พิพิธภัณฑ์ครุฑ โดย ทีเอ็มบีธนชาต โชว์ศักยภาพโดดเด่น รับมอบประกาศนียบัตร จากการคว้าคะแนนเต็ม “องค์กรคุณธรรม” ประจำปี 2566 จากคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ประจำจังหวัดสมุทรปราการ ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ต้นแบบด้านการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ในจังหวัดสมุทรปราการ ที่มีศักยภาพโดดเด่น ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ยึดมั่นวิถีวัฒนธรรมไทยและคุณธรรม

นางสาวมาริสา จงคงคาวุฒิ หัวหน้ากิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์ครุฑ เป็นองค์กรภาคเอกชนแห่งเดียวของจังหวัดสมุทรปราการที่ได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ “องค์กรคุณธรรม” โดยคว้าคะแนนเต็มจากการประเมินโดยคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รางวัลดังกล่าว เป็นการสะท้อนความเด่นชัดของพิพิธภัณฑ์ครุฑที่สอดแทรกเรื่องราวของความกตัญญู ความซื่อสัตย์ และความดีงาม เพื่อส่งผ่านถึงคนรุ่นหลังให้ตระหนักถึงคุณค่าขององค์ครุฑที่มีกับสังคมไทยให้คงอยู่ตลอดไป

สำหรับพิพิธภัณฑ์ครุฑ เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในประเทศไทยและอาเซียน ที่รวบรวมครุฑอันมีเอกลักษณ์เฉพาะองค์จากทุกภาคของไทย มีความโดดเด่นด้วยองค์ครุฑไม้ที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม สะท้อนถึงความประณีตของศิลปิน โดยอัญเชิญตราที่ประดิษฐาน ณ ธนาคารสาขาต่าง ๆ มากกว่า 150 องค์ มาไว้ด้วยกัน ภายในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของพญาครุฑ ผ่าน 6 โซนนิทรรศการ ที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของพญาครุฑอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งแสง สี เสียง ในรูปแบบทั้งแอนิเมชันและมัลติมีเดีย ทำให้คนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเยี่ยมชมจะได้เรียนรู้เรื่องราวของ “พญาครุฑ” สัตว์หิมพานต์ สัญลักษณ์แห่งความกตัญญู ความซื่อสัตย์ และความดีงาม และเข้าถึงความเป็นไทยได้อย่างง่าย ๆ

สำหรับผู้ที่สนใจท่องเที่ยว “พิพิธภัณฑ์ครุฑ” พร้อมเรียนรู้ตำนาน “พญาครุฑ” สามารถลงทะเบียนผ่าน  https://www.ttbfoundation.org/th/garudamuseum/ โดยจะเปิดให้เข้าชม ทุกวันศุกร์-เสาร์ วันละ 3 รอบ ในเวลา 10:00 / 13:00 / 15:00 น. พร้อมผู้นำชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้  มีบริการจัดรถตู้บริการรับ-ส่งจากสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส สถานีเคหะสมุทรปราการ ถึง พิพิธภัณฑ์ครุฑ ซึ่งสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านระบบการจองล่วงหน้าผ่าน QR Code

 

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 5,334 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งยังสามารถลดหนี้เสียได้อย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2.56% ขณะที่อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังอยู่ในระดับสูงที่ 155% เน้นย้ำพันธกิจ Financial Well-being เดินหน้าดูแลลูกค้า พร้อมร่วมสนับสนุนแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม มุ่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 โดยธนาคารมีกำไรสุทธิ 5,334 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 4,295 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2566 ปัจจัยหนุนมาจากกลยุทธ์การปรับโครงสร้างสินเชื่อและการบริหารเงินฝาก เพื่อให้ผลตอบแทนและต้นทุนทางการเงินมีความสอดคล้องกัน และการมีวินัยด้านค่าใช้จ่าย ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารสามารถลดอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลงมาได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพและฐานเงินกองทุนยังคงในระดับสูง สะท้อนสถานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อและการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินเพื่อหนุนรายได้ การมีประสิทธิภาพด้านต้นทุน และการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ 

