เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการต่อจิ๊กซอว์เพียงตัวเดียว หากแต่เกิดจากจิ๊กซอว์นับสิบนับร้อย บางเรื่องที่ต้องอดทนและใช้เวลา อาจต้องต่อจิ๊กซอว์นับพันนับหมื่นชิ้น เพื่อประกอบภาพร่างให้สมบูรณ์แบบ

วันนี้ ผู้ดูแลงานพัฒนานวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร "คุณสุรศักดิ์ อัมมวรรธน์" Technology and Digital Platform Director ของบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ได้เล่าถึงการดำเนินงานของ SCGP ที่มุ่งเน้นด้านรีไซเคิล เพื่อสร้างมูลค่าตลอดห่วงโซ่อุปทาน ในงาน ASEAN Paper เมื่อเร็ว ๆ นี้

น่าสนใจว่าเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลนอกจากจะช่วยสร้างการแข่งขันทางธุรกิจได้ ยังเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่หนุนหลังให้พันธกิจองค์กรในด้าน ESG กับ Net Zero ที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

@เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลกับการดำเนินธุรกิจ

SCGP มีการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาค ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่หลากหลาย ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีการพัฒนานวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรในด้านต่าง ๆ

ทั้งในด้านการผลิตที่มุ่งเน้น Operational Excellence ทำให้ซัพพลายเชนมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบออโตเมชันต่าง ๆ มาใช้เพิ่มผลผลิต SCGP ได้นำเดต้าต่าง ๆ เข้ามาใช้ในองค์กรเพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์ อาทิ ระบบการติดต่อ การสั่งซื้อ การส่งมอบสินค้า ลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลการสั่งซื้อได้ด้วยตัวเอง หลังจากมีการนำเดต้ามาใช้ในองค์กรทั่วถึง พนักงานขายสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าสนใจ และตอบข้อมูลให้ลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น ทำให้ลูกค้าสะดวกขึ้นซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก ขณะเดียวกันข้อมูลบนออนไลน์แบบทั่วถึง ทำให้ระบบการทำงานภายในองค์กรไหลลื่น ทำให้สามารถบริหารจัดการวัตถุดิบ ข้อมูลคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยทำให้ต้นทุนการผลิต ทำให้เกิดการบริหารจัดการต้นทุนอย่างเหมาะสม เป็นประโยชน์กับทั้งซัพพลายเชน

“หลักการคือเราต้องการให้ข้อมูลต่าง ๆ เป็น single source of truth แปลว่าทุกคนในซัพพลายเชน เห็นตัวเลขบนข้อมูลเดียวกัน ทำให้ไม่เกิดความซับซ้อน ไม่เป็นช่องว่างในการบริหารจัดการทั้งกระบวนการ ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลเพิ่งเป็นแค่จุดเริ่มต้น เมื่อเราได้มีการนำมาใช้แล้ว สามารถต่อยอดเป็นประโยชน์อย่างอื่นได้อีก”

@เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลสู่บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน

จากแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจของ SCGP ตามกรอบแนวคิด ESG ซึ่งมีแผนงานชัดเจนที่จะเพิ่มสัดส่วนบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในปี 2025 ที่จะไปสู่เป้าหมายใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลและย่อยสลายได้ 100% และในปี 2050 ประกาศเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ SCGP ได้พัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนให้ถึงเป้าหมายความยั่งยืน

การเพิ่มอัตราบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล”

SCGP เดินหน้าสร้างเครือข่ายและความร่วมมือในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด แบ่งเป็นการเพิ่มพันธมิตรรีไซเคิล จาก 8 รายเป็น 22 ราย การเพิ่มเครือข่ายระบบการจัดเก็บบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล หรือ recycling station เพื่อนำบรรจุภัณฑ์เหลือใช้กลับคืนมาที่โรงงาน ซึ่งมีการเพิ่มจากจำนวน 90 แห่งในปี 2563 เพิ่มเป็น 133 แห่งในปี 2566

