'ห้าดาว' (FIVE STAR) ผู้นำธุรกิจร้านอาหารแฟรนไชส์ ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ คว้ารางวัล Best of Thailand Bronze จากเวที YouTube Works Award ประเทศไทย ประจำปี 2566 ซึ่งสุดยอดแคมเปญโฆษณา เรื่อง FIVE STAR : QUALITY TIME, AGAIN นี้ได้สร้างความตรึงใจให้แก่ผู้ชม โดยร่วมมือกับ RABBIT’S TALE ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ในการวางแผนสื่อ การเล่าเรื่อง ตลอดจนการใช้เครื่องมือต่างๆ บน YouTube สร้างผลลัพธ์ทางการตลาดและธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน ผลงานโฆษณาชิ้นนี้ยังเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในเวทีระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในงาน The YouTube Works Awards SEA 2023 ที่จัดขึ้น ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยแคมเปญโฆษณา FIVE STAR : QUALITY TIME, AGAIN สามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศจาก 2 สาขา ได้แก่ สาขา "The Fire Starter " สุดยอดรางวัลแคมเปญโฆษณาที่สร้างความรู้สึกรัก สร้างแรงบันดาลใจ และความภักดี หรือการสนับสนุนแบรนด์ในกลุ่มเป้าหมาย ผ่าน YouTube อย่างสร้างสรรค์ และ สาขา "The Big Bang" รางวัลแคมเปญโฆษณาเปิดตัวหรือเปิดตัวใหม่ รวมถึงแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ตำแหน่งใหม่ สโลแกนใหม่ ฯลฯ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย

นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการธุรกิจห้าดาว บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด กล่าวว่า ห้าดาว ภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์งานโฆษณาคุณภาพ จนคว้ารางวัลจาก The YouTube Works Awards ปี 2023 ทั้งในประเทศ และเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยไปสร้างชื่อเสียงในเวทีระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพในการทำตลาดออนไลน์ และสร้างแบรนด์ให้ได้รับความนิยมในประเทศไทย โดยสิ่งสำคัญ คือการตอบรับ และได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ที่ให้ห้าดาวเป็นแบรนด์ในใจ และเป็นมื้ออร่อยที่มีคุณภาพ ถูกปากทุกคนในครอบครัวส่งต่อรุ่นสู่รุ่นมาตลอดกว่า 39 ปี โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่ทำให้คะแนน Brand for me เพิ่มขึ้น 18.5% เป็นแรงสนับสนุนให้ห้าดาวได้รับรางวัลนี้ อีกทั้งยังผลักดันให้แบรนด์พัฒนาและสร้างสรรค์แคมเปญดีๆ เพื่อทุกคนต่อไป 

สำหรับ ภาพยนตร์โฆษณา เรื่อง FIVE STAR : QUALITY TIME, AGAIN (รับชม https://youtu.be/ICMaMKLPjEc) บอกเล่าเรื่องราวจากเหตุการณ์จริงของความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับแม่ผู้จากไป กับรสชาติเมนูวัยเด็กที่คุ้นเคย ความสุขระหว่างมื้ออาหารที่มีค่าสำหรับการใช้เวลาทานข้าวร่วมกันของครอบครัว ตอกย้ำ “ความเป็นครอบครัว” ของแบรนด์ห้าดาว สะท้อนความรู้สึกของผู้ชมได้อย่างแท้จริง รวมทั้งยังสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้ชมได้สูงอีกด้วย

 

ร้าน 'ซีพี อูโอริกิ' โดยความร่วมมือระหว่าง CPFGS จับมือ อูโอริกิ เปิดจำหน่ายอาหารทะเล 2 สาขาแรกในไทย ‘โลตัส สุขุมวิท 50-แม็คโคร ศรีนครินทร์’ เสิร์ฟความสดใหม่ คุณภาพพรีเมียม ระดับโอมากาเสะ ให้คนไทยได้ลิ้มลองใกล้บ้าน ไม่ต้องบินไกลถึงญี่ปุ่น

บริษัท ซีพี-อูโอริกิ จำกัด (CP UORIKI) เปิดตัวร้าน 'ซีพี อูโอริกิ' 2 สาขาแรกในไทย ปักหมุด ห้างโลตัส สุขุมวิท 50 และห้างแม็คโคร ศรีนครินทร์ คัดสรรวัตถุดิบอาหารทะเลคุณภาพระดับร้านโอมากาเสะตามฤดูกาล จากตลาดปลาทั่วประเทศญี่ปุ่น อาทิ บลูฟินทูน่า ราชาปลาดิบ แซลมอนจากอาโอโมริ ปลาบุรีจากคาโกชิมา โฮตาเตะจากฮอกไกโด และอูนิจากอิวะเตะ ให้คนไทยได้ลิ้มลองความอร่อย สดใหม่ แบบพรีเมียม พร้อมถ่ายทอดวัฒนธรรมการบริโภคอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

นายสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS กล่าวว่า ซีพี อูโอริกิ เป็นการร่วมทุนผสานความแข็งแกร่งระหว่างความเชี่ยวชาญด้านการจำหน่ายอาหารของ CPFGS กับความเป็นผู้นำระดับโลกด้านปลาสดและอาหารทะเลมากกว่าร้อยปีของ อูโอริกิ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้ ตามวิถีญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ เหมือนไปรับประทานถึงแดนปลาดิบ โดยบริษัทฯ มีการส่งเชฟไปฝึกอบรมและเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 เดือน พร้อมรับใบประกาศนียบัตรจากอูโอริกิ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่า จะได้รับสินค้าที่มีมาตรฐานและการบริการชั้นเลิศเทียบเท่าระดับโอมากาเสะ

"การเปิดร้านถาวรในไทยครั้งแรก CPFGS ได้ผนึกกำลังกับบริษัทในเครือซีพี เปิดร้านในแหล่งช้อปปิ้งย่านที่พักอาศัย ได้แก่ ห้างโลตัส สุขุมวิท 50 ซึ่งเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจ รองรับผู้บริโภคชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ส่วนสาขาแม็คโคร ศรีนครินทร์ เป็นห้างค้าส่งย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ที่มีลูกค้ามาจับจ่ายสินค้าเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายอีก 10 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นห้าง Lotus’s, Makro, Gourmet Market และ Tops เพื่อครอบคลุมความต้องการและเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค และตั้งเป้าสู่ 100 สาขา ภายใน 5 ปี" นายสุจริต กล่าว

ภายในงาน นายมาซายูกิ ยามาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อูโอริกิ จำกัด ผู้สืบทอดกิจกรรมรุ่นที่ 3 ได้โชว์แล่ปลาทูน่า ตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นมากกว่า 100 ปี

ด้าน นายมาซายูกิ ยามาดะ เปิดเผยว่า หลังจากการลงนามความร่วมมือระหว่าง CPFGS และ อูโอริกิ ทั้ง 2 บริษัทฯ มีการหารือและแลกเปลี่ยนการทำงานมาโดยตลอด จนกระทั่งกลายเป็นร้าน ‘ซีพี อูโอริกิ’ ที่พร้อมจำหน่ายปลาสดและอาหารทะเลคุณภาพพรีเมียม สำหรับการเปิดร้าน 2 สาขาแรกในประเทศไทย รู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจที่ อูโอริกิ มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบประสบการณ์การรับประทานปลา ตามวิถีชาวญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมให้แก่คนไทยได้สัมผัสถึงรสชาติความอร่อย ความสด และยังส่งเสริมสุขภาพ หวังว่า ทุกๆ สินค้าที่เราคัดสรรมาเป็นพิเศษจากน่านน้ำทั่วประเทศญี่ปุ่น จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค

ร้าน 'ซีพี อูโอริกิ' พร้อมเปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารญี่ปุ่น สัมผัสกับประสบการณ์ความอร่อย สดใหม่ ทุกวันที่ ห้างโลตัส สุขุมวิท 50 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น. และ ห้างแม็คโคร ศรีนครินทร์ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น.

บริษัท ซีพี-อูโอริกิ จำกัด เป็นการร่วมทุนจัดตั้งระหว่าง CPFGS ผู้จัดจำหน่ายอาหารสดและอาหารแปรรูป ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และ อูโอริกิ (UORIKI) ผู้จำหน่ายปลารายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ให้บริการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารทะเลสดแช่เย็น-แช่แข็ง ซูชิ ซาชิมิ มากิ และเครื่องปรุงรสต่างๆ รวมถึง สินค้าแปรรูปจากอาหารทะเล มุ่งเน้นการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนการรับซื้อปลาจากชาวประมงโดยตรง เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาปลา ตลอดจนส่งเสริมการรับประทานปลาตามฤดูกาล เพื่อสร้างสมดุลทางธรรมชาติ

ความมั่นคงในอาชีพอาจจะวัดจากรายได้ต่อปี ยอดขาย หรือกำไรสุทธิ แต่สำหรับ “ภชภณ  วนพงศ์ทิพากร” มองต่างไปถึงความต่อเนื่องของอาชีพแบบไร้ความเสี่ยง แต่เป็นความมั่นคงที่สร้างความมั่งคั่งให้กับเขาและคุณภาพชีวิตที่ดีของครอบครัว

