หัวเว่ย เป็นเจ้าภาพจัดงาน “5G Beyond Growth Summit”  ในงาน โมบายล์ เวิลด์ คองเกรส (Mobile World Congress 2024 - MWC) ณ กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปนเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยนายหลี่ เผิง รองประธานอาวุโสฝ่ายองค์กร และประธานฝ่ายขายและบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ของหัวเว่ย ได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ถึงการที่เทคโนโลยี 5G จะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายประสบความสำเร็จ รวมถึงการที่ เทคโนโลยี 5.5G จะเข้ามาช่วยปลดล็อคศักยภาพที่เหนือกว่าของเครือข่ายและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต ให้กับผู้ให้บริการ

นายหลี่กล่าวว่า “เทคโนโลยี 5G กำลังไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ” ทั้งนี้ เทคโนโลยี 5G ถูกนำมาใช้งานใน เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานมากกว่า 1,500 ล้านคนทั่วโลก เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี 4G ที่ต้องใช้เวลาถึง 9 ปี ในการได้จำนวนผู้ใช้งานเท่ากัน โดยในปัจจุบัน ร้อยละ 20 ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ใช้งานบนเทคโนโลยี 5G ซึ่งนับเป็นร้อยละ 30 ของการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายทั้งหมด และสามารถสร้างรายได้ให้กับ ผู้ให้บริการถึงร้อยละ 40 เทคโนโลยี 5.5G จะเริ่มเข้ามามีบทบาทการใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2567 และด้วยความสามารถของเทคโนโลยี 5.5G นี้ ผนวกกับ AI และการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีคลาวด์ จะทำให้ผู้ให้บริการสามารถปลดล็อค ศักยภาพของแอปพลิเคชันและความสามารถใหม่ ๆ ได้อีก”

เขากล่าวเสริมว่า ผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกควรให้ความสำคัญกับการให้บริการเครือข่ายคุณภาพสูง มองหาการสร้างรายได้ จากหลากหลายช่องทาง บริการใหม่ ๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI ที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เข้ามาใช้งาน เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจเอาไว้

เครือข่ายคุณภาพสูงยังคงเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จทางธุรกิจ

ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือนั้นยินดีที่จะอัปเกรดแพ็คเกจการใช้งานของตัวเองหากเครือข่ายนั้น ๆ สามารถมอบประสบการณ์ ที่เหนือกว่าได้ โดยการใช้งานดาต้าของผู้ใช้งานเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอีกสูงมาก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ให้บริการสามารถสร้างมูลค่า จากการใช้งานเหล่านี้ได้อีก และจะทำให้เราได้เห็นผู้ให้บริการเครือข่ายจำนวนมากที่กำลังมีแผนงานและกลยุทธ์ที่จะ เพิ่มระบบเครือข่าย 5G ที่มีคุณภาพสูงเข้ามา

ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายในทวีปตะวันออกกลางได้นำเทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบ Massive MIMO มาใช้งานแล้ว และด้วยประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าบนระบบนี้ทำให้สามารถนำเทคโนโลยีเทคโนโลยี 5G FWA เข้าสู่ตลาดได้สำเร็จ โดยในปัจจุบันเทคโนโลยี 5G FWA ได้เชื่อมต่อผู้คนจากกว่า 3 ล้านครัวเรือนเข้าด้วยกัน และถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ ที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่ผู้ให้บริการ

สร้างมูลค่าเพิ่มจากหลากหลายช่องทาง และหลากหลายรูปแบบ

ปัจจุบัน ผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ทั่วโลกกว่าร้อยละ 20 มีการนำเสนอบริการในรูปแบบแพ็คเกจที่มีการจัดระดับความเร็ว เป็นขั้นตามความต้องการ เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายรายหนึ่งในประเทศไทยมีการนำเสนอแพ็คเกจลักษณะ Boost Mode ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกระดับความเร็วที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองได้ โดยการออกแบบแพ็คเกจ ลักษณะนี้สามารถเพิ่มอัตรารายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งานหรือ ARPU ได้ประมาณร้อยละ 23 หรือผู้ให้บริการเครือข่ายรายหนึ่ง ในประเทศจีนได้มีการออกแบบแพ็คเกจที่รับประกันความเร็วอัปโหลดสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นการใช้งานแบบ Livestream เพื่อการใช้งานที่ต้องการความละเอียดสูงและประสบการณ์ที่ลื่นไหล โดยแพ็คเกจดังกล่าวได้รับความนิยมและสามารถ เพิ่มอัตรารายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งานได้มากกว่าร้อยละ 70

