

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง และมีนวัตกรรม เปิดเผยว่า ปี 2024 SC ปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อรับมือภูเขาอุปสรรค 3 ลูกของธุรกิจอสังหาฯ คือ หนี้ครัวเรือนสูง, อุปทานล้น, และความเชื่อมั่นต่ำ โดยสามารถสะสมที่ดินทำเลคุณภาพรองรับการเติบโต ไม่น้อยกว่า 3 ปี สำหรับพัฒนาอสังหาฯหลากหลาย ที่อยู่อาศัย โรงแรม และ คลังสินค้า ยังยืนยันความแข็งแกร่ง มีสภาพคล่องรองรับการเติบโตมากกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมทั้งมีพันธมิตร ร่วมทุนที่แข็งแกร่ง
ในปี 2025 ภูเขาอุปสรรค 3 ลูกยังคงอยู่ และเพิ่มเติมปัจจัยผันผวนจากภูมิรัฐศาสตร์ SC จึงปรับตัวอย่างต่อเนื่อง #RethinkToReform เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และ เติบโตสร้างคุณค่าได้อย่างยั่งยืน
ปรับตัวครั้งสำคัญ ด้วยการ Reform 3 เรื่อง
Reform 1 ปรับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม เพื่อกระจายความเสี่ยง
Engine 1 – อสังหาฯ ที่อยู่อาศัยเพื่อขาย แนวราบและคอนโด
Engine 2 – อสังหาฯ สร้างรายได้ประจำ โรงแรม คลังสินค้า อาคารสำนักงาน และอพาร์ตเมนต์ใน USA
Engine 3 - โอกาสใหม่ ลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคตเพิ่มความสมดุลของพอร์ตโฟลิโอ มีกำไรจากธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น การลงทุนจะเป็นไปอย่างรอบคอบ ร่วมทุนกับพันธมิตรแข็งแกร่ง และสัดส่วนหนี้ต่อทุนจะลดลงอย่างมีนัยในปีนี้
Reform 2 ปรับโครงสร้างต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม เน้นย้ำคุณภาพสูง นวัตกรรมตอบโจทย์ลูกค้า และ เพิ่มความสามารถในการทำกำไร
Reform 3 ปรับโครงสร้างองค์กร เพิ่มความคล่องตัว รองรับการเติบโตของธุรกิจที่หลากหลาย และเพิ่มโอกาสเติบโตของพนักงาน
เป้าหมายและแผนธุรกิจปี 2025
· ธุรกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง เติบโตทั้งยอดขาย รายได้ และกำไร สภาพคล่องแข็งแกร่ง สัดส่วนหนี้ต่อทุนลดลงอย่างมีนัย
· เป้าหมายยอดขาย 26,000 ล้านบาท (+4% YoY) และ รายได้รวมจากทุกกลุ่มธุรกิจ 25,000 ล้านบาท (+11% YoY) ลงทุนต่อเนื่องด้วยงบลงทุน 7,000 ล้านบาท ในธุรกิจหลากหลาย รักษาตำแหน่งผู้นำ บ้านเดี่ยว เพิ่มส่วนแบ่งตลาดคอนโด และสัดส่วนกำไรจากอสังหาฯ รายได้ประจำสม่ำเสมอ
Engine1 อสังหาฯ ที่อยู่อาศัย ปี 2025 จะมีจำนวนโครงการทั้งหมด 96 โครงการ มูลค่ารวม 94,500 ล้านบาท เป็นโครงการใหม่ 15 โครงการ 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
· แนวราบ 12 โครงการ 18,000 ล้านบาท ไฮไลต์คือแบรนด์ใหม่ SONLE บ้านเดี่ยวสไตล์ Sophisticated Modern Tropical ราคาเริ่มต้น 200 ล้านบาท และ บ้านเดี่ยวซีรีส์ใหม่ 2025 จากแบรนด์ Bangkok Boulevard
· คอนโด 3 โครงการ 10,000 ล้านบาท ครบเซกเมนต์ ภายใต้แบรนด์ Reference และ COBE ต่อยอดความสำเร็จคอนโด SC สะท้อนจากยอดขาย Reference เอกมัย ที่สร้างยอดขายได้ถึง 80% ในช่วงแรกของการเปิดตัว และจะมีแบรนด์ใหม่เปิดตัวปลายปี ทำเลติดถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์
Engine 2 อสังหาฯ รายได้ประจำ ณ ปลายปี 2025 จะมีจำนวนโครงการรวมทั้งหมด 19 โครงการ จาก 4 ธุรกิจ ได้แก่ โรงแรมรวม 545 ห้อง, คลังสินค้าให้เช่ารวม 200,000 ตารางเมตร, อาคารสำนักงาน 120,000 ตารางเมตร และอพาร์ตเมนต์เพื่อเช่าในสหรัฐอเมริกา 5 อาคารโดยมีไฮไลต์ คือ โรงแรมใหม่ 2 ทำเล เปิดตัวไตรมาส 2/2025 คือ KROMO, Curio Collection by Hilton ทำเลติดถนนสุขุมวิท ตรงข้ามห้าง EmSphere และ The Standard หนึ่งเดียวในพัทยา ติดหาดนาจอมเทียน และคลังสินค้าเพื่อเช่า 3 โครงการใหม่ ในทำเล บางนา กม. 20, แหลมฉบัง และ นิคมอมตะ ชลบุรี