ภชภณ เล่าว่า เดิมทำธุรกิจครอบครัวตัดเย็บเสื้อผ้าส่งประตูน้ำ แต่ตนเองมีมุมมองกับธุรกิจเสื้อผ้า คือการรอรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า ที่เสี่ยงกับความไม่แน่นอน และมองว่าวัตถุดิบหลายอย่างที่ใช้ในการผลิต ไม่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเช่นในขั้นตอนผลิตมีเศษผ้าเหลือใช้กลายเป็นต้นทุนแฝง ขณะที่คู่แข่งของไทยอย่างฮ่องกงและจีน มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เขาจึงมองหาช่องทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ ทั้งการมีการสั่งซื้อที่แน่นอนและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด

หนึ่งในธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์นั้นได้มากที่สุด คือ การเลี้ยงไก่เนื้อในระบบเกษตรพันธสัญญา หรือ “คอนแทรคฟาร์ม” โดยภชภณเริ่มต้นเป็นเกษตรกร ภายใต้ชื่อ บริษัท มั่งคั่งแอนนิมอล จำกัด ทำประกันราคากับบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2546 หลังเห็นตัวอย่างความสำเร็จของญาติที่จังหวัดบุรีรัมย์  ก่อนเริ่มต้นธุรกิจเขาศึกษาสัญญาอย่างดี พบว่าไม่มีความเสี่ยงด้านการตลาด ปัญหาโรคน้อย ต้นทุนต่ำสุด และต้องทำให้ตนเองเป็นผู้รับจ้างเลี้ยงที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อผลตอบแทนที่ดีที่สุด

เมื่อเริ่มแรกเขาเรียนรู้การเลี้ยงไก่ด้วยตัวเอง จากการฝึกงานในฟาร์ม เรียกว่ากิน-นอนอยู่ในฟาร์ม ควบคู่กับการสรรหาบุคลากรที่มีความรู้มาช่วยงานในฟาร์มด้วยตัวเอง และเดินทางไปศึกษาความก้าวหน้าของระบบฟาร์ม ในงานแสดงเทคโนโลยีทางปศุสัตว์ระดับนานาชาติ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาประยุกต์ใช้

ปัจจุบัน ภชภณยกเลิกสัญญากับบริษัทแรกไปหลายปีแล้ว และทำสัญญาคอนแทรคฟาร์มกับบริษัทผู้ผลิตและส่งออกเนื้อสัตว์รายใหญ่ 3 บริษัท เพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2562 เลี้ยงไก่เนื้อ 270,000 ตัว จำนวน 10 โรงเรือน ในจังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรี

สำหรับการเป็นคู่สัญญากับซีพีเอฟ เขาบอกว่าต้องทำงานแข่งกับตัวเอง เลี้ยงให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด เช่นอัตราการตายไม่เกิน 2% และกำหนดน้ำหนักมาตรฐานในวันจับสัตว์ ที่สะท้อนความสามารถในการเลี้ยง เพื่อทำให้เกษตรกรได้ผลตอบแทนสูงสุด และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างอาหารปลอดภัยให้ผู้บริโภค

ที่สำคัญ ซีพีเอฟถือเป็นคู่ค้าที่ดี ผู้บริหารและพนักงานช่วยเหลือทันทีเมื่อเกิดปัญหา โดยเฉพาะช่วงการระบาดของ  โควิด-19 ได้รับเงินช่วยเหลือจากผลกระทบด้านการจับไก่เข้าโรงงานชำเเหละไม่ได้ตามเเผนที่กำหนดไว้ ทำให้มีผลต่อประสิทธิภาพต้นทุน ค่าใช้จ่ายฟาร์มเพิ่มขึ้น ซึ่งทางบริษัทก็ได้ให้ความช่วยเหลือ เพื่อลดภาระต้นทุน ทำให้ฟาร์มมีเงินทุนหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่าย

ภชภณ กล่าวย้ำว่า การเลี้ยงไก่ระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่งให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เป็นความท้าทาย และยังกระตุ้นตัวเองให้พัฒนาตลอดเวลา ที่สำคัญคือต้องรักษามาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการผลักดันให้ฟาร์มมั่งคั่งแอนนิมอล เป็นเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farm) เพื่อยกระดับการบริหารจัดการฟาร์มให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับเกษตรพันธสัญญา ผมไม่คิดเรื่อง “เอาเปรียบ” กับ “เสียเปรียบ” แต่ต้องมีความเข้าใจในบทบาทของแต่ละฝ่าย เราต้องแข่งกับตัวเอง แข่งกับต้นทุน รู้จังหวะในการทำธุรกิจ มีความสามารถในการบริหารจัดการ ถ้าสองฝ่ายพึงพอใจก็เป็นคู่สัญญาที่ win-win ทั้งคู่” ภชภณ กล่าว

