ส่งมอบบ้านให้คนพิการ เติมเต็มคุณภาพชีวิต สร้างสังคม “อยู่ดี มีสุข”

ล่าสุด เปิดตัวบรรจุภัณฑ์รุ่นน้ำหนักเบาพิเศษของ ไลปอน เอฟ  โปร และ โชกุบุสซึ ลดการใช้วัสดุ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เบเยอร์ จำกัด ผู้นำสีนวัตกรรมรักษ์โลก รักคุณ พลิกโฉม “ปัญญาคาเฟ่” ร้านกาแฟบนถนนเพชรบุรี ซอย 12 ที่ดำเนินงานโดยผู้พิการทางปัญญา ให้กลายเป็นร้านกาแฟสุดฮิปใจกลางเมือง เปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านี้ได้แสดงความสามารถและพรสวรรค์ของตนเอง พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไป

“ปัญญาคาเฟ่” ดำเนินการโดยมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นมากกว่าร้านกาแฟทั่วไป แต่เป็นสถานที่สำหรับบุคคลที่มีความพิการทางปัญญาในการฝึกฝนทักษะวิชาชีพและการปรับตัวเข้ากับสังคม มีบาริสต้าและพนักงานเสิร์ฟที่มีความพิการทางปัญญาจะคอยให้บริการลูกค้าด้วยความอบอุ่นและทุ่มเท แต่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างที่ควร แม้ว่าร้านกาแฟแห่งนี้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองและห่างจากสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี เพียง 200 เมตรเท่านั้น

โมเดอร์นฟอร์มและเบเยอร์ เห็นถึงศักยภาพของ “ปัญญาคาเฟ่” พร้อมขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นในเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่างของบุคคล (DEI) ได้ร่วมมือกันปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงคาเฟ่แห่งนี้ โดยโมเดอร์นฟอร์มเป็นผู้ออกแบบตกแต่งและดูแลเรื่องเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงป้ายสัญลักษณ์ทั้งหมด เพื่อสร้างบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกให้ดูสะดุดตา น่าสนใจและดึงดูดผู้ที่ผ่านไปมา ส่วนเบเยอร์ดูแลในเรื่องสีทั้งหมดทั้งภายในและภายนอก ซึ่งเลือกใช้สีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมสร้างให้คาเฟ่แห่งนี้ให้โดดเด่นและรักษ์โลกในที่เดียวกัน

สายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมป์ กล่าวว่า “ร้านปัญญาคาเฟ่ เปิดเมื่อปี 2561 เป็นสถานที่ที่ให้โอกาสและความหมายใหม่ในการใช้ชีวิตแก่เด็กที่พิการทางปัญญา โดยการฝึกอาชีพและจ้างงานน้อง ๆ โดยมีมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมป์ เป็นผู้รับผิดชอบสำคัญในการดำเนินการร้านปัญญาคาเฟ่ จึงตั้งใจที่จะทำให้เป็นสถานที่ฝึกอาชีพ สร้างโอกาสให้กับน้อง ๆ ได้ฝึกทักษะและทำงานอย่างมีความสุข รวมถึงช่วยให้น้องมีรายได้จากการทำงาน   

“ขอขอบคุณโมเดอร์นฟอร์มและเบเยอร์ที่ให้ความสำคัญกับเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญา และร่วมปรับปรุงร้านปัญญาคาเฟ่ในครั้งนี้ เชื่อว่าการปรับปรุงร้านในครั้งนี้ จะช่วยให้ร้านแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ จะช่วยสร้างโอกาสและแรงบันดาลใจให้กับเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญา” เพราะเราเชื่อว่า “ผู้พิการทางปัญญาพัฒนาได้  ถ้าใส่ใจและให้โอกาส"

กิติพัฒก์ เนื่องจำนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัญญาคาเฟ่ มีความสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของโมเดอร์นฟอร์มที่ให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่างของบุคคล (DEI) รวมถึงได้เห็นถึงศักยภาพของ “ปัญญาคาเฟ่” ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางปัญญาได้มีโอกาสเรียนรู้ และได้แสดงศักยภาพในแบบที่เป็นตัวเอง