นายณัฐพงศ์ กล่าวสรุปว่า “ปี 2025 ที่ท้าทายนี้ SC จะปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจฟื้นแข็งแกร่งกำไรเติบโต ลงทุนอย่างรอบคอบ และกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่หลากหลาย รักษาความเชื่อมั่นของแบรนด์ผ่านมาตรฐานสินค้าคุณภาพสูงและบริการที่อบอุ่น รวมทั้งตั้งเป้าหมายลด GHG รวมกัน >100,000 ตันคาร์บอน ในปี 2025-2030 เพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อไป"
“Metthier” จับมือ “SC Asset” เสริมแกร่งความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุดให้แก่ลูกบ้านทุกระดับเซ็กเมนต์ พร้อมให้บริการด้านความปลอดภัย (Security as a Service) หนึ่งในบริการหลักของระบบ Smart Facility Management ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดอัจฉริยะและเทคโนโลยี AI ตรวจจับการบุกรุก เชื่อมศูนย์รวมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ MIOC เข้ากับแอป RueJai ดูแลความปลอดภัยได้อย่างไร้รอยต่อ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ช่วยคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชม.
นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) ผู้ให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) แบบครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยและมอบความสะดวกสบายสูงสุดให้กับลูกบ้าน SC Asset ด้วยการให้บริการด้านความปลอดภัย (Security as a Service) หนึ่งในบริการหลักของ Metthier ผสานความเชี่ยวชาญจากทีมงานมืออาชีพและเทคโนโลยีขั้นสูง ตามแนวคิด “RISE ABOVE ORDINARY ที่เมทเธียร์เราเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี” เข้ามาดูแลความปลอดภัยภายในโครงการบ้านในเครือ SC Asset อาทิ เดอะ เจนทริ, แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด, บางกอก บูเลอวาร์ด
“Metthier” ได้ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะสามารถตรวจจับการบุกรุกได้แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคโนโลยี AI ขั้นสูง วิเคราะห์และคาดการณ์เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้าเพื่อวางแผนป้องกัน โดยเชื่อมการทำงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเมทเธียร์ (Metthier Intelligent Operation Center: MIOC) ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังเชื่อมระบบเข้ากับแอปพลิเคชัน “รู้ใจ” (RueJai App) ได้อย่างไร้รอยต่อ สามารถดูความเคลื่อนไหวภายในโครงการได้สะดวกยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับลูกบ้าน SC Asset พร้อมมีผู้คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือในทุกสถานการณ์” นายขยล กล่าว
นายดิเรก ตยาคี Head of Tech Solutions บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset กล่าวว่า “นอกจากคุณภาพของสินค้าและบริการที่ดีแล้ว ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค ก็คือ ความปลอดภัย เพราะบ้านต้องเป็นที่อยู่อาศัย ที่อยู่ได้อย่างสบายใจไร้กังวล ซึ่ง SC ได้รับความไว้วางใจ จากลูกค้ามาโดยตลอด ด้วยบริการระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
การร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับประสบการณ์ความปลอดภัยของการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ตอกย้ำการเป็น Living Solution Provider ตามแนวคิด Human-Centric ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อค้นหาความต้องการและโซลูชันต่างๆ ด้านที่อยู่อาศัย โดย SC จะเริ่มคิกออฟ ระบบ Smart Facility Management ในปี 2567 ทุกระดับเซกเมนต์ ซึ่งจะติดตั้งเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานมาพร้อมกับบ้านทุกหลัง ลูกบ้านสามารถใช้บริการ ผ่านแอปพลิเคชัน RueJai ภายใต้แนวคิด ช่วยเรื่องบ้าน จัดการเรื่องชีวิต”