เอปสันขยายไลน์สินค้าโฮมโปรเจคเตอร์ ล่าสุดเปิดตัวเลเซอร์ โฮมโปรเจคเตอร์ระดับ 4K รุ่น EH-LS800B ซึ่งมีระยะฉายสั้นพิเศษ เพื่อความบันเทิงขนาดจอยักษ์สำหรับความบันเทิงภายในบ้าน
เอปสัน ผู้ผลิตโปรเจคเตอร์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งทั่วโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำการพัฒนานวัตกรรม พร้อมยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้าน ด้วยการเปิดตัวเลเซอร์ โฮมโปรเจคเตอร์ ระบบ 3LCD รุ่น EpiqVision Ultra EH-LS800B Laser Projection TV ความสว่าง 4,000 ลูเมน มาพร้อมเทคโนโลยี 4K PRO-UHD ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส มีชีวิตชีวา สามารถฉายภาพขนาด 80 นิ้ว ความละเอียดระดับ 4K ด้วยระยะห่างเพียง 2.3 เซนติเมตรเท่านั้น ถือเป็นโปรเจคเตอร์ที่มีระยะฉายสั้นที่สุดในตลาดโฮมโปรเจคเตอร์ในปัจจุบัน
สำหรับคุณสมบัติเด่นของ EH-LS800B ประกอบด้วยความสามารถในการฉายภาพที่มีสีสันสดใส คมชัดสมจริงระดับ Full HD ด้วยฟังก์ชันที่รองรับมาตรฐาน HDR10 และ HLG ทำให้สามารถรับชมความบันเทิงได้แม้ในเวลากลางวัน ผู้ใช้สามารถตั้งค่าไวท์บาลานซ์ ตั้งค่าภาพตามสีของฉากเพื่อให้ภาพที่ดีที่สุด ค่าความอบอุ่นของแสง และตั้งค่าตามปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีโหมดสำหรับเล่นเกมที่แสดงภาพอย่างรวดเร็ว ลดช่วงเวลา lag เหลือเพียง 0.02 วินาที มีช่องเชื่อมต่อ HDMI รวม 3 ช่อง (สำหรับ ARC และเกมอย่างละ 1 ช่อง) พร้อมติดตั้งระบบ AndriodTV และลำโพง 2.1 ของ Yamaha ในตัว ทั้งยังฉายภาพได้ใหญ่สุดถึง 150 นิ้ว ซึ่งเมื่อรวมกับภาพฉายคุณภาพสูงด้วยแล้ว ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ความบันเทิงเสมือนมีโรงภาพยนตร์ภายในบ้าน ส่วนในเรื่องการติดตั้ง ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย รูปลักษณ์ดีไซน์ที่ทันสมัย เรียบหรู ช่วยเพิ่มความมีสไตล์ให้กับมุมโปรดภายในบ้าน
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอปสันไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งๆ ขึ้น EH-LS800B โฮมโปรเจคเตอร์เลเซอร์ระยะฉายสั้นพิเศษรุ่นล่าสุดนี้ คืออีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจน เพราะสามารถมอบประสบการณ์คุณภาพของภาพระดับสูง ช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ จึงช่วยให้การใช้เวลาของกลุ่มเพื่อนและครอบครัว เป็นเวลาคุณภาพอย่างแท้จริง”
Epson SureLab SL-D530 เครื่องพิมพ์ภาพเพื่อธุรกิจแล็บสีและร้านอัดภาพระบบดิจิทัล จากเอปสัน
ผู้บริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร และนายคณิน ธรรมภิบาลอุดม หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF ประเทศไทย) จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องทะเลไทยและแนวทางการอนุรักษ์ ให้แก่สื่อมวลชนและครอบครัว พร้อมเรียนรู้การปลูกปะการังเพื่อพลิกฟื้นความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลแสมสาร ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสู่การเป็นองค์กรที่ยั่งยืนของเอปสัน ตามวิสัยทัศน์ Epson 25 Renewed ณ ค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ประกาศความร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระดับโลก ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระยะเวลา 3 ปี ในการฟื้นฟูและอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ทั่วโลก
ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น และ WWF มีจุดยืนร่วมกันในด้านการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และเคยทำงานร่วมกันในโครงการอนุรักษ์ทางทะเลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อมีนาคม 2565 ก่อนจะจับมือกันเป็นพันธมิตร เพื่อดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ 3 ประการ ประกอบด้วย 1) จัดการกับรอยเท้านิเวศของเอปสัน 2) สนับสนุนโครง การฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าของ WWF ใน 7 ประเทศทั่ว 4 ภูมิภาค และ 3) สร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อประเด็นสิ่งแวดล้อม
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เอปสันจะทำการสนับสนุนเงิน 240 ล้านเยน หรือประมาณ 59 ล้านบาท ในระยะ เวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่มีนาคม 2566 สำหรับใช้ในโครงการด้านป่าไม้ของ WWF โดยตลอดระยะเวลาความร่วมมือ
