×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 6847

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ประกาศเปิดโรงงานแบตเตอรี่อีวีแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนบนพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ด้วยกำลังการผลิตกว่า 50,000 ก้อนต่อปี พร้อมเข้าสู่บทบาทการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอีวีแห่งภูมิภาคอาเซียน

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ได้เปิดโรงงานแบตเตอรี่อีวีแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ HASCO-CP BATTERY SHOP ในภูมิภาคอาเซียนบนพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 75 ไร่ หลังทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ ส่วนการประกอบแบตเตอรี่ ประกอบด้วยสายการผลิตอัตโนมัติที่ทันสมัยอย่างการนำหุ่นยนต์ (Robotic) เข้ามาช่วยในการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานที่แม่นยำ การเชื่อมโดยเลเซอร์ (Laser Welding) เพื่อให้ได้คุณภาพของการเชื่อมที่ดี การตรวจสอบด้วย CCD (Charge Coupled Device) เพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบเทียบกับต้นแบบในทุกขั้นตอนก่อนนำไปใส่ในตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และส่วนการทดสอบมาตรฐานของแบตเตอรี่ กว่า 60 ขั้นตอน อาทิ การตรวจสอบค่าการเก็บการคายประจุ (Charge & Discharge) การตรวจสอบน้ำรั่วซึมเข้าสู่แบตเตอรี่ (Air Leak test) ทดสอบความเป็นฉนวน (Insulation Test) ทดสอบการควบคุมพลังงาน (Static Test) เป็นต้น โดยในสายการผลิตแห่งนี้สามารถประกอบแบตเตอรี่ Cell-To-Pack ได้สูงสุดมากกว่า 50,000 ก้อนต่อปี ซึ่งแบตเตอรี่ที่ประกอบในประเทศไทยจะเป็นมาตรฐานเดียวกับสายการผลิตระดับโลก สำหรับแบตเตอรี่ที่ออกจากสายการผลิตนี้จะถูกนำไปติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MG4 ELECTRIC เป็นรุ่นแรก รวมถึงรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมของสายการผลิตเพื่อเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2567”

 

นายจ้าว เฟิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เปิดเผยว่า “โรงงานแบตเตอรี่อีวี เป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ เพิ่มงบลงทุนอีกกว่า 500 ล้านบาท โดยจะใช้เป็นโรงงานประกอบแบตเตอรี่อีวีในรูปแบบ Cell-To-Pack (CTP) ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง RUBIK's CUBE BATTERY ด้วยข้อได้เปรียบในเรื่องของศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมถึงการที่บริษัทแม่อย่าง SAIC MOTOR CORPORATION และ HASCO-CP เล็งเห็นถึงความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน

 

“โดยนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019 ที่ เอ็มจี ได้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย สู่ปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็น ที่นิยม และมีการเติบโตในตลาดแบบก้าวกระโดด ตอกย้ำความเชื่อมั่น ด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสะสมรวมกว่า 18,000 คัน ด้วยผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ คือการให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Ecosystem ที่มีความแข็งแกร่งและครอบคลุมในทุกมิติของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว โดยเฉพาะการลงทุนสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จไฟแบบเร็ว หรือ MG SUPER CHARGE รองรับการเดินทางที่สะดวกสบาย ทั่วประเทศ ล่าสุด เอ็มจี เดินหน้าแผนงานอีวี มุ่งยกระดับอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปิดตัวโรงงานประกอบแบตเตอรี่อีวี และถือเป็นเครื่องสะท้อนความตั้งใจของ เอ็มจี หลังจากนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ในแผนงานระยะถัดไป เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำ สู่ปลายน้ำ โดยมีกรอบระยะเวลาแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2567”

 ไรเซน เอนเนอร์จี ส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้า “บีวายดี อีซิกส์” (BYD e6) จำนวน 101 คัน ให้แก่บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด ผู้บริหารกิจการแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในภาคขนส่งสาธารณะครั้งแรกของประเทศไทย ในโครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” (EV Taxi VIP) เพื่อยกระดับคุณภาพรถและบริการของแท็กซี่ไทย โดยจะเริ่มประจำการที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่  9 กันยายน 2561 เป็นต้นไป   

อภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า “ด้วยมาตรฐานการผลิตที่มีความเสถียรและปลอดภัยระดับโลกของ บีวายดี ออโต้ ผู้นำในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเธียมของโลกมากว่า 20 ปี และยังเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกด้วยยอดขายกว่า 200,000 คันต่อปี ในกว่า 40 ประเทศ ผสานกับการบริหารที่มีประสิทธิภาพของ อีวี โซไซตี้ ทั้งด้านการจัดการและการฝึกอบรมพนักงานขับรถ ด้านมาตรฐานบริการ ความเชี่ยวชาญในการขับขี่ และการดูแลรักษายานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้น ประกอบกับความพร้อมของ ไรเซน เอนเนอร์จี ในการให้บริการหลังการขาย ด้วยทีมงาน
ที่เชี่ยวชาญและผ่านการอบรม\ด้านซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างดี รวมถึงให้บริการอะไหล่คุณภาพ โครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” จึงเป็นการยกระดับบริการรถสาธารณะและคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ”

