ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA Group) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวน 2,000 ล้านบาทแก่โครงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมธุรกิจโลจิสติกส์สู่ความยั่งยืนของ WHA Group ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ในการนี้ WHA Group ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จาก EXIM BANK เพื่อต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ภายในปี 2593 สอดคล้องกับแนวคิด “Green Logistics” โดยบริษัทเปิดให้บริการโครงการโมบิลิกซ์ (Mobilix) กรีนโลจิสติกส์โซลูชัน เพื่อให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงมุ่งเน้นการบริหารคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าด้วยเทคโนโลยีทันสมัย การใช้พลังงานทดแทน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการบริหารจัดการของเสียเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยสู่ความยั่งยืน นอกจากนี้ WHA Group มีแผนในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจของทุกกลุ่มธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อส่งเสริมการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของชุมชน สังคม และประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทของ EXIM BANK สู่การเป็น Green Development Bank

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment : FDI) โดยให้การสนับสุนนทางการเงินแก่ผู้ประกอบการไทยที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและการดำเนินธุรกิจสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปรับโมเดลธุรกิจ นำพาประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยหรือต้องการไปลงทุนในต่างประเทศเข้าถึงบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ตามความต้องการ และใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของทั้งสองหน่วยงาน โดยเชื่อมโยงความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สมาคมอุตสาหกรรม และบริการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจ EXIM BANK พร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการในเครือข่ายสมาชิกหรือลูกค้าของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) สัมมนาอบรมความรู้ด้านการค้าและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ กิจกรรมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ตลอดจนสนับสนุนเครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการค้าและการลงทุน

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ EXIM BANK นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินในอัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และดำเนินธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อปีในปีแรก สำหรับสินเชื่อ EXIM Green Goal และสินเชื่อ EXIM Solar D-Carbon Financing สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ภายในกิจการ เช่น การติดตั้ง Solar Rooftop, Solar Farm และ Solar Floating พร้อมได้สิทธิในการขึ้นทะเบียนคาร์บอนและรับรองคาร์บอนเครดิต รวมถึงสินเชื่อ EXIM Extra Transformation สำหรับผู้ส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรม S-curve เพื่อยกระดับภาคการผลิตของไทย การลงทุนเพื่อซื้อหรือปรับปรุงเครื่องจักร อุปกรณ์ ต่อเติม/ปรับปรุง/ก่อสร้างอาคารโรงงาน พัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและยกระดับกิจการ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่และการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้มีศักยภาพยิ่งขึ้น

นายนฤตม์ เปิดเผยว่า การลงนามใน MOU ระหว่าง BOI และ EXIM BANK ในวันนี้ ถือเป็นการผนึกกำลังและประสานจุดแข็งของทั้งสององค์กร เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการดึงดูดกลุ่มนักลงทุนเป้าหมายจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในไทย โดย EXIM BANK เป็นธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ทั้งสินเชื่อในรูปแบบต่าง ๆ การประกันความเสี่ยง และบริการสนับสนุนการนำเข้า-ส่งออก ในขณะที่ BOI เป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนที่มีเครือข่ายนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติที่กว้างขวาง มีสำนักงานในต่างประเทศ 17 แห่ง และในภูมิภาค 7 แห่งที่พร้อมดูแลนักลงทุนในพื้นที่ อีกทั้งมีเครื่องมือสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในด้านต่าง ๆ เช่น การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล การอนุญาตให้ถือครองที่ดินเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน และเงินอุดหนุนผ่านกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ เป็นต้น

นอกจากนี้ BOI ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทย เช่น หลักสูตรอบรม "สร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ” ซึ่งได้จัดทุกปีรวมกว่า 21 รุ่น มีผู้ผ่านการอบรมแล้วกว่า 740 คน และออกไปลงทุนต่างประเทศแล้วกว่า 300 ราย รวมทั้งมีการจัดงาน Thai Subcontractor Exhibition (Thai Subcon) และ Sourcing Day ร่วมกับบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร เพื่อส่งเสริมการยกระดับผู้ประกอบการไทยให้เข้าสู่ Supply Chain ระดับโลก

“BOI และ EXIM BANK มีภารกิจร่วมกันในการเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งในแง่การขยายกิจการในประเทศและการออกไปแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในต่างประเทศ รวมถึงการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย การผนึกกำลังความร่วมมือของ BOI และ EXIM BANK ในครั้งนี้จะช่วยประสานจุดแข็งของทั้งสององค์กร เพื่อผลักดันให้เกิดโครงการลงทุนต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากยิ่งขึ้น” นายนฤตม์ กล่าว

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK มุ่งสู่บทบาท Green Development Bank พร้อมเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุนให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้อย่างยั่งยืน และต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทยและโลกโดยรวม ผ่านบริการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ทั้งการลงทุนของต่างประเทศในไทย (Foreign Direct Investment : FDI) และการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศ (Thai Direct Investment : TDI) เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้เกิดการจ้างงานและการพัฒนาทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการทุกระดับตลอด Supply Chain โดยเฉพาะ Green Export Supply Chain

นางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พบปะผู้บริหารองค์กรรับประกันต่อ สวิส รี (Swiss Re) องค์กรรับประกันต่อ บีซลีย์ (Beazley) องค์กรรับประกันแห่งประเทศญี่ปุ่น (Nippon Export and Investment Insurance: NEXI) สาขาสิงคโปร์ และบริษัท กาย คาร์เพนเทอร์ แอนด์ คอมพานี จำกัด (Guy Carpenter) ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยต่อ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ พร้อมทั้งหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและแนวโน้มด้านธุรกิจประกันการส่งออกและการลงทุน เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศอย่างมั่นใจและยั่งยืน ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

 

นางสาวดรัสวันต์ ชูวงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้การต้อนรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Green Exporter Acceleration Program จัดโดย EXIM BANK เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร ตลอด Supply Chain พร้อมให้คำปรึกษาการจัดทำแผนธุรกิจสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) เพื่อตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม EXIM BANK มีบริการให้คำปรึกษา เติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน รวมถึงบริการประกันการส่งออก เพื่อสนับสนุนผู้ส่งออกให้สามารถแข่งขันและขยายธุรกิจในตลาดการค้าโลกได้อย่างมั่นใจและยั่งยืน ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำโดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เยี่ยมชมกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด โคราช แสงสุวรรณ พ็อตเทอร์รี่ จังหวัดนครราชสีมา ผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนที่จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีกระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัย เช่น การใช้เตาอบเชิงอุตสาหกรรมแทนการผึ่งลมตามธรรมชาติ การใช้เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมเซรามิกแทนการเผาด้วยเตาฟืน เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต และถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชน เพื่อยกระดับฝีมือและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน โดยมีนายบุญญฤทธิ์ พยุหไพศาล และนางสาวทศพร คลังบุญครอง หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โคราช แสงสุวรรณ พ็อตเทอร์รี่ ให้การต้อนรับและนำชมกระบวนการผลิตของโรงงานในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเร็วๆ นี้

Page 1 of 48
X

Right Click

No right click