โนเกีย นำเสนอกลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 ที่ระบุถึงเทรนด์และเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นอันมีผลต่อการกำหนดเทคโนโลยี เครือข่าย และโลกใบนี้ในอีกเจ็ดปีข้างหน้า

อ้างอิงจากรายงานด้านปริมาณการใช้งานเครือข่ายทั่วโลกปี 2573 ของโนเกีย (Nokia Global Network Traffic 2030 Report) ชี้ให้เห็นว่าปริมาณการใช้งานข้อมูลในเครือข่าย (Network traffic) กำลังเติบโตและจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงทศวรรษนี้ การขับเคลื่อนการเติบโตที่เป็นเทรนด์ล่าสุด อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning: ML) เทคโนโลยีความจริงขยาย (Extended reality: XR) คู่แฝดดิจิทัล (Digital twins) ระบบอัตโนมัติ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นดิจิทัลอีกนับพันล้านอย่าง โดยการใช้ศักยภาพแบบทวีคูณของเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอนาคต เครือข่ายจำเป็นต้องปรับแต่งและเปลี่ยนแปลงด้วยการส่งมอบนวัตกรรมที่ยั่งยืน คงทน และเข้าถึงได้ ซึ่งล้วนต้องอาศัยเครือข่ายที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีความเฉลียวฉลาด

 นิชันต์ ภัทรา ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยีของโนเกีย กล่าวว่า “กลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 ของโนเกียเป็นการตอบสนองโดยตรงต่อความแพร่หลายของเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือความจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตอนนี้เพื่อพัฒนาเครือข่ายให้ตอบรับกับความท้าทายในอนาคตและที่จะเกิดต่อไปในวันข้างหน้า องค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการสื่อสารต้องเผชิญกับเทรนด์สามประการที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่าง เอไอ คลาวด์ และวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของการเชื่อมต่อ โดยกลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 ของเราจะชี้ให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมเครือข่ายแห่งอนาคตสำหรับลูกค้าของเรารวมถึงภาคอุตสาหกรรม ที่จะนำมาซึ่งโอกาสสำหรับนวัตกรรม ความยั่งยืน ผลิตภาพ และความร่วมมือ ที่มีเพียงเครือข่ายที่เปี่ยมด้วยพลังแบบทวีคูณเท่านั้นที่จะสามารถทำให้มันเป็นจริงได้”

กลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 ของโนเกีย ยังระบุถึงเทรนด์และเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นอันจะส่งผลกระทบต่อเครือข่ายของผู้ให้บริการ องค์กร และอุตสาหกรรมในช่วงทศวรรษนี้ รวมถึงวิธีการที่โนเกียจะให้ความช่วยเหลือในด้านการพัฒนาเครือข่าย โดยเทรนด์สำคัญที่มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 ของโนเกีย ได้แก่ เอไอ ระบบคลาวด์แบบครบวงจร (Cloud continuum) เมตาเวิร์ส เศรษฐกิจดิจิทัลด้วย API (API economy) อุตสาหกรรม 5.0 อินเทอร์เน็ตสร้างมูลค่า (Internet of Value) ความยั่งยืน และความปลอดภัย โดยเทรนด์ทั้งหมดเหล่านี้ต่างต้องอาศัยเครือข่ายที่มีการตอบสนองและความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม

ในรายงานด้านปริมาณการใช้งานเครือข่ายทั่วโลกในปี 2573 โนเกียแสดงให้เห็นว่าความต้องการด้านปริมาณการใช้งานข้อมูลของผู้ใช้ปลายทางจะเพิ่มขึ้นที่อัตราการเติบโตของพอร์ตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 22% ถึง 25% นับจากปี 2565 ตลอดไปถึงปี 2573 และความต้องการปริมาณการใช้เครือข่ายทั่วโลกถูกคาดการณ์ว่าจะสูงถึง 2,443 ถึง 3,109 เอกซะไบต์ (EB) ต่อเดือนในปี 2573 กรณีที่มีอัตราการใช้งานของคลาวด์เกมมิ่งและ XR ที่สูงขึ้น ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้ โนเกีย ระบุว่าอัตรา CAGR จะสูงถึง 32% และสำหรับเครือข่ายที่จะตอบรับกับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เครือข่ายเหล่านั้นจะต้องมีความชาญฉลาดและเป็นอัตโนมัติยิ่งขึ้นผ่านการใช้ประโยชน์จาก AI และ ML ตลอดจนตอบสนองความต้องการและรูปแบบการดำเนินงานที่จะเปลี่ยนแปลงขององค์กรและลูกค้า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่าง XR และคู่แฝดดิจิทัล ผนวกเข้ากับ Web3 และนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ได้รับการกล่าวขานมากมายกำลังถือกำเนิดขึ้น จะเป็นจุดเปลี่ยนให้กับธุรกิจ สังคม และโลกใบนี้