พร้อมทั้งต่อยอดแนวความคิด ‘เปลี่ยนทุกสเปซให้ Make Sense’ จึงได้ออกแบบ ตกแต่งพื้นที่ ปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ และเลย์เอ้าท์ให้ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งาน รองรับจำนวนลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับมูลนิธิ พร้อมทั้งยังรักษาบรรยากาศความอบอุ่นและเป็นมิตรของร้านกาแฟ ด้วยการเลือกใช้โทนสีละมุนตา เพื่อให้ดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ให้มาใช้บริการ นอกจากจะได้ความสดชื่น อร่อยของเครื่องดื่มและขนมแล้ว ยังได้มีโอกาสช่วยเหลือน้อง ๆ ไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้เรายังตั้งใจให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่จุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิต ตามแบรนด์ไอเดียที่ว่า ‘ทุกแรงบันดาลใจ เป็นจริงได้ในแบบคุณ’

“โมเดอร์นฟอร์มรู้สึกดีใจที่ได้ร่วมมือกับเบเยอร์ และปัญญาคาเฟ่ พลิกโฉมคาเฟ่แห่งนี้ให้กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ใจกลางเมือง” กิติพัฒก์กล่าวเสริม "เราเชื่อว่าทุกคนสมควรได้รับโอกาสและเราดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือน้อง ๆ ที่ปัญญาคาเฟ่ ให้เข้าถึงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่"

ดร. วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ กล่าว “เบเยอร์ ผู้นำด้านโซลูชันการทาสีที่เป็นนวัตกรรม มุ่งมั่นสร้างความสุขในสังคม ด้วยโครงการ "Beger Be Happy สีเบเยอร์สีแห่งความสุข" ซึ่งเป็นโครงการซีเอสอาร์แบบยั่งยืน ที่มุ่งสนับสนุนและสร้างสรรค์จุดเริ่มต้นในการร่วมมือกันแสดงพลังแห่งความดีช่วยเหลือสิ่งที่เป็นประโยชน์ ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์สีชนิดต่าง ๆ ให้แก่สถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ

การปรับปรุงพื้นที่ “ปัญญาคาเฟ่” เป็นการสานต่อปณิธานและแนวคิด Eco-Wellness Innovation สีนวัตกรรม รักษ์โลก รักคุณ ร่วมขับเคลื่อนสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ด้วยการใช้สีเบเยอร์คูล ไดมอนด์ชิลด์ 15 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากลดโลกร้อน รายแรกและรายเดียวในในธุรกิจสีในประเทศไทย เป็นนวัตกรรมสีบ้านเย็น โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเซรามิก คูลลิ่ง หนึ่งเดียวในไทย ที่มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนความร้อน ลดอุณหภูมิห้อง ลดใช้พลังงานไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังมีเทคโนโลยีพันธะเพชร ช่วยเพิ่มพลังการยึดเกาะ ทำให้บ้านสีสวยสด ทนต่อทุกสภาวะ โดยมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อมที่ดี และยืนหยัดร่วมแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อนไปด้วยกันพร้อมกับคนไทยทุกคน

"เราเชื่อว่าสภาพแวดล้อมที่สวยงามและน่าสนใจสามารถสร้างความสะดุดตาให้กับผู้ที่ผ่านไปมาได้ และมั่นใจว่าปัญญาคาเฟ่แห่งใหม่จะเป็นสถานที่ที่น้อง ๆ ที่พิการทางปัญญาจะทำงานได้อย่างมีความสุข"

ความร่วมมือระหว่างโมเดอร์นฟอร์มและเบเยอร์ในการเปลี่ยนโฉม “ปัญญาคาเฟ่” เป็นความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและสนับสนุนบุคคลที่มีความพิการทางปัญญา และตั้งใจว่าร้านกาแฟที่ปรับปรุงใหม่จะกลายเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ สนับสนุนให้สังคมยอมรับความหลากหลายและตระหนักถึงศักยภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล

เชิญมาจิบกาแฟและรับประทานของว่างที่บริการโดยน้องผู้พิการทางปัญญา ที่ “ปัญญาคาเฟ่” โฉมใหม่ ปากซอยเพชรบุรี ซอย 12 ได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น. น. ลงรถไฟฟ้า สถานีราชเทวี เดินประมาณ 200 เมตร

