ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด  จับมือ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ปล่อยแคมเปญ “มนุษย์เงินเดือน MAY DAY” เอาใจมนุษย์เงินเดือน เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ประกันภัย เพื่อมนุษย์เงินเดือน เน้นขยายความคุ้มครองที่มีอยู่เดิมในครั้งนี้ ชูโปรดักท์ประกันอุบัติเหตุทำงานสบายใจ และประกันภัยการว่างงานให้เบาใจหายหว่ง  มุ่งเจาะกลุ่มคนใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม พร้อมความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์พิเศษเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมเท่านั้น วางกลยุทธ์การขายในยุคดิจิทัลเทรนด์ ด้วยฟีเจอร์การซื้อประกันและบริการหลังการขายแบบ One Stop Service ผ่านช่องทางไลน์ “TQM Insurance Broker” หวังกระตุ้นยอดขายโปรดักท์ซีรีย์ประกันมนุษย์เงินเดือนไตรมาส 2

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้กรุงเทพประกันภัยได้ร่วมมือกับทีคิวเอ็ม โดยการนำโปรดักท์ประกันมนุษย์เงินเดือนมาพัฒนาต่อยอดด้วยการออกแบบความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ขึ้นมาเป็นแคมเปญพิเศษใช้ชื่อว่า  “มนุษย์เงินเดือน MAY DAY”  โดยใช้แนวคิดจากวันผู้ใช้แรงงานแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นลูกค้าในกลุ่มมนุษย์เงินเดือนเช่นกัน ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ได้นำเสนอเป็นโปรดักท์ที่เหมาะกับช่วงวันสำคัญ อาทิ

ประกันอุบัติเหตุทำงานสบายใจ” ประกันอุบัติเหตุที่ออกแบบความคุ้มครองให้ครอบคลุมทุก ค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับคนทำงานในภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้เครื่องจักรในการทำงาน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงที่เกิดจากการทำงาน สูงสุดถึง 500,000 บาท นอกจากนี้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อคนในครอบครัว ประกันนี้ยังมีเงินชดเชยรายได้กรณีต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุอีก 500 บาทต่อวัน และเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ด้วยเบี้ยประกันภัยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้เพียง 999 บาทต่อปี    

“ประกัน Care คุณว่างงาน” ประกันคุ้มครองการว่างงาน เพราะมนุษย์เงินเดือนในปัจจุบันมีความเสี่ยงต่อการที่นายจ้างปิดกิจการหรืออาจจะถูกเลิกจ้าง เนื่องจากการชะลอตัวของสภาพเศรษฐกิจและการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนในบางธุรกิจ โดยกรมธรรม์นี้จะให้เงินชดเชยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างการไม่มีงานทำ สูงสุด 75,000 บาท สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีอายุระหว่าง 20 – 60 ปี ที่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างประจำและเป็นผู้ประกันตนกับประกันสังคม

ประกันรถยนต์มนุษย์เงินเดือน” เพราะมนุษย์เงินเดือนทำงานยุ่งจนไม่มีเวลา รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ประกันภัยรถยนต์มนุษย์เงินเดือนซึ่งเป็นประกันรถยนต์ส่วนบุคคลประเภท 1 , 2+ และ 3+ จึงได้ออกแบบความคุ้มครองและบริการเสริมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนทำงานได้อย่างตรงจุด ด้วยบริการขับรถรับ-ส่งทำธุระแทน มีรถให้ใช้ระหว่างซ่อม บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง พร้อมให้ความคุ้มครอง Gadget ในรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้วยบริการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน

“ประกันสุขภาพ Health on Top” เพียงมีประกันสุขภาพหรือมีสวัสดิการของบริษัทอยู่แล้วก็สามารถซื้อประกันสุขภาพมนุษย์เงินเดือนกับเราได้ เริ่มต้นเพียง 3 พันกว่าบาท คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลอีกต่อไป ประกันจ่ายให้

ประกันอุบัติเหตุ 2 เด้งสำหรับวัยทำงาน” คุ้มครองอุบัติเหตุและหนี้สินค้างชำระหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

“ประกันภัย Motor Add On” ให้มนุษย์เงินเดือนซื้อประกันเพิ่มได้ มีเงินชดเชยรายได้ขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล สูงสุด 3,000 บาทต่อวัน

