November 13, 2025
    สหรัฐ    

ธนาคารกลางสหรัฐฯส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ย หลังเศรษฐกิจและตลาดแรงงานเสี่ยงชะลอตัวมากขึ้น ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ประธานเฟดส่งสัญญาณถึงโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะอันใกล้นี้จากความเสี่ยงต่อการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นโยบายการค้าคาดว่าจะกระทบต่อเงินเฟ้อเพียงชั่วคราว ดังนั้น ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจและดุลความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป เฟดจึงอาจต้องปรับเปลี่ยนท่าทีด้านนโยบายการเงิน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประธานเฟดจะมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น (Dovish) แต่ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนต่อการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยได้ในระยะถัดไป

ทั้งนี้ ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลายตัว เช่น ตัวเลขการจ้างงาน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมถึงดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล ยังคงบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อการชะลอตัวที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกัน แม้ว่าเงินเฟ้อฝั่งอุปทานอาจขยับสูงขึ้นจากผลของนโยบายปรับขึ้นภาษีทางการค้า แต่อัตราเงินเฟ้อฝั่งอุปสงค์มีแนวโน้มชะลอตัวตามภาพเศรษฐกิจโดยรวม จากประเด็นดังกล่าว วิจัยกรุงศรีคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2-3 ครั้งในปีนี้

     ญี่ปุ่น     

ภาคบริการช่วยประคับประคองเศรษฐกิจญี่ปุ่น แต่ภาคการผลิตและส่งออกยังเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโต ในเดือนกรกฎาคม ยอดส่งออกหดตัวมากสุดในรอบ 4 ปีที่ -2.6% YoY ขณะเดียวกันจำนวนผู้ที่เดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.4% YoY สู่ระดับ 3.4 ล้านคน ด้านกระทรวงการคลังเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในคำของบปี 2569-2570 ที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณสำหรับพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวสู่ระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี ที่2.6% ซึ่งส่งผลให้การตั้งงบชำระหนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราว 30 ล้านล้านเยน

ภาคบริการยังคงขยายตัวอย่างเข้มแข็งในไตรมาสสอง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังโตต่อเนื่อง รวมถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะหนุนให้ค่าจ้างปรับขึ้นได้ต่อ และช่วยประคับประคองการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตและส่งออกมีโอกาสหดตัวต่อเนื่องท่ามกลางอุปสรรคจากกำแพงภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น สะท้อนจากยอดส่งออกของญี่ปุ่นที่หดตัวมากขึ้นในเดือนกรกฎาคม โดยเฉพาะการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดดันเศรษฐกิจมากขึ้นในระยะถัดไป จากปัจจัยดังกล่าว วิจัยกรุงศรีคาดว่า BOJ จะยังคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจ

 

    ไทย    

ภาคท่องเที่ยวไทยยังมีสัญญาณอ่อนแรง วิจัยกรุงศรีคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้มีแนวโน้มลดลงเป็นปีแรกหลังฟื้นตัวจากโควิด ในเดือนกรกฎาคมมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย 2.61 ล้านคน หดตัว -15.9% YoY สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1.24 แสนล้านบาท ลดลง -14.7% สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปี นักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 19.3 ล้านคน ลดลง -6.4% YoY สร้างรายได้ 8.95 แสนล้านบาท ลดลง -4.2%

ภาคท่องเที่ยวของไทยยังเผชิญปัจจัยลบสำคัญจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ต่ำกว่าปีที่แล้วท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัย ในช่วง 7 เดือนแรกของปี นักท่องเที่ยวจีนลดลง -34.9% YoY เหลือเพียง 2.62 ล้านคน หรือประมาณ 40% ของระดับก่อนโควิด-19 ในปี 2562 ขณะเดียวกันไทยยังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากประเทศคู่แข่งในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นและเวียดนามที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนปัจจัยดังกล่าวทำให้ภาคท่องเที่ยวไทยในปีนี้ยังไม่สดใส ล่าสุดวิจัยกรุงศรีคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2568 จะลดลงเหลือ 34 ล้านคน จาก 35.5 ล้านคนในปี 2567 ซึ่งถือเป็นการลดลงรายปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 หลังการระบาดของโควิด-19 ในปี 2563

 

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2568 สอดคล้องกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และเพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ตลอดจนช่วยลดต้นทุนทางการเงินและบรรเทาภาระของลูกค้าทั้งในภาคธุรกิจและรายย่อย

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กรุงศรีปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสภาพแวดล้อมทางการเงินที่เอื้อต่อการปรับตัวของภาคธุรกิจ ลดต้นทุนทางการเงินและบรรเทาภาระหนี้ของลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมของมาตรการภาษีสหรัฐฯ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง”

กรุงศรีปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้

  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate หรือ MLR) ปรับลดลงจาก 000% เป็น 6.750%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate หรือ MOR) ปรับลดลงจาก 975% เป็น 6.725%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate หรือ MRR) ปรับลดลงจาก 7.120% เป็น 6.870%

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในแนวทางที่กรุงศรีได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ สะท้อนถึงความห่วงใยและความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม

อัตราดอกเบี้ยใหม่ดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

สะท้อนบทบาทความเป็นผู้นำตลอด 80 ปีของกรุงศรี และความร่วมมือกับ MUFG เพื่อเสริมสร้างอนาคตที่เข้มแข็งและยั่งยืนทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน

ในยุคที่มิจฉาชีพแฝงตัวทุกที่ การรู้การเคลื่อนไหวเงินแบบทันที คือการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุด กรุงศรีนำเสนอผู้ช่วยที่คุณไว้ใจได้ ด้วย “บริการแจ้งเตือนเงินเข้า-ออก ผ่าน LINE Krungsri Simple” ให้ลูกค้ากรุงศรีสามารถติดตามยอดเงินเข้า-ออกได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และมั่นใจให้กับทุกธุรกรรม อีกทั้งยังสามารถขอรายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Statement) เช็กยอดเงินและการเคลื่อนไหวของบัญชีได้ทันที ผ่าน LINE ได้ง่ายๆ ฟรี! ไม่มีค่าบริการ

เพียง Add LINE Krungsri Simple กดสมัครบริการแจ้งเตือน และผูกบัญชีเงินฝาก สมัครใช้งานได้แล้ววันนี้ หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.krungsri.com/th/personal/digital-banking/line-krungsri-simple?utm_source=PR

นายเคนอิจิ ยามาโตะ (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายไพโรจน์ ชื่นครุฑ (ขวา) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รับมอบประกาศนียบัตร ESG100 Company จาก ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ (ซ้าย) ประธานสถาบันไทยพัฒน์ ในฐานะที่กรุงศรีได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 บริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากการประเมินบริษัทจดทะเบียนทั้งสิ้น 921 บริษัท โดยกรุงศรีได้รับการคัดเลือกอยู่ในรายชื่อ ESG100 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบและคำนึงถึงมิติ ESG รวมทั้งเป้าหมายการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน

X

Right Click

No right click