแผนที่นำทาง และค้นหาจุดหมายปลายทางได้อย่างแม่นยำ การแสดงผลรายการจราจรและการเกิดอุบัติเหตุ หรือการแสดงผลสภาพอากาศ บริการอัพเดทราคาน้ำมันหน้าปั้ม สถานที่แวะพักระหว่างเดินทาง ข้อมูลแนะนำร้านอาหาร โรงแรมที่พัก พร้อมราคา โดยความร่วมมือของพาร์ทเนอร์ชั้นนำ ได้แก่ JS100  Wongnai Agoda การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ

ฟอร์ติเน็ตและบริษัท ทาทา คอมมิวนิเคชั่นส์ ทรานสฟอร์เมชั่นส์ เซอร์วิสเซส จำกัด (Tata Communications Transformation Services Limited หรือ TCTS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ทาทา คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัดจับมือกับไมโครซอฟท์อาชัวร์ (Microsoft Azure) เพื่อเปิดตัวบริการเอสดีแวนที่มีการจัดการ (Managed SD-WAN) ให้กับเครือข่ายอาชัวร์เวอร์ชวลแวน (Azure Virtual WAN)

บริการเอสดีแวนจาก TCTS จะช่วยให้ผู้ให้บริการทั่วโลกสามารถสร้างโซลูชันในการช่วยให้องค์กรต่างๆ ย้ายไปยังแพลทฟอร์มอาชัวร์ได้อย่างราบรื่น ซึ่งเป็นการช่วยเร่งสร้างรายได้แก่ผู้ให้บริการในการช่วยย้ายระบบไอทีไปสู่คลาวด์สาธารณะ ทั้งนี้ โซลูชั่นครั้งนี้เป็นการสร้างการเชื่อมโยงระหว่างสาขาให้กับลูกค้าที่ใช้ไมโครซอฟท์เป็นแพลทฟอร์มหลัก และยังช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันที่ทำงานบนอาชัวร์ได้อย่างปลอดภัยและรักษาระดับบริการ SLA ได้ตามต้องการ  โซลูชั่นนี้นับเป็นหนึ่งในโซลูชั่นอุตสาหกรรมแรกๆ ที่เสนอเอสดีแวนพร้อมกับระบบความปลอดภัยให้แก่ทราฟฟิคที่ทำงานบนแพลทฟอร์มคลาวด์ของอาชัวร์

ทั้งนี้ TCTS ได้ยกระดับเครือข่ายอาชัวร์เวอร์ชวลแวนให้สูงขึ้นได้ จากศักยภาพในการกำหนดค่าบริหารนโยบายของแอปพลิเคชันได้จากส่วนกลางโดยใช้เทคโนโลยีเอสดีแวนของฟอร์ติเน็ตเข้ากับเทคโนโลยีเครือข่ายเอจ (Network Edge) ของอิควินิกซ์ เพื่อสร้างบริการเครือข่ายเสมือนจริงที่มีประสิทธิภาพการทำงานและปลอดภัยระดับสูง นอกจากนี้ บริการเชื่อมโยงเครือข่ายคลาวด์ (Cloud Networking-as-a-Service: CNaaS) ของ TCTS ถือเป็นส่วนหนึ่งของบริการคลาวด์ที่มีนวัตกรรมมากที่สุดและได้รับรางวัลของ TCTS จึงส่งให้บริการนี้ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมจากคู่ค้าของ TCTS จากการยอมรับเป็นอย่างดีในธุรกิจให้คำปรึกษา การติดตั้งและการบริหารงานด้านเวอร์ชวลไลเซชั่น

มาดุสุดาน ไมซอร์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TCTS กล่าวว่า “TCTS พัฒนาบริการเชื่อมโยงเครือข่ายคลาวด์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการโยกย้ายระบบไอทีขององค์กรที่ซับซ้อนที่สุด สามารถให้ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกนำไปเปิดบริการประเภทแมนเน็จเซอร์วิสที่มีการจัดการ (MSP) ที่ดีที่สุดให้กับฐานลูกค้าองค์กรของไมโครซอฟต์ที่มึอยู่ทั่วโลกได้ทันที จึงเป็นวิธีการสร้างกระแสรายได้สูงสำหรับผู้ให้บริการ  ทั้งนี้ TCTS มีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาทางเทคนิคที่เกี่ยวกับโซลูชั่นบริการเชื่อมโยงเครือข่ายคลาวด์นี้ จึงช่วยให้ผู้ให้บริการทั่วโลกสามารถเปิดบริการรองรับอาชัวร์ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว”