SCGP ได้ลงทุนทำให้กระดาษรีไซเคิลมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยการลงทุนติดตั้งเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต (Operational Excellence) มีการติดตั้งจุดตรวจวัดประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพอใจ โดยคุณภาพของกระดาษที่ได้กลับมานั้น เพิ่มจากเดิมในอัตรา 80% เป็น 88-92% เทียบกับการประหยัดทรัพยากรได้ 20,000 ตันต่อปี

นอกจากนี้ SCGP ได้ศึกษาและพัฒนานวัตกรรม “เส้นใยนาโนเซลลูโลส” จากวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อน้ำไปใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ ซึ่งได้มีการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ต่อยอด Waste ให้เป็นเม็ดพลาสติก”

เมื่อนึกถึงการจัดการบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล มักจะมีเศษวัสดุอื่น ๆ ปนมาด้วย เช่น เทปกาว หรือฟิล์ม ที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ และจะถูกเผาเพื่อเป็นพลังงาน SCGP จึงพัฒนาคิดต่อยอดจาก waste เหล่านี้ ซึ่งเราเรียกว่า waste of waste ให้มีมูลค่ามากขึ้น ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีนำ waste เหล่านี้มาผลิตเป็นเม็ดพลาสติก และได้ขยายโรงงาน waste of waste แล้วถึง 3 โรงงาน ในประเทศไทย 1 แห่ง และโรงงานในอินโดนีเซียอีก 2 แห่ง

“พอเป็นเม็ดพลาสติก เราสามารถนำไปผสมกับเม็ดพลาสติกใหม่ เพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคใช้ทั่วไปได้ เช่นกระบะพลาสติกใช้ในการขนส่งสินค้า ถังต่าง ๆ เพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก แม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้ให้ผลตอบแทนการลงทุน แต่ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นการใช้ waste อย่างคุ้มค่าจริง ๆ ”

การพัฒนาทั้งหมดนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการผลิตบรรจุภัณฑ์ ทั้งลดการใช้ทรัพยากรใหม่ เพิ่มการรีไซเคิลทรัพยากรเดิมให้มีประสิทธิภาพ ล้วนช่วยเสริมสร้าง Infinite Recycling ให้เกิดขึ้นได้จริง รวมถึงการนำมาใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย Upcycling ซึ่งตอบโจทย์การดำเนินงานบนฐานของความยั่งยืนอย่างแท้จริง

เมื่อเร็ว ๆ นี้  เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับภูมิภาคที่มุ่งเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืน ตามแนวทาง ESG (Environmental, Social and Governance) ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรต้นแบบด้านความปลอดภัย จากงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ร่วมสร้างวัฒนธรรมไทยเชิงป้องกันสู่ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และความผาสุกที่ยั่งยืน (Forward Culture of Prevention for Safety Thailand) จัดโดยกระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลสถานประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2566 หรือ EIA Monitoring Awards 2023 จัดโดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำการเป็นโรงงานเชิงนิเวศที่มุ่งยกระดับมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการดูแลชุมชน และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้อุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน  

รางวัลองค์กรต้นแบบด้านความปลอดภัย (Zero Accident Campaign 2023) โดยบริษัทในกลุ่มธุรกิจ SCGC ได้แก่ บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด (ROC) และบริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด (MOC) รับโล่ประกาศเกียรติคุณในกิจกรรมการรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ ประจำปี 2566 (Zero Accident Campaign 2023) ระดับแพลตินัม ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 จากสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) กระทรวงแรงงาน โดยมีเกณฑ์การพิจารณาจากสถานประกอบการที่สามารถรักษาชั่วโมงการทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน ไม่ถูกดำเนินคดีด้านความปลอดภัย ไม่มีลูกจ้างประสบอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ในช่วงเวลา 2 ปี ไม่มีอุบัติเหตุจากการทำงานถึงขั้นหยุดงานเกิน 3 วัน อีกทั้งยังเป็นสถานประกอบกิจการที่เป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการ มีระบบมาตรฐานสากล และเป็นองค์กรต้นแบบด้านความปลอดภัยฯ

