ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตอกย้ำเป้าหมายส่งเสริมให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ควบคู่เดินหน้าช่วยมนุษย์เงินเดือนหลุดพ้นจากกับดักภาระหนี้ต่อเนื่อง ประเดิมปี 2567 เปิดเวทีสัมมนาให้ความรู้ทางการเงินเพื่อช่วยเสริมศักยภาพองค์กรและบุคลากร โดยมี “โค้ชหนุ่ม” The Money Coach มาแชร์เคล็ดลับการเงิน การบริหารจัดการหนี้ พร้อมแนะนำโซลูชันผลิตภัณฑ์และสิทธิพิเศษจากทีทีบี ให้แก่บุคลากร และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ ตั้งเป้า 3 ปี จะช่วยคนไทยปลดหนี้ผ่านโซลูชันสินเชื่อรวบหนี้ต่าง ๆ เพิ่มอีก 2 หมื่นราย หรือ ลดภาระดอกเบี้ยได้กว่า 2 พันล้านบาท

นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้เป็นหนึ่งปัญหาใหญ่ที่สะสมอยู่คู่กับคนไทยมานาน และลุกลามไปยังประชาชนทุกระดับชั้น โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน ซึ่งจากสถิติหนี้ครัวเรือนล่าสุดไตรมาส 3 ปี 2566 จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ตัวเลขหนี้พุ่งแตะ 16.19 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 90.9% ต่อจีดีพี ด้วยเหตุนี้ ทีทีบีได้เล็งเห็นถึงปัญหาหนี้ล้นระบบและมีพันธกิจที่มุ่งช่วยให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น (Financial Well-being) จึงเร่งขับเคลื่อนเดินหน้าช่วยมนุษย์เงินเดือนปลดหนี้ผ่านโซลูชันรวบหนี้และสินเชื่อสวัสดิการ เพื่อสามารถบริหารจัดการหนี้ได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืนอย่างแท้จริง

ในปี 2566 ที่ผ่านมา ทีทีบีได้ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนปลดหนี้ได้จริง ผ่านโครงการรวบหนี้หนึ่งในโซลูชัน ซึ่งรวมถึงโครงการสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเป็นตัวช่วยคนเป็นหนี้ให้มีสภาพคล่องและลดภาระดอกเบี้ย และธนาคารยังให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending)  โดยธนาคารสามารถช่วยลูกค้ารวบหนี้ไปแล้วกว่า 1.7 หมื่นราย ทำให้ลูกค้าสามารถประหยัดดอกเบี้ยได้ราว 1.2 พันล้านบาท

สินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพยค้ำประกัน (ttb welfare loan) ที่ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 7.99% ต่อปี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ให้สิทธิประโยชน์สำหรับพนักงานเงินเดือนที่สังกัดหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนที่มีการลงนามในสัญญาให้บริการสินเชื่อกับทีทีบี และในปีนี้ธนาคารได้เพิ่มโซลูชันผลิตภัณฑ์และสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าพนักงานเงินเดือน เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการลดภาระหนี้ เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ กับการรวบหนี้แบบใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ทีทีบี สินเชื่อบ้านแลกเงิน ทีทีบี เคลียร์หนี้ หรือรวบหนี้แบบใช้รถยนต์ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น สินเชื่อรถแลกเงิน ทีทีบีไดรฟ์

สำหรับพันธกิจส่งเสริมการมี Financial Well-being ที่ดีให้กับคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มพนักงานเงินเดือน เปิดศักราชปี 2567 นี้ ทีทีบีได้นำร่องกับกลุ่มสถาบันการศึกษาซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของชีวิต ด้วยการจัดงานสัมมนาพิเศษเสริมความรู้ทางการเงินเพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีกว่าเดิม โดยมีนายจักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือโค้ชหนุ่ม โค้ชการเงินชื่อดังที่สร้างแรงบันดาลใจนำคนไทยไปสู่สุขภาพทางการเงินที่ดี เจ้าของเพจ Money Coach ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน รวมถึงมีผลงานพัฒนาหลักสูตรการเงินมากมาย ได้แชร์แนวทางการวางแผนและบริหารจัดการทางการเงินแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน การจัดการรายได้ให้เพียงพอกับรายจ่าย การลดภาระหนี้ รวมถึงการวางแผนการออมเพื่อให้มีชีวิตทางการเงินที่ดี และนางสาวสมสวาท ลิขิตปรีดา หัวหน้าบริหารกลุ่มลูกค้าเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ ทีเอ็มบีธนชาต นำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อช่วยบริหารจัดการหนี้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ แก่บุคลากรและเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้ลงนามในข้อตกลงให้บริการสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 ที่ผ่านมา