ในขณะที่ระบบคลาวด์มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรต่างยิ่งต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของอุปกรณ์ที่หลากหลาย อุปกรณ์เกตเวย์ การกำหนดค่า การจัดเซ็คเม้นต์ และการตรวจสอบระบบ Virtual Private Clouds (VPCs) ที่ทำงานอยู่ในศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ให้บริการโครงข่าย Infrastructure-as-a-Service (IaaS) ในระดับภูมิภาคและทั่วโลก จึงทำให้การกำหนดค่าของเอสดีแวน วีพีเอ็น ตารางเร้าติ้ง ระบบความปลอดภัย เกตเวย์และการเชื่อมต่อแบบไฮบริดภายในพับลิคคลาวด์ยังคงเป็นปัญหาสำหรับองค์กรส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เมื่อคลาวด์ขยายไปถึงส่วนเอจ ซึ่งรวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีการจัดการระหว่างคลาวด์และผู้ให้บริการ (เช่น Azure ExpressRoute และอื่นๆ ) แล้ว คลาวด์จึงมีความซับซ้อนในขั้นตอนการกำหนดค่าและใช้งานมาก

รอส โอเตก้า ผู้จัดการ ฝ่ายโปรแกรมสำหรับพันธมิตร หน่วยธุรกิจเครือข่ายไมโครซอฟต์อาชัวร์  แห่งไมโครซอฟต์ ได้กล่าวว่า “ความต้องการใช้งานเครือข่ายแวน (WAN) โน้มไปทางคลาวด์มากขึ้น ซึ่ง Microsoft Azure Virtual WAN (VWAN) สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ดี เนื่องจากเป็นเครือข่ายที่เอื้อให้อุปกรณ์และไซต์ต่างๆ เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์สาธารณะของอาชัวร์ทั่วโลกได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ บริการเอสดีแวนที่มีการจัดการของ TCTS บนเครือข่าย VWAN ของอาชัวร์จะช่วยให้ผู้ให้บริการทั่วโลกสามารถส่งให้บริการเชื่อมโยงเครือข่ายคลาวด์ที่มีการจัดการได้”

ด้วยความร่วมมือกันนี้ จึงทำให้องค์กรที่ไซต์ใดๆ สามารถสลับใช้สื่อประเภท MPLS และอินเทอร์เน็ต เพื่อหลีกเลี่ยงการรับส่งข้อมูลระหว่างภารกิจสำคัญในการรับส่งข้อมูล (ผ่านสื่อ MPLS และ Carrier Ethernet) และภารกิจที่ไม่สำคัญ (ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต) ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับอาชัวร์ผ่าน Azure ExpressRoute ได้  ทั้งนี้ การเชื่อมต่อเหล่านี้สามารถสร้างได้จากศูนย์ 'Virtual Cloud exchange' ของ TCTS ที่ใช้สร้างสภาพแวดล้อมของผู้ให้บริการเดิมหรือสร้างบริการใหม่โดยทำงานร่วมกับศูนย์ Equinix' Cloud Exchange Fabric™ (ECX Fabric™) และโซลูชั่น Network Edge ในดาต้าเซ็นเตอร์ของอิควินิกซ์ที่มีอยู่ทั่วโลก

จอห์น แมดดิสัน รองประธานอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์และซีเอ็มโอแห่งฟอร์ติเน็ตกล่าวว่า “การที่องค์กรปรับใช้คลาวด์กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงของเครือข่ายแวนขึ้นทั่วโลกโดยจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเอสดีแวนมากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์มากขึ้นด้วยเช่นกัน  ทั้งนี้ ฟอร์ติเน็ตได้นำเสนอโซลูชั่นซีเคียวเอสดีแวน (Secure SD-WAN) ซึ่งมาพร้อมกับเอสดีแวนที่ดีที่สุด ไฟร์วอลล์ประเภทเน็กซ์เจเนอเรชั่นอันทรงประสิทธิภาพ คุณสมบัติด้านการจัดเร้าติ้งขั้นสูงและการเพิ่มประสิทธิภาพแวนรวมอยู่ในโซลูชั่นเดียว จึงส่งให้บริการเอสดีแวนที่มีการจัดการของ TCTS สามารถช่วยผู้ให้บริการด้านการสื่อสารมีโซลูชั่นแบบเบ็ดเสร็จในการมอบบริการเชื่อมต่อที่มีความปลอดภัยเชื่อถือได้และมีความหน่วงต่ำได้"