เอปสันในฐานะองค์กรสมาชิกในโครงการ Forests Forward ของ WWF จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และฟื้นฟูธรรมชาติในผืนป่าที่เสียหายจากการถูกตัดไม้ในพื้นที่ต่างๆ ที่ WWF เข้าดำเนินงาน และจะช่วยปรับปรุงด้านความยั่งยืนในห่วงโซอุปทานให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ความร่วมมือนี้ยังจะมุ่งสร้างโลกที่มีธรรมชาติที่ดีขึ้นกว่าเดิม (nature-positive) ผ่านการผลักดันการใช้ทรัพยากรป่าไม้ (กระดาษ) ในภาคธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ รวมถึงการอนุรักษ์ระบบนิเวศน้ำสะอาดและกิจกรรมที่จะนำไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งจะมีตามมาในอนาคต
นายยาสึโนริ โอกาว่า ประธานบริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เอปสันรู้สึกยินดีที่ได้ลงนามในข้อ ตกลงความร่วมมือกับ WWF โลกกำลังเผชิญกับความหายนะทางสิ่งแวดล้อม จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องลงมือทันที เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของโลกใบนี้เอาไว้ก่อนที่มันจะสายเกินไป การร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอปสันในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดปริมาณของเสีย และทำให้แน่ใจว่าการใช้ทรัพยากรธรรมชาตินั้นเป็นไปอย่างยั่งยืน ด้วยเป้าหมายที่จะสร้างอนาคตที่ผู้คนสามารถใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน องค์กร WWF จึงเหมาะสมที่สุดสำหรับเอปสัน”
ในปี 2564 เอปสันได้ประกาศวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าที่จะก้าวไปเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ เป็นลบรวมถึงไม่มีการใช้ทรัพยากรใต้ดินให้ได้ภายในปี 2593 และเพื่อทำให้เป้าหมายนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ บริษัทฯ ได้ริเริ่มกระบวนการใหม่ๆ ที่รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ การใช้ทรัพยากรแบบวงปิด การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม เอปสันตระหนักดีว่าการมีส่วนร่วมของชุมชนมีความจำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน เช่นเดียวกับความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีแนวคิดเดียวกัน อย่าง WWF ที่จะร่วมกันสร้างความตระหนักรู้และดำเนินการอย่างกล้าหาญ เพื่อแก้ ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญอยู่
นายโตอาบิ ซาดาโยสิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WWF ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “WWF มีความยินดีที่ได้ร่วม มือกับเอปสัน เพื่ออนาคตของป่าไม้ และไม่ใช่แค่เพียงความมุ่งมั่นของบริษัทเพียงบริษัทเดียว แต่นี่ยังสะท้อนให้เห็นถึงย่างก้าวที่สำคัญของความพยายามอย่างเร่งรีบจากภาคเอกชน เพื่อป้องกันความเสื่อมโทรมของธรรมชาติ โดย เฉพาะป่าไม้ที่เราทุกคนต้องพึ่งพา”
การคุ้มครองและการจัดการต่อระบบนิเวศในผืนป่าด้วยความรับผิดชอบเป็นวาระสำคัญในการประชุมระดับโลกเมื่อเร็วๆ นี้ อย่าง การประชุม UN COP27 ว่าด้วยเรื่องสภาพภูมิอากาศ และ UN COP15 ว่าด้วยเรื่องความหลาก หลายทางชีวภาพ แสดงให้เห็นว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องวิกฤตที่ทุกองค์กรจะต้องช่วยกันขับเคลื่อน ด้วยการให้คำมั่นที่แน่วแน่และสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน เพราะนี่คือสิ่งจำเป็นต่อการฟื้นคืนความสูญเสียของความหลากหลายทางชีวภาพ และการสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ด้วยการเป็นพันธมิตรและการมีส่วนร่วมในโครงการ Forests Forward เอปสัน และ WWF จะมุ่งมั่นรักษาผืนป่าที่ถูกคุกคาม ทั้งภายในและนอกเหนือประเทศที่เอปสันมีห่วงโซ่อุปทานไปถึง ผ่านการบริหารจัดการป่าไม้และฟื้นฟูธรรมชาติให้ดียิ่งขึ้น
ด้านนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอปสันและ WWF ได้มีการร่วมงานกันตั้งแต่ปี 2565 ในโครงการอนุรักษ์ทางทะเล เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มจากการฟื้นฟูปะการังที่สิงคโปร์ ก่อนจะขยายไปยังอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย รวมถึงการฟื้นฟูป่าชายเลนในฟิลิปปินส์ โดยให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และพันธมิตรทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่ค้าและสื่อมวลชน สำหรับประเทศไทย เอปสันจะยังสานต่อกิจกรรมอนุรักษ์ทางทะเล ทั้งยังขยายขอบเขตการทำงานร่วมกับ WWF ประเทศไทยในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ เพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพทั้งบนบกและใต้น้ำ”
เอปสัน เปิดตัวแคมเปญ “Make The Switch” เพื่อสื่อสารไปยังพนักงานรวมถึงบุคคลทั่วไปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้