“ทีทีบีตอกย้ำพันธกิจตั้งเป้าหมายช่วยคนไทยปลดหนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมรุกตลาดสินเชื่อสวัสดิการในการลงนามข้อตกลงการให้บริการสินเชื่อกับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน โดยมุ่งเดินหน้าให้ความรู้ทางการเงินกับหน่วยงานที่มีเป้าหมายเดียวกันในการมุ่งส่งเสริมให้พนักงานเงินเดือนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำการเป็นมากกว่าบัญชีเงินเดือนทั่วไป” นายฐากร กล่าวสรุป

หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน ที่สนใจโซลูชันผลิตภัณฑ์และสิทธิพิเศษสำหรับพนักงานเงินเดือน เพื่อเป็นสวัสดิการที่เสริมสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับพนักงานของตนเอง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ทีทีบีทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ttbbank.com/drw-mahidol-pr 

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศความสำเร็จต่อเนื่อง ประเดิมศักราชใหม่ปี 2567 เดินหน้ารับ 2 รางวัลอันทรงเกียรติ ได้แก่ รางวัล Best Investor Relations Bank และ รางวัล Best Environmental Sustainability Bank จากเวที International Finance Awards 2023 จัดโดย International Finance Magazine (IFM) นิตยสารด้านธุรกิจและการเงินชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ซึ่งสะท้อนความโดดเด่นของทีทีบีในฐานะธนาคารไทยที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับบนเวทีระดับนานาชาติ โดยเป็นธนาคารที่ให้ความสำคัญและมีมาตรฐานการดำเนินงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ในระดับสูงและเป็นที่ยอมรับมาโดยตลอด พร้อมทั้งมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ตามแนวทางความสำเร็จสู่ “การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” ตามกรอบ B+ESG โดยมีนางสาวดารารัตน์ อุระพันธมาศ หัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ ทีเอ็มบีธนชาต และนายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต เป็นผู้แทนรับมอบรางวัล ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ 

ทั้งนี้ รางวัล Best Investor Relations Bank เป็นรางวัลที่สะท้อนความโดดเด่นของผลงานและกิจกรรมด้านนักลงทุนสัมพันธ์ในระดับสากลและเป็นที่ยอมรับจากนักวิเคราะห์ ตลอดจนนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ สำหรับรางวัล Best Environmental Sustainability Bank จากการที่ธนาคารให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การออกตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ ตราสารหนี้สีเขียว ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนทางทะเล หรือ ตราสารหนี้สีฟ้า สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน รวมถึงการปล่อยสินเชื่อสีเขียวเพื่อสนับสนุนธุรกิจในการอนุรักษ์และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และยังขับเคลื่อนองค์กร มุ่งเดินตามกรอบ B+ESG นำแนวทางการธนาคารเพื่อความยั่งยืนเป็นรากฐานในการวางกลยุทธ์ทั่วทั้งองค์กรอีกด้วย

เปลี่ยนขวดพลาสติกกว่า 1,700,000 ขวด เป็นของใช้ ตอกย้ำ “ธนาคารเพื่อความยั่งยืน” มุ่งสร้างความตระหนักรู้ตามกรอบ B+ESG

มนุษย์เงินเดือน หากจัดการเงินไม่เป็น ติดสไตล์สายเปย์ ก็มักจะหลงเข้าไปในวงจรการเงินแบบเดือนชนเดือน วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ ชวนคุณมาเปลี่ยน...จากมนุษย์เงินเดือนสายเปย์ไม่เลือก เป็นมนุษย์เงินเดือนสายเปย์แบบสมาร์ทให้คุณรู้จัก วางแผนใช้จ่าย เก็บออม และพร้อมลงมือทำ เพื่อการเงินที่ดีทั้งวันนี้และในอนาคต เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการเปิดบัญชีเงินฝาก พร้อมตัวช่วยอย่าง “บัตรเดบิต”

