บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ และ Specialty Polymer ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ.2566 โดยสถาบันไทยพัฒน์

นายขันธ์ชัย วิจักขณะ ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2566 ด้วยการคัดเลือกจาก 888 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และบริษัทเข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 ได้เป็นปีที่ 2 (2565-66)

บริษัทให้ความสำคัญในนโยบายความยั่งยืน และการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง BCG, ESG รวมถึงแคมเปญ NET ZERO รักษ์โลก โดยการส่งเสริมสนับสนุนใช้ปูนซิเมนต์ไฮโดรลิก ทดแทนปูนซิเมนต์ปอร์ตแลนด์ เนื่องจากการผลิตปูนซิเมนต์ไฮดรอลิกใช้สัดส่วนปูนเม็ดน้อยกว่า จึงทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า ดังนั้น เมื่อนำปูนซิเมนต์ไฮดรอลิกมาเป็นวัตถุดิบสำหรับงานก่อสร้างอาคารเขียวตามมาตราฐาน  LEED และ TREES จึงช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และลดภาวะโลกร้อน  นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป กลุ่มบริษัทมีนโยบายผลิตสินค้าที่มีการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยได้ออกแบบผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Products) ซึ่งประกอบด้วย ปูนเม็ด (Green Clinker) ปูนซิเมนต์ (Green Cement) ไฟเบอร์ซิเมนต์ (Green Fiber Cement) และกระเบื้องหลังคาคอนกรีต (Green CRT) โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมุ่งใช้วัตถุดิบทดแทน เชื้อเพลิงทดแทน และไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

ทั้งนี้ การจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน

สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่เก้าในปีนี้

ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

เสริมทัพยานยนต์ สานนโยบายลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Zero Carbon)

TPIPL ประสบความสำเร็จจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุดให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน

กรุงเทพฯ 31 ตุลาคม 2565 : TPIPL เตรียมออกหุ้นกู้ 3 ชุด อายุ 4 ปี ดอกเบี้ย 4.25% ต่อปี อายุ 4 ปี 3 เดือน ดอกเบี้ย 4.32% ต่อปี และอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ระหว่างวันที่ 9-11 และ 14 พ.ย.นี้ ผ่านสถาบันการเงินผู้จัดจำหน่าย 18 แห่ง เผยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “Positive” สะท้อนผลการดำเนินงานที่ดีกว่าที่คาด รวมถึงโอกาสในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและอาเซียน มั่นใจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สามารถเข้าถึงหุ้นกู้ในระดับที่ “กลุ่มระดับลงทุน” (Investment Grade) ภายใต้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์รวมทั้งผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ ธุรกิจโพลีเมอร์ชนิดพิเศษ (Specialty Polymer) ธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ และธุรกิจโรงไฟฟ้า (ผ่านบริษัทย่อย) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวนรวม 3 ชุด วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.25% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 4 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.32% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน ในระหว่างวันที่ 9-11 และ 14 พฤศจิกายน 2565

สำหรับหุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “Positive” หรือ “บวก” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จในการเปลี่ยนธุรกิจโพลีเมอร์ (Polymer) ไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและอัตรากำไรที่ดีขึ้นของธุรกิจปูนซีเมนต์ ซึ่งอัตรากำไรจากธุรกิจปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้นสูงนั้น เป็นผลมาจากการปรับเพิ่มราคาขาย และต้นทุนที่ลดลงจากการทดแทนการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินด้วยขยะชุมชนที่บริษัทฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ทริสเรทติ้ง ระบุด้วยว่า คาดว่า บริษัทฯ จะยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ต่อเนื่องไปถึงปี 2566 ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน

ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่า หุ้นกู้ TPIPL จะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะผู้ลงทุนทั่วไปที่สามารถเข้าถึงหุ้นกู้อันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “กลุ่มระดับลงทุน” (Investment Grade) ภายใต้

ผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงเป็นการออกและเสนอขายโดยบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ธุรกิจการเกษตร และอื่นๆ ซึ่งมีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตในอนาคต สะท้อนจากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 12,476 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับงวดอยู่ที่ 2,680 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นกู้ TPIPL ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนได้อย่างแน่นอน

สำหรับผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ TPIPL จำนวน 18 ราย ประกอบด้วย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส, บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บล.หยวนต้า (ประเทศไทย), บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย), บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.ดาโอ (ประเทศไทย), บล.พาย, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย), บล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ , บล.โกลเบล็ก, บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) , บล.เอเชีย เวลท์, บล.ไอ วี โกลบอล , บล.เอเอสแอล และ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