ทีทีบี มอบความคุ้มค่าช่วงโค้งสุดท้ายของปี พร้อมเป็นอีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี ในแคมเปญ “เทศกาลลดหย่อนภาษี ดีเวอรรร์!!” พบกับผลิตภัณฑ์ลดหย่อนภาษี อาทิ ประกันชีวิตและสุขภาพ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตบำนาญ จากพรูเด็นเชียล ประเทศไทย และกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี มาพร้อมกับโปรโมชันคุ้มเกินต้านส่งท้ายปี รับเงินคืนสูงสุด 32% พร้อมสิทธิพิเศษถึง 3 คุ้ม และรับของสมนาคุณต่าง ๆ มากมาย ณ บูธกิจกรรม ‘เทศกาลลดหย่อนภาษี ดีเวอรรร์!!’ ที่ ทีทีบี ตลอดเดือนธันวาคม 2566 นี้

ลูกค้าที่สมัครผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตจาก พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ที่ร่วมรายการผ่าน ทีทีบี ทุกสาขา หรือแอป ttb touch จะได้รับโปรโมชันพิเศษตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2566 ดังต่อไปนี้

รับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝาก สูงสุด 32% ได้แก่

  • รับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝาก สูงสุด 26% ของเบี้ยประกันภัยรายปี ปีแรก
  • รับเงินคืนเพิ่ม 5% สำหรับลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี
  • รับเพิ่ม! เงินคืน 1% ของค่าเบี้ยประกันรายปี ปีแรก เมื่อซื้อประกันภัยที่ร่วมรายการ และมียอดซื้อสะสมกองทุน SSF RMF ttb smart port SSF ขั้นต่ำ 10,000 บาท / เดือน ภายในเดือนเดียวกับที่ซื้อประกัน

รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีก 3 คุ้ม

  • คุ้มที่ 1 ชำระผ่านบัตรเครดิต ทีทีบี รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% หรือรับคะแนนสะสม ttb rewards plus สูงสุด 10 เท่า และรับสิทธิแบ่งชำระเบี้ยประกัน 0% นาน 6 เดือน
  • คุ้มที่ 2 รับ iPhone 15 Pro Max มูลค่า 48,900 บาท หรือ iPhone 15 Plus มูลค่า 41,900 บาท หรือบัตรกำนัลจากเครือ BDMS สูงสุด 7,500 บาท
  • คุ้มที่ 3 รับดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด25% ต่อปี

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อีแวลู เซฟเวอร์ 12/5 (ttb e-value saver 12/5) ผ่านแอป ทีทีบี ทัช โดยชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบรายปี ปีแรก พร้อมรับโปรโมชันและของสมนาคุณต่าง ๆ มากมาย โดยระยะเวลาโปรโมชันตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2566

  • ยอดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต ตั้งแต่ 30,000-59,999 บาท รับบัตรกำนัลโลตัส มูลค่า 1,000 บาท
  • ยอดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต ตั้งแต่ 60,000-99,999 บาท รับลำโพง Marshall Willen สีดำ มูลค่า 3,990 บาท
  • ยอดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต ตั้งแต่ 100,000-199,999 บาท รับ Huawei Smart Watch GT4 (46mm) สีน้ำตาล มูลค่า 7,990 บาท
  • ยอดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต ตั้งแต่ 200,000-499,999 บาทขึ้นไป รับ Apple Watch Series 9 (45mm) สี Starlight มูลค่า 16,900 บาท
  • ยอดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต ตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป รับมือถือ Samsung Z Flip มูลค่า 39,900 บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมทาง https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/ba-tax-festival-2023 หรือ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/e-value-saver-12-5 หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ ttb contact center 1428

นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD ประกันชีวิต พร้อมด้วย คุณน้ำหนึ่ง เอี่ยมเจริญยิ่ง (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ช็อคโกแลต แฟคทอรี่ จำกัด เชิญทุกคนร่วมส่งความสุขฉลองเทศกาลปีใหม่ ในรูปแบบความอร่อย กับ เมนูเอ็กซ์คลูซีฟสุดว้าว ในคอนเซ็ปต์ “Iconic taste of Thailand” กับ “Chocolate Bon Bon” 8 รสชาติใหม่ ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน โดยนำเอาเอกลักษณ์รสชาติอาหารและเครื่องดื่มไทย มาเป็นแรงบันดาลใจในการทำช็อกโกแลตรูปแบบพอดีคำ ใช้ความต่างของวัตถุดิบช็อกโกแลตพรีเมียมจากตะวันตกคู่กับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย เป็นเมนูช็อกโกแลตรสชาติใหม่ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว พร้อมให้ทุกคนได้ส่งต่อความอร่อยที่แตกต่างในเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้ทุกคนได้ Celebrate living ในทุกๆ วัน

ขอชวนทุกคนมาสัมผัสความอร่อยที่แตกต่างได้กับเมนู “Chocolate Bon Bon” 8 รสชาติใหม่ คอลเลคชั่นสุดพิเศษ “Iconic taste of Thailand” ที่ร้าน The Chocolate Factory ทั้ง 26 สาขา หรือสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ LINE: @Chocfac และแอปเดลิเวอรี่ทุกช่องทาง ตั้งแต่วันที่ วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2567

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จับมือ 6 ศูนย์การค้าชั้นนำ ได้แก่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี  เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ เอ็มสเฟียร์ ไอคอนสยาม และสยามพารากอน มอบเครดิตเงินคืนสูงสุด 18% ด้วยการใช้คะแนนสะสมแลกเท่ายอดใช้จ่าย เมื่อช้อปปิ้งสินค้าใด ๆ ที่ 6 ศูนย์การค้าดังกล่าว ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 31 มกราคม 2567 ดังนี้

วันเสาร์-อาทิตย์ บัตรเครดิต ttb reserve infinite รับเครดิตเงินคืน 18% บัตรเครดิต ttb reserve signature รับเครดิตเงินคืน 13% และบัตรเครดิต ttb ประเภทที่มีคะแนนสะสม รับเครดิตเงินคืน 12%

วันจันทร์-ศุกร์ บัตรเครดิตทุกประเภทที่มีคะแนนสะสม รับเครดิตเงินคืน 10% จำกัดการแลกคะแนนสะสมเพื่อรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 150,000 คะแนน / หมายเลขบัตรหลัก รวมทุกศูนย์การค้าที่ร่วมรายการ ตลอดรายการส่งเสริมการขายนี้ และการแลกคะแนนสะสมแต่ละครั้ง ต้องไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลล์สลิป

รับสิทธิ์ ณ จุดลงทะเบียนของแต่ละศูนย์การค้าภายในวันที่ซื้อสินค้า โดยธนาคารจะนำเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีบัตรหลักภายใน 5 วันทำการ

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  (“บริษัท” หรือ “LPN”) เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 2 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.90 – 5.20]% ต่อปี  และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย [5.20 - 5.50]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดเสนอขายภายในเดือนมกราคม 2567 ซึ่งบริษัทฯ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “ลบ” เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 พร้อมแต่งตั้งธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ โดยการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้  บริษัทจะนำไปชำระคืนหุ้นกู้ และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ภายในปี 2567

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เผยว่า LPN กลุ่มบริษัทผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพที่มาพร้อมกับความน่าอยู่ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดมามากกว่า 35 ปี เตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่จำนวน 2 ชุด โดยเป็นการออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน โดย  หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.90 – 5.20]% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย [5.20 - 5.50]% ต่อปี (ทั้งนี้จะประกาศอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายหุ้นกู้แต่ละชุดภายในเดือนมกราคม 2567) หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท คาดเสนอขายภายในเดือนมกราคม 2567 โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อนำไปคืนหุ้นกู้ และ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ภายในปี 2567

หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566  ที่ระดับ “BBB” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร และมีแนวโน้ม “ลบ” ซึ่งถือเป็นระดับ Investment grade หรือเรียกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้