บัตรเดบิต ตัวช่วยให้คุณไม่ต้องพกเงินสด ซึ่งแต่ละการใช้จ่าย ยอดจะถูกตัดจากเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่ผูกกับบัตร ช่วยให้บริหารรายจ่ายได้ง่ายขึ้น ไม่เกินตัว เกินกำลัง ตามเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ก่อนจะทำบัตรเดบิตสักใบ มาดูกันกับ “5 เรื่องบัตรเดบิตต้องรู้”

  1. ศึกษาเงื่อนไขให้เข้าใจ

บัตรเดบิตของแต่ละธนาคารย่อมมีเงื่อนไขการใช้แตกต่างกัน ก่อนสมัครจึงควรทำความเข้าใจกับเงื่อนไขของแต่ละบัตรให้ดีเพื่อเลือกทำบัตรที่ตรงกับความต้องการ อาทิ มีค่าธรรมเนียมอย่างไร มีเงื่อนไขฝากขั้นต่ำครั้งแรกหรือไม่ ซึ่งบัตรเดบิต ttb all free เป็นบัญชีเงินฝากใหม่ที่ให้ฟรีสารพัดรายการไม่ว่าจะเป็น

  • ฟรีค่าธรรมเนียมเปิดบัญชี
  • ฟรีค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต รูปแบบบัตรดิจิทัล ใช้จ่ายออนไลน์ได้สะดวก
  • ฟรีค่าธรรมเนียมกดเงินกับตู้เอทีเอ็ม
  • ฟรีค่าธรรมเนียมโอนเงินทั่วประเทศ
  • ฟรีค่าธรรมเนียม เติมเงิน และจ่ายบิล ทั้งผ่านตู้เอทีเอ็ม และ บนแอป ttb touch
  1. เลือกประเภทบัญชีที่ตอบโจทย์

บัตรเดบิตเป็นการทำบัตรกดเงินที่ผูกเข้ากับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เพราะฉะนั้นเมื่ออยากเปิดบัญชีเงินฝากให้ตรงกับความต้องการจึงควรเลือกดูทั้งเรื่อง ค่าธรรมเนียม เงินฝากขั้นต่ำ อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เงื่อนไขในการถอนเงิน เพื่อเปรียบเทียบประเภทบัญชีเงินฝากที่ตอบโจทย์มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องการเปิดบัญชีไว้ใช้จ่ายเป็นหลัก เก็บออมเป็นรอง ประเภทบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ฟรีอาจเป็นคำตอบที่ดีของใครหลายคน เช่น บัตรเดบิต ttb all free ที่สามารถใช้จ่ายได้อย่างอิสระ ไม่มีบวกเพิ่มค่าธรรมเนียมให้เป็นภาระการใช้จ่าย ใช้จ่ายบิล ซื้อของออนไลน์ หรือใช้จ่ายต่างประเทศก็ทำได้ ยิ่งถ้าเป็นคนชอบช้อปออนไลน์ ใช้จ่ายออนไลน์ หรือทำอะไรบนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ บัตรเดบิต ttb all free ดิจิทัล จะช่วยตอบโจทย์ได้มาก ที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียมออกบัตรและรายปี

  1. ติดตามยอดเงินบนบัตรเดบิตผ่านแอปธนาคารฯ หรือ โมบายแบงก์กิ้ง ได้ทุกที่ ทุกเวลา สะดวก และปลอดภัยขึ้นได้

ใส่ใจกับการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ฝึกทักษะทางการเงิน และการรับผิดชอบตัวเอง พร้อมตรวจสอบ และติดตามยอดเงินบัตรเดบิตผ่านแอปธนาคารฯ จะได้รู้ตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าเมื่อไหร่ใช้จ่ายเยอะเกินไป