 “การผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าบีวายดี อีซิกส์ (BYD e6) ภายใต้โครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” โดยความร่วมมือของบริษัท อีวี โซไซตี้ และพันธมิตรในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือก ซึ่งมีราคาที่แข่งขันกับรถยนต์ทั่วไปได้ เนื่องจากต้นทุนแบตเตอรี่ลดลงประมาณ 12-15% ทุกปี นอกจากนี้ แรงผลักดันจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ ทั้งในเรื่องการผ่อนปรนกฎระเบียบ การสนับสนุนเงินอุดหนุนทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งความต่อเนื่องและความชัดเจนของนโยบาย เป็นส่วนช่วยให้เราเดินหน้าผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเป็นรูปธรรมและแพร่หลายมากขึ้น” อภิชาติ กล่าวสรุป

ทางด้านผู้ให้บริการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี”  สรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการบริษัท บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มุ่งพัฒนาบริการของแท็กซี่ไทยให้ สะดวก ปลอดภัย และเป็นมืออาชีพ ตามนโยบายของกรมการขนส่งทางบก รวมทั้งต้องการส่งเสริมการใช้รถพลังงานสะอาด เพื่อรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าสากล โดย “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” จะพร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป โดยผู้สนใจสามารถเรียกใช้บริการผ่าน 3 ช่องทาง ทั้งบริเวณเคาน์เตอร์ศูนย์บริการ ชั้น 1 สนามบินสุวรรณภูมิ แอปพลิเคชั่น Taxi Ok ของกรมการขนส่งทางบก และคอลล์เซ็นเตอร์
โทร. 0 2039 8888 สำหรับอัตราค่าโดยสารเริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท กิโลเมตรถัดไป คิดอัตรากิโลเมตรละ 16 บาท โดยมีโปรโมชั่นส่วนลด 5% เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต อาลีเพย์ วีแชท แรบบิทไลน์เพย์”

 “บริษัทได้ฝึกอบรมพนักงานขับรถโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการรถโดยสารสาธารณะจากทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งการทดสอบทั้งด้านมารยาทการให้บริการ ความเชี่ยวชาญในการขับขี่ และการดูแลรักษายานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้น รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรคือ เจพี ประกันภัย ในการสนับสนุนเบี้ยประกันภัยอัตราพิเศษที่ครอบคลุมทั้งตัวรถ คนขับ และผู้โดยสาร ขณะที่ อีเอ พันธมิตรผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟและซัสโก้ สนับสนุนให้รถ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” ทั้ง 101 คันชาร์จไฟฟรี ณ  สถานบริการน้ำมันและชาร์จไฟซัสโก้ 7 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ สาขาบางปะกอก (ซัสโก้สำนักงานใหญ่ ถนนราษฎร์บูรณะ) กาญจนาภิเษก บางยอ เอกชัย เสนานิคม ศรีนครินทร์ 1 และศรีนครินทร์ 3 จนถึงสิ้นปี 2561” สรยุทธ กล่าว

ปัจจุบันทั่วโลกมียานยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 3,000,000 คัน โดยในปี 2560 การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวมากขึ้นในหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ เยอรมนี ไอซ์แลนด์ ญี่ปุ่น และจีน สำหรับประเทศไทย คาดว่ายานยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการขนส่งสาธารณะ ตามนโยบายพลังงาน 4.0 ของภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ 1,200,000 คัน ภายในปี 2579 เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิง และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ตามแผนแม่บทการอนุรักษ์พลังงาน

 สมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า  การเปิดตัว EV Taxi VIP ภายใต้การยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยโครงการ Taxi VIP ของกรมการขนส่งทางบก จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสร้างระบบการคมนาคมขนส่งที่มีคุณภาพในทุกด้าน ทั้งการยกระดับการให้บริการระดับมืออาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่  พร้อมทั้งดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากการคมนาคมขนส่งเพิ่มเติม

จากซ้ายไปขวา อภิชาติ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด หลิว ซู่เหลียง ผู้จัดการทั่วไปแผนกการขายภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ จำกัด รณชัย จินวัฒนาภรณ์ ประธานบริหาร บริษัท ไรเซน เอเนอร์จี จำกัด วิชิต วิทยฐานกรณ์ ประธานที่ปรึกษา บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด สรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการ บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัดและคุณา วิทยฐานกรณ์ กรรมการบริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด

 ทางด้านสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการขนส่งในการใช้รถโดยสารสาธารณะพลังงานทางเลือกที่มิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและการให้บริการ โดยเฉพาะการยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยให้มีคุณภาพความปลอดภัยและการให้บริการภายใต้โครงการ Taxi OK และ Taxi VIP โดยนำเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือบริหารสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนด้วยบริการด้วยรถสาธารณะที่ดีมีคุณภาพ

 ดร.ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่าการนำร่องใช้แท็กซี่ไฟฟ้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยตื่นตัว กระตุ้นการวิจัยและพัฒนา และแสดงความพร้อมในการเดินหน้าเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดมลภาวะในภาคคมนาคมขนส่ง

 

 

 

 

 

X

Right Click

No right click