พฤกษาผู้นำอันดับหนึ่งในวงการอสังหาฯ โชว์ผลประกอบการปี 61 ทำผลงานนิวไฮเรคดอร์ดสร้างยอดขาย 51,101 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 25 ปี มีรายได้ 44,901 ล้านบาท และกำไร 6,022 ล้านบาท เตรียมเดินหน้าชูแผนกลยุทธ รักษาความเป็นผู้นำอันดับ ด้วย Portfolio ที่แข็งแกร่ง ชูนวัตกรรมเทคโนโลยี INNO-TECH ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมเปิดตัว The Living Application ที่ทำให้ทุกเรื่องบ้าน ครบ จบในแอปเดียว ตลอดจนใส่ใจในเรื่องของคุณภาพเป็นเลิศและบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยทำยอดขายได้สูงถึง 51,101 ล้านบาท  ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 25 ปี นับจากก่อตั้งพฤกษา เติบโตเพิ่มขึ้น 7.5% จากปี 2560 ที่มียอดขายรวม 47,535 ล้านบาท มีรายได้อยู่ที่ 44,901 ล้านบาท เติบโต 2.2% จากปี 2560 ที่มีรายได้ 43,935 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6,022 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10.4% จากปี 2560 ที่มีกำไรอยู่ที่ 5,456 ล้านบาท

ด้านภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2562 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่เข้มข้นในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ 5% โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 54,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5.7% เป้ารายได้ 47,000 ล้านบาท เติบโต 4.7% โดยมาจากแผนการเปิดโครงการใหม่ จำนวน 55 โครงการ มูลค่า 68,100 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมียอดขายที่รอรับรู้ราย ณ สิ้นปี 2561 ที่ 33,233 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดที่สูงสุดเท่าที่ผ่านมา และเป็นยอดขายรอรับรู้รายได้ในปี 2562 อยู่ที่ 21,638 ล้านบาท

สำหรับแผนกลยุทธ์หลักในปี 62 บริษัทฯ มุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนปรับ Portfolio ของกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มระดับกลางบนเพิ่มมากขึ้น และขยายโครงการใหม่ไปยังจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ ขอนแก่น ระยอง สระบุรี และนครปฐม พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิมในตลาดแวลู โดยในปีนี้มีแผนเปิดตัวโครงการไฮไลท์หลายโครงการ อาทิ โครงการบ้านเดี่ยวสำหรับกลุ่มตลาดบนกับแบรนด์ The Palm รวมถึงมีการนำแบรนด์ IVY กลับมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์มากขึ้น และรุกตลาดพรีเมียมเพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำตลาดโดยเตรียมเปิดตัวแบรนด์ “Chapter” ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ของพฤกษา เพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าในระดับราคา 5 – 10 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

ทั้งนี้พฤกษาได้ต่อยอดความสำเร็จ ขับเคลื่อนองค์กรผ่าน Digital Transformation เดินหน้าด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี INNO -TECH เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด ด้วยการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาปรับใช้ในทุกกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่การนำ Big Data ที่มีอยู่มาวิเคราะห์พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเพื่อนำมาใช้พัฒนาในด้านต่างๆ อาทิ การนำข้อมูลมาพัฒนาด้าน Product and Innovation Design สำหรับที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างความแตกต่างและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตรงกับความต้องการมากขึ้น การทำการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุก Customer Journey ได้เฉพาะเจาะจง รวมไปถึงการพัฒนาด้านการบริการด้วยการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อมอบความสะดวกสบายแก่ลูกบ้านในการอยู่อาศัยแบบครบวงจรอย่าง The Living Application ที่ทำให้ทุกเรื่องบ้าน ครบ จบ ในแอปเดียว ตั้งแต่เริ่มค้นหาบ้าน ข่าวสารและโปรโมชั่น ไปจนถึงการตรวจรับบ้านและเข้าอยู่อาศัย ได้แก่ การชำระค่าผ่อนดาวน์ รวมไปถึงระบบ Smart Home (สั่งการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านผ่านมือถือ), Smart Facilities (จองพื้นที่ส่วนกลาง), Mail & Parcel แจ้งเตือนรับจดหมายหรือพัสดุ และในแอปพลิเคชันยังมีข้อมูลสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า Pruksa Member และบริการต่างๆ จากผู้ช่วยอัจฉริยะ อาทิ บริการทำความสะอาด ล้างแอร์ รับ-ส่งพัสดุ งานช่าง เป็นต้น สำหรับลูกค้าพฤกษาสามารถดาวน์โหลดผ่าน Play Store และ App Store ได้แล้ววันนี้

นอกเหนือจากแผนกลยุทธ์ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในเรื่องของคุณภาพเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่พฤกษายังคงมุ่งเน้นใส่ใจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแผนรุกธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทฯ มากยิ่งขึ้น” นางสุพัตรา กล่าว