 เจอร์รี่ แครอน หัวหน้าด้านการวิจัยและวิเคราะห์ระดับโกลบอล ของ โกลบอลดาต้า เทคโนโลยี กล่าวว่า “ภายในปี 2573 ความรุดหน้าของความล้ำสมัยด้านเทคโนโลยีที่เรากำลังประจักษ์กันอยู่ในขณะนี้จะเพิ่มปริมาณการใช้งานบนเครือข่ายอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 ของโนเกีย เน้นความสำคัญกับการใช้งานเอไอ คลาวด์ การเชื่อมต่อ และเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย API ซึ่งถือเป็นกรอบการทำงานแบบหนึ่งที่ผู้ให้บริการและองค์กรจะต้องยอมรับ อุตสาหกรรมผู้ให้บริการจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการทำงานแบบเดิม ๆ ที่มีโครงสร้างบูรณาการแบบดั้งเดิมในแนวตั้งไปเป็นโครงสร้างการทำงานแห่งอนาคตที่เป็นโครงสร้างแบบแนวนอนและขับเคลื่อนด้วย API ที่จะช่วยในการส่งมอบบริการที่ยั่งยืน ง่ายดาย สามารถปรับเปลี่ยน มีความเป็นอัตโนมัติ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นได้ ทั้งนี้ โนเกียและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสากรรมนี้จะต้องแสดงให้เห็นว่าเข้าใจถึงปัญหาและศักยภาพด้วยแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถตามที่ระบุไว้ในกลยุทธ์เทคโนโลยี 2573 ของโนเกีย”

· ประกาศความเคลื่อนไหวในการปรับโฉมกลยุทธ์องค์กรเพื่อต่อยอดสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว

· บุกเบิกความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ที่สร้างศักยภาพแบบทวีคูณให้กับเครือข่ายได้จริง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในอนาคตของเมตาเวิร์ส

· ภาพลักษณ์ใหม่ที่เผยออกมานี้เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับ B2B ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลทั่วทั้งแวดวงอุตสาหกรรม

27 กุมภาพันธ์ 2566

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - โนเกีย ประกาศความคืบหน้าขององค์กรและกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี รวมถึงเผยโฉมภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ระยะยาวของโนเกีย ณ งานโมบายล์เวิลด์คองเกรส บาร์เซโลน่า ประจำปี 2023 (MWC Barcelona 2023)

หลายบริษัททั่วทั้งอุตสาหกรรมกำลังมองหาลู่ทางในการปรับตัวสู่ความเป็นดิจิทัลเพื่อพัฒนาทั้งด้านประสิทธิภาพ ความสามารถในการยืดหยุ่น และผลิตภาพบนแนวทางของความยั่งยืน ซึ่งเครือข่ายถือเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านนี้ และโนเกียก็มีจุดยืนที่ชัดเจนที่มาพร้อมผลงานที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญในระดับแถวหน้าในบรรดาเทคโนโลยีเครือข่ายทั้งแบบคงที่ แบบเคลื่อนที่ และระบบคลาวด์

เป็กก้า ลุนด์มาร์ก ประธานและซีอีโอของโนเกีย กล่าวว่า “เราเห็นศักยภาพของดิจิทัลในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ อุตสาหกรรม และสังคม ที่มาพร้อมโอกาสอย่างมีนัยสำคัญในการเพิ่มผลผลิต ความยั่งยืน และการเข้าถึง เทคโนโลยีเครือข่ายชั้นนำที่ต้องการความแม่นยำสูงในตลาดของเรากำลังเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะจากลูกค้าหรือคู่ค้าในทุกแวดวงอุตสาหกรรม เรามองเห็นอนาคตที่ซึ่งเครือข่ายไปได้ไกลกว่าการเชื่อมโยงผู้คนและสรรพสิ่ง เป็นเครือข่ายที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เป็นอิสระ และสามารถใช้ได้จริง และยังเป็นเครือข่ายที่สามารถรู้สึก คิด และกระทำได้จริง พร้อมไปกับการเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัลให้มากขึ้นอีกด้วย”

“วันนี้เราได้มาแบ่งปันความเคลื่อนไหวขององค์กรและกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีที่เน้นความสำคัญด้านการปลดปล่อยศักยภาพแบบทวีคูณของเครือข่าย ซึ่งเป็นการกรุยทางสู่อนาคตที่เครือข่ายจะมาบรรจบกับระบบคลาวด์เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าเรากำลังปรับเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ซึ่งจะสะท้อนตัวตนของเราในปัจจุบัน ว่าโนเกียคือนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับ B2B ที่ไม่ใช่โนเกียที่โลกเคยรู้จักมาก่อน”

