×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 6855

 

ไมโครซอฟท์ และ ซีเมนส์ ผนึกความร่วมมือต่อเนื่อง นำประสิทธิภาพ Generative AI มาสู่ภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยทั้งสองบริษัทฯ เตรียมเปิดตัว Siemens Industrial Copilot ซึ่งเป็นผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาร่วมกัน มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรในภาคการผลิต

นอกจากนี้การผนวกซอฟต์แวร์ Teamcenter ของซีเมนส์ที่ใช้สำหรับการบริหารจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (หรือ PLM) เข้ากับ Microsoft Teams ยังสนับสนุนการสร้างเมตาเวิร์สในภาคอุตสาหกรรม ลดความซับซ้อนในการทำงานร่วมกันแบบเสมือนจริงให้แก่วิศวกรออกแบบ ผู้ปฏิบัติงานหน้างานและทีมอื่น ๆ ตลอดสายงานธุรกิจ

สัตยา นาเดลลา ประธานและซีอีโอของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “ด้วยศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ยุคใหม่นี้ เรามีโอกาสพิเศษในการเร่งสร้างนวัตกรรมให้กับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด เรากำลังพัฒนาต่อยอดจากความร่วมมือที่ยาวนานกับซีเมนส์ รวบรวมความก้าวหน้าด้าน AI ใน Microsoft Cloud มาผนวกรวมกับความเชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมของซีเมนส์ เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ปฏิบัติงานหน้างานและพนักงานที่มีทักษะเฉพาะทาง ด้วยเครื่องมือใหม่ ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังปัญญาประดิษฐ์ โดยเริ่มต้นด้วยโครงการ Siemens Industrial Copilot

 

โรแลนด์ บุช ซีอีโอของซีเมนส์ กล่าวว่า “เราและไมโครซอฟท์มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการส่งเสริมศักยภาพของลูกค้าด้วยการนำ Generative AI มาใช้งาน เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพมหาศาลที่จะปฏิวัติวิธีการที่บริษัทต่าง ๆ ใช้ออกแบบ พัฒนา ผลิตและดำเนินการ ด้วยการส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรที่เชื่อมต่อกันในวงกว้างมากขึ้น ช่วยให้เหล่าวิศวกรสามารถเร่งพัฒนาโค้ด เพิ่มนวัตกรรม และรับมือกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะได้

ยุคใหม่ของการทำงานร่วมกันของมนุษย์และเครื่องจักร

Siemens Industrial Copilot จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพ และแก้ไขโค้ดอัตโนมัติที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมลดระยะเวลาการจำลองสถานการณ์ลงอย่างมาก ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยลดงานที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ให้เหลือเป็นหน่วยนาที โดย Copilot จะนำข้อมูลของระบบอัตโนมัติและกระบวนการการจำลองจากแพลตฟอร์ม Siemens Xcelerator ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัลแบบเปิดของซีเมนส์ และเพิ่มประสิทธิภาพด้วย Azure OpenAI Service ของไมโครซอฟท์ โดยลูกค้ายังคงควบคุมข้อมูลตนเองได้ทั้งหมด ระบบจะไม่มีการนำข้อมูลไปใช้กับการฝึกโมเดล AI พื้นฐาน

Siemens Industrial Copilot มีความสามารถเพิ่มผลผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพครบวงจรในอุตสาหกรรม โดยเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงจะได้รับคำแนะนำการซ่อมแซมอย่างละเอียดด้วยภาษาปกติอย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่วิศวกรจะสามารถเข้าถึงเครื่องมือแบบจำลองได้อย่างรวดเร็ว

Copilots สำหรับทุกอุตสาหกรรม

ทั้งซีเมนส์และไมโครซอฟท์ต่างเล็งเห็นว่า AI Copilots มีความสามารถในการช่วยเหลือผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมการผลิต โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการดูแลสุขภาพ โดย Copilot จำนวนมากกำลังถูกวางแผนที่จะนำมาใช้ในภาคการผลิต เช่น ยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค และการผลิตเครื่องจักร Schaeffler AG ซัพพลายเออร์ยานยนต์ชั้นนำเป็นหนึ่งในบริษัทรายแรก ๆ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่นำ Generative AI ไปใช้ในงานด้านวิศวกรรม ช่วยให้ทีมวิศวกรสามารถพัฒนาโค้ดที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับการโปรแกรมระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม เช่น หุ่นยนต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมนำ Siemens Industrial Copilot มาใช้ในระบบการดำเนินงาน โดยวางเป้าหมายเพื่อลดการหยุดชะงักของ

การทำงาน (Downtime) ของเครื่องจักรอย่างมีนัยสำคัญ และเตรียมพัฒนาขั้นต่อไปสำหรับลูกค้าในภายหลัง