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงข่าว EXIM BANK ครบรอบ 25 ปี พร้อมทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่างเครือข่ายธุรกิจ การเงิน และองค์ความรู้ ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดใหม่ และสร้างผู้ส่งออก SME ที่แข่งขันได้ในทุกตลาดทั่วโลก พร้อมเปิดบริการ “สินเชื่อส่งออกเพิ่มสุข” เป็นสินเชื่อหมุนเวียนที่ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยส่งออก และต้องการเริ่มต้นส่งออก ขณะที่ EXIM BANK มีผลดำเนินงานปี 2561 เป็นที่น่าพอใจ มีเงินสินเชื่อคงค้างสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 108,589 ล้านบาท ทั้งยังมีปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกันที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 92,448 ล้านบาท ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆนี้

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดย คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ 2562 OCEAN Family Party 2019” ในธีม DIGILOVE ปาร์ตี้สุดล้ำด้วยพลังความรัก พร้อมก้าวสู่โลกยุคดิจิทัลร่วมส่งพลังความรักให้กับทุกคน เพื่อฉลองครบรอบ 70 ปี และขอบคุณพนักงานที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจมาตลอดทั้งปี ทำให้บริษัทเติบโตเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนั้นภายในงานยังมีการประกวดแต่งกายดีเด่นในธีม DIGILOVE และมอบรางวัลสุดพิเศษกว่า 80 รางวัลให้กับผู้โชคดี  ปิดท้ายด้วยดนตรีสุดมันส์ และการร่วมร้องเพลงสุดเซอร์ไพรส์จากผู้บริหารสร้างรอยยิ้มและความสนุกสนานในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักให้กับพนักงานทุกคน ณ โรงแรมวินด์เซอร์ สวีทส์ กรุงเทพ เมื่อเร็ว ๆ นี้

สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติประกาศรายชื่อ 13 องค์กรไทยคุณภาพ ทั้งองค์กรรัฐ เอกชนและรัฐวิสาหกิจ ดำเนินกิจการในภาคการศึกษา การสาธารณสุข การบริการ และภาคอุตสาหกรรม ที่ผ่านเกณฑ์คว้ารางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านลูกค้า บุคลากร การปฏิบัติการ หรือนวัตกรรม (Thailand Quality Class Plus: TQC Plus) และรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ หรือ (Thailand Quality Class: TQC) ประจำปี 2561 ได้สำเร็จ ในงานแถลงข่าวผลรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นในวันพุธที่ 30 มกราคม 2562 เวลา 09.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมทองคำ ชั้น 1 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม สำหรับในปีนี้ ไม่มีองค์กรใดผ่านเกณฑ์การพิจารณาให้ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA)

งานแถลงข่าวผลรางวัลคุณภาพแห่งชาติในครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.พสุ โลหารชุน กล่าวถึงการผลักดันและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเพิ่มผลิตภาพและขีดความสามารถขององค์กรไทยอย่างยั่งยืนไว้ว่า “หนึ่งประเด็นสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้สามารถรับมือกับความโลกาภิวัฒน์คือการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยต้องทำให้ผลิตภาพเกิดขึ้นกับทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งรางวัลคุณภาพแห่งชาติได้ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว เพื่อให้องค์กรไทยสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงกระบวนการ ขีดความสามารถและผลลัพธ์ ผ่านระบบการพัฒนาและประเมินผลต่างๆ สามารถยกระดับผลิตภาพของประเทศไทยได้อย่างสัมฤทธิ์ผล”

ด้านประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ คุณปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประกาศรายชื่อองค์กรที่ได้รับรางวัล ในปี 2561 จำนวนทั้งสิ้น 13 องค์กร ดังต่อไปนี้

  • รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านการปฏิบัติการ (Thailand Quality Class Plus : Operation) จำนวน 1 องค์กร ได้แก่

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เอทิลีนออกไซด์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

  • รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่นด้านลูกค้า (Thailand Quality Class Plus : Customer) จำนวน 1 องค์กร ได้แก่

ธนาคารออมสิน

  • รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Class : TQC) จำนวน 11 องค์กร ได้แก่
  1. เขื่อนรัชชประภา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  2. เขื่อนวชิราลงกรณ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  3. เขื่อนศรีนครินทร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  4. คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  5. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
  6. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  7. บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด
  8. บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด
  9. บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)
  10. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  11. โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

