เมื่อเราเดินทางมาถึงยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธุรกิจไม่ควรมองข้ามการนำนวัตกรรมและปัญญาประดิษฐ์มาใช้ ซึ่งจะช่วยผู้ประกอบการให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ ตรงจุด 

finbiz by ttb จะพาไปดูว่า AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ จะเข้ามาช่วยให้ธุรกิจ SME ได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างไร

1.การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า

 AI สามารถช่วยร้านค้า SME วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้ ทำให้สามารถเสนอโปรโมชันหรือสินค้าที่ตรงกับความต้องการได้ เช่น การใช้เครื่องมืออย่าง Google Trend ที่ SME สามารถเข้าถึงได้ง่ายมาช่วยดูพฤติกรรมลูกค้าในเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ช่วยให้เข้าใจว่าปัจจุบันลูกค้ากำลังค้นหาอะไร หรือการใช้ AI วิเคราะห์การยิงโฆษณา ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่คุ้มค่ากว่าการส่งออกโฆษณาโดยไม่มีการวิเคราะห์ซึ่งอาจไม่ตรงเป้าหมาย มีสถิติระบุว่า อัตราการคลิกผ่าน (CTR) เพิ่มขึ้น 11% เมื่อใช้ AI ในแคมเปญโฆษณา และอัตราการแปลง (Conversion Rate) เพิ่มขึ้น 7.6%

2.การบริหารสต็อกสินค้า

ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มในการบริหารสต็อกสินค้าที่ใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์จากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้โดยสามารถช่วยคาดการณ์ยอดขายและจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างแม่นยำ ลดปัญหาของขาดหรือของเหลือ โดย AI เหล่านี้สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง ช่วยให้การสต็อกสินค้ามีความแม่นยำ ลดปัญหาสินค้าขาดสต็อกได้กว่า 90% ลดการสต็อกสินค้าเกินได้กว่าครึ่ง และช่วยลดเวลาการทำงานของมนุษย์

3. การบริการลูกค้าอัตโนมัติ AI Chatbot

เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ร้านค้าสามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น การใช้ Google Dialogflow หรือ Chatbot ของ LINE OA ที่สามารถตอบคำถามอัตโนมัติและช่วยปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว โดย Chatbot จะมีความเหมือนมนุษย์มากกว่าการใช้ Auto Reply โดยการสร้าง Chatbot ผู้ใช้จะต้องออกแบบคาแรกเตอร์ของบอทตัวนั้น ๆ ด้วย Chatbot ที่มี AI หรือ NLP (Natural Language Processing เทคโนโลยีประมวลผลภาษาธรรมชาติ) สามารถเข้าใจภาษาได้มากกว่า Keyword เช่น ถ้าลูกค้าพิมพ์ “หวัดดี” Chatbot ก็สามารถเรียนรู้ได้ว่า คือ สวัสดี และสามารถโต้ตอบได้เหมือนที่มนุษย์ตอบกัน เพราะ AI มีการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง Machine Learning แตกต่างจากการทำโปรแกรมแบบเก่าที่ต้องคอยออกคำสั่ง มันจึงเรียนรู้ และฉลาดมากขึ้นได้

4. การทำการตลาดและโฆษณาแบบอัจฉริยะ

AI สามารถช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและเลือกยิงโฆษณาที่เหมาะสมได้แบบอัตโนมัติ เช่น การใช้ฟีเจอร์ Smart Bidding ฟีเจอร์ที่มีให้บริการผ่าน Google Ads และใช้ข้อมูลจากเครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads เพื่อให้ได้รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยลดค่าใช้จ่ายลง ฟีเจอร์จะเก็บข้อมูลนี้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการประมูลเพื่อแสดงโฆษณาแต่ละครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการคลิกที่ไม่มีประโยชน์ หรือพวก Ad Targeting ในเฟซบุ๊กที่ช่วยเลือกกลุ่มเป้าหมายโฆษณาได้อย่างแม่นยำ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลและทำนายแนวโน้มยังช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ระบบแนะนำสินค้าอัจฉริยะ