หนึ่งในจุดเด่นของผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ ได้แก่ ด้านสินเชื่อ ซึ่งธนาคารยังคงเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เน้นกลุ่มลูกค้าที่ธนาคารมีความชำนาญ เข้าใจทั้งความต้องการและความเสี่ยงเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนมีรถ กลุ่มคนมีบ้าน และพนักงานเงินเดือน ภายใต้แนวคิด Ecosystem play หนุนให้ธนาคารสามารถเติบโตสินเชื่อกลุ่มเป้าหมายได้ต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อรถแลกเงิน (+4%) สินเชื่อบ้านแลกเงิน (+3%) และสินเชื่อบุคคล (+4%)

ในประการสำคัญ ธนาคารยังคงให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องในหลายรูปแบบ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ และการรวบหนี้ (Debt Consolidation) เพื่อช่วยบรรเทาภาระดอกเบี้ยและช่วยให้ลูกหนี้สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องได้ในระยะยาว โดยปัจจุบันธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าผ่านการปรับโครงสร้างหนี้คิดเป็นมูลค่าสินเชื่อประมาณ 11% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ขณะที่จำนวนลูกค้าภายใต้โครงการรวบหนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 17,000 ราย ณ สิ้นปีที่แล้ว สู่ระดับ 21,000 ราย โดยธนาคารสามารถช่วยให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวประหยัดดอกเบี้ยไปได้กว่า 1,400 ล้านบาท

นอกจากนั้นแล้ว ธนาคารยังได้เปิดตัวแคมเปญ “พิชิตหนี้” ซึ่งมุ่งช่วยพนักงานเงินเดือนลดภาระหนี้และปลอดหนี้ให้เร็วขึ้นอย่างยั่งยืน โดยได้ตั้งเป้าหมายช่วยเหลือคนไทยให้ได้ 200,000 ราย ภายใน 3 ปี เป็นไปตามพันธกิจของธนาคาร และสอดรับกับหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม

จากการเติบโตสินเชื่ออย่างรอบคอบ การดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด และการบริหารจัดการหนี้เสียในเชิงรุก ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารเป็นไปตามเป้าหมาย สามารถลดอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลงมาได้อย่างต่อเนื่องจาก 2.62% ณ สิ้นปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.56% ณ สิ้นไตรมาส 1 พร้อมยังคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในระดับสูงที่ 155%

ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ธนาคารจะยังคงดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและบริหารจัดการทุกองค์ประกอบของงบดุลให้มีคุณภาพ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เรามุ่งเน้นมาโดยตลอดและให้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของธนาคารในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเห็นได้ว่าตั้งแต่การรวมกิจการและหลังจากช่วงวิกฤตโควิด-19 ผลการดำเนินงานของธนาคารมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านคุณภาพสินทรัพย์ก็มีเสถียรภาพ และสถานะทางการเงินก็แข็งแกร่งขึ้นโดยตลอด

สำหรับผลการดำเนินงานรายการหลัก ๆ ในไตรมาส 1 ปี 2567 มีดังนี้

สินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 1,315 พันล้านบาท ชะลอลง 1.0% จากไตรมาสที่แล้ว เป็นไปตามแนวทางการเติบโตสินเชื่ออย่างรอบคอบ รวมทั้งการชำระคืนหนี้ของลูกค้า ทั้งนี้ สินเชื่อกลุ่มเป้าหมาย นำโดยสินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และสินเชื่อบุคคล ยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง 

ด้านเงินฝาก อยู่ที่ 1,373 พันล้านบาท ลดลง 1.0% จากไตรมาสที่แล้ว สอดคล้องกับการเติบโตด้านสินเชื่อและเป็นไปตามแผนบริหารสภาพคล่องหลังจากที่ก่อนหน้านี้ในไตรมาส 4 ปี 2566 ธนาคารได้ขยายฐานเงินฝากไปแล้วกว่า 4.3% เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ปี 2567 โดยเงินฝากที่ลดลงเป็นผลจากเงินฝากกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ขณะที่เงินฝากรายย่อยกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะเงินฝากประจำยังคงขยายตัวได้ตามแผน ทั้งนี้ ด้วยสภาพคล่องที่ยังคงอยู่ในระดับสูงก็จะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับการบริหารต้นทุนทางการเงินในระยะถัดไป