โดยที่ผ่านมา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวโครงการรวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมระดับพรีเมียม อาทิ โครงการเรสซิเดนซ์ 168 ราชพฤกษ์, โครงการเมซอง 168 เมืองทอง  และบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมในราคาที่จับต้องได้ อาทิ โครงการเวนู 24 คูคต สเตชั่น ,โครงการ เฮ้าส์ 24 เวสต์เกต และอีกหลายหลายโครงการ รวมถึงไปคอนโดมิเนียมคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในวงการอสังหาริมทรัพย์มาตลอด 35 ปี ได้แก่ พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา และแบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา คือ โครงการ เอิร์น บาย แอล.พี.เอ็น. ในบริเวณนิคมอมตะ ชลบุรีเป็นที่แรกสำหรับในส่วนของผลประกอบการ บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายกว่า 8,000 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา และมีรายได้รวม 5,562 ล้านบาท กำไรสุทธิ 336 ล้านบาท โดยรายได้หลักเกิดการจากการขายโครงการพร้อมอยู่ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และเริ่มทยอยส่งมอบโครงการบ้านพักอาศัยแบรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังมียอดขายรอโอน (Backlog) อีกกว่า 2,800 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคตต่อไป

“บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การออกหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน ซึ่งการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ของบริษัทฯ ไม่ได้ออกเสนอขายบ่อยนักในแต่ละปี ถือเป็นโอกาสในการลงทุน และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ดี ในองค์กรที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่ลงทุนได้ (Investment grade)”

ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ LPN สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.sec.or.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 5 แห่ง ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดังนี้

  • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking ได้อีก 1 ช่องทาง)
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ได้เพิ่มเติมอีก 1 ช่องทาง
  • บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
  • บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร 02-009-8351-56
  • บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050

ทิพยประกันภัยตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านประกันภัย เปิดมิติใหม่ของผลิตภัณฑ์ที่ดีไซน์กรมธรรม์เอาใจคนใช้รถหลายคันด้วยกรมธรรม์เดียว TIP FREEDOM DRIVER ที่คุ้มครองแบบ “หนึ่งคน หลายคัน” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปขับคันไหน (Worry Free Driving) คุณก็ขับรถแบบไร้กังวล ด้วยนวัตกรรมประกันภัยที่คุ้มครองการขับขี่ได้ตามความต้องการ เพียงกรมธรรม์ฉบับเดียวแต่ให้ความคุ้มครองการขับรถแบบหลายคันติดตัวคุณไปด้วย ให้อิสระกับคุณแบบไร้ขีดจำกัด จะมีรถหลายคัน มีรถคันเดียวแต่ขับรถคนอื่นด้วย หรือไม่มีรถเป็นของตัวเองก็ทำได้ ไปขับรถคันไหน คันนั้นก็ได้รับความคุ้มครอง โดยไม่จำเป็นต้องซื้อกรมธรรม์แยกในกรณีที่มีรถหลายคัน จึงไม่ต้องจ่ายเงินซ้ำซ้อน

ทั้งนี้จุดเด่นของประกันภัย TIP FREEDOM DRIVER  เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองรถยนต์ทุกคันที่คุณขับโดยคุ้มครองแบบอิสระตามผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจ และปลอดภัยในการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นรถคันไหน โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้หลากหลายตามต้องการ

  • เบี้ยเริ่มต้นเพียงแค่ 2,990 บาท/ปี 
  • ให้ความคุ้มครองรถยนต์ส่วนบุคคลทุกประเภทที่คุณเลือกใช้  อาทิ รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รหัส 110), รถยนต์โดยสารส่วนบุคคล (รหัส 210) และรถบรรทุกส่วนบุคคลไม่เกิน 3 ตัน (รหัส 320)
  • ไม่จำกัดจำนวนรถที่คุ้มครองต่อ 1 ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
  • รถแต่ละคันจะได้รับความคุ้มครองทุกเวลาที่คุณใช้งาน
  • คุ้มครองทรัพย์สินบุคคลภายนอกเสียหาย สูงสุด 5,000,000 บาท 

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดหรือสอบถามทาง www.tipinsure.com, call center 1736 และสาขาทิพยประกันภัย ทั่วประเทศ

