November 05, 2024

นับถอยหลังมาตรการ “อีซี่ อี - รีซีท” อาทิตย์สุดท้าย เคทีซีชวนสมาชิกใช้สิทธิ์ ณ ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับนักอ่านทุกวัยด้วยส่วนลดสูงสุด 20% และใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืนเพิ่มอีก 18% หลังยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร้านหนังสือโต 3% สวนกระแสพฤติกรรมสมาชิกนิยมอ่านหนังสือผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

นายธีรพจน์ โชคอนันตัง ผู้อำนวยการ การตลาดบัตรเครดิต "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เคทีซีในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ (Learning Organization) พร้อมสนับสนุนคนไทยรักการอ่านจึงได้ร่วมกับพันธมิตรจากร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศประกอบด้วย เอเชียบุ๊คส / ศูนย์หนังสือจุฬา / บีทูเอส / นายอินทร์ / ซีเอ็ดบุ๊ค / บุ๊คกาซีน และ สุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ มอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีดังนี้ 1) ส่วนลดสูงสุด 20% หรือ สูงสุด 450 บาท 2) แลกรับเครดิตเงินคืน 18% เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีทุก 500 บาท และใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 500 คะแนน สามารถลงทะเบียนได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ พิมพ์ R24 เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรฯ 16 หลัก และส่งมาที่เบอร์โทรศัพท์ 06 1384 5000 / เว็ปไซต์ : ktc.promo/r24 และ KTC PHONE 02 123 5000

นอกจากนี้ สมาชิกยังได้รับสิทธิพิเศษ ผ่อน 0.69% ต่อเดือน นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป (รวมรายการที่มียอดซื้อตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป) ขอรับบริการได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 ในวันที่ซื้อสินค้าเท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ktc.co.th/promotion/book-hobby-entertainment/book-and-publishing/read-n-greet-2024

“ถึงแม้ว่าปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะหันไปอ่านหนังสือผ่านช่องทางอื่นๆ อาทิ ออนไลน์ โซเชียลมีเดียมากขึ้น แต่การซื้อหนังสือเล่มในปี 2566 ที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายในหมวดหนังสือยังคงสามารถเติบโตสวนกระแสได้ถึง

3% และต้องบอกว่าการซื้อหนังสือในช่วงนี้ สมาชิกยังได้รับสิทธิ์ตามมาตรการของภาครัฐ “อีซี่ อี – รีซีท” (Easy E-Receipt) ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกไม่เกิน 50,000 บาทอีกด้วย อย่างไรก็ดี สิทธิพิเศษที่เคทีซีมอบให้สมาชิกสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ” นายธีรพจน์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ 

หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยสูงสุด 16% ต่อปี

เคทีซีร่วมส่งเสริมคนไทยใส่ใจสุขภาพจับมือพันธมิตรชั้นนำร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์ออกกำลังกายมอบส่วนลดสูงสุด 15% และลดเพิ่มอีก 15% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป พร้อมใช้สิทธิ์ “อีซี่ อี - รีซีท” ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดอีก 50,000 บาท

นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยให้ความสำคัญและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่งผลต่อยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายทั้งหมด ปี 2566 เติบโต 20% และจากการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการ “อีซี่ อี – รีซีท” (Easy E-Receipt) โดยให้สิทธิ์กับผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ยกเว้นห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท เคทีซีจึงได้ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำที่ร่วมรายการที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 – 15 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเป็นการสนับสนุนมาตรการของภาครัฐและกระตุ้นให้เกิดการบริโภคในประเทศ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำในเครือ ซูเปอร์สปอร์ต (Supersports) และรันแม็กซ์ (RunmaxX) สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภทรับสิทธิพิเศษดังนี้ 1) ใช้คะแนน KTC FOREVER 1 คะแนน แลกรับ e-Coupon ส่วนลดสูงสุด 400 บาท ผ่านแอป KTC Mobile เพื่อใช้เป็นส่วนลดสินค้าราคาปกติที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข 2) แลกรับส่วนลดเพิ่ม 13% เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี และใช้คะแนน KTC FOREVER จำนวนเท่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ต่อเซลส์สลิปตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 – วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ktc.co.th/promotion/sports/sports-apparel-accessories/supersports

สำหรับร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์ชั้นนำในเครือเรฟ กรุ๊ป (REV GROUP) ประกอบด้วย แชมป์เปี้ยน (Champion) / โฮก้า (HOKA) / เรฟ รันเนอร์ (REV RUNNR) / ซอคคือนี่ ( saucony) / สแลมเมอร์ส (SLAMMERS) / เทวา (TEVA) / โอ๊คลี่ย์ (Oakley ) / กู้ดเดอร์ ซันกลาสซิส (goodr sunglasses)

สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี - เรฟ วีซ่า แพลทินัม และเคทีซี - เรฟ แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ได้รับสิทธิพิเศษดังนี้ 1) รับส่วนลด 15% เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ และ 2) แลกรับส่วนลดเพิ่ม 15% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่อเซลส์สลิป (เฉพาะชำระเต็มจำนวน) สำหรับบัตรเครดิตเคทีซีประเภทอื่นๆ รับสิทธิพิเศษดังนี้ 1) รับส่วนลด 10% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไปต่อเซลส์สลิป เฉพาะสินค้าราคาปกติที่ร่วมรายการ 2) แลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 15% เมื่อมียอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป 4,000 บาทขึ้นไปและใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้ต่อเซลส์สลิป หรือแลกรับส่วนลดเพิ่ม 13 % เมื่อมียอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป 1 – 3,999 บาทและใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 – วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.ktc.co.th/promotion/sports/sports-apparel-accessories/ktc-rev-group

