November 13, 2025

ดีป้า ประกาศรายชื่อ 10 ทีมผู้ชนะจากเวที Demo Day & Business Matching ในกิจกรรม depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM กิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการ depa ESPORTS พร้อมมอบรางวัลรวมมูลค่า 200,000 บาท และสิทธิ์เข้าศึกษาดูงานในต่างประเทศเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ต่อยอดสู่การประกอบอาชีพต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมอีสปอร์ต หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในอนาคต

นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอีสปอร์ตทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 30% ต่อปี และมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 ขณะที่ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพสูง มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีผู้เล่นและมีผู้ชมจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงฐานผู้บริโภคที่เข้มแข็ง อีกทั้งมีโอกาสที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดังกล่าวสู่เวทีโลก ดังนั้น ดีป้า จึงได้ดำเนินกิจกรรม depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM กิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการ depa ESPORTS โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่แข็งแกร่งให้กับวงการอีสปอร์ตไทยผ่านการพัฒนาบุคลากรคุณภาพเข้าสู่วงการอีสปอร์ต ซึ่งไม่เพียงแต่เสริมสร้างทักษะการเล่นเกมในระดับอาชีพ แต่ยังครอบคลุมการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการทีมและธุรกิจอีสปอร์ตครบวงจร เพื่อปูทางสู่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตอาชีพ ทีมอีสปอร์ตที่มีศักยภาพ ตลอดจนสามาประกอบอาชีพที่เกี่ยวเนื่องได้ในระดับสากล

 

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน ดีป้า เห็นพัฒนาการที่น่าประทับใจของน้อง ๆ ทั้ง 10 ทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่กิจกรรม depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM ซึ่งน้อง ๆ ได้เรียนรู้จากวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ และ Mentor ระดับแนวหน้าของวงการอีสปอร์ต ทั้งการพัฒนาทักษะการเล่น การวางแผนกลยุทธ์ การสื่อสารภายในทีม การบริหารจัดการทีม การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล ไปจนถึงการหารายได้และการตลาดในวงการอีสปอร์ต ซึ่งเป็นความรู้รอบด้านที่จำเป็นสำหรับการก้าวสู่เส้นทางนักกีฬาอีสปอร์ต และการเป็นทีมที่มีศักยภาพ

 

สำหรับการตัดสินทีมผู้ชนะจากเวที Demo Day & Business Matching มีการกำหนดเกณฑ์การพิจารณาที่ครอบคลุมหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น (1) ผลงานและความก้าวหน้าตลอดกิจกรรม (2) ผลคะแนนจากการแข่งขัน Daily Tournament ที่จัดขึ้นระหว่างกิจกรรม (3) ทักษะการนำเสนอและแผนการพัฒนาทีมในอนาคต (4) ความสามัคคีและการทำงานเป็นทีม และ (5) ศักยภาพในการเติบโตในวงการอีสปอร์ตระดับมืออาชีพ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าในวงการอีสปอร์ตไทยร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน ประกอบด้วย บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้สนับสนุนหลักของโครงการ depa ESPORTS ผู้นำด้านเกมออนไลน์และอีสปอร์ตในประเทศไทย บริษัท อินโฟเฟด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจอีสปอร์ตและเจ้าของทีม eArena คุณดิว - อาณัติ เรืองวงศ์ อาจารย์พิเศษผู้เชี่ยวชาญด้านอีสปอร์ตที่มาร่วมมอบความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์เชิงลึก รวมถึง โค้ชไตร TNK โค้ชอีสปอร์ตอาชีพผู้คร่ำหวอดในวงการที่มาร่วมถ่ายทอดกลยุทธ์และการประเมินทีมจากประสบการณ์จริงในสนามแข่งขัน

โดยทีมผู้ชนะจากเวที Demo Day & Business Matching ในกิจกรรม depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM ประกอบด้วย

  • Best Performance รางวัลที่มอบให้กับทีมที่ทำผลงานโดยรวมได้ยอดเยี่ยมที่สุด ได้แก่

- รางวัลชนะเลิศ ทีม Star Dream Legends รับเงินรางวัล 40,000 บาท พร้อมโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ และรางวัลพิเศษจาก AMD (สปอนเซอร์โครงการ) พร้อมทริปดูงานต่างประเทศ

- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีม PSU มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับเงินรางวัล 25,000 บาท

- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม Chicken Time รับเงินรางวัล 15,000 บาท และรางวัลพิเศษจาก AMD (สปอนเซอร์โครงการ)