“ประกันมะเร็ง” โรคร้ายเกิดขึ้นได้เสมอเพื่อความไม่ประมาท ประกันมะเร็งสำหรับมนุษย์เงินเดือน เจอ จ่าย จบ คุ้มครองสูงสุด 5,000,000 บาท

“ประกันภัยบ้านอยู่อาศัย Home & Content” คุ้มครองอัคคีภัย น้ำท่วม ภัยธรรมชาติ รวมถึงให้ความคุ้มครองการโจรกรรม

ด้าน ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า หลังการเปิดตัวโปรดักท์ซีรีย์ “ประกันมนุษย์เงินเดือน” เมื่อปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้เห็นว่า โปรดักท์นี้ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด แคมเปญ “มนุษย์เงินเดือน MAY DAY” จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นยอดขายของโปรดักท์ประกันมนุษย์เงินเดือนโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 นี้ ด้วยการต่อยอดคอนเซปต์แคมเปญจากจุดเริ่มต้นของการออกแบบโปรดักท์คือ นำผลการสำรวจพฤติกรรม ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้ใช้แรงงานมาพัฒนาเป็นความคุ้มครองและบริการเสริม ซึ่งพบว่าอุบัติเหตุของคนทำงาน อันเนื่องมาจากการปฏิบัติงานยังคงเป็นสิ่งที่หลายหน่วยงานรวมถึงตัวคนทำงานให้ความสำคัญ เพราะส่งผลกระทบรอบด้านทั้งตนเอง ครอบครัว สังคม เศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศ 

“เพราะเราเข้าใจว่า คนที่อยู่ในวัยทำงานส่วนใหญ่รับหน้าที่หลายบทบาท แต่บทบาทหนึ่งที่สำคัญคือ การเป็นเสาหลักให้ครอบครัว ต้องแบกทั้งภารกิจและหน้าที่ไว้มากมาย เราจึงอยากให้ “มนุษย์เงินเดือน MAY DAY” เป็นเสมือนตัวช่วยในการแบ่งเบาภาระ เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้เสมอแม้ในยามที่เราปฏิบัติงาน ดังนั้น ความคุ้มครอง สิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ จึงถูกออกแบบมาเพื่อคนทำงานและผู้ใช้แรงงานอย่างแท้จริง”

ด้าน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนของกลยุทธ์การขายประกันมนุษย์เงินเดือน ภายใต้แคมเปญ “มนุษย์เงินเดือน MAY DAY”  เพื่อตอกย้ำภาพของโบรคเกอร์ประกันที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาช่องทางการขายและบุกตลาดประกันออนไลน์เป็นเจ้าแรกๆ ดังนั้น สำหรับแคมเปญพิเศษ “มนุษย์เงินเดือน MAY DAY”  นี้ จะเปิดให้บริการผ่านช่องทาง Line Official “TQM Insurance Broker” แบบ One Stop Service สะดวกทั้งก่อนซื้อและบริการหลังการขายเพียงเข้าไปที่ไลน์ “TQM Insurance Broker” พิมพ์คำว่า “มนุษย์เงินเดือน” หรือคลิกที่ริชเมนูก็สามารถเลือกซื้อโปรดักท์ประกันมนุษย์เงินเดือนได้ทันใจ เป็นช่องทางที่ทุกคนเข้าถึงง่าย และครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าให้ความสนใจมาใช้บริการออนไลน์จากทีคิวเอ็มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันลูกค้าในกลุ่มออฟไลน์ก็ยังคงสามารถใช้บริการได้ครบวงจรเช่นเดิมที่ โทร 1737 

สำหรับสิทธิประโยชน์พิเศษของลูกค้าที่ซื้อประกันมนุษย์เงินเดือน ภายใต้แคมเปญ “มนุษย์เงินเดือน MAY DAY” ประกอบด้วย ซื้อประกันรถยนต์มนุษย์เงินเดือนประเภท 1 รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 1,000 บาท และ เพื่อตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานยุ่งจนไม่มีเวลา เมื่อซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภทจะได้รับบริการทำธุระแทนคุณผ่าน Grab Taxi มูลค่า 500 บาท ทุกกรมธรรม์ และซื้อประกันภัยประเภทอื่น ๆ จะได้รับบัตร Gift Voucher มูลค่าสูงสุด 300 บาท หมดเขตภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้

