เอสซีจี เผยมุมมองการเปลี่ยนผ่านสู่สังคม Net Zero ควบคู่สร้างการเติบโตให้เอเชียอย่างยั่งยืน ต้องใช้จุดแข็งของประเทศผสานพลังของเทคโนโลยี แก้โจทย์พลังงานสะอาดและพัฒนานวัตกรรมกรีน ในงาน 3rd Annual Sustainability Week Asia

การสร้างสมดุลระหว่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ควบคู่ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนบนสังคม Net Zero นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ได้แบ่งปันมุมมองในประเด็นดังกล่าว ร่วมกับผู้นำองค์กรระดับโลกบนเวทีเสวนา หัวข้อ “Achieving Net Zero: Matching Ambition with Action” ในงาน 3rd Annual Sustainability Week Asia โดย Economist Impact เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ณ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชันโฮเทล กรุงเทพฯ

นายธรรมศักดิ์ กล่าวบนเวทีเสวนาว่า “เอสซีจีเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ใช้พลังงานมาก ถ้าเอสซีจีจะไปถึงเป้าหมาย Net Zero 2050 ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต อย่างธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน กำลังเดินหน้าปูนคาร์บอนต่ำด้วยนวัตกรรมวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยีการผลิตมาตรฐานใหม่ พร้อมส่วนผสมพิเศษที่เอสซีจีพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ทำให้ปูนคาร์บอนต่ำ เจเนอเรชันแรก สามารถลดคาร์บอนไดออกไซด์ ร้อยละ 10 ปีนี้เตรียมออกปูนคาร์บอนต่ำ เจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้เพิ่มขึ้นจากรุ่นแรก อีกร้อยละ 5 และจะพัฒนารุ่นต่อ ๆ ไป ให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นเรื่อย ๆ”

ในแง่ของความท้าทายนายธรรมศักดิ์มองถึงเรื่องการเข้าถึงพลังงานสะอาด “การปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตสู่คาร์บอนต่ำให้ได้ไว ต้องมองหาพลังงานสะอาดที่ราคาจับต้องได้ เข้าถึงง่าย ซึ่งแต่ละพื้นที่มีสิ่งที่ตอบโจทย์แตกต่างกัน”

กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ขยายความถึงแนวทางต่อว่า “เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมากต่อการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด สิ่งสำคัญคือ การนำเทคโนโลยีมาผสานกับจุดแข็งของแต่ละพื้นที่หรือภูมิภาค เช่น ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม สามารถนำเทคโนโลยีมาเปลี่ยนพืชผลเกษตรเหลือใช้ อย่างใบอ้อย ฟางข้าว ซังข้าวโพดให้กลายเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงทดแทนพลังงานฟอสซิล ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะที่ควบคุมต้นทุนได้ดี เอสซีจีจึงเร่งเพิ่มการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลอย่างเต็มที่”

“นอกจากนั้น ผลิตผลเกษตรยังสามารถนำมาพัฒนานวัตกรรมกรีน อย่างพลาสติกชีวภาพ ซึ่งตลาดโลกต้องการมาก ทิศทางนี้จะช่วยให้เราเดินหน้าธุรกิจ เศรษฐกิจ ควบคู่กับสังคม Net Zero ได้เร็วยิ่งขึ้น องค์กรจึงควรลงทุนและสร้างความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีกับทุกภาคส่วน”

นายธรรมศักดิ์ ทิ้งท้ายถึงความมุ่งมั่นของเอสซีจี “เราพร้อมร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืนในเอเชียและทั่วโลก เพื่อสร้างสังคม Net Zero ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมกรีน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามแนวคิด ‘Passion for Inclusive Green Growth’ ของเอสซีจี”