รางวัลสถานประกอบการด้านสิ่งแวดล้อม (EIA Monitoring Awards 2023) โดยบริษัทในกลุ่มธุรกิจ SCGC ได้แก่ บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด และ บริษัท ไทย เอ็มเอ็มเอ จำกัด  รับรางวัลสถานประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2566 หรือ EIA Monitoring Awards 2023 ระดับยอดเยี่ยม และดีเด่น (ตามลำดับ) ประเภทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีการจัดการและรักษาสิ่งแวดล้อมตามมาตรการของ EIA จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการเห็นความสำคัญถึงการป้องกัน และติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เพื่อให้สถานประกอบการได้ยกระดับและพัฒนากลไกการจัดการสิ่งแวดล้อมของตนเอง เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สถานประกอบการอื่น ๆ

เปิดบ้านเอสซีจี ทุ่งสง นครศรีธรรมราช โชว์ธุรกิจกรีน ด้วยกลยุทธ์ ESG 4 Plus มุ่ง Net Zero

เอสซีจีได้คะแนนสูงสุดจากดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ หรือ DJSI ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

เพราะบ้านคือสถานที่หลักที่เราเลือกใช้ชีวิตอยู่ โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องอยู่บ้านทั้งวัน บ้านคือพื้นที่แห่งความสบายใจ ความสุข และที่สำคัญคือ ต้องส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับชีวิต เพื่อให้ใช้ชีวิตทุกวันอย่างแข็งแรงทั้งกายใจมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

การใส่ใจเรื่องบ้าน โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ จึงเป็นเรื่องสำคัญและสะท้อนถึงการคำนึงถึงสุขภาพที่ดีด้วย เราจึงอยากชวนทุกคนกลับบ้านมาสำรวจพื้นที่กันแบบละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น ตั้งแต่เรื่องการเลือกวัสดุในบ้านเพื่อความปลอดภัย ไปจนถึงการสร้างสุขลักษณะที่ดีของการอยู่อาศัยให้ดีสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อเพิ่มสุข เพิ่มความสบายใจ ปลอดภัยกันทั้งครอบครัว

โดยเคล็ดลับนี้จาก 2 กูรู เคล็ดลับบ้านปลอดภัย โดยคุณวิทนีย์ ศรีพินิจ Living Experience Designer จาก SCG HOME Experience และเคล็ดลับสุขภาพดี โดย กภ.เสาวลักษณ์ สุทธินพสกุล นักกายภาพบำบัด จากโรงพยาบาลเอกชัย

01 เข้าใจผู้สูงวัย 3 ระดับ

สำหรับบ้านที่มีผู้สูงวัยเป็นบุคคลสำคัญของบ้าน ข้อสำคัญคือ การทำความเข้าใจกับสภาวะที่ผู้สูงวัยเป็นอยู่ เพื่อให้สามารถจัดการกับข้าวของหรือพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างเหมาะสมกับกิจกรรมและสภาพร่างกาย  รวมทั้งปรับปรุงบ้าน เพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงวัยแต่ละช่วงอายุ

ผู้สูงวัยกลุ่มสีเขียว คือกลุ่มที่สุขภาพแข็งแรง สามารถใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกบ้านได้ตามปกติ แม้จะมีสุขภาพแข็งแรง สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่การเตรียมพร้อมพื้นที่ภายในบ้าน ก็เป็นการช่วยลดอุบัติเหตุหรืออันตรายที่ไม่คาดฝันได้

เริ่มจากการเดิน การมีพื้นเรียบในระนาบเดียวกันเป็นการอำนวยความสะดวกให้การเคลื่อนที่ทำได้คล่องตัวมากขึ้น ทั้งกับพื้นภายในบ้านที่ควรปรับให้ไม่มีพื้นที่ต่างระดับหรือธรณีประตูโดยไม่จำเป็น อาจใช้การปรับจากเดิมที่เป็นสเต็ปเปลี่ยนเป็นทางลาด เพื่ออนาคตในการใช้งานรถวีลแชร์ รวมทั้งพื้นห้องน้ำที่เลือกใช้ผิวสัมผัสหยาบขึ้น โดยเลือกได้จากข้อมูลกระเบื้องที่มีค่า R11 กำกับ ซึ่งเป็นพื้นผิวของค่ากันลื่นสูง ซึ่งเหมาะสมสำหรับการใช้งานภายในพื้นห้องน้ำผู้สูงอายุ รวมทั้งบริเวณภายนอกอาคารก็ได้เช่นกัน