เคลาส์ โรเซนเฟลด์ ซีอีโอของกลุ่มแชฟฟ์เลอร์ กล่าวว่า “เรากำลังก้าวสู่ยุคใหม่ของการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและนวัตกรรมในโครงการนำร่องร่วมกันนี้ ซึ่ง Siemens Industrial Copilot จะช่วยให้ทีมงานของเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังลดภาระงานซ้ำซ้อน และเพิ่มไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับซีเมนส์และไมโครซอฟท์ในโครงการนี้”

Generative AI เพิ่มความสะดวกการทำงานร่วมกันในแบบเสมือน

เพื่อยกระดับการทำงานร่วมกันแบบเสมือนระหว่างทีม ซอฟต์แวร์ Teamcenter ของซีเมนส์ สำหรับ Microsoft Teams พร้อมเปิดให้ใช้งานได้โดยทั่วไปตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้ โดยแอปพลิเคชันนี้จะใช้ศักยภาพล่าสุดของ Generative AI เชื่อมต่อฟังก์ชั่นการทำงานต่าง ๆ ของวงจรการออกแบบผลิตภัณฑ์และวงจรการผลิต ตั้งแต่ผู้ปฏิบัติงานหน้างานไปจนถึงทีมวิศวกร โดยจะเชื่อมต่อซอฟต์แวร์ Teamcenter ของซีเมนส์ที่ใช้สำหรับการบริหารจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (หรือ PLM) เข้ากับ Microsoft Teams ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันของไมโครซอฟท์ เพื่อให้พนักงานในโรงงานและพนักงานภาคสนามสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ สิ่งนี้จะช่วยให้พนักงานหลายล้านคนที่เข้าไม่ถึงเครื่องมือ PLM ในปัจจุบันสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบและผลิตได้ง่ายยิ่งขึ้นเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของงานประจำวัน

ซีเมนส์จะแบ่งปันรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Siemens Industrial Copilot ที่งาน SPS expo ที่จะจัดขึ้น ณ เมืองนูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2566

Windows นับเป็นแพลตฟอร์มที่เปรียบเสมือนพื้นฐานสำคัญให้คนทำงานทั่วโลกได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพมากมาย คงไม่ผิดนักถ้าจะพูดว่าคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของคนส่วนใหญ่มาพร้อม Windows ขณะที่เว็บไซต์หลายแห่งก็ถือกำเนิดและเติบโตบน Windows ซึ่งเป็นที่ที่พวกเราหลายคนเขียนอีเมลฉบับแรก เล่นเกมพีซีเกมแรก และเขียนโค้ดบรรทัดแรก

Windows เป็นที่ที่ผู้คนเข้าไปสร้างสรรค์และเชื่อมหากัน เพื่อเรียนรู้และบรรลุเป้าหมายของตัวเอง เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานในปัจจุบันกว่าพันล้านคน และในช่วงเวลาที่พีซีมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในชีวิตของเรา Windows 11 ก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณใกล้ชิดกับสิ่งที่คุณรักมากขึ้น

เจาะลึก Windows 11 อัดลูกเล่น พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ตอบโจทย์เรื่องส่วนตัวและความรู้สึกได้ดีมากยิ่งขึ้น

หลังจากเรียกเสียงฮือฮากันไปแล้วเมื่อกลางปีกับการเผยโฉมครั้งแรกของ Windows 11 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของไมโครซอฟท์ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่มากมายที่เปลี่ยนไปจาก Windows 10 ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วที่ไมโครซอฟท์จะปล่อยเวอร์ชันเต็มของ Windows 11 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 นี้เป็นต้นไป พร้อมสร้างประสบการณ์ใช้งานแบบใหม่เพื่อให้ผู้ใช้ได้ใกล้ชิดกับสิ่งที่รักและคนที่รักมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านแพลตฟอร์ม หลุดออกจากกรอบเดิมๆ ของตัวเอง ด้วยดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันเด็ด และการโต้ตอบกับ Windows 11 ได้อย่างเป็นธรรมชาติผ่านเมาส์ คีย์บอร์ด การสัมผัส และปากกา ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน รองรับทั้งการทำงาน เรียน และเล่นในเวลาเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงที่เรียกได้ว่ามากที่สุดที่เคยมีมาครั้งนี้ Windows 11 มีอะไรใหม่ อะไรดี ถึงถูกขนานนามว่าเป็น “Your Next Love” ไปดูกันเลย

1. ยกระดับการทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันให้สะดวกสบายมากกว่าที่เคย