ด้วยความห่วงใยผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ ภายในแคมเปญ “มนุษย์เงินเดือน  MAY DAY”  ทีคิวเอ็มและกรุงเทพประกันภัย มอบฟรีประกันอุบัติเหตุ 2 เท่า หรือ 200,000 บาท เฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมนี้เท่านั้น โดยผู้ที่สนใจสามารถขอลงทะเบียนรับได้ที่ไลน์ “TQM Insurance Broker” และสำหรับลูกค้าที่สนใจโปรดักท์ประกันมนุษย์เงินเดือน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อประกันได้ทุกช่องทางของทีคิวเอ็มที่ www.tqm.co.th , Facebook / Line Official “TQM Insurance Broker” , โทร 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่สาขาทีคิวเอ็มทั่วประเทศ

ดร.ศิริเดช  คำสุพรหม  คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี

โครงการ FC Bayern Youth Cup Thailand 2019 (เอฟซี บาร์เยิร์น ยูธ คัพ ไทยแลนด์ 2019) อันเป็นความร่วมมือระหว่าง สโมสรฟุตบอล บาเยิร์น มิวนิค บุนเดสลีก้า บริษัท สปอร์ตไทย-บาวาเรีย จำกัด กลุ่มวังขนาย และ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต  เปิดตัว 10 ตัวแทนเยาวชนไทยฝีเท้าเด่น เตรียมบินลัดฟ้าร่วมแข่งขันในรายการ FC Bayern Youth Cup World Final 2019 (เอฟซี บาร์เยิร์น ยูธ คัพ เวิร์ล ไฟนัล 2019) ณ อลิอันซ์ อารีน่า เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 15-19 พฤษภาคม 2562 พร้อมได้สัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต พบปะตำนานผู้เล่นของบาเยิร์น มิวนิค และร่วมเข้าชมการแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาล

โครงการ FC Bayern Youth Cup Thailand 2019 ดำเนินการต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 4 มีเยาวชนกว่า 10,000 คนเข้าร่วมโครงการนี้มาแล้ว ล่าสุดได้รางวัล เหรียญทอง ในประเภท โครงการสุดยอดการพัฒนาเยาวชนในประเทศไทย จาก SPIA ASIA AWARD 2018  สำหรับปีนี้ ได้เปิดรับสมัครเยาวชนจากทั่วประเทศมาตั้งแต่เดือนมกราคม มีเยาวชนสมัครเข้าร่วมคัดเลือกกว่า 3,500 คน โดยโครงการได้คัดเลือกเยาวชนจำนวน 120 คน มาร่วมแข่งรอบ National Final ณ สนามกีฬาไทย ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2562 โดยมี มร.เคราซ์ เอาเกนธาเลอร์ ตำนานบาเยิร์นและแชมป์บุนเดสลีก้า 7สมัย ร่วมเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือก จนได้เยาวชนฝีเท้าเด่นรวม 15 คนเข้าค่ายเก็บตัว Thailand Camp วันที่ 22 -26 เมษายน 2562 ณ กิเลนวัลเล่ย์  จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมทักษะฟุตบอลเพิ่มเติม ในค่ายฯ มีการทำกิจกรรมร่วมกันทั้ง Team Building รวมถึงฝึกซ้อมอย่างหนัก จนขณะนี้ได้คัดเหลือ 10 คนสุดท้าย ที่มีฝีเท้าโดดเด่นที่สุด เป็นตัวแทนทีมประเทศไทย ที่จะเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลในสนามระดับโลกอย่าง อลิอันซ์ อารีน่า