  • Rising Star รางวัลที่มอบให้กับทีมที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และได้รับความประทับใจจากคณะกรรมการเป็นพิเศษ

ทีม DBM Esport รับเงินรางวัล 10,000 บาท

 

นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลสำหรับทีมผู้ชนะการแข่งขัน RoV ประกอบด้วย

  • รางวัลชนะเลิศการแข่งขัน RoV ทีม BIGZISE รับเงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทีม Star Dream Legends รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม DBM Esport รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ทีม PN Esport รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท
  • รางวัลอันดับที่ 5 - 10 รับเงินรางวัลทีมละ 5,000 บาท

 

รางวัลทั้งหมดถือเป็นความชื่นชมและเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ช่วยผลักดันให้เยาวชนไทยกล้าที่จะก้าวเข้ามาสู่แวดวงอีสปอร์ตอย่างมั่นใจและมีเป้าหมาย ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นศักยภาพของเด็กไทย ซึ่งเวที Demo Day & Business Matching ในกิจกรรม depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือจากหลาย ๆ ภาคส่วนในการผลักดันอุตสาหกรรมอีสปอร์ตของไทย ดีป้ายินดีที่ได้สนับสนุนโครงการในลักษณะนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้กับเยาวชนไทยได้พัฒนาตนเองและก้าวสู่เวทีระดับโลก ผ่านการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งให้กับวงการอีสปอร์ตไทยรองผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดูรายชื่อทีมผู้ชนะทั้งหมดจากเวที Demo Day & Business Matching ในกิจกรรม depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM และติดตามข้อมูลข่าวสาร รวมถึงความเคลื่อนไหวของโครงการ depa ESPORTS และกิจกรรมต่าง ๆ จาก ดีป้า ได้ทาง www.depa.or.th, LINE OA: depaThailand และ Facebook Page: depa Thailand

กระทรวงดีอี โดย ดีป้า ร่วมกับ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สมอ. และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แถลงความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Global ISO Conference 2025 การประชุมประจำปีของคณะอนุกรรมการด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบ (ISO/IEC JTC1/SC7) ที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 13 มิถุนายนนี้ที่ อาคารดีป้า สำนักงานใหญ่ ซอยลาดพร้าว 10

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พร้อมด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Global ISO Conference 2025 การประชุมประจำปีของคณะอนุกรรมการด้านซอฟต์แวร์และวิศวกรรมระบบ (ISO/IEC JTC1/SC7) ที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 13 มิถุนายนนี้ ณ อาคารดีป้า สำนักงานใหญ่ ซอยลาดพร้าว 10 โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี และ นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการยกระดับผู้ประกอบการและอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ระหว่าง ดีป้า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

 

นายประเสริฐ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กระทรวงดีอี พร้อมด้วยหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง และเครือข่ายพันธมิตรร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล อาทิ การดึงดูดการลงทุน Data Center และ Cloud จากบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลระดับโลกที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี อย่าง AWS, Microsoft และ Google การแก้ไขปัญหาสินค้าและบริการดิจิทัลที่ไม่มีคุณภาพและมาตรฐานผ่านกลไกบัญชีบริการดิจิทัล และการสร้างความเชื่อมั่นแก่นานาประเทศต่อการขับเคลื่อนงานด้านดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยี AI โดยประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of Artificial Intelligence 2025 ระหว่างวันที่ 24 - 27 มิถุนายน เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เจรจาความร่วมมือระดับรัฐมนตรี ซึ่งจะนำไปสู่การจัดทำนโยบาย หรือข้อริเริ่มในการขับเคลื่อนงานระหว่างประเทศด้วย AI ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพด้าน AI ต่อสายตาชาวโลก และเปิดโอกาสการพัฒนาหรือต่อยอดงานกับนานาประเทศ

สำหรับงาน Global ISO Conference 2025 จะเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และกำหนดมาตรฐานในระดับสากลเพื่อพัฒนามาตรฐานซอฟต์แวร์ไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และจะช่วยให้คนไทยได้ใช้สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ในราคาเป็นธรรม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีของผู้กำหนดมาตรฐานระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสทองของประเทศในการสร้างความน่าเชื่อถือ ความร่วมมือ และอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืนรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

 

ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า คณะอนุกรรมการด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบ หรือ ISO/IEC JTC 1/SC 7 เป็นหน่วยงานย่อยภายใต้การกำกับของ ISO และ IEC ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการจัดทำมาตรฐานสากลด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบ ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการพัฒนา การจัดการ การประกันคุณภาพ การประเมินผล การดูแลรักษา ไปจนถึงแนวทางด้านจริยธรรมและความน่าเชื่อถือของระบบสารสนเทศและซอฟต์แวร์ ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย สามารถทำงานร่วมกันได้ และสอดคล้องกับกฎหมายหรือข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยงาน Global ISO Conference 2025 ถือเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนความรู้และความเห็นเชิงเทคนิค เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยมีผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ รวม 21 ประเทศเข้าร่วมประชุม

การที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Global ISO Conference 2025 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการยกระดับบทบาทของไทยในเวทีมาตรฐานดิจิทัลระดับสากล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านมาตรฐานซอฟต์แวร์และระบบในภูมิภาคได้อย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นโอกาสในการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรของประเทศให้สามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนามาตรฐานสากล ทั้งในเชิงเทคนิคและเชิงนโยบาย ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงต่อการยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

 

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า Global ISO Conference 2025 ยังถือเป็นเวทีสำคัญที่ประเทศไทยจะได้แนะนำ dSURE ตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลของไทยที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการใช้งาน (Safety) ความสามารถในการทำงาน (Functionality) และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) โดยดีป้าได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยได้รับมาตรฐานระดับสากลที่เป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะทำให้ต่อยอดสู่การขึ้นทะเบียน “บัญชีบริการดิจิทัล” แหล่งรวบรวมสินค้า/บริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการดิจิทัลไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เป็นไปตามข้อกำหนดด้านมาตรฐาน คุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล ซึ่งจะช่วยสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานและภาคธุรกิจ โดยทั้งสองกลไกเป็นตัวอย่างสำคัญของการสร้างมาตรฐานภายในประเทศที่สามารถต่อยอดสู่การยอมรับในระดับสากล

สำหรับงาน Global ISO Conference 2025 เป็นการประชุมใหญ่ประจำปีของคณะอนุกรรมการด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์และระบบ (ISO/IEC JTC 1/SC 7) ซึ่งนับเป็นการประชุมหลักที่จัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง โดยปีนี้มีผู้แทนจากประเทศสมาชิก 21 ประเทศจาก 39 ประเทศเข้าร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือให้เกิดการกำหนดมาตรฐานกลางที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบงานสารสนเทศให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และสามารถทำงานร่วมกันได้ พร้อมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานจากทั่วโลก ตลอดจนการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการผลักดันมาตรฐานให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยในการประชุมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมจะได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมกันพัฒนามาตรฐานในหลากหลายหัวข้อ อาทิ แนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใหม่ (Digital Technologies & Innovation) การกำกับดูแล บริการ และการจัดการสินทรัพย์ด้าน IT (IT Governance, Services & Assets) การพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยความช่วยเหลือจาก AI (AI-Assisted Software Development) ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และความน่าเชื่อถือของระบบ (Cybersecurity & Dependability) การประเมินคุณภาพและการจัดทำมาตรฐาน (Quality & Standards) การพัฒนาแอปพลิเคชันแบบโลว์โค้ด (Low Code Development) รวมถึงแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์สีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Software)

Global ISO Conference 2025 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 13 มิถุนายนนี้ ณ อาคารดีป้า สำนักงานใหญ่ ซอยลาดพร้าว 10 ซึ่งภายในงานจะมีเวทีเสวนาเพื่อเปิดโอกาสให้นักพัฒนา ผู้ประกอบการ และหน่วยงานของไทยรับฟังบรรยายพิเศษถึงแนวโน้มและทิศทางการพัฒนามาตรฐานดิจิทัลในอนาคต

ดีป้า จัดกิจกรรมการตัดสินดิจิทัลสตาร์ทอัพ ระยะ Idea Stage รอบ Final Pitching และกิจกรรมต่อยอดการสร้างเครือข่ายระดับประเทศ เฟ้นหาทีมดิจิทัลสตาร์ทอัพดาวรุ่ง เพื่อรับการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการ depa Digital Startup Fund เพื่อเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทย

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า จัดกิจกรรมการตัดสินดิจิทัลสตาร์ทอัพ ระยะ Idea Stage รอบ Final Pitching และกิจกรรมต่อยอดการสร้างเครือข่ายระดับประเทศ (Networking) พร้อมด้วยงานแถลงข่าวการสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพผ่านมาตรการ depa Digital Startup Fund ณ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (สำนักงานใหญ่) ซอยลาดพร้าว เขตจตุจักร 10 โดยมี นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล ดีป้า เป็นประธานเปิดกิจกรรม และ ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นเข้าร่วมกิจกรรม โดยปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมตัดสินดิจิทัลสตาร์ทอัพ ระยะ Idea Stage ทั้งสิ้น 120 ทีมจาก 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ก่อนคัดเหลือ 45 ทีมผ่านเข้าสู่รอบ Final Pitching ในครั้งนี้ และคัดเลือกทีมที่มีศักยภาพโดดเด่น 26 ทีมได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจาก ดีป้า ผ่านมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนเพื่อการเริ่มต้นธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล (depa Digital Startup Fund)

 

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวในการแถลงข่าวฯว่า การส่งเสริมการพัฒนาดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยในทุกระยะการเติบโตถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่ ดีป้า ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องผ่านกลไกการขับเคลื่อนสำคัญ ประกอบด้วย Build Platform: การสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพ (Startup Ecosystem) ที่ส่งเสริมการทำงานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาแหล่งทุน การมอบมาตรการสนับสนุนจากทางภาครัฐเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุน รวมไปถึงการจัดทำบัญชีบริการดิจิทัลเพื่อเป็นส่วนช่วยในการเข้าถึงตลาดภาครัฐและภาคเอกชน Nurture Talents: การผลักดันให้เกิดกระบวนการสร้างดิจิทัลสตาร์ทอัพในทุกระยะให้มีศักยภาพการเติบโตเชิงธุรกิจรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี Support Digital Product & Service Design: การสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยในสาย Deep Tech เพื่อเพิ่มศักยภาพและต่อยอดสู่การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในด้านต่าง ๆ ตอบโจทย์ภาคเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และ Support Prototype and Commercialize Innovation: การส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดผลิตภัณฑ์/บริการดิจิทัลสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ โดยส่งเสริมให้เกิดการทดสอบทดลองบน Maker Space แบบครบวงจร ขนาด 10,000 ตารางเมตร

 

สำหรับกิจกรรมการตัดสินดิจิทัลสตาร์ทอัพ ระยะ Idea Stage นับเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้สามารถแปลงแนวคิดเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ สามารถเติบโต และพร้อมแข่งขัน ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ อีกทั้งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ขณะที่กิจกรรม Final Pitching นอกจากจะเป็นเวทีแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และเฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพโดดเด่น รับทุนสนับสนุนทีมละ 200,000 บาท เพื่อเป็นทุนตั้งต้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ หรือดำเนินการจดจัดตั้งธุรกิจแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายระหว่างสตาร์ทอัพ นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญในสายดิจิทัลที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจในอนาคต ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดของ ดีป้า เพื่อเป็นการขับเคลื่อนให้ชุมชนของดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยก้าวไปสู่การเป็นระบบนิเวศที่เข้มแข็ง ก่อให้เกิดการลงทุนและขยายผลในรูปแบบ Born Local Go Global ต่อไปผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

นอกจากนี้ ดีป้า ยังได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาในการสร้างกระบวนการพัฒนาศักยภาพให้กับดิจิทัลสตาร์ทอัพระยะ Idea Stage ตั้งแต่การพัฒนาแนวคิดธุรกิจ การสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการเชื่อมโยงกับนักลงทุนและตลาด พร้อมกันนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรสำคัญอย่าง บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) (G-Able) ที่สนับสนุนหลักสูตรและการทำ Boot Camp เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการทำธุรกิจและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงอุทยานวิทยาศาสตร์ในแต่ละภูมิภาคที่ให้เกียรติเป็นคณะกรรมการคัดเลือกในรอบภูมิภาคร่วมกับเหล่านักลงทุนจากบริษัท Venture Capital ชั้นนำ และสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ มีประสบการณ์ตรงในการทำธุรกิจ และพร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

หลัง ครม.ไฟเขียว มอบ 928 ทุน เสริมแกร่งเด็กไทยเรียนรู้ดิจิทัล ใช้ชีวิตต่างแดน เปิดโอกาสสำหรับโลกอนาคต

มุ่งสร้างโซลูชั่นรองรับการทำธุรกรรมและบริการสาธารณะด้วยความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และปลอดภัย

X

Right Click

No right click