กลยุทธ์พลิกโฉมแบรนด์

โนเกีย ต่อยอดกลยุทธ์ทั้งสามเฟสที่จะนำพาองค์กรสู่การเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนและสร้างผลกำไรได้ โดยการจะให้ช่วงการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ได้ โนเกียได้เร่งเดินหน้าในการวางรากฐานสำหรับระยะการปรับเปลี่ยนในฐานะของผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ไร้ที่ติ และยังคงมุ่งมั่นในการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวของโนเกียซึ่งมีการปรับใหม่ตามผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2565

กลยุทธ์การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของโนเกีย ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จและเป็นรากฐานสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ ประกอบด้วย 6 แกนหลัก ดังนี้

· เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดกับผู้ให้บริการ ที่ขับเคลื่อนด้วยความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี

· ขยายสัดส่วนของลูกค้าองค์กรในอัตราส่วนของลูกค้าทั้งหมด

· ยังคงจัดการพอร์ตธุรกิจอย่างแข็งขันเพื่อสร้างความมั่นคงในการเป็นผู้นำในทุกเซ็กเมนต์ธุรกิจที่โนเกียตัดสินใจจะลงแข่งขัน

· คว้าโอกาสจากเซ็กเตอร์อื่นที่นอกเหนือจากอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อสร้างรายได้จาก IP ของโนเกีย และเดินหน้าลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อเทคโนโลยีของโนเกียอย่างต่อเนื่อง

· ดำเนินกิจการตามโมเดลธุรกิจใหม่ เช่น การให้บริการ as-a-Service ตลอดจน

· พัฒนาแนวทาง ESG ให้เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน และกลายเป็นตัวเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับความไว้วางใจในแวดวงอุตสาหกรรม

สิ่งที่ช่วยให้โนเกียบรรลุเป้าหมายดังกล่าวประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ พัฒนาผู้มีศักยภาพต่ออุตสาหกรรมในอนาคต, ลงทุนในการวิจัยระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโดเมนหลัก เช่น 6G, ปรับการดำเนินกิจการสู่ความเป็นดิจิทัลเพื่อพัฒนาในด้านความคล่องตัวและผลิตภาพ, รวมถึงการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ในครั้งนี้

กลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี

กลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีล่าสุดของโนเกียจะอธิบายถึงวิธีการที่เครือข่ายจำเป็นต้องมีวิวัฒนาการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของยุคเมตาเวิร์ส

ขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนไปพึ่งพาการเชื่อมต่อมากขึ้น เครือข่ายจะกลายมาเป็นโครงสร้างที่สำคัญให้กับทุกเรื่องที่เป็นดิจิทัลที่ซึ่งศักยภาพของเครือข่ายและความสามารถในการใช้ได้จริงนั้นจะมีน้ำหนักและความสำคัญเท่ากัน คุณภาพของระบบเครือข่ายแบบดั้งเดิมจะต้องรวมกันได้กับความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาดของระบบคลาวด์

เครือข่ายซึ่งรู้สึก คิด และกระทำเหล่านี้มีศักยภาพที่จะนำพาพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของระบบเครือข่ายไปสู่ทุกภาคอุตสาหกรรมได้

โนเกียอยู่ในจุดที่ดีที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ผ่านพอร์ตผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด รวมถึงการวิจัยที่พลิกวงการอุตสาหกรรมระดับแถวหน้าจาก Nokia Bell Labs วันนี้ที่งาน MWC โนเกียได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่เพื่อแสดงให้เห็นและส่งเสริมความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของบริษัท

การปรับภาพลักษณ์แบรนด์

เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรที่เปลี่ยนไป โนเกีย จึงได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ในครั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงตัวตนของโนเกียในปัจจุบัน นั่นคือ การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับ B2B ที่สร้างเสริมศักยภาพด้านดิจิทัลในทุกแวดวงอุตสาหกรรมได้จริง แบรนด์รูปแบบใหม่นี้จะช่วยยืนยันให้เห็นถึงคุณค่าที่นำมาสู่ความเชี่ยวชาญด้านเครือข่าย ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี การบุกเบิกด้านนวัตกรรมและความร่วมมือ

โลโก้ใหม่ของโนเกียได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้แสดงถึงพลัง ความไม่หยุดยั้งในการพัฒนา และความทันสมัย ที่แสดงถึงคุณค่าและเป้าหมายของแบรนด์เป็นสำคัญ และยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือซึ่งโนเกียเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างศักยภาพแบบทวีคูณให้กับเครือข่ายให้เป็นจริงได้ คือ การปลดล็อกผลตอบแทนในด้านความยั่งยืน ผลิตภาพ และการเข้าถึง

พร้อม Nokia แท็บเล็ต ส่งมอบสมาร์ทโฟนที่เชื่อถือได้ และใช้งานได้นาน

โนเกีย วางเป้าแผนดำเนินธุรกิจสามเฟส เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับการสร้างผลกำไร และความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี

X

Right Click

No right click