3rd Annual Sustainability Week Asia โดย Economist Impact เวทีขับเคลื่อนความยั่งยืนระดับเอเชีย ภายใต้แนวคิด ‘Achieving climate targets, faster’ จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มุมมองเชิงลึก และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ใช้ได้จริง เพื่อสร้างความร่วมมือแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศและการส่งต่อเทคโนโลยีโดยประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจ โดยมีผู้นำทางธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ ตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ และ NGOs ทั่วเอเชียเข้าร่วมกว่า 800 รายภายในงาน และจากช่องทางออนไลน์อีกกว่า 2,000 ราย

พร้อมชูคอนเซ็ปต์ เพื่อนข้างบ้านที่รู้ใจ โดย น้องโฮมมี่ เพื่อนซี้คนรักบ้าน

เอสซีจี ยกทัพโซลูชันเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจและลดต้นทุนสำหรับธุรกิจโรงแรม (Hotel) ร้านอาหาร (Restaurant) และธุรกิจจัดเลี้ยง (Café and Catering) หรือ HoReCa ด้วยโซลูชันที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการและตอบโจทย์ทางธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Upvalue Your Business ​with SCG Renovation Solutions​” ในงาน THAIFEX-HOREC Asia 2024 ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคมนี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

จากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง หลังสถานการณ์โควิด 19  จึงเป็นโอกาสที่ดีในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลาง HoReCa ของเอเชีย เอสซีจีพร้อมเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการในธุรกิจดังกล่าว ด้วยการเสริมจุดแข็งและเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ ผ่าน 3 โซลูชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ได้แก่ “โซลูชันเรื่องเสียงครบวงจร” เพิ่มประสิทธิภาพเรื่องเสียงมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวให้กับห้องพัก ห้องจัดเลี้ยง และห้องสัมมนาของโรงแรม ด้วยผนังกันเสียงและดูดซับเสียง เพื่อควบคุมคุณภาพเสียง พร้อมลดเสียงสะท้อนให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน  “โซลูชันบริหารจัดการพลังงาน” กับ SCG Solar Roof Solutions ระบบหลังคาโซลาร์ครบวงจร ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าจากการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการพลังงานโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากเอสซีจี อีกทั้งมีบริการหลังการขายที่คอยดูแล ให้คำแนะนำ ตรวจเช็กระบบ ตลอดอายุการใช้งาน พร้อมรับประกัน 25 ปี และ “โซลูชันรีโนเวทหลังคาอาคารขนาดใหญ่” ช่วยแก้ปัญหาหลังคารั่ว ร้าว เก่า โทรม ไม่ว่าจะเป็นการรื้อ-เปลี่ยนหลังคาทั้งผืน (Re-Roof) หรือซ่อมหลังคารั่วแบบ Top Up Roof โดยไม่ต้องรื้อหลังคาเก่าออก และบริการพ่นสีหลังคาใหม่ (Repaint) ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ มั่นใจได้เรื่องความสวยงามและความปลอดภัย เอสซีจีเชื่อมั่นว่า โซลูชันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้ธุรกิจในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน ทั้งในด้านการลดต้นทุน และการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจด้วยประสิทธิภาพจากโซลูชันต่าง ๆ ที่พัฒนาจากสินค้าคุณภาพและความเชี่ยวชาญของเอสซีจี ที่จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะด้านได้อย่างตรงจุด รวมถึงการดูแลหลังการขายและการรับประกันที่ทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจ ไร้กังวล

ทั้งนี้ นอกจากธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง เอสซีจียังมีบริการครบวงจรสำหรับธุรกิจอื่น ๆ ด้วย ทั้งอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานศึกษา รวมไปถึงโรงงานอุตสาหกรรม มาพบโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้ที่บูธเอสซีจี โซน FURNISHING Hall 12 บูธ V24 ในงาน THAIFEX-HOREC Asia 2024 วันที่ 6-8 มีนาคม 67 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือสอบถามรายละเอียดบริการเพิ่มเติมได้ที่ SCG HOME Contact Center 02-586-2222

ชูภาพงานออกแบบอาคาร ด้วยรางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

X

Right Click

No right click