จากความสำเร็จของระบบคอนแทรคฟาร์ม ทำให้ฟาร์มมั่งคั่งแอนนิมอล มีแผนขยายฟาร์มเพิ่มเติมในปี 2568 เพราะเห็นว่าธุรกิจนี้ยังเติบโตได้ ตราบใดที่คนยังต้องรับประทานอาหาร ส่วนหัวใจของความสำเร็จคือ การบริหารธุรกิจให้เร็ว และยังต้องสนุกกับการทำงาน ต้องเป็นแบบอย่างให้พนักงานและลูกชายได้เห็นอาชีพที่มีความก้าวหน้าและเติบโตตามเป้าหมาย

ทุกวันนี้ กิจวัตรประจำวันของ ภชภณ จึงไม่ใช่การตรากตรำทำงาน แต่คือการมีความสุขกับครอบครัว มีเวลาแวะเวียนไปตรวจเยี่ยมฟาร์มและพูดคุยกับพนักงาน และมีเวลามองหาธุรกิจอื่นๆที่อยากทำ ทั้งหมดนี้คือคำตอบของโจทย์ที่เขาตั้งไว้แต่แรกกับคอนแทรคฟาร์ม ที่สามารถสร้างอาชีพมั่นคงและความมั่งคั่งให้เขาได้อย่างแท้จริง

บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โชว์ศักยภาพผู้นำด้านอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง ในงาน Pet Fair South East Asia 2023 โดยนำสินค้าอาหารและขนมสัตว์เลี้ยง แบรนด์ ‘เจอร์ไฮ’ (Jerhigh) และ ‘จินนี่’ (Jinny) มาจัดแสดง และเปิดโอกาสเจรจาธุรกิจในรูปแบบ B2B มีนักลงทุนและผู้ซื้อรายสำคัญจากทั่วเอเชียและยุโรปที่ให้ความสนใจ ร่วมพูดคุย หารือ เพื่อสร้างความร่วมมือทางธุรกิจ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และบรรยากาศภายในบูธ

นายกิติศักดิ์ ลิ้มอำไพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด จำกัด กล่าวว่า การร่วมงาน Pet Fair Southeast Asia 2023 ครั้งนี้ บริษัทฯ นำจุดเด่น 4 ด้าน ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ได้แก่ 1.) ขนมสุนัขยอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทย ที่ครองแชมป์ยาวนานมากกว่า 10 ปี 2.) วัตถุดิบคุณภาพ อย่าง เนื้อไก่ของซีพีเอฟ ที่เลี้ยงด้วยโปรไบโอติก การันตีมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารขั้นสูงระดับอวกาศ ตามหลักเกณฑ์ความปลอดภัยด้านอาหารขององค์การ NASA ที่นักบินอวกาศรับประทาน 3.) ความสำคัญต่อความยั่งยืน ตั้งแต่การเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่ย่อยสลายได้ และใช้โปรตีนทางเลือก ได้แก่ แพลนต์เบสต์และแมลง มาเป็นวัตถุดิบ

และ 4.) คุณภาพของโรงงาน การันตีด้วยรางวัลมากมาย ล่าสุด ปี 2566 ได้รับรางวัล CSR-DIW Awards  จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม มอบให้แก่สถานประกอบการที่ให้ความสำคัญ ส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานตามมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีต่อสังคมได้อย่างครบถ้วนและต่อเนื่อง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชน สังคม ได้อย่างยั่งยืน

“ปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตอาหารและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง จำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศ รวม 21 ประเทศ โดยในปี 2567 ตั้งเป้าให้มีส่วนแบ่งในตลาดเดิมมากขึ้น ส่วนตลาดในประเทศ มีการต่อยอดขนมสำหรับสุนัขที่ผลิตจากเนื้อไก่คุณภาพดี ปลอดภัย ปลอดสาร มีทั้งแบบอบแห้ง แบบนิ่ม รวมถึงตัวขัดฟัน และขนมสำหรับน้องแมวที่เป็นแบบเปียก พร้อมทั้งเสริมด้วย Postbiotic ซึ่งช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหารของน้องแมว อย่าง Meat Mallow Bite แบรนด์จินนี่อีกด้วย” นายกิติศักดิ์ กล่าว