 AI สามารถเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าและแนะนำสินค้าที่เหมาะสม เช่น ร้านค้าออนไลน์สามารถใช้ Recommendations AI เพื่อช่วยแนะนำสินค้าบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของตัวเอง ยกตัวอย่าง Recommendation AI บน Google Cloud ที่ทำงานอย่างไร้รอยต่อกับ Marketing Platform ทำให้สามารถแนะนำสินค้าที่ตรงใจลูกค้าได้มากขึ้น

นี่คือตัวอย่างในการใช้งาน AI ในธุรกิจ SME ที่มีทั้งแบบที่มีค่าใช้จ่าย และไม่มีค่าใช้จ่าย แต่สำหรับธุรกิจ SME ที่มีหน้าร้าน และต้องการวิเคราะห์ข้อมูลที่หน้าร้านแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปหาแอปพลิเคชันเสริมเพิ่มเติม หรือไม่ต้องการใช้คนบันทึกข้อมูลให้ยุ่งยาก ก็สามารถเริ่มง่าย ๆ ด้วยการใช้ระบบจัดการร้านค้า ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop) ที่ร้านค้าต้องใช้กันอยู่แล้วในการสร้าง QR Code เพื่อรับชำระเงินจากทุกธนาคาร

เริ่มง่าย ๆ ด้วยระบบจัดการร้านค้า ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop)

จากที่ปัจจุบันลูกค้าส่วนหนึ่งไม่พกเงินสด ร้านค้าจึงต้องพร้อมสำหรับการรับชำระเงินด้วยรูปแบบที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง QR Code ที่สามารถรับชำระเงินได้จากทุกธนาคาร แต่จะดีขึ้นไปอีกหากระบบนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูค้าได้อีกด้วย โดย ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop) นอกจากจะสร้าง QR Code เพื่อรับชำระเงินง่าย สะดวก จากทุกธนาคาร ยังเป็นระบบที่ "รับไว รู้ลึก ธุรกิจปังปัง"

  • รู้ยอดรับชำระเงินได้ทันที ด้วยระบบแจ้งเตือนรับเงินเข้าบัญชีในแอปพลิเคชันระบบจัดการร้านค้า ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop) เมื่อมีการชำระเงินผ่าน QR Code ทำให้เจ้าของธุรกิจมั่นใจได้ว่าเงินเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว รู้ทุกยอดขาย ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของบัญชี ดูได้ผ่านแอปพลิเคชันระบบจัดการร้านค้า ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop) ทุกที่ ทุกเวลา แม้ไม่ได้อยู่หน้าร้าน
  • สร้าง QR Code ได้หลายรูปแบบ เพื่อรับชำระเงินจากลูกค้าได้ง่าย ๆ
  • เข้าถึงข้อมูลการขายที่สามารถนำไปวิเคราะห์ วางแผน และต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ด้วย Analytic Report รายงานวิเคราะห์การขายเชิงลึก ครบทุกมิติ ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • มีรายงานสรุปการขาย สามารถเลือกดูตามช่วงเวลาได้ตลอดตามความต้องการ และมีรายงานสรุปยอดขายรายวันที่มีข้อมูลครบรอบด้าน ส่งให้ทางอีเมลของเจ้าของธุรกิจโดยอัตโนมัติ
  • กำหนดและเพิ่มสิทธิ์ให้พนักงานร้านในการช่วยรับเงิน พร้อมสามารถจัดการสิทธิ์ใช้งาน และดูแลร้านค้าให้แก่พนักงานร้านได้ไม่จำกัด

นวัตกรรมและปัญญาประดิษฐ์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับธุรกิจ SME อีกต่อไป ด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีต้นทุนที่เข้าถึงได้ ทำให้ร้านค้าสามารถนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน และยกระดับการให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใครที่ยังไม่ได้เริ่มต้น ลองศึกษาและนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

จุดประกายการเปลี่ยนแปลง ผ่านพลังสร้างสรรค์จากเด็กไฟ-ฟ้า

Roddonjai.com โดยทีทีบีไดรฟ์ เว็บไซต์ซื้อ-ขายรถมือสองคัดคุณภาพทุกคัน รวบรวมรถมือสองสภาพดีในราคาที่คุ้มค่ากว่าใคร เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น จัดโปรโมชันสุดคุ้ม “ขายวันนี้ ฟรีทุกค่าใช้จ่าย” สำหรับผู้ขายรถบ้านโดยเฉพาะ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568  

