ธุรกิจต่างๆ จะสามารถเข้าถึง SAF และใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร

เผยความสำเร็จปี 66 พร้อมเดินหน้าผลักดันและส่งเสริมการลงทุนใน Deep Tech Startup

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ แถลงปรับเปลี่ยนตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารตามมติของคณะกรรมการบริษัท ชูความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านผู้นำ (Leadership Transformation) โดยเป็นบริษัทพลังงานที่สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ขึ้นนำทัพขับเคลื่อนการบริหารธุรกิจได้อย่างราบรื่น มีผล 2 เมษายนนี้ พร้อมผลักดันการปรับโครงสร้างการบริหารองค์กรให้กระชับและทันสมัย สอดรับกับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ สำหรับผลประกอบการปี 2566 ยังคงสร้างกำไรและกระแสเงินสดได้อย่างมีเสถียรภาพจากกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงานและกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน ควบคู่กับการเติบโตต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ตอกย้ำการเดินหน้าธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่องและต่อยอดการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต

ทั้งนี้ คณะกรรมการได้มีมติแต่งตั้งคุณสินนท์ ว่องกุศลกิจ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะมีผลในวันที่ 2 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและสรรหา โดยการสรรหาและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทบ้านปูเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติการกำกับดูแลกิจการที่ดี นอกจากนี้ เพื่อสะท้อนถึงความพร้อมและความเชื่อมั่นของบริษัทฯ ในการเปลี่ยนผ่านผู้นำองค์กร(Leadership Transformation) คณะกรรมการฯ ยังได้กำหนดแนวทางและวางแผนพัฒนาผู้สืบทอดตำแหน่งสำคัญ (Succession Planning and High Performance Management) เพื่อขับเคลื่อนองค์กรในช่วงการเปลี่ยนผ่านธุรกิจ (Business Transformation ) มาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการในปี 2566 กลุ่มบริษัทบ้านปูรายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 160 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,343 ล้านบาท) โดยรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) รวม 1,562 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 54,361 ล้านบาท) ซึ่งในปีที่ผ่านมา แต่ละกลุ่มธุรกิจมีความคืบหน้าที่สำคัญ ดังนี้

กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ด้านธุรกิจเหมือง คงความสามารถในการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่ง สำหรับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ แม้ว่าราคาก๊าซจะไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทฯ สามารถปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานและการผลิตให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และบริหารจัดการต้นทุน เพื่อคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าในโครงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ในสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มดำเนินการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เรียบร้อยแล้ว

กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน สำหรับธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน มีผลการดำเนินงานที่ดีจากการรักษาประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าได้อย่างมั่นคง โดยโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I และ Temple II ในสหรัฐฯ รายงานผลการดำเนินงานที่ดีจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากราคารับซื้อไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงวิกฤตคลื่นความร้อนในรัฐเท็กซัส ในขณะที่โรงไฟฟ้าเอชพีซี (HPC) ในประเทศลาว โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี (BLCP) ในประเทศไทย และโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (Shanxi Lu Guang: SLG) ในประเทศจีน สามารถเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีค่าความพร้อมจ่าย (Equivalent Availability Factor: EAF) ในระดับสูง  ด้านธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน มีกำลังผลิตรวมจากพลังงานหมุนเวียน 870 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในทุกประเทศต่างมีผลการดำเนินงานที่ดีจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและค่าความเข้มของแสงที่สูง

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน มีการเติบโตต่อเนื่องของโซลูชันพลังงานฉลาดแบบครบวงจร ผ่านการขยายฐานลูกค้าและการลงทุนสู่พันธมิตรใหม่ ๆ ในธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน (Battery & Energy Storage System Solutions: BESS) เพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่ง อาทิ การลงทุนในโครงการฟาร์มแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ กำลังกักเก็บพลังงานไฟฟ้า 58 เมกะวัตต์ ที่เมืองโตโนะ (Tono) จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ในประเทศญี่ปุ่น และการลงทุนในบริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อร่วมกันพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยานยนต์ 2 ล้อ และ 3 ล้อ รวมไปถึงระบบกักเก็บพลังงาน การรีไซเคิลแบตเตอรี่ และบริการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในจังหวัดชลบุรี กำลังผลิตราว 2 กิกะวัตต์ชั่วโมง ขณะที่ธุรกิจพัฒนาเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงาน (Smart Cities & Energy Management) มีความคืบหน้าสำคัญ โดยบริษัท บีเอ็นเอสพี สมาร์ท เทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บ้านปู เน็กซ์  กับเอสพี กรุ๊ป ผู้ให้บริการระบบสาธารณูปโภคด้านพลังงานแห่งชาติในสิงคโปร์และเอเชีย-แปซิฟิก ได้รับคัดเลือกให้ดำเนินการออกแบบ พัฒนา และบริหารจัดการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling System) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี นอกจากนี้ ธุรกิจอี-โมบิลิตี้ (E-Mobility) ยังขยายการให้บริการระบบสัญจรทางเลือกแบบครบวงจรในรูปแบบ Mobility as a Service (MaaS) และการบริหารการเดินทางและขนส่งด้วยยานพาหนะไฟฟ้า(EV Fleet Management) เพื่อส่งเสริมการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีจุดบริการไรด์ แชร์ริ่ง 2,500 จุด, คาร์แชร์ริ่งกว่า 1,500 จุด, สถานีชาร์จกว่า 300 สถานีและจุดบริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า 20 แห่ง

“สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ จะเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ต่อยอดประโยชน์สูงสุดจาก Banpu Ecosystem เพื่อทำให้บ้านปูเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานที่สามารถส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานของโลกในอนาคต ดิฉันเชื่อมั่นว่าการนำทัพของผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม พร้อมการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากคณะผู้บริหารของกลุ่มบ้านปูทั้งหน่วยธุรกิจและหน่วยสนับสนุน จะสามารถนำบ้านปูไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน” นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวปิดท้าย

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.banpu.com และ https://www.facebook.com/Banpuofficialth 

*หมายเหตุ: คำนวณโดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยปี 2566 ที่ USD 1: THB 34.8022

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ขอบคุณทุกการตอบรับของประชาชน ที่มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ บนสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 ร่วมกัน โดยตลอด 8 วันของการจัดงาน มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 100,000 คน ซึ่งทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำดีๆ

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า มหกรรมแห่งความสุข “Luck Lock Love  รักล้นสะพาน” เป็นครั้งแรกที่ กทพ. เปิดให้ประชาชนทั่วไป สามารถขึ้นไปร่วมกิจกรรมบนสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 เพื่อเก็บภาพความประทับใจ สร้างความทรงจำที่ดีกับครอบครัว คู่รัก และกลุ่มเพื่อน โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานเกินคาดกว่า 100,000 คน ทำให้ตลอด 8 วันของการจัดงาน เราต้องปรับเปลี่ยนแผนหน้างานแบบวันต่อวัน เพื่อให้สามารถรองรับประชาชนที่เข้าร่วมงานได้ดีที่สุด ซึ่งจากความทุ่มเทเหล่านี้ ทำให้การจัดงานได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนจำนวนมาก และจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ กทพ. มุ่งมั่นส่งมอบความสุข ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการเดินทางแก่พี่น้องประชาชน

ด้านนายพิสิษฐ์ สุดหรู (ลำดับที่ 2 จากทางซ้าย) ประชาชนที่มาร่วมมหกรรมแห่งความสุข “Luck Lock Love รักล้นสะพาน” กล่าวว่า “ผมดีใจมากที่มีงาน Luck Lock Love รักล้นสะพาน เพราะครอบครัวเราไม่ได้รวมตัวแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว ตอนแรกลูก ๆ จะไม่มา แต่ผมบอกว่ามาเถอะ อยากให้เก็บไว้เป็นความทรงจำครั้งหนึ่งของชีวิต ผมเป็นหนึ่งในคนที่มาร่วมวิ่งมาราธอนเมื่อ 37 ปีก่อนบนสะพานพระราม 9 ยังเก็บ BIB จากงานเมื่อ 37 ปีที่แล้วไว้ด้วย ความต่างกันของงานครั้งที่แล้วกับครั้งนี้ คือความก้าวหน้า ความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ครั้งนี้สวยงามและยิ่งใหญ่มากกว่าเดิมมาก ชื่นชมงานในครั้งนี้ และทีมทำงานมากๆ ครับ”

และนายพชร จงกมานนท์ (ลำดับที่ 2 จากทางซ้าย)  ประชาชนที่มาร่วมมหกรรมแห่งความสุข “Luck Lock Love รักล้นสะพาน” กล่าวว่า “วันนี้พวกเรามากันทั้งบ้านเลย รวมถึงเพื่อนๆ ที่มีครอบครัวก็มาด้วยกันหลายคน ผมรู้สึกประทับใจมาก ส่วนเด็กๆ เองก็ค่อนข้างตื่นเต้น วันนี้ที่ผมมาที่นี่เพราะอยากสร้างความทรงจำที่ดีให้กับลูกๆ เหมือนผมตอนเด็กที่คุณแม่เคยพามาเดินบนสะพานพระราม 9 พอรู้ว่ามีกิจกรรมให้เดินขึ้นมาบนสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 เลยรีบพาลูกมา เพราะถ้าเปิดให้รถสัญจรแล้ว เราคงไม่มีโอกาสที่จะได้เดินขึ้นมาชมบรรยากาศบนสะพาน โดยเฉพาะตอนเดินขึ้นมาบรรยากาศดีมาก พระอาทิตย์กำลังตกดิน และยังมีเปิดไฟบนสะพาน พวกเด็กๆ พากันตื่นเต้นและชอบกันมากครับ”