นายวินิจ เลิศรัตนชัย  กรรมการผู้จัดการ บริษัท สปอร์ตไทย – บาวาเรีย จำกัด กล่าวว่า  “ก่อนอื่นผมขอแสดงความยินดีกับเยาวชนทั้ง 10 คนที่ผ่านการคัดเลือก ซึ่งเป็นผลของความตั้งใจและการทำงานหนักในการเข้าแคมป์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และขอเป็นกำลังใจให้กับเยาวชนอีก 5 คนที่ไม่ผ่านการคัดเลือก แค่เพียงกล้าออกมาร่วมกิจกรรมและผ่านเข้าสู่รอบประเทศก็เป็นชัยชนะต่อตนเองที่ยิ่งใหญ่แล้ว อย่าย่อท้อขอให้มุ่งมั่นฝึกซ้อมพัฒนาตนเองต่อไป ผมมีความภูมิใจและยินดีเป็นอย่างมากที่โครงการ FC Bayern Youth Cup Thailand ได้สร้างโอกาสให้กับเยาวชนที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลและมีฝีเท้าที่ดี เป็นตัวแทนเยาวชนไทยไปแข่งขันที่เยอรมนี และสามารถทำผลงานได้ดีด้วยการคว้าแชมป์ 2 สมัย และเป็นเอเชียชาติเดียวที่สามารถคว้าแชมป์มาครอง มาถึงปีนี้น้องๆ ที่ผ่านมาถึงรอบนี้ทุกคนล้วนมีความสามารถ และผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งให้กับประเทศไทยได้สำเร็จ”

นางสาวธัญรักษ์ ณ วังขนาย ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มวังขนาย กล่าวว่า  ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะอยู่ในความทรงจำของน้องๆทั้ง 15 คน กลุ่มวังขนายได้ให้การสนับสนุนโครงการ FC Bayern Youth Cup มาอย่างต่อเนื่อง 4 ปีแล้ว และมีความภาคภูมิใจที่เห็นเยาวชนไทยมีฝีเท้าที่ดีเยี่ยม และกล้าออกมาทำความความฝัน สำหรับในปีนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับเยาวชนไทยที่ผ่านการคัดเลือกมาทั้ง 10 คนไปคว้าแชมป์ให้สำเร็จอีกครั้ง สำหรับเยาวชนที่ไม่ผ่านการคัดเลือกก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ขอให้หมั่นฝึกฝน พัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลต่อไป

นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารงานลูกค้า บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า ในปีนี้ อลิอันซ์ อยุธยา มุ่งมั่นส่งเสริมเยาวชนภายใต้แนวคิด Explore the Future With Us โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เยาวชนไทยออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ รอบตัว พร้อมเดินหน้าล่าฝัน ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์เยาวชนที่ครอบคลุมทุกมิติ สำหรับโครงการ FC Bayern Youth Cup Thailand 2019 อลิอันซ์ อยุธยา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับเยาวชนผู้ได้รับการคัดเลือกทั้ง 10 คน  เชื่อว่าจะเป็นประสบการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ไปสัมผัสกับประสบการณ์ระดับโลก กับ สุดยอดทีมบาเยิร์น มิวนิค พร้อมโอกาสลงเตะ ณ สนาม อลิอันซ์ อารีน่า ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของ อลิอันซ์ อยุธยา ที่ได้มีส่วนผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย ที่แม้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ทั้งนี้เราเชื่อว่าเยาวชนทั้ง 10 คน จะเตรียมตัวและมีความพร้อมเป็นอย่างดี  ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ขอให้ทุกคนกล้าที่จะแสดงฝีเท้าและศักยภาพตนเองให้เต็มที่ เพื่อจะได้ไปถึงสิ่งที่ทั้งทีมและตนเองมุ่งหวังได้สำเร็จ ทั้งนี้อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะบริษัทประกันชีวิตชั้นนำ ได้มอบกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและอุบัติเหตุ พร้อมด้วยค่ารักษาพยาบาล ตลอดระยะเวลาเดินทาง แก่นักกีฬา สื่อมวลชน และทีมงาน รวม 25 ท่าน  ด้วยทุนประกันท่านละ 4 ล้านบาท  รวมเป็นทุนประกันทั้งสิ้น 100 ล้านบาท