บริการรูปแบบใหม่ๆ จะเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

บริการรูปแบบใหม่ ๆ เช่น New Calling, Cloud phones หรือบริการ 3D แบบที่ไม่ต้องสวมแว่น กำลังได้รับความนิยม มากขึ้นจากเหล่าผู้ใช้งาน เช่น ฟังก์ชันตัวละครเสมือนหรือ avatar ที่อยู่ในบริการ New Calling นั้นได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก รวมถึงมีการแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งานยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อประสบการณ์แบบเรียลไทม์ เช่น การเคลมประกันรถ แบบ one-stop จบในที่เดียว

นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G ยังถูกนำไปใช้งานจากหลากหลายอุตสาหกรรม โดยในประเทศจีนมีการใช้งานเครือข่าย 5G ในรูปแบบส่วนบุคคลในระดับอุตสาหกรรมกว่า 50,000 เครือข่าย ในกว่า 50 อุตสาหกรรม และด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้น ของเทคโนโลยี 5.5G เช่น อัตราความหน่วงที่สามารถกำหนดได้ ความแม่นยำในการส่งต่อข้อมูล และการใช้งาน IoT แบบ passive จะสามารถเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายในตลาด B2B ได้อีกมาก

Generative AI จะช่วยนำพาอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือเข้าสู่ยุคอัจฉริยะ

รายงานจาก IDC ระบุว่าในปี พ.ศ. 2567 จะมียอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยี AI ในตัว กว่า 170 ล้านเครื่อง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 15 ของยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนทั้งหมด โดยสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยี AI ในยุคใหม่นี้จะมาพร้อมกับ หน่วยความจำที่มากกว่า ความสามารถในการแสดงผลหน้าจอและภาพถ่ายที่เหนือกว่า และการทำงานที่ต้องใช้ เทคโนโลยีขั้นสูงจากแอปพลิเคชัน AIGC เหล่านี้จะก่อให้เกิดการใช้ข้อมูลอย่างมหาศาล และแน่นอนหมายถึงโอกาสทาง ธุรกิจใหม่ ๆ ของผู้ให้บริการเครือข่ายด้วย

นายหลี่ ได้กล่าวปิดท้ายงานด้วยคำมั่นว่า “เราและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจะร่วมกันปลดล็อคศักยภาพ ของเทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยี 5.5G และร่วมสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนไปด้วยกัน"

ขายออนไลน์ 3.3 นี้ ราคาต่ำสุดเพียง 4,246 บาท ที่ Shopee เท่านั้น

ตอกย้ำจุดยืนของหัวเว่ยในฐานะแบรนด์แฟชันระดับไฮเอนด์ระดับโลก

ในงานประชุมระดับโลกด้านเทคโนโลยีไร้สาย โมบายล์ เวิลด์ คองเกรส (MWC) หัวเว่ยต้อนรับผู้ให้บริการเครือข่าย พันธมิตรอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิดจากทั่วโลก ณ โซนจัดแสดง “Advance Intelligence” เพื่อหารือการผนึกกำลังด้านเครือข่าย-คลาวด์-เทคโนโลยีอัจฉริยะในอนาคต โดยหัวเว่ยมุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมสร้างอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมให้เติบโต เร่งวงจรธุรกิจ 5G เชิงบวก พร้อมปูทางสู่ยุค 5.5G ที่กำลังจะมาถึง