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000  สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ 

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น หรือ แจ็กซา (Japan Aerospace Exploration Agency: JAXA) และหน่วยงานพันธมิตร ส่งมอบต้นกล้าราชพฤกษ์ที่ปลูกโดยใช้เมล็ดที่ผ่านการท่องอวกาศนาน 7 เดือน ให้แก่โรงเรียน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐรวม 21 แห่งทั่วประเทศ

เพื่อนำไปปลูก เพื่อต่อยอดสู่การเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากการศึกษาเปรียบเทียบการเติบโตระหว่างต้นราชพฤกษ์อวกาศที่ปลูกด้วยเมล็ดจากอวกาศกับต้นราชพฤกษ์ที่ปลูกด้วยเมล็ดปกติ

ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สวทช. ร่วมกับ JAXA และหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) บริษัท กรีน อินโนเวทีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด และ SPACETH.CO ร่วมกันดำเนินการโครงการ Asian Herb in Space (AHiS) โดยแบ่งกิจกรรมย่อยออกเป็น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการทดลองปลูกโหระพาเปรียบเทียบระหว่างบนอวกาศกับบนพื้นโลก และโครงการราชพฤกษ์อวกาศ

ในวันนี้ สวทช. ได้เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาทั่วประเทศที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ รับ ‘ต้นกล้าราชพฤกษ์อวกาศ’ นำไปปลูกเปรียบเทียบกับต้นราชพฤกษ์ที่ปลูกด้วยเมล็ดปกติ เพื่อร่วมศึกษาวิจัยและติดตามการเจริญเติบโตของเมล็ดราชพฤกษ์อวกาศ สำหรับโครงการราชพฤกษ์อวกาศ สวทช. โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน คัดเลือก ‘เมล็ดราชพฤกษ์’ เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีความหมายต่อคนไทย ในฐานะ ‘ดอกไม้ประจำชาติ’ อีกทั้งดอกราชพฤกษ์ยังมีสีเหลืองงดงาม เป็นสีประจำคณะวิทยาศาสตร์ในหลายมหาวิทยาลัย ทาง สวทช. ได้ส่งมอบเมล็ดพันธุ์ราชพฤกษ์ จำนวน 360 เมล็ด ให้แก่ JAXA เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 เพื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบร่วมกับเมล็ดพันธุ์พืชจากอีก 11 ประเทศ ก่อนส่งขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ ในวันที่ 7 ธันวาคม 2563 โดยเมล็ดราชพฤกษ์ของไทยถูกเก็บรักษาไว้ในห้องทดลอง Kibo Module ของ JAXA เป็นเวลาประมาณ 7 เดือน ก่อนจะส่งกลับถึงพื้นโลกในวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 อย่างไรก็ตามหวังว่าการส่งมอบต้นกล้าราชพฤกษ์อวกาศให้แก่สถาบันการศึกษาในเฟสแรกนี้ จะช่วยสร้างโอกาสให้เยาวชนและประชาชนไทยได้เรียนรู้และใกล้ชิดเทคโนโลยีอวกาศมากยิ่งขึ้น”

ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.ฤทัยวรรณ โต๊ะทอง รองคณบดีฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงความร่วมมือการเพาะกล้าราชพฤกษ์อวกาศและการศึกษาวิจัยว่า

ทางคณะฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนความร่วมมือด้านกิจกรรมและการวิจัยระหว่างกลุ่มสาขาวิชาชีวนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ฐานชีวภาพอัจฉริยะ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สวทช. และ JAXA ซึ่งนอกจากการส่งมอบตัวอย่างพืชจากสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เพื่อการวิจัยแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาของคณะวิทยาศาสตร์เข้าร่วมกิจกรรม มีการแลกเปลี่ยนความรู้กับหน่วยงานวิจัยระดับชาติ สามารถสร้างแรงบันดาลใจและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในการวิจัยขั้นแนวหน้าสำหรับอนาคตของ ทั้งนี้ โครงการ Asian Herb in Space (AHiS) ได้รับความอนุเคราะห์ให้ใช้โรงเรือนวิจัยของภาควิชาพฤกษศาสตร์ในพื้นที่ศาลายาสำหรับดำเนินโครงการราชพฤกษ์อวกาศ ทางคณะฯ มีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าต้นราชพฤกษ์อวกาศที่แจกจ่ายไปยังหน่วนงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้ผ่านสภาพแวดล้อมที่รุนแรงในอวกาศมาแต่ยังสามารถเจริญเติบโตอย่างงดงามต่อไปได้ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนของประเทศไทยและความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจด้านอวกาศของมวลมนุษยชาติ

สำหรับโครงการราชพฤกษ์อวกาศเฟสแรก มีสถาบันการศึกษาที่ได้รับมอบต้นกล้าราชพฤกษ์จำนวน 21 แห่ง ประกอบด้วย ภาคกลาง โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา, โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดน้อยใน) ในพระราชูปถัมภ์ฯ, โรงเรียนโยธินบูรณะ, St. Andrews International School Bangkok, โรงเรียนยอแซฟอยุธยา, โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์, โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย และภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ภาคเหนือ โรงเรียนอุตรดิตถ์, โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา, และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคอีสาน โรงเรียนอุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัย นครราชสีมา, โรงเรียนประทาย, โรงเรียนวัดห้วยจรเข้วิทยาคม, โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม, โรงเรียนม่วงสามสิบอัมพวันวิทยา, โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์, โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร, โรงเรียนบ้านม่วงพิทยาคม, โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) และโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ทั้งนี้หน่วยงานที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการราชพฤกษ์อวกาศในระยะต่อไป สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://www.nstda.or.th/spaceeducation

X

Right Click

No right click