เยาวชนทั้ง 10 คน ที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่  1)โอ๊ต - เผด็จ  แก้วมณี  2)เกมส์ - ปฏิภาณ เตี้ยงสูงเนิน 3)ลีซอ - เดชานนท์ ศรีเมือง 4)ฟิว - เกริกพล อาบรัมย์ 5) เกมส์ - นรากรณ์ แก่งกระโทก 6)คีม - นิติพันธ์ สุกใส 7)คิว -  พิทยา  ใจยาว 8)กอล์ฟ - ธนกฤต ทองศรี 9)มิกซ์ - ศุภวิชญ์ มาน้อย 10)กอล์ฟ - ฌัฐกิตติ์ แสงคำ โดยจะร่วมเดินทางไปประเทศเยอรมนีในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และจะลงฝึกซ้อมเพื่อปรับตัวกับสภาพอากาศทันทีที่เดินทางไปถึงโดยจะเข้าแคมป์ฝึกซ็อมที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ก่อนเดินทางเข้าสู่เมืองมิวนิคเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันฟุตบอลในสนาม    อลิอันซ์ อารีน่า ระหว่างวันที่ 15-19 พฤษภาคม 2562 ซึ่งการแข่งขันจะแบ่งเป็น 2 สาย ในแต่ละสายลงทำการแข่งขันแบบพบกันหมด โดยจะมีการจับสลากแบ่งสายในช่วงค่ำของวันที่ 17 พฤษภาคม 2562 เพื่อจะทำการแข่งขัน ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2562 ในปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันจาก 8 ประเทศ อาทิ เยอรมนี, สิงค์โปร์ ,จีน, อินเดีย, ไนจีเรีย , สหรัฐอเมริกา และ ไทย ผู้สนใจสามารถร่วมชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันได้ทาง Facebook : Allianz Ayudhya

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณชัยณรงค์ เอื้อสิทธิชัย ประธานเจ้าที่บริหาร ฝ่ายจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร (กลาง) พร้อมพนักงานจิตอาสาฝ่ายขาย ภูมิภาคนครหลวง 1 ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อสังคมไทยน่าอยู่ BANCs Hearts in Action Day หรือกิจกรรมจิตอาสาจากใจของทีมฝ่ายจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร  โดยครั้งนี้ ได้มีผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาเดินทางไปร่วมกิจกรรมปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก (ครูหยุย) พร้อมจัดทำแปลงและปลูกพืชผักสวนครัว  นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่สนุกสนานเพื่อส่งมอบความสุขและมอบรอยยิ้มให้กับน้อง ๆ ณ มูลนิธิสร้างสรรค์เด็กอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ตอกย้ำเป้าหมายหลักของบริษัท ฯ คือ การให้โอกาสทุกคนได้มีชีวิตที่ดีขึ้นตามใจปรารถนา

คณะการบริหารและจัดการ (FAM) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทป. จัดโครงการ Smart Supervisor 4.0 รุ่นที่ 1 หรือหลักสูตรอบรมผู้บริหารรุ่นใหม่ของ สทป. เพื่อเพิ่มศักยภาพ สร้างความตื่นตัวและเตรียมความพร้อมต่อการมาถึงของ Digital Disruption ได้อย่างเท่าทันและมีประสิทธิภาพ

โดยโครงการ Smart Supervisor 4.0 ครั้งนี้เกิดจากการที่คณะผู้บริหารของ สทป. ได้ตระหนักถึงโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเกิดขึ้นขององค์ความรู้ใหม่ๆ ในยุคดิจิตอล ที่มาพร้อมข้อเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด การทำงานและทัศนคติให้ร่วมสมัยขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับองค์กรที่ทำงานกับวิทยาการด้านความมั่นคงของประเทศอย่าง สทป. ซึ่งมีผลงานในการวิจัย พัฒนาและผลิตยุทโธปกรณ์สำหรับกองทัพมานับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ไม่ว่าจะเป็นอากาศยานไร้คนขับ จรวดหลายลำกล้องนำวิถี หรือ Simulator จำลองยุทธ์ เป็นต้น

พลอากาศเอก ดร. ปรีชา ประดับมุข ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ได้เล่าถึงความคาดหวังของ Smart Supervisor 4.0 ในงานแถลงข่าวของโครงการ ณ สำนักหอสมุดกลาง สจล. ว่า “ปัจจุบัน วิทยาการทางการทหารนั้นเติบโตเร็วมาก ผู้บริหารของ สทป. รุ่นต่อๆ ไป หรือผู้ที่จะได้รับการเลื่อนขั้นจาก ผู้ปฏิบัติการมาเป็นผู้บริหาร จะใช้เพียงประสบการณ์เป็นเกณฑ์วัดไม่ได้อีกแล้ว หากแต่จะต้องมีองค์ความรู้ที่ทันสมัย การจัดโครงการ Smart Supervisor 4.0 นี้ขึ้นมา ก็เพื่อหาความรู้เพิ่มเติมจากผู้มีความรู้ก็คือ สจล. ซึ่งก็ถือเป็นการร่วมแรงร่วมใจของทั้งสองหน่วยงานในการออกแบบหลักสูตร เพื่อพัฒนา สทป.ในอนาคต”