ด้านรายได้ยังคงได้รับแรงหนุนจากการปรับโครงสร้างสินเชื่อไปยังสินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อยและการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน ช่วยชดเชยผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียมซึ่งยังคงมีความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้ค่าธรรมเนียมกองทุนรวม โดยในไตรมาส 1 ปี 2567 รายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 17,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% จากไตรมาส 1 ปี 2566 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 7,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ธนาคารยังคงบริหารจัดการต้นทุนให้สอดคล้องกับด้านรายได้ได้เป็นอย่างดี สะท้อนได้จากอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ซึ่งอยู่ที่ 43% เป็นไปตามเป้าหมายแม้ว่าธนาคารยังคงเดินหน้าตามแผนการลงทุนด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่องก็ตาม

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ ยังคงบริหารจัดการได้ตามเป้าหมายเช่นกัน โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงมาอยู่ที่ 39,759 ล้านบาท ลดลง 3.0% จากสิ้นปีที่แล้ว หรือคิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ที่ระดับ 2.56% เทียบกับ 2.62% ณ สิ้นปีที่แล้ว นอกจากนี้ ในด้านพอร์ตการลงทุน ธนาคารเน้นการลงทุนในตราสารภาครัฐเป็นหลัก ไม่มีนโยบายแสวงหากำไรจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีผิดนัดชำระหนี้ในตลาดตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมา

จากภาพรวมด้านคุณภาพสินทรัพย์ข้างต้น ส่งผลให้การตั้งสำรองฯ ตามการดำเนินงานปกติยังคงเป็นไปตามแผน และเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงิน ธนาคารได้เสริมกันชนรองรับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยธนาคารได้ตั้งสำรองฯ เพิ่มเติมจากระดับปกติ รวมตั้งสำรองฯ ทั้งสิ้นเป็นจำนวน 5,117 ล้านบาท ซึ่งหลังจากหักสำรองฯ และภาษี ธนาคารรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 5,334 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 4,295 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2566

ท้ายสุดด้านฐานะเงินกองทุน ยังคงอยู่ในระดับสูงและมีเสถียรภาพ โดยอัตราส่วน CAR และ Tier 1 ณ สิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ 20.8% และ 17.0% โดยระดับดังกล่าวถือว่าสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม และสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารกลุ่ม D-SIBs ที่ธปท.กำหนดไว้ที่ 12.0% และ 9.5% ตามลำดับ

นายปิติ กล่าวสรุป “นอกเหนือจากการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทีทีบียังคงเน้นย้ำการดูแลและช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) และการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของภาครัฐ ทั้งนี้ ภายใต้พันธกิจหลัก Financial Well-being ซึ่งเราได้ดำเนินการมาโดยตลอด การสนับสนุนของเราไม่ได้จำกัดเพียงแค่ด้านสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงปัจจัยพื้นฐานทางการเงินที่สำคัญด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการออม การลงทุน และการมีประกันที่เพียงพอและเหมาะสมกับลูกค้าในทุก ๆ ช่วงชีวิต โดยเรามุ่งมั่นที่จะเป็นธนาคารที่ LEAD the CHANGE หรือเป็นผู้นำในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงเพื่อให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ผู้ถือบัตรเครดิต ttb เมื่อช้อปที่แผนกบิวตี้ แกเลอรี ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ทั้งแบบชำระเต็มจำนวนและแบ่งชำระ 0% pay plan นาน 10 เดือน ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทั้ง 5 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลบางนา และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2567 – 30 มิถุนายน 2567 เมื่อมียอดช้อปครบทุก 6,000 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป รับบัตรของขวัญเซ็นทรัล 200 บาท และจากบัตรเครดิตอีก 100 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายเพิ่มตามขั้นที่กำหนดรับบัตรของขวัญเซ็นทรัลเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 13,400 บาท รับสิทธิ์ ณ จุด Customer Service ภายในวันที่ซื้อสินค้าเท่านั้น โดยทีทีบีมุ่งส่งเสริมให้ลูกค้าวางแผนใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น และผ่อนชำระคืนไหว เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