อีกส่วนที่สำคัญคือการจัดสรรพื้นที่ ภายในควรมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว ที่ช่วยในเรื่องสุขภาพใจ รวมทั้งระบบการระบายอากาศและแสงสว่างที่เพียงพอ เพราะผู้สูงอายุมีความต้องการแสงสว่างมากเป็น 2-3 เท่าของคนทั่วไป ช่วยให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเป็นไปด้วยดี ทำกิจกรรมได้อย่างสะดวกสบาย

ผู้สูงวัยกลุ่มสีเหลือง คือเริ่มมีการเสื่อมถอยของสุขภาพร่างกายบ้าง แต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองอยู่ได้ ควรมีการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพื่อช่วยในการพยุงตัวขณะเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมต่างๆ อย่างการติดตั้งราวจับภายในห้องน้ำ หรือบริเวณที่ต้องมีการลุกนั่งเป็นประจำ โดยเลือกให้มีขนาดเหมาะสมตามมาตรฐาน จับกระชับถนัดมือ

เรื่องสายตาและการมองเห็นก็เป็นอีกเรื่องสำคัญ นอกจากแสงสว่างที่จะต้องให้มีปริมาณมากเพียงพออย่างข้อก่อนหน้าแล้ว สำหรับผู้สูงอายุกลุ่มสีเหลือง การใช้สีสันก็เป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้การจำแนกการมองเห็นทำได้ชัดเจนขึ้น เลือกใช้สีที่ตัดกันหรือแตกต่างกันระหว่างพื้น-ผนัง หรือกับบัวเชิงผนัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุก็เป็นดีเทลที่ควรใส่ใจ

ผู้สูงวัยกลุ่มสีส้ม คือผู้สูงวัยที่ต้องการการช่วยเหลือเป็นพิเศษในบางกิจกรรม กลุ่มผู้สูงวัยที่ต้องการการช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือต้องใช้อุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอย่างรถวีลแชร์ การออกแบบพื้นที่จึงจำเป็นต้องคิดถึงการใช้งานรถวีลแชร์เป็นหลัก ทั้งความราบเรียบ พื้นลาดเอียง และแรงฝืดของพื้น

ที่สำคัญสำหรับผู้สูงวัยกลุ่มนี้คือเรื่องระยะ ทั้งระยะของความกว้างที่เพียงพอสำหรับเข้าออก ความสูงของเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ อย่างโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า เคาน์เตอร์ ปลั๊กไฟและสวิตช์ไฟ จำเป็นต้องจัดการให้มีระยะที่วีลแชร์ต้องเข้าถึงง่าย และผู้สูงวัยใช้งานสะดวก รวมทั้งระดับหน้าต่างที่ของล่างควรสูงขึ้นจากพื้น 50 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถทอดสายตาออกจากรถวีลแชร์หรือจากระยะการนั่งได้ ไปจนถึงอุปกรณ์ที่สามารถหยิบจับได้เองอย่างการเปิดปิดประตูหรือก๊อกน้ำ หากเป็นแบบก้านโยก ซึ่งอาจใช้อวัยวะอื่นอย่างแขนหรือไหล่ช่วยในการเอื้อมเปิด ก็จะยิ่งใช้งานได้ง่ายขึ้นอีก

02 ดีไซน์พื้นที่แบบคิดถึงทั้งผู้ใช้งานและผู้ดูแล

หลายเรื่องเป็นปัญหาคาดไม่ถึงที่อาจเกิดตามมาในอนาคตนอกเหนือจากการจัดการพื้นที่ภายในบ้านแล้ว อย่างเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์จากสิ่งปฏิกูล กลิ่นตกค้างจากการระบายอากาศที่ทำได้ไม่ดี หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องแผลกดทับซึ่งส่งผลในเรื่องกลิ่น นอกจากกับตัวผู้สูงอายุเองแล้ว ยังส่งผลต่อจิตใจถึงผู้ดูแลซึ่งต้องอยู่อาศัยร่วมกันตลอดเวลา