ทางด้าน ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ก็ได้แสดงทัศนะต่อการเป็นผู้บริหารยุคใหม่ไว้ว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ได้สร้างจากมือของศาสตราจารย์หรือด็อกเตอร์อีกต่อไป มันอาจถูกสร้างโดยเด็กอายุ 11 หรือ 15 ยุคนี้คนเพียงคนเดียวอาจชัตดาวน์ทั้งกองทัพ หรือทั้งประเทศได้ เป็นยุคที่คนต้องแข่งขันกันทุกวินาที ฉนั้นแล้ว ผู้นำในยุคนี้จึงต้องมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการคน บริหารเด็ก บริหารคนที่เก่งที่สุด ให้ทำงานบรรลุเป้าหมาย ในเวลาที่จำกัด นั่นคือความท้าทายที่ สทป. ต้องเผชิญในยุค disruption ซึ่งก็เรื่องที่ดีที่ทางผู้บริหารได้เห็นถึงความสำคัญในด้านนี้”

สำหรับคณะการบริหารและจัดการ หรือ FAM คือผู้ได้รับมอบหมายให้ดูแลหลักสูตรและจัดการเรียนการสอนในโครงการ Smart Supervisor 4.0 นี้ โดยมีลักษณะการอบรมแบ่งออกเป็นทักษะที่สำคัญ 8 ทักษะ 28 วิชา 90 ชั่วโมง ดังนี้

- ทักษะการสอนงาน การแก้ปัญหา และการตัดสินใจ

- ทักษะด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ และการบริหารความเสี่ยง

- ทักษะการใช้เครื่องมือบริหารจัดการต่างๆ และพัฒนาวิสัยทัศน์

- ทักษะการทำงานเป็นทีม และทักษะการสร้างสรรค์สิ่งใหม่

- การบริหารโครงการและการบริหารการเปลี่ยนแปลง

- การพัฒนาบุคลิกภาพ การสื่อสาร และการประสานงาน

- การพัฒนาความซื่อสัตย์ ความภัคดี และหลักธรรมาภิบาลสำหรับผู้บริหาร

- Smart Coaching Supervisors 4.0

ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวได้รับการออกแบบและดูแลอย่างใกล้ชิดจาก ดร. สุดาพร สาวม่วง คณบดี คณะการบริหารและจัดการ สจล. ที่ได้ตั้งมุดหมายของโครงการ ตามอักษรย่อภาษาอังกฤษของ สทป. ไว้ว่า D : Disruption, T : Technology, I : Innovation (หมายเหตุ: DTI คืออักษรย่อของ สทป. Defence Technology Institute)

“เราอยากให้ผู้เรียน กลายเป็น supervisor ที่ smart ดังนั้นหลักสูตรจะเน้นในการสร้างบุคลิกภาพ จิตวิทยาในการสื่อสาร ภาวะผู้นำ และรู้จักเครื่องมือในการบริหาร ให้ทำงานในองค์การอย่างมีความสุข ลักษณะการเรียนการสอนจะเป็นการนำปัญหาขององค์กรของผู้เรียน มาเป็นโจทย์ในการศึกษา หรือเวิร์คช็อป แล้วหลังจากนั้นจะร่วมคิดโปรเจ็กต์ที่นำไปใช้จริงเมื่อสำเร็จการศึกษา ซึ่งเราอยากให้มันเป็นตัวอย่างที่ดีกับองค์กรอื่นๆ ด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของคณะอย่าง FAM to FAMOUS ที่เราไม่ได้คิดเฉพาะในคณะ หรือ สจล. แต่อยากให้การพัฒนามันเกิดขึ้นกับทุกองค์กรที่พร้อมจะให้เราช่วย ทั้งในประเทศในระดับอาเซียนด้วย” ดร. สุดาพร กล่าวในช่วงท้าย

X

Right Click

No right click