ผู้ที่กำลังมองหารถมือสองคุณภาพในราคาที่โดนใจ เว็บไซต์ Roddonjai.com โดยทีทีบีไดรฟ์แพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองที่ได้มาตรฐาน รวบรวมรถมือสองสภาพดีในราคาที่คุ้มค่ากว่าใคร เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น จัดแคมเปญสุดคุ้ม ซื้อรถบ้านดูแลดี ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้นเพียง 2.59% ต่อปี โดยเฉพาะรถมือสองจากหมวด “รถบ้านดูแลดี” ที่การันตีเจ้าของขายเอง รถทุกคันผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานสากลสูงสุด 274 จุด ไม่ผ่านการชนหนัก ไม่ผ่านน้ำท่วมสูง และผู้ขายผ่านการตรวจสอบความเป็นเจ้าของก่อนลงขาย จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพรถว่าตรงปกอย่างแน่นอน พร้อมบริการจัดสินเชื่อรถยนต์ทีทีบีไดรฟ์ ทั่วไทย

ผู้ที่สนใจเพียงซื้อ “รถบ้านดูแลดี” ที่ประกาศขายหน้าเว็บไซต์ Roddonjai.com และจัดสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วกับทีทีบีไดรฟ์ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 - 30 มิถุนายน 2567 และเกิดสัญญาเช่าซื้อภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 2.59% ต่อปี กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 4.92%-15.00% เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จับมือ วีซ่า จัดแคมเปญใหญ่ต้อนรับ Olympic Games Paris 2024 มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ร่วมสนุกกับการใช้จ่ายสะสมทีละติ๊ด พิชิตรางวัล ในช่วงระหว่างวันที่ 1 มีนาคม  – 30 เมษายน 2567 ด้วยการมอบสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าใครให้ลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรเครดิต ttb ที่เป็นสกุลเงินบาท ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืน 200 บาท / บัตร ตลอดรายการส่งเสริมการขาย และรับของกำนัลสุดพิเศษเพิ่มเติมจากวีซ่า เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมเพิ่มขึ้นตามขั้นที่กำหนด พิเศษ! ในช่วง 5 วันสุดท้ายของแคมเปญ ระหว่างวันที่ 26 - 30 เมษายน 2567 ผู้ถือบัตรที่มียอดใช้จ่ายสะสมครบ 100,000 บาท รับเพิ่มกระเป๋าเดินทางล้อลาก Trolley Luggage Bag with Reversible Cover มูลค่า 4,000 บาท จำกัดเพียง 250 ใบเท่านั้น

สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับ บัตรเครดิต ttb visa และบัตรเครดิต ttb Global House ยอดใช้จ่ายจากทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม ทุก ๆ 1,000 บาท / เซลล์สลิป รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นโชครางวัลใหญ่ เอ็กซ์คลูซีฟ ทริป ท่องเที่ยวปารีส 5 วัน 4 คืน พร้อมร่วมชมพิธีปิดงาน Olympic Games Paris 2024 จำนวน 1 รางวัล สำหรับ 2 ท่าน มูลค่ากว่า 1.59 ล้านบาท โดยธนาคารจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ทางเว็บไซต์ www.ttbbank.com พร้อมส่ง SMS และโทรศัพท์แจ้งไปยังผู้ได้รับรางวัลภายใน 45 วัน นับจากวันจบรายการ ทริปพิเศษนี้กำหนดเดินทางระหว่างวันที่ 8-12 สิงหาคม 2567

ผู้สนใจร่วมแคมเปญ สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ได้ทุกประเภทบัตร โดยลงทะเบียนครั้งเดียวใช้ได้ตลอดรายการส่งเสริมการขายนี้ ทางแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ PAR ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่หมายเลข 4806026 โดยทีทีบีมุ่งส่งเสริมให้ลูกค้าวางแผนใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น และผ่อนชำระคืนไหว เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

X

Right Click

No right click