สำหรับ บูธของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด จำกัด พร้อมเปิดให้เจรจาธุรกิจเต็มรูปแบบ ระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10:00-18:00 น  (17:00 น. ในวันสุดท้ายของการจัดงาน) ณ บูธ D17, Hall 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม BITEC บางนา ติดตามรายละเอียดและลงทะเบียนเข้าชมงานได้ที่ www.petfair-sea.com นอกจากนี้สามารถศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด จำกัด เพิ่มเติมได้ที่ www.jerhigh.com 

MEAT ZERO ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช ในกลุ่ม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ต้อนรับเทศกาลถือศีลกินเจ ตั้งแต่วันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 หลากหลายเมนู ภายใต้แนวคิด 'ถูกเจ ถูกใจ ใครๆ ก็กินได้' ทำให้เทศกาลกินเจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ด้วยรสชาติที่ถูกปากทุกกลุ่มวัย ไม่ต้องกังวลจะแตกเจ พร้อมเพิ่ม 2 เมนูใหม่! 'เนื้อไก่นุ่ม' เอาใจสายโชว์ฝีมือทำอาหาร และ 'ไส้กรอกค็อกเทลเจ' เอาใจสายเร่งรีบ สะท้อนผ่าน 3 Tiktoker ชื่อดัง ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง ได้แก่ 1. พี่ฮง (Bangkokboykub) หนุ่มเกาหลีมาดกวน ทรงแบดๆ 2. เชฟอิน (Kamlangin) เชฟมากความสามารถ ที่รังสรรค์เมนูต่างๆ ได้อร่อยถูกปาก จนทุกคนต้องทำตาม และ 3. คุณอินทนนท์ (intanont246) นักเล่าเรื่องที่มีความเรียลและสนุกตามคาเรคเตอร์ พร้อมทริคมูต่างๆ ที่จะมาสร้างสีสัน ทำให้ทุกคนเห็นว่า ใครๆ ก็กิน MEAT ZERO ได้

สำหรับเทศกาลกินเจปีนี้  MEAT ZERO จัดเต็ม! นำผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืชมาให้เลือกสรรมากมายตลอด 10 วัน ได้ทั้งบุญทั้งสุขภาพ ตั้งแต่อาหารพร้อมรับประทาน อาทิ ราเมนผัดพริกเผา ข้าวถั่วแขกผัดพริกเกลือ ข้าวผัดคะน้าปลาเค็มพริกสด วุ้นเส้นอบทรงเครื่อง ไส้กรอกวุ้นเส้น ลาบทอด เกี๊ยวซ่า เบอร์เกอร์ปลา ไส้กรอกค็อกเทล โบโลน่า และอาหารพร้อมปรุงยอดฮิต อย่าง เนื้อบด เนื้อสามชั้น ไก่นุ่ม โปรตีนทางเลือกให้ผู้บริโภค วางจำหน่ายแล้วที่ ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไทย

นอกจากนี้ MEAT ZERO ยังร่วมกับคู่ค้าธุรกิจและร้านอาหารชั้นนำ อาทิ Chester Black Canyon Salad Factory The Coffee Club นิตยาไก่ย่าง Sukishi แสนยอด Terrace รังสรรค์เมนูเจโดยใช้วัตถุดิบหลักเนื้อจากพืช พร้อมจับมือ ห้าง Central รวม 8 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เวสต์เกต พระราม 3 อีสต์วิลล์ พระราม 2 พระราม 9 ปิ่นเกล้า และบางนา ขนทัพเมนูเจให้ชิมช้อป ในงาน Thailand J Food Festival 2023 รวมทั้งห้างโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/meatzero/ 

ซีพีเอฟ มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช (Plant-Based) แบรนด์ MEAT ZERO ด้วยนวัตกรรม Plant-Tec จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะ เนื้อสัมผัส และรสชาตที่อร่อยเสมือนเนื้อสัตว์จริง โปรตีนและไฟเบอร์สูง อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่มีโคเลสเตอรอล ตอบโจทย์ผู้บริโภค กลุ่มเจ วีแกน มังสวิรัติ มังสวิรัติยืดหยุ่น ตลอดจนกลุ่มคนที่รักสุขภาพและใส่ใจสิ่งแวดล้อม การันตีคุณภาพและความอร่อย ด้วยรางวัล “สุดยอดรสชาติอาหารระดับโลก” หรือ Superior Taste Award จากสถาบันชั้นนำของโลก International Taste Institute ประเทศเบลเยียม 2 ปีซ้อน

X

Right Click

No right click