Windows 11 ปรับเปลี่ยนดีไซน์ด้วยการเพิ่มความโค้งมนเข้าไปที่กรอบหน้าต่างแอปและเมนูต่างๆ พร้อมย้ายไอคอนในทาสก์บาร์มาไว้กลางจอ ให้ใกล้สายตาเวลาใช้งานจริงมากกว่าเดิม ส่วนเมนู Start ใหม่ก็มาในลุคที่เรียบง่ายกว่าที่เคย พร้อมเสิร์ฟทั้งแอปและไฟล์ที่ใช้งานประจำให้ได้คลิกกันง่ายๆ ส่วนใครที่เป็นมือใหม่และยังไม่คุ้นกับ Windows ก็มีแอป Get Started โฉมใหม่ที่พร้อมสอนการใช้งาน Windows 11 ขั้นพื้นฐานอย่างรวดเร็ว

ท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานในโลกดิจิทัล Windows 11 ยังถูกออกแบบมาพร้อมฟีเจอร์สุดว้าวเพื่อรองรับการทำงานแบบ Multi-tasking ให้ได้ประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด อย่าง Snap Layouts และ Snap Groups ตัวช่วยให้คุณจัดระเบียบหน้าจอที่เปิดแอปฯ ไว้หลายหน้าต่างให้แบ่งพื้นที่หน้าจอในแบบที่คุณใช้งานได้ถนัดทุกแอป ทำให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันไม่สะดุดและลื่นไหลมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิด Virtual Desktops เพิ่มเติม แยกพื้นที่ให้แต่ละหน้าจอเหมาะสำหรับแต่ละช่วงเวลาในชีวิตประจำวันได้เป๊ะยิ่งขึ้น โดยอาจแยกเป็นหน้าจอสำหรับทำงาน เรียน หรือเล่นเกม ช่วยเพิ่มความสะดวกเวลาใช้คอมทำงานมากขึ้นเป็นเท่าตัว

2. สร้างชีวิตที่ดีขึ้นได้ ด้วยการเชื่อมต่อกับคนที่คุณห่วงใยได้มากเท่าที่ต้องการ

การมีชีวิตที่ดี ก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่ดีด้วย Windows 11 มอบประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับบุคคลที่คุณห่วงใยได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการฝัง Microsoft Teams มาพร้อมในตัวเครื่อง ซึ่งอยู่บริเวณทาสก์บาร์เพื่อการเข้าถึงได้ง่าย ไว้ใช้สำหรับประชุมงานทางไกล เรียนออนไลน์ และติดต่อสื่อสารกับคนที่เรารักผ่านได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง หรือวิดีโอ หรือจะรับส่งไฟล์งานไปมาก็ได้ ข้อดีอีกอย่างคือรองรับการทำงานข้ามแพลตฟอร์มบนพีซีได้ทั้ง Windows, iOS และ Android ช่วยให้ติดต่อกันผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้สะดวก

เท่านั้นยังไม่พอ ในโลกที่คนนับล้านต้องใช้เวลามากขึ้นกับการประชุมออนไลน์ผ่านแอปต่างๆ Windows 11 ก็พร้อมอำนวยความสะดวก ลดโอกาสพลาดออกไมโครโฟน ด้วยปุ่มเปิด-ปิดเสียงตัวเองที่คลิกได้ทันทีไม่ว่าจะเปิดแอปไหนอยู่ และอีกหนึ่งฟังก์ชันสำหรับนักเดินทาง หรือ ถ้าเราอยากทำงานจากที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ Windows 11 ยังมาพร้อม Redocking ที่จะจดจำหน้าจอที่เราใช้งานครั้งล่าสุด เมื่อเรา unplug และไปเริ่มใช้งานใหม่อีกครั้ง ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม ไม่ต้องเปิดใหม่ ผู้ใช้งานก็ไม่ต้องเสียเวลาจดจำงานหรือความบันเทิงต่างๆ ที่เปิดทิ้งไว้อีกต่อไป

3. อัปเดตทันทุกเหตุการณ์ได้ก่อนใคร กับเครื่องมือคุณภาพที่คุมการทำงานด้วย AI

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวัน การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่แต่ละคนสนใจได้ก่อนใครถือเป็นเรื่องได้เปรียบ Windows 11 มาพร้อมเบราว์เซอร์ประสิทธิภาพสูง Microsoft Edge และได้นำ Widgets ฟีดส่วนบุคคลที่เคยมีให้ใช้ใน Windows 7 กลับมาให้ใช้งานอีกครั้งในรูปแบบใหม่ พร้อมไอคอนของตัวเอง ขับเคลื่อนโดย AI ที่ช่วยรวบรวม และคัดกรองข้อมูลที่ถูกใช้งานบ่อยๆ รวมถึงให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่สนใจ ข่าวพยากรณ์อากาศ ตารางนัดหมายอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งสามารถปรับแต่งเพิ่มลด Widgets ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวผู้ใช้แต่ละคนได้ด้วยเช่นกัน