ทางที่ดีในการออกแบบพื้นที่จึงควรคำนึงถึงทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้ดูแลให้สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้อย่างสบายใจ การออกแบบพื้นที่ใช้สอยจึงควรมีหน้าต่างที่สามารถระบายอากาศได้อย่างดี แต่หากเป็นพื้นที่จำกัดจริงๆ อาจใช้การติดตั้งพัดลมระบายอากาศ​ หรืออุปกรณ์ช่วยในการระบายซึ่งปัจจุบันมีนวัตกรรมให้เลือกสรรได้ตามความต้องการที่แตกต่าง

นอกจากนี้แสงสว่างภายในห้องนอน ก็มีคสามสำคัญเช่นกัน เพราะต้องใช้ห้องนอนในเวลากลางคืน การออกแบบแสงสว่างจึงมีผลโดยตรงกับเรื่องการมองเห็น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไปพร้อมกับการถนอมสายตาไปในตัว โดยแสงสว่างในตอนกลางคืนควรเป็นการให้แสงสว่างโดยอ้อม หรือ Indirect Light ไม่ควรใช้แสงสว่างจ้าส่องเข้าตาโดยตรง โดยช่วงแสงที่เหมาะสมจะอยู่ที่ไฟเดย์ไลท์ แบบคูลไวท์ ความสว่างอยู่ที่ 5,000K

03 นวัตกรรมเพื่อการช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วย

นอกจากการจัดการพื้นที่แล้ว เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์พิเศษสำหรับผู้สูงอายุก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเติมคุณภาพชีวิต อำนวยความสะดวกในการผู้ดูแล และการแก้ปัญหาสุขภาพประจำวันทำได้สะดวกขึ้น

ยกตัวอย่างผู้ป่วยแผลกดทับที่จำเป็นต้องเปลี่ยนท่าการนอนทุก 2 ชั่วโมง หรือต้องมีอุปกรณ์ช่วยรองรับบริเวณปุ่มกระดูกที่โดนกดทับ ในปัจจุบันก็มีการออกแบบเตียงที่สามารถปรับระดับ ปรับท่าทางการนั่งและนอน หรือที่นอนลมซึ่งช่วยขยับร่างกายให้เคลื่อนไหวเพื่อป้องกันภาวะข้อติด ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์สวยงามที่ช่วยทั้งเรื่องความสบายตา สบายใจไม่ดูน่ากลัวเหมือนเตียงคนไข้ และสบายกายทั้งกับผู้สูงอายุและคนดูแล

หากตรวจสอบพื้นที่บริเวณบ้าน แล้วพบปัญหา จุดที่ต้องการแก้ไข หรือต้องการรับคำปรึกษาเพิ่มเติมทุกเรื่องบ้าน สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ SCG HOME Experience ในโครงการ Crystal Design Center เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญ ทีมช่าง พร้อมกับผู้ให้คำปรึกษาทุกงานเกี่ยวกับบ้าน มอบบริการแสนอุ่นใจทั้งสินค้าและบริการให้กับคนรักบ้านทุกคน หมดกังวลทุกเรื่องการทำบ้าน SCG HOME Experience  เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00 น.-19.00 น. โทร. 02-101-9922 Line Official : @scghomeexperience หรือต้องการปรึกษาเรื่องสุขภาพ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์กายภาพบำบัด Physical Therapy Center โรงพยาบาลเอกชัย โดยทีมนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเครื่องมือช่วยการดูแลที่ทันสมัย คลอบคลุมทุกการรักษา เพื่อให้คุณได้ใช้ร่างกายได้อย่างมั่นใจ บำบัดทุกอาการปวดเมื่อย ปวดเรื้อรัง จากการใช้อวัยวะหนัก ผิดท่า ออฟฟิศซินโดรมฯลฯ เสริมสร้าง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ  ช่วยให้การเคลื่อนไหวคล่องตัว ฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัด หลังป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต โทร.034-417-999 ต่อ 424, 425 สายด่วน 1715

X

Right Click

No right click