โครงการ Digital Opportunities for Talents (DOTs) 2022 หรือโครงการประกวดแผนธุรกิจภายใต้โจทย์ “Sustainability in Action” ซึ่งจัดขึ้นโดย Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (SeaMoney) ได้ดำเนินมาถึงรอบประกาศผลรางวัลรอบสุดท้าย

โดยผู้ร่วมโครงการทั้ง 30 ทีม ได้ผ่านการแข่งขันอย่างเข้มข้นจนเหลือ 6 ทีมสุดท้าย ที่ได้ร่วมนำเสนอผลลัพธ์ความสำเร็จภายในงานประกาศผลรางวัลรอบสุดท้าย (Final Presentation) เพื่อส่งต่อองค์ความรู้จากการลงมือทำจริงตลอดระยะเวลา 2 เดือนให้กับผู้ประกอบการ SME ตลอดจนร่วมคว้าเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท และในปี 2022 นี้ ทีม In it for the beers ได้แก่ นางสาวศิริธร แก้วสุพรรณ์ และนางสาวสุฎารัตน์ สุขภิลาภ เป็นผู้ที่คว้ารางวัลชนะเลิศไปได้ด้วยแผนธุรกิจสำหรับร้าน Artstory by AutisticThai ผลงานจากจินตนาการผ่านภาพและลายเส้นผลงานศิลปะของกลุ่มเด็กและบุคคลที่มีความแตกต่างทางการเรียนรู้

นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการแข่งขันอย่างเข้มข้นกว่า 2 เดือน ผู้เข้าแข่งขันได้พัฒนาทักษะและแสดงออกถึงศักยภาพ พร้อมเติบโตเป็นผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ในอนาคต ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้เข้าแข่งขันได้ทำงานร่วมกับเจ้าของร้านค้า SME ในการพัฒนากลยุทธ์และลงมือทำจริง เพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างการเติบโตให้กับร้านค้าที่ได้รับมอบหมาย โดย มีผู้เชี่ยวชาญจาก Sea (ประเทศไทย) และช้อปปี้คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ด้านร้านค้าก็ได้แนวคิดและมุมมองใหม่ๆ ในการสร้างธุรกิจให้เติบโต Sea (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดโครงการฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้มีทักษะสำคัญของผู้ประกอบการดิจิทัล ที่สามารถต่อยอดและปรับใช้ได้ในอนาคต พร้อม ๆ กับการสนับสนุนธุรกิจที่ใส่ใจด้านความยั่งยืนให้เกิดการเติบโตในระยะยาว สอดคล้องกับเป้าหมายของ Sea (ประเทศไทย) ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและยกระดับการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยด้วยเทคโนโลยี พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Digital Nation ด้วยการพัฒนา Digital Talent โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป”

โครงการ DOTs 2022 ยังได้รับเกียรติจาก ดร. ศรุต วานิชพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส Sea (ประเทศไทย), ดร.ปรีสาร รักวาทิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานส่งเสริมการประยุกต์ใช้ดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), นางสาววนิดา จรูญเพ็ญ หัวหน้าส่วนประสานเครือข่ายหน่วยงานภาคเอกชน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.), นางรัตน์วลี อนันตานานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และนางสาวฑิฟฟาณี เชน นักทดสอบนโยบาย โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมเป็นคณะกรรมการทรงคุณวุฒิตัดสินผลงานในรอบ 6 ทีมสุดท้ายนี้อีกด้วย

นางสาวศิริธร แก้วสุพรรณ์ และนางสาวสุฎารัตน์ สุขภิลาภ จากทีม In it for the beers คว้ารางวัลชนะเลิศพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 80,000 บาท โดยผลการดำเนินงานที่ทีม In it for the beers ได้นำเสนอแสดงให้เห็นว่า ทีมผู้เข้าแข่งขันได้นำความรู้และทักษะดิจิทัลที่ได้เก็บเกี่ยวตลอดโครงการฯ มาประยุกต์ใช้ในแผนการดำเนินงานเพื่อช่วยให้ Artstory by AutisticThai ร้านค้า SME ไทยที่นำเสนอผลงานจากจินตนาการผ่านภาพและลายเส้นผลงานศิลปะของกลุ่มเด็กและบุคคลที่มีความแตกต่างทางการเรียนรู้สามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจบนช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชได้อย่างแท้จริง โดยเห็นการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 2 เท่า เทียบกับก่อนช่วงเข้าร่วมโครงการ และยอดการเข้าชมร้านค้าในช้อปปี้ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1.3 เท่าภายในระยะเวลา 2 เดือนของการเข้าร่วมโครงการ อีกทั้ง ยังสามารถส่งต่อแนวคิดและแผนงานในการสร้างการเติบโตให้กับร้านค้าอย่างยั่งยืนในอนาคตได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

สำหรับทีมอื่น ๆ ที่เข้ารอบ Final Presentation ก็สามารถทำผลงานได้โดดเด่นและช่วยสร้างการเติบโตของร้านค้าที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทีม ไฉ่เสินเหยีย กับร้าน SANDT คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 มูลค่า 50,000 บาท ทีม Will-Wisdom-Mind กับร้าน Carechoice คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 มูลค่า 30,000 บาท รวมถึงทีม GangRocket กับร้าน Little Hen Noodle, ทีม CreamCreamery กับร้าน Ira Concept และทีม MED KID Consulting กับร้าน Green Wash คว้ารางวัลชมเชย มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท

ยิ่งไปกว่านั้น ร้านค้าทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการฯ ก็มียอดขายต่อเดือนโดยเฉลี่ยบนแพลตฟอร์มช้อปปี้เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2.1 เท่า ยอดคำสั่งซื้อต่อวันเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.3 เท่า และสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้มูลค่าโดยรวม 3.6 ล้านบาท ตลอดในช่วงเวลา 2 เดือนภายใต้โครงการ

 

X

Right Click

No right click