ส่วน Microsoft Store หน้าร้านดาวน์โหลดแอปของ Windows ก็ผ่านการปรับโฉมใหม่ทั้งหมดให้มีความหลากหลาย เอื้อต่อการค้นหาและดาวน์โหลดแอปฯ มาใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และมีแอปฯ ใหม่มาลงอีกเพียบ ช่วยต่อยอดประสบการณ์ที่มีความหมาย และเชื่อมต่อเรื่องราวถึงกันได้อย่างลงตัว

4. สัมผัสชัยชนะในเกมสำคัญด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้นบนพีซีเกมที่ทรงพลังที่สุด

Windows 11 ให้คุณได้เล่นเกมที่ระดับมาตรฐานสูงสุด ชิงความได้เปรียบเหนือคู่ต่อสู้ผ่านการปลดล็อกฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ให้ทำงานได้เต็มศักยภาพ เสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นทำให้การเล่นเกมมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น Auto HDR ที่แต่งแต้มสีสันและแสงเงาในหลายๆ เกมให้ยิ่งสดใส สะดุดตา บนหน้าจอที่รองรับ HDR แม้ว่าตัวเกมจะไม่รองรับ HDR ก็ตาม พร้อมเต็มอิ่มกับประสบการณ์การเล่นเกมด้วยภาพกราฟิกคุณภาพสูงที่สมจริง และอัตราเฟรมที่ลื่นไหลด้วยด้วย DirectX 12 Ultimate ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี DirectStorage สามารถส่งข้อมูลเกมจาก SSD ไปการ์ดจอโดยตรงช่วยให้โหลดตัวเกมและฉากในเกมได้เร็วขึ้นกว่าที่เคย

5. ล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมใหม่ สร้างระบบนิเวศการทำงานเพื่อรับมือโลกแห่งอนาคต

Windows 11 มาพร้อมตัวเลือกอุปกรณ์ที่หลากหลายที่สุด ทั้งการ ปรับปรุงระบบสัมผัสให้ทำงานได้ดีขึ้น รองรับการสั่งงานด้วยเสียง แป้นพิมพ์สัมผัสใหม่พร้อมธีม และการเชื่อมต่ออุปกรณ์อัจฉริยะที่รองรับครบครันทั้งเมาส์ ปากกา และหน้าจอแบบสัมผัส ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว พร้อมมอบความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตได้ดียิ่ง ในส่วนฟังก์ชันของปากกาสไตลัสนั้นได้รับการปรับแต่งให้น่าใช้ ส่งมอบอิสระในทุกลายเส้น ลื่นไหลกับทุกการขีดเขียนที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าการทำงานของปากกาได้ด้วยเช่นกัน โดยแตะที่ไอคอนปากกาตรงบริเวณทาสก์บาร์ เปิดคำสั่ง Edit pen menu จากนั้นปักหมุดโปรแกรมที่ใช้งานบ่อยๆ เอาไว้ให้เรียกใช้ได้แบบทันท่วงที แถมมีโปรแกรมให้ปักหมุดอีกหลายโปรแกรม เช่น Paint และ Snipping tools เป็นต้น

ไมโครซอฟท์มุ่งมั่นในการสร้างระบบนิเวศในการทำงานให้แข็งแกร่งรองรับเทรนด์การทำงานที่ต้องสะดวก รวดเร็ว ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพไปพร้อมกัน โดยมั่นใจได้ว่าผู้ใช้งาน Windows 11 จะได้พบประสบการณ์ดิจิทัลในการทำงานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งขยายโอกาสให้นักพัฒนา และสายงานครีเอเตอร์ได้ต่อยอดงานอย่างสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด ที่สำคัญไมโครซอฟท์ใจดีให้อัปเดตเป็น Windows 11 ฟรี! สำหรับอุปกรณ์ Windows 10 ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด1 และถ้าอยากรู้ว่าพีซีเครื่องปัจจุบันพร้อมแล้วหรือยังที่จะอัปเกรดเป็น Windows 11 ก็สามารถดาวน์โหลดแอป PC Health Check ไปเช็กสภาพกันได้ที่ https://aka.ms/GetPCHealthCheckApp

ไมโครซอฟท์ตั้งใจสร้างสรรค์ให้ Windows 11 เป็นเสมือนพื้นที่ปลอดภัยทางความคิดและความรู้สึกที่เข้ามาช่วยขยายศักยภาพการทำงาน ยกระดับประสบการณ์ในการเรียนรู้ ควบคู่ความบันเทิงในทุกแขนง และเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น พร้อมกันหรือยังกับการใกล้ชิดกับสิ่งที่รักและคนที่รักมากยิ่งกว่าเดิม เร็วๆ นี้กับ Windows 11 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน Windows 11 สามารถค้นหาได้ที่นี่

##

 Windows 11 พร้อมสำหรับทั้งการทำงาน เรียน และเล่น ส่งมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับผู้ใช้งาน

X

Right Click

No right click