×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 840

ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ผู้นำในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก เตรียมเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 4 รุ่น อายุ 1 ปี 6 เดือน ถึงอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นระหว่าง 3.00-3.95% ต่อปี โดยเสนอขายเป็นครั้งแรกให้กับประชาชนทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 8 แห่ง และช่องทางทรู มันนี่ วอลเล็ต คาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 กันยายน 2566 เผยจุดเด่นหุ้นกู้ นอกจากจะออกและเสนอขายโดยบริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคเอเชียแล้ว หุ้นกู้ยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “บวก” (Positive) จากทริสเรทติ้ง สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจและผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมกว่า 2.41 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.17 หมื่นล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนที่แสวงหาหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ มีโอกาสเติบโต ภายใต้ความเสี่ยงของหุ้นกู้เพียงระดับ 3

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโครและประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” (Makro) และธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ “โลตัส” (Lotus’s) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้รุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน รุ่นอายุ 3 ปี รุ่นอายุ 5 ปี และรุ่นอายุ 7 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 3.00-3.95% ต่อปี ซึ่งจะแจ้งอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้ง โดยจะเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 8 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารยูโอบี และ บล.เกียรตินาคินภัทร รวมถึงเสนอขายผ่านช่องทาง ทรูมันนี่ วอลเล็ต คาดว่าจะเสนอขายได้ในระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 กันยายน 2566

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “A+” เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “บวก” (Positive) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 สะท้อนสถานะของบริษัทฯ ในการเป็นบริษัทย่อยหลัก (Core Subsidiary) ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) และการเป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ด้วยความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานที่ฐานรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 (มกราคม-มิถุนายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้รวม 241,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,746 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากธุรกิจค้าส่งแม็คโคร 130,875 ล้านบาท และธุรกิจค้าปลีกโลตัส 110,959 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 3,682 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Core Net Profit) ที่ไม่รวมรายการพิเศษในครึ่งแรกของปี 2566 อยู่ที่ 3,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“การเติบโตในครึ่งปีแรกของปี 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเดินหน้าขยายสาขาและเพิ่มประสิทธิภาพแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ รวมถึงการผสานช่องทางการขายออนไลน์และสาขาอย่างไร้รอยต่อ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ

ยังมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งในระดับภูมิภาคเอเชีย รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ (Omni channel) ภายใต้การดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักบรรษัทภิบาล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเชื่อว่าด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จะทำให้หุ้นกู้ของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนที่แสวงหาหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงของหุ้นกู้เพียงระดับ 3 (ต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 1 สูงสุดระดับ 8) และธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตสูง” นางเสาวลักษณ์กล่าว

ทั้งนี้ ธุรกิจของ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจค้าส่ง ภายใต้ชื่อ “แม็คโคร” (Makro) ในประเทศไทยและอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการมืออาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้แก่ ร้านค้าปลีกรายย่อย กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง (HoReCa) ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระและสถาบันต่างๆ ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ “โลตัส” (Lotus’s) ในประเทศไทยและมาเลเซีย โดยบริษัทฯ มุ่งที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งอาหารสดและสินค้าอุปโภคบริโภคในระดับภูมิภาคในเอเชีย และขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ ด้วยช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ (Omni channel) นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพของร้านค้า ต่อยอดธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และการปรับโฉมร้านค้าแบบไฮบริดซึ่งดึงจุดเด่นของ 2 กลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีกแบบไร้รอยต่อ เพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยังได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับบริษัทด้านความยั่งยืน โดยเข้าเป็นสมาชิกของดัชนี S&P Global The Sustainability Yearbook 2023 ในกลุ่ม Food & Staples Retailing ซึ่งเป็นดัชนีชั้นนำของโลกที่ใช้วัดผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นบริษัทที่มุ่งสร้างการเติบโตไปพร้อมกับคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัท (IOD) ในระดับ 5 ดาวหรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Score) ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 อีกด้วย

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ซีพี แอ็กซ์ตร้า สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungsri Mobile App (“KMA”) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น SCB EASY สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-285-1555

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น CIMB Thai Digital Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Dime! สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

* ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

** ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

***ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถจองซื้อหุ้นกู้ “ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้อีกด้วย โดยสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้ที่ App Store และ Play Store ดูรายละเอียดวิธีการสมัครแอปฯ และวิธีการจองซื้อได้ที่ www.truemoney.com หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 1240 กด 6

 

สิงหา 2566

 

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เดินหน้าสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จัดงาน Krungsri-MUFG Business Matching Fair 2023 งานเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ ที่พร้อมมอบโอกาสเติบโตทางธุรกิจในการขยายตลาดสู่สากล พบปะเจรจาการค้าและหาพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศจากเครือข่ายของกรุงศรี และ MUFG กว่า 11 ประเทศ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2566 โดยการเจรจาจับคู่ธุรกิจจะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 

สำหรับงานเจรจาจับคู่ธุรกิจ Krungsri-MUFG Business Matching Fair 2023 จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศผ่านทางเครือข่ายที่เชื่อถือได้ของกรุงศรี และ MUFG ใน 11 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา ลาว อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน รวมถึงเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยกรุงศรีพร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ประกอบการด้วยการใช้ระบบคัดเลือกความต้องการของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกสินค้าที่ตรงกับความสนใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการจับคู่เจรจาให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งมีการยืนยันตารางนัดหมาย และจัดการเจรจาแบบส่วนตัว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมงานแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานจะต้องเป็นนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป เป็นผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ให้บริการในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ อาทิ อาหารสด อาหารแช่แข็ง อาหารแปรรูป ขนมขบเคี้ยว ของใช้ส่วนตัวหรือของใช้ในบ้าน อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่แห่งอนาคต เป็นต้น 

ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมเป็นผู้ขาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสามารถสมัครด้วยตนเองทาง www.krungsribusinesslink.com/signup พร้อมอัปโหลดข้อมูลสินค้าและบริการของท่านเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2566 โดยงานเจรจาจับคู่ธุรกิจจะจัดขึ้นวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566

 

บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) จัดกิจกรรมประกวดคลิปวิดีโอ “Krungsri IMAX Video Contest 2021” ซึ่งจัดติดต่อกันมาแล้ว เป็นปีที่ 7 ความยาวไม่เกิน 1 นาที ในหัวข้อ “ดูหนังปลอดภัย ด้วยความห่วงใย ที่กรุงศรีไอแมกซ์” ด้วยในสภาวะที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โรงภาพยนตร์ได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าขั้นสูงสุดตามหลักมาตรฐานสาธารณสุขสากลอย่างเคร่งครัด พร้อมก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดกับ Cashless Cinema โรงภาพยนตร์ไร้เงินสดเต็มรูปแบบ ซึ่งธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้พัฒนารูปแบบการชำระเงินและซื้อบัตรชมภาพยนตร์ผ่านกรุงศรี โมบาย แอปพลิเคชัน (KMA) เพิ่มความสะดวกสบาย ลดการสัมผัสกับธนบัตรตามแนวการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ สะท้อนผ่านหัวข้อการประกวดในปีนี้

 เวทีการประกวดครั้งนี้เปิดกว้างให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุไม่เกิน 30 ปี ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือ บุคคลทั่วไป ได้ใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ เฟ้นหานัก Digital Content ที่มีผลงานสร้างสรรค์คลิปวิดีโอได้อย่างโดดเด่น ชิงเงินและของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 268,000 บาท โดยเนื้อหาจะต้องแนะนำการชำระเงินวิถีใหม่ ไร้เงินสด ในการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ที่กรุงศรีไอแมกซ์ผ่าน Krungsri Mobile Application พร้อมเชิญชวนให้มาชมภาพยนตร์ที่โรงภาพยนตร์แบบ New Normal กับมาตรการปลอดภัยขั้นสูงสุด สนใจสมัครร่วมกิจกรรม สอบถามรายละเอียดได้ที่ www.krungsriimaxvideocontest2021.com ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม - 15 ธันวาคม 2564

 รางวัลการประกวดมีด้วยกัน 4 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และ รางวัลชมเชย รายละเอียดของรางวัลดังนี้

 รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 80,000 บาทและบัตรชมภาพยนตร์ Krungsri IMAX จำนวน 50 ใบ

 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 40,000 บาทและบัตรชมภาพยนตร์ Krungsri IMAX จำนวน 30 ใบ

 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 30,000 บาทและบัตรชมภาพยนตร์ Krungsri IMAX จำนวน 20 ใบ

 รางวัลชมเชย จำนวน 10 รางวัล เงินรางวัล 5,000 บาท และบัตรชมภาพยนตร์จำนวน 10 ใบต่อรางวัล

 

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เผยกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ (Commercial Banking) ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางปี 2561-2563 ด้วยเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นธนาคารหลักของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าธุรกิจ SME พร้อมขับเคลื่อนศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร รวมทั้งการผสานความรู้ความเชี่ยวชาญในประเทศกับศักยภาพความแข็งแกร่งทางการเงินและเครือข่ายระดับโลกของ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) มุ่งเน้นสร้างพอร์ตที่สมดุลและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปี 2561 ตั้งเป้าสินเชื่อธุรกิจโต 6-8% และเงินฝากโต 6-8% 
 
พรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “กลุ่มลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีประสบความสำเร็จในการสร้างความเติบโตด้านสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจระยะกลางฉบับแรกที่ครอบคลุมปี 2558-2560 โดยภาพรวม มีสินเชื่อเติบโตเฉลี่ย 7.5% ต่อปี และเงินฝากเติบโตเฉลี่ย 5.0%  ต่อปี สะท้อนถึงศักยภาพในการต่อยอดความสำเร็จภายหลังการควบรวมธุรกิจของธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ    ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ และการผสานพลังเครือข่ายของ MUFG  สำหรับแผนธุรกิจระยะกลางในปี 2561-2563 กรุงศรีมุ่งเน้นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับกระบวนการทำงานเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและส่งมอบบริการเพื่อสร้างและขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าธุรกิจโดยจะให้ความสำคัญกับการเติบโตของสินเชื่อและเงินฝากไปพร้อมๆ กัน นอกเหนือจากการกระชับสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมแล้ว กรุงศรียังมีเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มใหม่เชื่อมโยงกับนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0”
 
พรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
 
 
“กรุงศรีเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจ (Trusted  Banking Partner) สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และเป็นธนาคารหลักสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมทั้งตั้งเป้าที่จะขยายพอร์ตของธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ โดยจะใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกับบริษัทในเครือกรุงศรี กรุ๊ป และศักยภาพความแข็งแกร่งของเครือข่ายระดับโลกของ MUFG การผสานพลังนี้จะทำให้กรุงศรีสามารถส่งมอบบริการทางการเงินที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบัญชีเพื่อธุรกิจและผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ธุรกรรมและสินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ บริการทางการเงินที่หลากหลายเพื่อตอบสนองการลงทุนในตลาดต่างประเทศ สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ กรุงศรีมุ่งเน้นกลยุทธ์ Fee based business และการปรับสมดุลของพอร์ตสินเชื่อโดยเน้นการเติบโตด้านสินทรัพย์และการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ กรุงศรีได้จัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในด้านการให้คำปรึกษาและองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมการขยายตลาดของลูกค้ากลุ่มธุรกิจไทย รวมทั้งการสร้างเครือข่ายธุรกิจและการแนะนำคู่ค้าธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นายพรสนองกล่าว 
X

Right Click

No right click