บูธของหัวเว่ย ณ โถงจัดแสดง 1 ออกแบบเพื่อจำลองโลกดิจิทัลแห่งอนาคตพร้อมการเชื่อมต่ออัจฉริยะอย่างสมบูรณ์แบบ โดยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของโลกอัจฉริยะในอนาคตจะได้รับการบูรณาการเพื่อตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิต รวมถึงด้านอุตสาหกรรมและสังคม เนื่องจากศักยภาพของเทคโนโลยีทางด้านเครือข่ายจะต้องสอดรับกับ ความต้องการในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน ที่อยู่อาศัย ธุรกิจ และยานพาหนะ ได้ดียิ่งขึ้น ภายในงาน หัวเว่ยจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันแบบครบวงจรในรูปแบบ 5.5G, F5.5G และ Net5.5G ที่พร้อม ใช้งานในสถานการณ์หลากหลาย และมุ่งผนึกกำลังร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลกและพันธมิตรในอุตสาหกรรม เดินหน้าเปิดวิสัยทัศน์ตอบรับทุกความท้าทายและโอกาส ปูทางสู่ความเป็นผู้นำระบบอัจฉริยะแห่งโลกอนาคต

ในปี 2556 ที่ผ่านมา หัวเว่ยได้เปิดตัวเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ทั่วโลกกว่า 300 เครือข่าย ให้บริการผู้ใช้งานมากกว่า 1,600 ล้านคน ในปัจจุบัน การพัฒนา 5G ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจำนวนผู้ใช้ 5G ทั่วโลกมีอัตราเติบโตสูงกว่าผู้ใช้ 4G ถึงเจ็ดเท่าในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ผู้ให้บริการเครือข่ายที่ใช้โซลูชันของหัวเว่ยยังครองอันดับ 1 ด้านประสบการณ์การใช้งานเครือข่าย จากการทดสอบประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจัดโดยองค์กรชั้นนำในเมืองสำคัญในประเทศเยอรมนี ออสเตรีย และเนเธอร์แลนด์ หัวเว่ยยังมุ่งผนึกกำลังผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกและพาร์ทเนอร์เพื่อค้นหาโซลูชันที่มีนวัตกรรมล้ำสมัย ตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นด้านการใช้งานและการใช้ประโยชน์จาก 5.5G ในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งจากการทำงานร่วมกันทำให้สามารถสนับสนุนการทดสอบเทคโนโลยี 5.5G และการใช้งานเครือข่ายเพื่อขยายตลาด 5.5G ที่กำลังเติบโตได้

หัวเว่ยช่วยส่งเสริมผู้ให้บริการได้ตรวจสอบและทดสอบระบบ 5.5G เชิงพาณิชย์ในมากกว่า 20 เมืองทั่วโลก โดยภูมิภาคตะวันออกกลางได้ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันในเรื่องการพัฒนา 5.5G โดยคณะมนตรีความร่วมมือรัฐ อ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council - GCC) ทั้ง 6 รัฐได้ทดสอบเครือข่าย 5.5G ที่อัตราความเร็ว 10 Gbps เสร็จสมบูรณ์ และเริ่มงานด้านบริการโซลูชันใหม่อย่าง RedCap และ IoT แบบ passive เป็นที่เรียบร้อย

ผู้ให้บริการเครือข่าย 3 รายใหญ่ในประเทศจีนต่างเริ่มใช้งานเครือข่าย 5.5G ในเมืองหลักเพื่อสำรวจบริการเครือข่ายที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างผู้คน สิ่งของ ยานพาหนะ อุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย โดยในฮ่องกงผู้ให้บริการทดสอบเครือข่าย 5.5G ในระดับความเร็ว 10 Gbps ในย่าน C-band และ mmWave เสร็จสิ้นและเริ่มให้บริการ 5.5G FWA แล้ว

ในยุโรป ผู้ให้บริการในประเทศฟินแลนด์สรุปผลการตรวจสอบเทคโนโลยี 5.5G เชิงพาณิชย์ โดยรายงานอัตราความเร็วสูงสุดที่สูงกว่า 10 Gbps และทำการทดสอบเทคโนโลยี IoT แบบ passive เสร็จสิ้น ในเยอรมนี ผู้ให้บริการที่ทำงานบนย่านความถี่ 6 GHz รายงานอัตราความเร็วสูงสุดที่ 12 Gbps โดยใช้เทคนิคแบบผู้ให้บริการหลายราย