ปัจจุบัน บมจ. ทีพีไอ โพลีน และบริษัทในเครือประกอบธุรกิจหลัก แบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้ (1) ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ ปูนเม็ด ปูนสำเร็จรูป คอนกรีตผสมเสร็จ กระเบื้องคอนกรีต ไฟเบอร์ซีเมนต์ อิฐมวลเบา และสี เป็นต้น (2) ธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่าย โพลีเมอร์ชนิดพิเศษ (Specialty Polymer) กาวน้ำ (EVA Emulsion) กาวผง (EVA Powder) ฟิล์ม Polene Solar ฟิล์ม Vista Solar และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ แอมโมเนียมไนเตรท และกรดไนตริก เป็นต้น (3) ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ได้แก่ ธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงขยะ โรงไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนทิ้ง โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงงานแปรรูปขยะเป็นเชื้อเพลิงทดแทน โรงงานผลิตเชื้อเพลิงเหลว สถานีให้บริการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (NGV) และโรงงานรับกำจัดกากอุตสาหกรรม เป็นต้น และ (4) ธุรกิจการเกษตรและอื่น ๆ ประกอบด้วย (4.1) ผลิตภัณฑ์สำหรับพืช ได้แก่ ปุ๋ยชีวะอินทรีย์ สารปรับปรุงสภาพดิน (4.2) ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์ ได้แก่ สารเสริมชีวนะ สำหรับปศุสัตว์และประมง (4.3) ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้แก่ Bio Knox สำหรับชงดื่มเพื่อกำจัดเชื้อก่อโรค น้ำยาบ้วนปาก ผลิตภัณฑ์ไมโครมน็อคโซลูชั่น สำหรับพ่นบริเวณที่อยู่อาศัยเพื่อลดเชื้อก่อโรค สบู่เหลว เป็นต้น รวมถึง น้ำดื่มตราทีพีไอพีแอล นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจประกันชีวิตที่ดำเนินการภายใต้บริษัทและบริษัทในเครือทีพีไอโพลีน อีกด้วย

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ TPIPL สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากหนังสือชี้ชวนการเสนอขายได้ที่ www.sec.or.th และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 18 แห่ง ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

 

บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) ผู้นำในธุรกิจปูนซิเมนต์ เม็ดพลาสติก โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ และผลิตภัณฑ์ HealthCare ป้องกันรักษาอันตรายจาก virus และจุลินทรีย์ก่อโรคของมนุษย์ ปุ๋ยชีวอินทรีย์ อาหารเสริมชีวอินทรีย์ และสารฆ่าเชื้อ virus สำหรับหมู ไก่ วัว ควาย สุนัข แมว ปลา กุ้ง  ได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) เข้าอยู่ในกลุ่มบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน หรือ ESG Emerging List ปี 2565

สถาบันไทยพัฒน์ ประกาศให้ ทีพีไอ โพลีน เป็นหนึ่งในรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2565 ด้วยการคัดเลือกจาก 851 หลักทรัพย์จดทะเบียน โดยใช้ข้อมูลด้าน ESG ที่ปรากฏในการเปิดเผยข้อมูล การดำเนินงานที่สะท้อนปัจจัยด้าน ESG และความริเริ่มหรือลักษณะธุรกิจที่เกี่ยวโยงกับประเด็นด้าน ESG ของกิจการ

นายขันธ์ชัย วิจักขณะ ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน ESG Emerging List ในปีนี้ เป็นผลจากความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ และตระหนักถึงความคาดหวังของชุมชนที่มีต่อบริษัทฯ เป็นอย่างดี

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทฯ มุ่งมั่นในการขับเคลึ่อนธุรกิจสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเชื่อมโยงการดำเนินการสู่ภาคเศรษฐกิจที่เป็น Bio-Circular-Green (BCG) Economy ในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า  เพื่อร่วมดูแลแก้ไขปัญหาโลกร้อน รวมทั้งดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล ตลอดจนส่งมอบคุณค่าให้กับชุมชนและสังคมส่วนรวมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างให้เกิดความเข้มแข็งต่อองค์กร ชุมชน สังคม และประเทศ”

ทั้งนี้ การจัดอันดับหลักทรัพย์ที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่กันในกระบวนการประเมิน

สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG Emerging เป็นครั้งแรกในปี 2563

ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

X

Right Click

No right click