  1. รู้วิธีเก็บบัตรเดบิตให้ปลอดภัย

เมื่อมีบัตรเดบิตเป็นของตัวเอง สิ่งสำคัญ คือ วิธีเก็บบัตรให้ปลอดภัย โดยเฉพาะในยุคที่มิจฉาชีพเกลื่อนเมืองแถมเข้าถึงตัวได้ทุกเมื่อ ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังเรื่องของข้อมูลบัตรเดบิตเป็นพิเศษ ไม่ถ่ายรูปบัตรลงโซเชียลโดยเด็ดขาด รวมทั้งไม่บอกและไม่กรอกข้อมูลบัตรสุ่มสี่สุ่มห้า หากมีเหตุทำบัตรหล่นหาย หาบัตรไม่เจอ มีการแจ้งเตือนกดเงินที่ไม่ได้เป็นคนกดเอง

สิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรก คือ การอายัดบัตร โดยลูกค้าทีทีบีสามารถอายัดบัตรผ่านแอป ttb touch ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  • เข้าหน้าหลักแอป ttb touch จากนั้นเลื่อนหาปุ่ม บัญชี ที่แถบเมนูด้านล่าง
  • เลือกเมนูเงินฝากที่ต้องการอายัดบัตร
  • เลือกแถบข้อมูลบัญชี
  • เลื่อนลงมาที่หัวข้อ การจัดการบัญชี เลือกเมนู บัตรเดบิต
  • เลือกประเภทบัตรเดบิตที่ต้องการอายัด
  • กดอายัดบัตร
  • อ่านรายละเอียด หากเข้าใจแล้วกดอายัดบัตร
  • ใส่ PIN เพื่อยืนยันการทำรายการ
  • ทำรายการอายัดบัตรเดบิตสำเร็จ
  1. เลือกบัตรเดบิตที่ให้สิทธิประโยชน์คุ้มกว่า

ข้อเปรียบเทียบสุดท้ายก่อนจะเลือกทำบัตรเดบิตสักใบคือเรื่องของความคุ้มค่า หลายคนจึงมองหาบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่าการเก็บเงินไว้เฉย ๆ เช่น การเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ฝากเงินไว้ครบตามเงื่อนไขก็จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี และมีบัตรเดบิตที่คุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย เช่น บัตรเดบิต ttb all free ฝากเงินไว้ได้ฟรีประกันอุบัติเหตุ เพียงเก็บเงินไว้ในบัญชีอย่างน้อย 5,000 บาท ก็ได้รับสิทธิ์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาก่อน

ง่าย ๆ เพียงแสดงบัตร all free E-Care Card ในแอปพลิเคชัน ttb touch สถานพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ คุ้มครองสูงสุด 3,000 บาท/อุบัติเหตุ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

จะเห็นได้ว่าบัตรเดบิตก็สามารถเป็นตัวช่วยในการจัดการเรื่องเงินให้ดีขึ้นได้ และเป็นได้มากกว่าบัตรเดบิต ด้วยสิทธิประโยชน์อื่น ๆ หรือการดูแลคุ้มครอง…รู้อย่างนี้แล้ว มาวางแผนการเงินให้ดีขึ้นได้ด้วย บัตรเดบิตที่ตอบโจทย์ชีวิตมนุษย์เงินเดือนด้วยกันเถอะ!

ทีเอ็มบีธนชาต โดย นางประภาศิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล (ซ้ายสุด) ร่วมมอบรางวัลและแสดงความยินดีแก่ผู้โชคดีจากการซื้อสลากบำรุงสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 รายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือสังคมและสาธารณกุศลต่อไป ซึ่งผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลใหญ่ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C 220 d Av ได้แก่ นางสาวอโนชา เสนาะ (ที่ 2 จากซ้าย) และผู้ที่ได้รับรางวัลทองคำแท่งหนัก 10 บาท จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ นายสมภพ อินทรประสงค์, นายกิตติ จรัสรัตน์วัฒนา, นางสาวนพมาศ วัฒนเลี้ยงใจ และนายศรัณย์ ศิริภัทรประวัติ (ตามลำดับที่ 3 จากซ้าย) นอกจากนี้ ธนาคารยังได้มอบของรางวัลให้กับผู้โชคดีท่านอื่น ๆ ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “การให้” ผ่านสาขาธนาคารทั่วประเทศ ได้แก่ สร้อยคอทองคำหนัก 0.25 บาท จำนวน 50  รางวัล  และทองแท่งน้ำหนัก 0.125 บาท จำนวน 660 รางวัล รวม 716 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ณ ทีทีบี สำนักงานใหญ่

X

Right Click

No right click