รับทันทีโปรโมชัน 3 ต่อ มูลค่าสูงสุด 12,590  บาท ได้แก่

ต่อที่ 1 : แพ็กเกจประกาศขายรถยนต์มูลค่า 10,000 บาท รับบริการช่วยลงขาย ฟรีบริการตรวจสภาพรถ บริการถ่ายภาพรถโดยมืออาชีพ และการช่วยโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพมากที่สุด

ต่อที่ 2 : รับเครื่องดูดฝุ่นไร้สายมูลค่า 1,590 บาทไปใช้งานฟรี เมื่อประกาศขายรถยนต์ภายใน 30 วันหลังจากวันที่ลงทะเบียนสำเร็จ

ต่อที่ 3 : เมื่อรถยนต์ที่ประกาศขายจัดสินเชื่อกับทีทีบีไดร์ฟ รับบัตรกำนัลโลตัสมูลค่า 1,000 บาท

Roddonjai ช่วยให้เจ้าของรถที่ต้องการขายรถบ้าน ลงประกาศขายได้อย่างง่ายดาย ได้ราคาดียิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการขายรถได้รวดเร็วขึ้น และที่สำคัญให้ผู้ซื้อมั่นใจในสภาพรถยนต์ที่ได้ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญระดับสากล 274 จุด  โดยสามารถลงขายรถบ้านกับ Roddonjai.com ได้ง่าย ๆ เพียงลงทะเบียนเป็นผู้ขายรถบ้านกับรถโดนใจผ่านเว็บไซต์  https://bit.ly/RodbaanSellerttbDRIVE  ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

สิทธิพิเศษนี้มอบให้สำหรับเจ้าของรถบ้านที่ลงขายรถผ่านเว็บไซต์รถโดนใจเท่านั้น จำกัดเพียง 1 สิทธิ์ต่อผู้ใช้งาน เฉพาะ 1,000 ท่านแรกเท่านั้น   

Roddonjai.com เป็นเว็บไซต์ซื้อ-ขายรถยนต์มือสองที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าของรถสามารถขายรถได้ง่ายที่สุด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง พร้อมระบบที่ใช้งานง่ายและเข้าถึงผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้ความช่วยเหลือในทุกขั้นตอน โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ หากคุณกำลังคิดจะขายรถยนต์ อย่าพลาดโปรโมชันสุดคุ้มจาก Roddonjai.com


กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 4.92%-15.00% เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

รู้หรือไม่? บัตรเครดิตทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นหากเข้าใจวิธีใช้งานอย่างถูกต้องและชาญฉลาด ก็จะเป็นตัวช่วยจัดการชีวิตการเงินที่ดี ซึ่งมือใหม่ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนคงมีคำถามมากมาย fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ ชวนมาทำความรู้จักกับบัตรเครดิต พร้อมแนะนำการใช้งานโดยเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เพื่อจะได้ใช้บัตรเครดิตอย่างมั่นใจ ปลอดภัยและคุ้มค่าในแบบฉบับตัวเอง

รู้จักบัตรเครดิต เลือกแบบไหน? ให้เหมาะกับคุณ

บัตรเครดิต คือ เครื่องมือทางการเงินที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายสินค้าและบริการแทนเงินสดได้ โดยธนาคารจะจ่ายเงินให้ร้านค้าก่อน และผู้ถือบัตรต้องชำระคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด หากจ่ายช้ากว่ากำหนดจะต้องเสียดอกเบี้ย เหมาะสำหรับการซื้อสินค้าราคาแพงหรือการผ่อนชำระ ซึ่งบัตรเครดิตมีหลายประเภท โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บัตร การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้จ่ายสะดวกและมีประโยชน์มากขึ้น

  1. International Credit Card สำหรับใช้งานทั่วโลก

สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ หรือมีความจำเป็นต้องซื้อของจากเว็บไซต์ต่างประเทศคงสงสัยว่าบัตรเครดิตใช้ต่างประเทศได้ไหม? บัตรเครดิตสามารถนำไปใช้งานที่ต่างประเทศได้ แต่ต้องเลือกใช้งาน International Credit Card ซึ่งใช้งานได้ทั่วโลกและสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายในสกุลเงินที่คุณสะดวกได้ อย่างไรก็ตาม ควรระวังค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน และค่าธรรมเนียมรายปีที่สูงกว่าบัตรเครดิตประเภทอื่น ๆ