ศูนย์ Virtual Cloud exchange ของ TCTS (อยู่ในระหว่างการจดสิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกา) ทำการเชื่อมต่อและการจัดการกับอาชัวร์และระบบคลาวด์สาธารณะอื่นๆ ได้โดยอัตโนมัติผ่านทางโซลูชันที่ใช้เปิดบริการใหม่สำหรับผู้ให้บริการด้านการสื่อสารทั่วโลก ซึ่งบริการจาก TCTS ส่งให้ผู้ให้บริการสามารถให้ลูกค้าองค์กรของอาชัวร์สามารถเลือกข้อเสนอมาตรฐานที่ไม่ต้องการฟังก์ชั่นเครือข่ายเอสดีแวนเสมือน (SD-WAN Virtual Network Function: VNF) ในอาชัวร์ หรือเลือกการทำงานขั้นสูง SD-WAN VNF ในอาชัวร์ที่ป้องกันทราฟฟิคของแอพลิเคชั่นให้ปลอดภัย

ทั้งนี้ TCTS จะให้บริการระดับมืออาชีพสำหรับโซลูชั่นบริการเชื่อมโยงเครือข่ายคลาวด์ แก่ลูกค้า ดังนี้:

การวางแผน – ความต้องการทางธุรกิจ การให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์คลาวด์ การประเมินการรับประกันคลาวด์ การวางแผนการย้ายระบบคลาวด์ และการวางแผนความปลอดภัยของคลาวด์ การกำกับดูแลข้อมูลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเสี่ยง

การเริ่มใช้งาน - พิสูจน์แนวคิด การทดสอบใช้งานของ Cloud SaaS, IaaS และ PaaS การกำหนดค่า VPC บนคลาวด์ การฝึกอบรมด้านคลาวด์ การย้ายระบบคลาวด์ การเพิ่มประสิทธิภาพและนโยบายสำหรับคลาวด์

การดำเนินงาน - การดำเนินงานด้วยนโยบาย 365X7X24 การสนับสนุนด้านเทคนิค การแก้ไขปัญหา การบริหารการเปลี่ยนแปลง การจัดการสิทธิ์การเข้าถึง การตรวจสอบระบบคลาวด์ การจัดการกับอุปกรณ์ การรวมผลิตภัณฑ์และบริการใหม่

หมายเหตุ: TATA COMMUNICATIONS และ TATA เป็นเครื่องหมายการค้าของ Tata Sons Private Limited ในบางประเทศ

 

ในเวทีการสัมมนาของงาน CEBIT ASEAN Thailand 2019 ที่จัดขึ้นที่อิมแพ็คฯ เมื่อเร็วๆ นี้ นายอภิชาติ เจิมประไพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ไซเซล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เข้าร่วมบรรยายให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภายใต้หัวข้อ “Cloud Network Security Automation & AI” โดยเน้นถึงการที่ไซเซลใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และระบบทำงานที่เป็นอัตโนมัติมาเป็นกลไกสร้างโซลูชั่นเนบูล่าคลาวด์ (Nebula Cloud) ให้เป็นระบบบริหารเครือข่ายผ่านคลาวด์ที่ทำงานเองได้อย่างอัตโนมัติเต็มประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ มีความปลอดภัยสูง

ทั้งนี้ ไซเซลเป็นหนึ่งใน 7 แบรนด์ในโลกที่มีระบบเกตเวย์วีพีเอ็นที่ผ่านการตรวจสอบจาก Amazon Web Services และ Microsoft Azure

นอกจากนี้ โซลูชั่นจากไซเซลมีความยืดหยุนสูง สามารถขยายจำนวนผู้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว และให้ลูกค้าจ่ายค่าบริการเท่าที่ใช้งาน ลูกค้าเอสเอ็มบีสามารถทดลองใช้งานจริงโซลูชั่นคลาวด์ NebulaFlex™Access Point ฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามเงื่อนไข ได้ที่ http://bit.ly/NebulaFlex_TryNow

ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM โดย ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ และทีคิวแอลดี เปิดตัว TQM Life Insurance Platform (www.tqm.co.th)และ noon (www.noon.in.th) แพลตฟอร์มประกันชีวิตอัจฉริยะ พัฒนาขึ้นเพื่อแก้เพนพอยท์ ในการซื้อประกันชีวิตที่ยังไม่ตรงความต้องการและผลตอบแทนที่คาดหวัง ผสานBig Data เป็นผู้ช่วยสุดอัจฉริยะ ให้ผู้บริโภคเข้าถึงประกันที่เหมาะสม รวมทั้งช่วยบริหารความเสี่ยงต่างๆ ในชีวิต และบริหารสิทธิประโยชน์ด้านภาษีด้วยประกันชีวิตได้ง่ายดาย มั่นใจแพลตฟอร์มใหม่หนุน TQM สู่ผู้นำ Insurtech