นางสาวจิราภรณ คงขวัญเมือง (ลำดับที่ 1 จากทางซ้าย) และนางสาวเอริน กิ่งชัยภูมิ (ลำดับที่ 2 จากทางซ้าย) ประชาชนที่มาร่วมมหกรรมแห่งความสุข “Luck Lock Love รักล้นสะพาน” กล่าวว่า “เป็นครั้งแรกที่ได้ลองมาวิ่งขึ้นสะพาน บรรยากาศดีมากๆ รู้สึกประทับใจด้านการจัดการ มีบริการสำหรับประชาชนที่มาร่วมงานอย่างดี”

นางรินทรภัส บุญธรรม (ลำดับที่ 3 จากทางซ้าย) ประชาชนที่มาร่วมมหกรรมแห่งความสุข “Luck Lock Love รักล้นสะพาน” กล่าวว่า “กิจกรรม Luck Lock Love รักล้นสะพาน เป็นกิจกรรมที่ดีมากไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ วิว ร้านอาหาร ดนตรี การจัดการต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ นับว่าเป็นหนึ่งในภาพแห่งความประทับใจที่น่าจดจำ ขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่จัดงานดีๆ แบบนี้ ให้พวกเราได้มาเก็บความทรงจำเอาไว้ ”

สำหรับประชาชนที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแห่งความสุขบนสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 อีกครั้ง สามารถติดตามรายละเอียดการจัดงานได้ที่เฟสบุ๊ค การทางพิเศษแห่งประเทศไทย คลิก https://www.facebook.com/ExpresswayThailand กดติดตาม เพื่อไม่ให้พลาด โอกาสสุดท้าย! ที่จะได้ทำกิจกรรมบนสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 ก่อนเปิดใช้งานจริงภายในปี 2567 นี้

นางสาวอรนิดา วิมลวัฒนาภัณฑ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ และ คุณศิวาพร สัมมุตถี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ภายในบ้าน จาก บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคุณเจษฎา วัฒนวิทย์กุล Head of Part MX Key Account และคุณศิวาวุธ อินฟ้าแสง  Samsung Finance+ Team Lead จากไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ และคุณนูริ คิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ จากเคบี เจ แคปปิตอล ร่วมเปิดตัวบริการ “ซัมซุงไฟแนนซ์พลัส” ที่ ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยากเป็นเจ้าของ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต รวมถึงอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์เสริมของซัมซุงได้ง่ายๆ ด้วยการให้บริการสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชันซัมซุงไฟแนนซ์พลัสบนแท็บเล็ตที่หน้าสาขา โดยมีเคบี เจ แคปปิตอล เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อ ซึ่งบริการนี้ทำให้ลูกค้าสามารถผ่อนน้อยเพียงหลักร้อยต่อเดือน แค่ใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการขอใช้บริการสินเชื่อที่หน้าสาขา ไม่ต้องเตรียมเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติม สะดวก รวดเร็ว อนุมัติไวภายใน 3 นาที เท่านั้น สามารถรับเครื่องทันทีหลังอนุมัติผ่าน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าแบบผ่อนแต่ไม่มีบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด ทั้งนี้ สามารถรับบริการ ซัมซุงไฟแนนซ์พลัส ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ขายโทรศัพท์มือถือ TG และ COM7 ภายใน บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์

ผสาน Soft Power ผลักดันผู้ประกอบการไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน

ชูกลยุทธ์ปี 2567 เร่งขยายพอร์ตสินเชื่อ SME และลูกค้ารายย่อย พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

มั่นใจปี 67 โตต่อเนื่อง เหตุนักท่องเที่ยวบูมหนุนโปรเจ็กต์เกี่ยวกับสนามบิน พร้อมรับรู้รายได้และกำไรจากการลงทุนในบริษัทลูก

ในหัวข้อ “A Financial Approach to Climate Risk” โดยศาสตราจารย์โรเบิร์ต เอนเกิล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2546

X

Right Click

No right click