ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ “Transform to Innovate : Key Incentives for a Thriving Tech Economy” ร่วมกับนายเดช ฐิติวณิช ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายระบบข้อสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย และนายธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานกรรมการกำกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ดำเนินรายการโดยนายนภพัฒน์จักษ์ อัตตานนท์ บรรณาธิการบริหาร WorkpointToday ในงาน Techsauce Global Summit 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ผ่านมา
โอกาสนี้ กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้ชี้ให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งยังมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจไทยไม่มากนัก เนื่องจากมากกว่า 99% ยังค้าขายในประเทศเป็นหลัก และ 2 ใน 3 ของ SMEs ไทยยังขาดทักษะและความพร้อมที่จะพัฒนากระบวนการทำงานที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลปรับปรุงกิจการให้แข่งขันได้ในระดับสากล จึงถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้องเร่งส่งเสริมให้ SMEs ไทยเข้าไปอยู่ในวงจรการค้าระหว่างประเทศ มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยทางรอดคือ การ Go Green หรือ Go Digital เพื่อเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมเดิม เช่น การท่องเที่ยวมูลค่าสูงและการเกษตรอัจฉริยะ หรือเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรมใหม่ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาสินค้าหรือบริการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งนี้ EXIM BANK มีบริการครบวงจรเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ไทยในการยกระดับกระบวนการผลิตและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืนในเวทีการค้าโลก
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และ ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงภายใต้โครงการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูล ESG เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนระบบนิเวศสำหรับการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ณ สำนักงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 รวมถึงข้อมูลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ผ่านระบบ ESG Data Platform และสนับสนุนระบบ SET Carbon สำหรับลูกค้าของธนาคารให้มีการดำเนินงานตามเป้าหมายความยั่งยืน โดย SET และ EXIM BANK จะร่วมกันพัฒนาสินเชื่อจากการใช้ข้อมูลด้าน ESG ประกอบการพิจารณาตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 และเริ่มให้บริการในปี 2568 ซึ่ง EXIM BANK ในฐานะ Green Development Bank ได้พัฒนานวัตกรรมทางการเงินสีเขียว พร้อมสิทธิประโยชน์ทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมอยู่ใน Green Export Supply Chain สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านสิ่งแวดล้อมและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
นายอิทธิพล เลิศศักดิ์ธนกุล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายพิศิษฐ์ บูรณะกิจภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารสาขาต่างประเทศ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพนมเปญ ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวน 5.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในกัมพูชาและผู้ประกอบการกัมพูชาที่ดำเนินธุรกิจนำเข้าสินค้าหรือบริการจากประเทศไทย โดยมีนางวรางคณา วงศ์ข้าหลวง รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา เมื่อเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ การส่งออกของไทยไปกัมพูชาในปี 2566 มีมูลค่าราว 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กัมพูชาเป็นเป้าหมายสำคัญด้านการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมเกษตร การผลิต การก่อสร้าง การให้บริการด้านสุขภาพ และภาคบริการ การสนับสนุนทางการเงินจาก EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนา จะช่วยยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย-กัมพูชาให้แข่งขันได้มากขึ้นในเวทีการค้าการลงทุนระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA Group) ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวน 2,000 ล้านบาทแก่โครงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมธุรกิจโลจิสติกส์สู่ความยั่งยืนของ WHA Group ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้
ในการนี้ WHA Group ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จาก EXIM BANK เพื่อต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions ภายในปี 2593 สอดคล้องกับแนวคิด “Green Logistics” โดยบริษัทเปิดให้บริการโครงการโมบิลิกซ์ (Mobilix) กรีนโลจิสติกส์โซลูชัน เพื่อให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงมุ่งเน้นการบริหารคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าด้วยเทคโนโลยีทันสมัย การใช้พลังงานทดแทน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการบริหารจัดการของเสียเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยสู่ความยั่งยืน นอกจากนี้ WHA Group มีแผนในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจของทุกกลุ่มธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อส่งเสริมการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของชุมชน สังคม และประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทของ EXIM BANK สู่การเป็น Green Development Bank