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า TQM พร้อมบุกตลาดประกันชีวิต ด้วยการพัฒนาช่องทางขายและการให้บริการ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงโปรดักท์ประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ โดยที่ผ่านมา TQM เข้าใจถึงเพนพอยท์ (Pain point) ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักต้องเจอเมื่อจะซื้อประกันชีวิต เช่น รูปแบบประกันใดที่เหมาะกับตนเอง หรือหากมีกรมธรรม์อยู่แล้วแต่จะซื้อเพิ่มควรซื้อประกันแบบใดดี ขาดความเข้าใจเรื่องอัตราผลตอบแทนของกรมธรรม์ ส่งผลให้การทำประกัน “เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก...และเข้าถึงยาก” ทั้งนี้ ปัจจุบันสังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้ต้องแบกภาระค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น และผู้บริโภคเองเริ่มให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงินโดยใช้ประกันในการช่วยลดหย่อนภาษี             

ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จึงเห็นถึงโอกาสในการขยายตลาดด้วยการเปิด 2 แพลตฟอร์ม โดยบริษัทในกลุ่มคือ บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัทที่มุ่งพัฒนาช่องทางขายและบริการร่วมกับ บริษัท ทีคิวแอลดี จำกัด บริษัทด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมประกันภัย Insurtech มาร่วมกันพัฒนาระบบผู้ช่วยค้นหาประกันชีวิตอัจฉริยะชื่อ TQM Life Insurance Platform และ noon เพื่อให้การซื้อประกันเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

ดร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวแอลดี จำกัด กล่าวว่า TQLD ได้พัฒนา 2 แพลตฟอร์มคือ ‘noon’ www.noon.in.th ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำให้ข้อมูล (Advisory)  เป็นแพลตฟอร์มแรกที่สามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันตามความต้องการได้มากที่สุด  พร้อมวิเคราะห์ความคุ้มครองในด้านที่ขาดหรือเกินกับความต้องการ และรวมทุกขั้นตอนการซื้อประกันไว้ในที่เดียวเป็นแหล่งความรู้ด้านประกันที่มีแบบประกันที่หลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ โดย noon จะมี Positioningที่เป็นกลาง เปรียบเทียบเบี้ยและส่งแบบประกันให้ทั้งในและนอกกลุ่มที่คิวเอ็ม ในอนาคตอันใกล้จะเพิ่มประกันยูนิตลิงค์เข้ามาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการลงทุนพร้อมป้องกันภาระที่อาจตกถึงครอบครัว และสำคัญที่สุดคือมีการจัดอันดับแบบกรมธรรม์ให้เหมาะสมกับผู้บริโภคเพื่อนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อประกัน ขณะที่ “TQM Life Insurance Platform” www.tqm.co.th เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาต่อยอดขึ้นมาเพื่อเสนองานขายและบริการด้วยประกันชีวิตให้แก่ลูกค้า

ด้าน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการนำเสนอแบบประกันให้ตรงความต้องการของลูกค้าค่อนข้างเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ดังนั้น TQM Life Insurance Platform จะเข้ามาแก้ปัญหาให้งานขายประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสำหรับผู้บริโภคในทุกช่องทาง โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่มดิจิทัล ทีคิวเอ็มได้เตรียมความพร้อมในการขายประกันชีวิตผ่านเว็บไซต์ www.tqm.co.th และความพิเศษของแพลตฟอร์มนี้คือ ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลากหลายบริษัทประกันชีวิตได้ทันที สำหรับด้านพาร์ทเนอร์ ได้มีการเปิดให้ตัวแทนของบริษัทประกันต่าง ๆ เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ TQM Life Insurance Platform พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกด้วยเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานของตัวแทน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องประกัน ภาษี หรือการลงทุน อีกทั้งยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแล ติดตาม สนับสนุน ให้ตัวแทนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การวางแผนการเปิดตัว TQM Life Insurance Platform และ noon เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาช่องทางการขายและบริการ ภายใต้โครงการ “TQM Digital” เพื่อก้าวเป็นผู้นำตลาดประกันออนไลน์ ซึ่งทั้ง 2 แพตฟอร์มจะเข้ามาเป็นช่องทางสำคัญให้ผู้บริโภคยุคใหม่ได้เปิดประสบการณ์ และทำให้การทำประกันกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงคลิก www.tqm.co.th และ www.noon.in.th

บริษัท ทีเอชเอส พาร์คกิ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด (THS Parking Solutions) ผู้ให้บริการระบบจอดรถอัตโนมัติอันดับหนึ่งของประเทศไทย

X

Right Click

No right click