และยังมีการกล่าวถึงผลลัพธ์และกลยุทธ์ในการสนับสนุนให้รางวัลคุณภาพแห่งชาติเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการยกระดับองค์กรไทยให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงในอนาคต “คณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินโครงการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ประจำปี  2562 และต่อเนื่องในปีถัดไป  โดยมีเป้าหมายในการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง เช่น ในกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve ให้ขับเคลื่อนด้วยผลิตภาพ ผ่านการดำเนินงานและกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการผลักดันให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ทั้งในด้านการดำเนินงานและด้านผลิตภัณฑ์ การขยายโครงการรางวัลคุณภาพแห่งชาติเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ อาทิ องค์กรขนาดใหญ่ องค์กรในตลาดหลักทรัพย์ และองค์กรในภาคการศึกษาในระดับอุดมศึกษา รวมทั้งการเพิ่มความร่วมมือระดับนโยบายกับเครือข่ายรางวัลคุณภาพแห่งชาติของภาคส่วนอื่นๆ ตลอดจนการเพิ่มจำนวนและพัฒนาผู้ตรวจประเมินรางวัลคุณภาพแห่งชาติ เพื่อให้มีจำนวนผู้เชี่ยวชาญที่เพียงพอ เพื่อให้สามารถรองรับกับจำนวนองค์กรที่ต้องการสมัครขอรับรางวัลที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตได้”

ดร.พานิช เหล่าศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ กล่าวถึงบทบาทและการดำเนินงานที่สำคัญของสำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ในปี 2561-2562 “เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ เป็นบรรทัดฐานสำหรับการประเมินตนเองขององค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับองค์กรทุกประเภท ทุกขนาด และทุกภาคส่วน ให้มีระบบการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ เพื่อยกระดับองค์กรภาคอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

อีกทั้งยังกล่าวถึงเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติที่ได้รับการนำไปปรับใช้เป็นเกณฑ์สำหรับหน่วยงานที่กำกับดูแลหน่วยงานรัฐ  รัฐวิสาหกิจ ทั้งในด้านการสาธารณสุขและการศึกษา “ภาคสาธารณสุขได้นำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติไปปรับใช้ในระบบการรับรองคุณภาพโรงพยาบาลหรือ Hospital Accreditation: HA   ส่วนภาคการศึกษาในระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาได้นำเกณฑ์ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ Office of the Basic Education Commission Quality Award: OBECQA  ตลอดจนภาคการศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ต่อยอดไปสู่การพัฒนาเกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศ หรือ Education Criteria for Performance Excellence: EdPEx”

“นอกจากนี้ ภาครัฐยังได้นำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติไปประยุกต์ใช้ในการวางแนวทางการปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กรการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ หรือ Public Sector Management Quality Award: PMQA เพื่อการประเมินองค์กรที่ครอบคลุมภาพรวมในทุกมิติ สามารถยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล ส่วนภาครัฐวิสาหกิจที่ได้ใช้ระบบประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ หรือ State Enterprise Performance Appraisal: SEPA เป็นกลไกส่งเสริมขีดความสามารถในการดำเนินงานให้เทียบเท่าระดับสากล ก็ได้นำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติไปช่วยในการปรับปรุงระบบการประเมินของตนเองด้วยเช่นกัน”

ตลอดจนกล่าวถึงกิจกรรมใหม่ที่สำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติยังได้ริเริ่มขึ้น เพื่อขยายผลในการนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติไปใช้ในองค์กรภาคส่วนต่างๆ และกระตุ้นให้องค์กรมีความพร้อมในการสมัครขอรับรางวัลเพิ่มขึ้น“สำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติริเริ่มกิจกรรมการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจประเมินองค์กรที่ผ่านการรับรอง (Organization Assessment Certified Expert)  โดยพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจประเมินองค์กร พร้อมแบบประเมินองค์กร เพื่อช่วยให้องค์กรที่ริเริ่มนำเกณฑ์รางวัลมาใช้ในองค์กร ได้มีเครื่องมือตรวจประเมินตนเองพร้อมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ”

“กิจกรรมใหม่ประการต่อมาคือ การจัดทำสรุปองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการขององค์กรที่ได้รับรางวัลเพื่อเผยแพร่ และหนังสือ Best Practices ซึ่งเผยแพร่วิธีปฏิบัติสู่ความเป็นเลิศขององค์กรจากการศึกษาในเชิงลึก รวมทั้งยังได้ริเริ่มโครงการ Collaborative Assessment for TQC กิจกรรมความร่วมมือเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อยกระดับองค์กรที่มีมาตรฐานการบริหารจัดการที่ดีสู่ความเป็นเลิศตามแนวทางเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ และกิจกรรม Collaborative Assessment for SMEs ซึ่งมุ่งสร้างองค์กร SMEs ต้นแบบที่ใช้เกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ”

 “แผนงานในอนาคตอีกประการหนึ่งคือการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ The Global Excellence Model Council หรือ GEM Council ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่มีความร่วมมือกันในด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ การศึกษาวิจัย และเปรียบเทียบการดำเนินงานด้านการพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ”

นางชวินดา หาญรัตกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เข้ารับรางวัล Best Asset Management CEO Thailand จาก Mr. Phil Blizzard ในงาน International Finance Awards 2018 จัดโดย International Finance Publications ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินระดับแนวหน้าของประเทศอังกฤษ ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เมื่อเร็วๆ นี้  

X

Right Click

No right click