ขับเคลื่อนแนวทางการรับมือกับงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย

ไดกิ้น เดินหน้าสนับสนุนการแข่งขันทักษะทางวิชาชีพ ทักษะการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ระดับภาค ภาคกลาง ประจำปีการศึกษา 2566 สนับสนุนด้านเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมร่วมส่งเสริมทักษะด้านงานท่อเครื่องปรับอากาศ และจัดกิจกรรมพิเศษ Daikin Activity Day สร้างองค์ความรู้แก่ผู้เข้าแข่งขัน ตั้งเป้ายกระดับทักษะนักเรียนนักศึกษาให้ก้าวเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพ เป็นกำลังสำคัญให้ตลาดและอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศในอนาคตต่อไป

คุณเพชร กรมแสง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายวิศวกรด้านเทคนิค บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ไดกิ้น ในฐานะ ผู้สนับสนุนหลักกิจกรรมแข่งขันทักษะติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เรามีแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่ทำควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานทักษะของบุคลากรเครื่องปรับอากาศที่ครอบคลุมในทุกมิติ โดยเฉพาะกับการผลักดันกลุ่มนักเรียนนักศึกษาให้เติบโตเป็นกำลังสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต โดยไดกิ้นได้ดำเนินการเปิดพื้นที่บริษัทเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวิชาการ, มีการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ตลอดจนเข้าสนับสนุนกิจกรรมแข่งขันทักษะวิชาชีพอย่างต่อเนื่องในทุกระดับ

“ซึ่งล่าสุดในระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ไดกิ้นได้เข้าสนับสนุนการแข่งขันทักษะวิชาชีพ ทักษะการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ระดับภาค ภาคกลาง ซึ่งมีสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจากจังหวัดในภาคกลาง เข้าร่วมกว่า 14 ทีม โดยกิจกรรมนี้ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งนอกเหนือจากไดกิ้นจะเป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะแล้ว บริษัทยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ Daikin Activity Day โดยมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเข้ามาสร้างเสริมองค์ความรู้เพิ่มเติมที่ผู้เข้าแข่งขันสามารถนำไปใช้ได้จริงทั้งในการแข่งขันและในการทำงาน”

สำหรับกิจกรมการแข่งขันทักษะทางวิชาชีพ ทักษะการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ระดับภาค ภาคกลาง ประจำปีการศึกษา 2566 ปีนี้จัดขึ้นที่วิทยาลัยการอาชีพจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ร่วมให้การสนับสนุนด้านเครื่องมือ อุปกรณ์และเครื่องปรับอากาศ ให้แก่ผู้เข้าแข่งขัน โดยมีวัตถุประสงค์ให้นักเรียนนักศึกษาอาชีวะ ได้นำเอาความรู้ที่ศึกษามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติ รวมถึงช่วยเพิ่มทักษะและประสบการณ์ตรงในการทำงานระหว่างที่ศึกษาอยู่ รวมถึงส่งเสริมการเตรียมความพร้อมหลังสำเร็จการศึกษาและการประกอบอาชีพต่อไปในอนาคตอีกด้วย

โดยการแข่งขันทักษะทางวิชาชีพฯ ในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นอย่างครอบคลุมทั้งส่วนการแข่งขันภาคทฤษฎี รวมถึงภาคปฏิบัติ ที่ไดกิ้นได้เข้ามาสนับสนุนและมีส่วนร่วมด้านการเสริมทักษะงานท่อ เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้พัฒนาทักษะและประสบการณ์ด้านงานท่อและงานเครื่องปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผลการแข่งขันครั้งนี้ปรากฎว่า นายทรงยศ หรั่งวัด จากวิทยาลัยการอาชีพบ้านลาด เป็นผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ, ด้านรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ นายบุญยฤทธิ์ ครุฑช่างทอง จากวิทยาลัยเทคนิคชัยนาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ นายธนภัทร สุขใบ จากวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี อีกทั้ง ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันในระดับภาคกลางนี้ จะได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในระดับชาติ ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ต่อไป

X

Right Click

No right click