  1. Local Credit Card สำหรับใช้งานในประเทศ

สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายและไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายในต่างประเทศ ควรทำบัตรเครดิตประเภท Local Credit Card เนื่องจากเหมาะกับการใช้งานได้ภายในประเทศ บัตรประเภทนี้จะออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารในประเทศไทย จึงมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันตามธนาคาร และมักจะไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน อีกทั้งมีค่าธรรมเนียมรายปีที่ต่ำกว่า International Credit Card โดยผู้ถือบัตรมักจะได้รับโปรโมชันบัตรเครดิตและส่วนลดกับร้านค้าในประเทศ

  1. Private Label Card สำหรับลูกค้าประจำของแบรนด์

ผู้ที่ชื่นชอบและเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ต่าง ๆ สามารถเลือกใช้บัตร Private Label Card ที่ออกโดยห้างสรรพสินค้า ร้านค้า หรือกลุ่มธุรกิจเฉพาะ ซึ่งจุดเด่นคือ มีโปรโมชันและส่วนลดพิเศษของร้านค้าในเครือ เช่น บัตรเครดิตสะสมคะแนนเพื่อแลกเป็นส่วนลดหรือสินค้าฟรีภายในร้านค้าอย่างการใช้บัตรเครดิตเติมน้ำมันนั่นเอง

  1. Cashback Credit Card หรือบัตรเครดิตเงินคืน

บัตรเครดิตที่มอบโอกาสให้ผู้ถือบัตรได้รับเงินคืนบางส่วนจากยอดซื้อที่ทำในแต่ละรายการ โดยมักจะกำหนดเป็นร้อยละของยอดซื้อหรือจำนวนเงินที่กำหนดไว้ เช่น 1% หรือ 2% เป็นต้น การรับเงินคืนมักจะเป็นเงินที่จ่ายกลับในบัญชี หรือจะนำมาใช้หักจากบิลค่าใช้จ่ายต่อไปได้ตามกฎระเบียบของแต่ละธนาคารหรือผู้ออกบัตรเครดิต

  1. Corporate Executive Card หรือบัตรเครดิตนิติบุคคล

ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรประเภทนี้จะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลอย่างถูกต้อง มีสถานประกอบการที่แน่นอน รวมถึงเอกสารแสดงรายได้ ซึ่งบัตรนี้ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงินให้กับองค์กรธุรกิจหรือบริษัท เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการการเงินและการใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการ

  1. Main Card หรือบัตรหลัก

บัตรหลักเป็นบัตรที่ธนาคารหรือสถาบันทางการเงินออกให้กับผู้ที่สมัครบัตร โดยผู้สมัครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อยอดใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น และมีสิทธิ์สมัครบัตรเสริมให้กับคนอื่นด้วย เช่น สมาชิกในครอบครัว

  1. Supplementary Cards หรือบัตรเสริม

บัตรเครดิตที่ผูกกับบัตรหลัก โดยออกให้กับคนอื่น ๆ มีวงเงินใช้จ่ายภายในวงเงินของผู้ถือบัตรหลัก กำหนดโดยผู้ถือบัตรหลัก ผู้ใช้บัตรเสริมสามารถใช้จ่ายสินค้าและบริการ ชำระค่าธรรมเนียม และสะสมคะแนนได้เช่นเดียวกับบัตรหลัก แต่ผู้ถือบัตรหลักจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อยอดใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับบัตรเสริม

ประโยชน์และข้อดีต่าง ๆ ของบัตรเครดิต

  • สะดวกสบายในการใช้จ่าย : ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก สามารถใช้ชำระเงินออนไลน์ได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ปลอดภัยกว่าการใช้เงินสด : การซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิตมีการคุ้มครองผู้บริโภค หากสินค้าชำรุดหรือไม่ได้รับสินค้า และที่สำคัญมักมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูง
  • จัดการการเงินได้อย่างยืดหยุ่น : สามารถผ่อนชำระยอดเงินได้ในภายหลัง ช่วยให้ผู้ใช้จัดการการเงินได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมผ่อนชำระที่ดอกเบี้ยต่ำหรือไม่มีดอกเบี้ยเลยในบางกรณี
  • สะสมคะแนนและรับสิทธิประโยชน์ : หลายบัตรเครดิตมีโปรแกรมสะสมคะแนนหรือเงินคืน ซึ่งนำไปแลกของรางวัลหรือส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการได้ บางบัตรยังมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ส่วนลดร้านอาหาร
  • สร้างเครดิต : การชำระหนี้ตรงเวลาทุกเดือนช่วยสร้างประวัติการชำระหนี้ที่ดี เพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต

แม้บัตรเครดิตจะมีข้อดีและประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้งาน ดังนี้

  • รู้เท่าทันดอกเบี้ย : จ่ายเท่าไหร่ ชำระเต็มจำนวน ดอกเบี้ยก็ไม่บานปลาย
  • ชำระตรงเวลา : เลี่ยงค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากการชำระล่าช้า
  • เลือกบัตรให้เหมาะ : เปรียบเทียบโปรโมชัน สิทธิประโยชน์ และค่าธรรมเนียมก่อนสมัคร
  • ใช้อย่างมีสติ : วางแผนการใช้จ่าย อย่ารูดเกินตัว รู้จักควบคุมใจ
  • ตรวจสอบยอดบัญชี : หมั่นตรวจยอดคงเหลือและประวัติการใช้จ่าย ป้องกันความผิดพลาด
  • แจ้งธนาคารทันที : หากบัตรสูญหายหรือถูกขโมย เพื่อป้องกันความเสียหาย

บัตรเครดิต คือ ตัวช่วยทางการเงินของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้จ่ายอย่างสะดวกสบาย เพียงแค่พกบัตรใบเดียวแทนการใช้เงินสด นอกจากนี้ ยังสามารถผ่อนชำระยอดเงินได้ในภายหลัง ช่วยให้จัดการการเงินได้ดีขึ้น แต่บางบัตรเครดิตอาจมีค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เราควรเลือกใช้จ่ายตามความจำเป็น หรือตามไลฟ์สไตล์ เพื่อจะได้เป็นตัวช่วยในการชำระเงินได้อย่างชาญฉลาด ปลอดภัย และคุ้มค่าอีกด้วย

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เดินหน้าประกาศความสำเร็จบนเส้นทางสู่ “การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” ครองอันดับหนึ่งธนาคารที่มีคะแนนด้าน ESG สูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ด้วยคะแนนที่เพิ่มขึ้น 9.59% ในการประเมินนโยบายด้าน ESG ของภาคธนาคารไทย จากการประเมินโดยคณะวิจัยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand) ประจำปี 2567 ได้คะแนนโดดเด่นในหมวดต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการปฏิบัติเป็นปีแรก หรือการยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานด้วยการรับหลักการและมาตรฐานสากลที่ส่งผลต่อการประเมินจนได้รับคะแนนสูงขึ้น คือ หมวดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หมวดสิทธิแรงงาน และหมวดการคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีนายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต เป็นตัวแทนรับรางวัลจากนางสาวสฤณี อาชวานันทกุล หัวหน้าคณะวิจัย แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย ณ ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand Learning Center)

ทั้งนี้ แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย เป็นองค์กรสมาชิกเครือข่ายแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ (Fair Finance International) มีจุดมุ่งหมาย คือ การผลิตชุดดัชนีและเครื่องมือให้ภาคประชาสังคม และประชาชนในประเทศต่าง ๆ ได้ใช้ในการติดตามและขับเคลื่อนการทำงานด้านการธนาคารที่ยั่งยืนของสถาบันการเงินในแต่ละประเทศ โดยการประเมินคะแนนจะพิจารณาจากเนื้อหานโยบายและแนวปฏิบัติในการลงทุนและการให้บริการทางการเงินของสถาบันการเงินที่เปิดเผยต่อสาธารณะของแต่ละธนาคาร เปรียบเทียบกับมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืนที่เกี่ยวข้อง

X

Right Click

No right click