นอกจากนี้ ในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส หัวเว่ยได้เปิดตัวโมเดลพื้นฐานโทรคมนาคมรุ่นแรกของอุตสาหกรรม โดยโมเดลพื้นฐานนี้มอบการใช้งานอัจฉริยะตามบทบาทและตามสถานการณ์ เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรม โดยเน้นบริการที่คล่องตัว รับรองประสบการณ์การใช้งานที่แม่นยำ ตลอดจนระบบการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) ที่ทรงประสิทธิภาพทั้งโดเมน นอกจากนี้ยังเพิ่มศักยภาพการทำงานให้พนักงานของผู้ให้บริการและยกระดับความพึงพอใจของผู้ใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายอย่างครอบคลุม

5.5G เชิงพาณิชย์จะเริ่มให้บริการในปีพ.ศ. 2567 หัวเว่ยตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผนึกกำลังร่วมกับผู้ให้บริการ ทั่วโลกเพื่อยกระดับเครือข่าย 5.5G พร้อมมุ่งเป้าสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุมและเปี่ยมประสิทธิภาพ โดยทำงานเชื่อมต่อกันทุกที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเสถียรภาพ และเป็นเครือข่ายอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ เพื่อผลักดันให้ผู้ให้บริการส่งมอบประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับ สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมเพื่อนำการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะไปสู่การใช้งานระดับลึกยิ่งขึ้น และนำเราเข้าสู่โลกอัจฉริยะได้อย่างรวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจองค์กรของหัวเว่ยจะเปิดตัวโซลูชันดิจิทัลอัจฉริยะใหม่สำหรับ 10 อุตสาหกรรม และทัพผลิตภัณฑ์เรือธงภายใต้หัวข้อ “โครงสร้างพื้นฐานชั้นนำเพื่อเร่งความอัจฉริยะทางอุตสาหกรรม” (Leading Infrastructure to Accelerate Industrial Intelligence) หัวเว่ยพร้อมร่วมมือกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทั่วโลก เพื่อสำรวจนวัตกรรมใหม่และแนวทางปฏิบัติด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะ นอกจากนี้ หัวเว่ยมุ่งมั่นเป็นพาร์ทเนอร์หลักที่น่าเชื่อถือเพื่อนำทางสู่การเปลี่ยนผ่านดิจิทัลแบบอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ในส่วนของกลุ่มอุปกรณ์สื่อสารสำหรับผู้บริโภค ของหัวเว่ย ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์เรือธงระดับไฮเอนด์ ล้ำหน้าด้านการออกแบบ และเทคโนโลยีอัจฉริยะภายในงาน โดยแบ่งเป็นโซนประสบการณ์ตามสถานการณ์ เช่น “การออกแบบสุดล้ำ” “การรังสรรค์ความงาม” และ “ฟิตเนสและสุขภาพ” มุ่งเน้นตัวอย่างโซลูชันของหัวเว่ยที่สอดรับกับชีวิตประจำวันด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำและสร้างประสบการณ์เหนือระดับตามรูปแบบสถานการณ์ กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ของหัวเว่ยมุ่งมั่นลงทุนในนวัตกรรมเทคโนโลยีในปีพ.ศ. 2567 และสร้างประสบการณ์เหนือระดับสอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ปรับเปลี่ยนได้เฉพาะบุคคลสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก

งานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส (MWC) ครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 - 29 กุมภาพันธ์ ณ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยหัวเว่ยจัดแสดงทัพผลิตภัณฑ์และโซลูชันเรือธงใหม่ล่าสุด ที่บูธ 1H50 ใน Fira Gran Via Hall 1

การเปิดตัว 5.5G เชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2567 หัวเว่ยร่วมมือกับผู้ให้บริการและพาร์ทเนอร์ทั่วโลกเพื่อค้นหานวัตกรรมใหม่ที่น่าตื่นเต้นในด้านเครือข่าย คลาวด์ และระบบอัจฉริยะ พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจ 5G และส่งเสริมอีโคซิสเต็มอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เพื่อผลักดันสู่ยุคใหม่ของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ โดยสามารถดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://carrier.huawei.com/en/events/mwc2024 

X

Right Click

No right click