“น้ำ” คือทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญยิ่ง ทั้งใช้ในการอุปโภค บริโภค ในครัวเรือน ภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม การบริหารจัดการน้ำที่ดีย่อมทำให้มีทรัพยากรน้ำไว้ใช้ได้อย่างเพียงพอ นวัตกรรม 'ธนาคารน้ำใต้ดิน' นับเป็นหนึ่งในการบริหารจัดการน้ำแบบสมดุลที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ในการรับมือภัยแล้งและน้ำท่วม จากความแปรปรวนของสภาวะอากาศที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

วันนี้ พาขึ้นเหนือไปจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อชมความสำเร็จของ หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงพชร ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ที่นอกจากจะเป็นหมู่บ้านต้นแบบ “ชุมชนคนเลี้ยงหมู” แล้ว ที่นี่ยังเดินหน้าโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน จนปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรม

พิเชษฐ์ ใหญ่แก่นทราย ประธานหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร เล่าที่มาว่า โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ประสบปัญหาการระบายน้ำท่วมขังจากน้ำฝนในบริเวณพื้นที่โครงการฯ มาอย่างยาวนาน ชาวชุมชนจึงได้ร่วมกันศึกษาค้นคว้าวิธีการแก้ปัญหา จนมาพบกับรูปแบบการบริหารจัดการน้ำผิวดินสู่ใต้ดิน (Ground Water Recharge) หรือการทำธนาคารน้ำใต้ดิน ทั้งแบบบ่อปิดและแบบบ่อเปิด ที่ช่วยลดปัญหาปริมาณน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน ทำให้สามารถนำพื้นที่กลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อย่างยั่งยืน

 

การดำเนินโครงการฯ ตามกลยุทธ์ “ขีด คิด ร่วม ข่าย” จากการนำ “ขีด” ความสามารถของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการระบบน้ำมาขับเคลื่อนโครงการฯ ภายใต้การสนับสนุนของผู้บริหารหมู่บ้านฯ ร่วมกับทีมงานของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ที่มาร่วม “คิด” นำแนวคิดนวัตกรรมสู่ความยั่งยืนด้วยการทำธนาคารน้ำ ที่ช่วยลดปัญหาปริมาณน้ำท่วมขัง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำและนำพื้นที่กลับมาใช้ประโยชน์ ผ่านการมีส่วน “ร่วม” ของทีมงานและผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด ที่ร่วมกันสนับสนุนร่วมถึงวางแผนงานโครงการ และร่วมพัฒนาแหล่งเรียนรู้ นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเครือ “ข่าย” ความร่วมมือกับเครือข่ายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชุมชนและหน่วยงานต่างๆ

โครงการฯนี้ เริ่มต้นจากการศึกษาดูงานความสำเร็จของโครงการธนาคารน้ำใต้ดินของ หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ และถ่ายทอดต่อไปยังเกษตรกร ขณะเดียวกัน ได้เชิญวิทยากรจาก อบต.วังหามแห จ.กำแพงเพชร มาบรรยายให้ความรู้ และทำ Work shop ร่วมกันทั้งชาวชุมชน เกษตรกร และทีมงาน รวมทั้งเชิญผู้เชี่ยวชาญจากหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า มาให้คำแนะนำโครงการฯ กระทั่งสามารถสร้างระบบธนาคารน้ำใต้ดิน ทั้งรูปแบบบ่อปิดและแบบบ่อเปิด รวม 10 บ่อในพื้นที่โครงการ

“ธนาคารน้ำใต้ดิน เป็นการบริหารจัดการน้ำใต้ดินแบบครบวงจร ช่วยแก้ไขปัญหาทั้งปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม และน้ำหลาก และยังช่วยป้องกันการสูญเสียสมดุลของน้ำใต้ดิน หลังจากดำเนินโครงการฯนี้แล้ว สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มพื้นที่ทางการเกษตรให้กับชุมชน ทั้งยังสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับเกษตรกร ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้การบริหารการจัดการกักเก็บน้ำใต้ดิน ถ่ายทอดองค์ความรู้และเป็นสถานที่ศึกษาดูงานของหน่วยงาน และน้องๆนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่ และวางแผนต่อยอดสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้หลักสูตรชลกร ร่วมกับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกำแพงเพชรต่อไป” พิเชษฐ์ กล่าว

การดำเนินโครงการตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา ธนาคารน้ำใต้ดินทั้ง 10 บ่อ มีส่วนช่วยเพิ่มพื้นที่ทำการเกษตรในโครงการหมู่บ้านฯ ได้ถึง 50 ไร่ นอกจากนี้ ยังขยายผลสู่ “โครงการ 1 บ้าน 1 บ่อ” ส่งเสริมการสร้างบ่อระบบปิดในบ้านเกษตรกรในโครงการฯ นำร่องแล้ว 12 ครัวเรือน และวางเป้าหมายขยายโครงการฯ ให้กับเกษตรกรทั้งหมู่บ้านสุกรพันธุ์และสุกรขุนครบทั้ง 40 ครัวเรือน ภายในปี 2567 นี้

วันนี้หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร สามารถแก้ปัญหาของพวกเขาด้วยนวัตกรรมธนาคารน้ำใต้ดิน โดยการฝากน้ำไว้กับดิน ที่ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง และป้องกันปัญหาภัยแล้ง ทำให้มีน้ำใช้ในการเลี้ยงสุกรและการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี ช่วยสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำอย่างเป็นรูปธรรม

หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การสนับสนุนของเครือซีพีและซีพีเอฟ ทั้งด้านการสร้างอาชีพมั่นคงยั่งยืนจากการเลี้ยงหมู และมีรายได้จากการเพาะปลูกพืช ปลูกผักกระเฉดน้ำ เลี้ยงปลาดุก-ปลาสวาย และปุ๋ยมูลสุกรตากแห้ง ที่เป็นอาชีพเสริม ดังที่ดำเนินการมาตลอด 45 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ที่นี่เป็น “หมู่บ้านสามัคคี เทคโนโลยีทันสมัย พัฒนาก้าวไปอย่างยั่งยืน”

คลิกชมคลิป

 

นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด เปิดเผยว่า “ธุรกิจห้าดาว” (Five Star) ประกาศปรับลดราคาจำหน่ายสินค้า Five Star ถาวรหลายรายการ มาตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค โดยโครงสร้างราคาใหม่นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรเดิมของเถ้าแก่แฟรนไชส์ หากแต่เป็นการช่วยกระตุ้นผู้บริโภคซื้อสินค้าห้าดาวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าขายดียอดนิยมของห้าดาว หลายรายการ อาทิ ไก่ย่างทุกสูตร ไก่ทอด ไก่กรอบ และไก่จ๊อทุกเมนู ส่งผลให้เถ้าแก่ห้าดาวสามารถจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น จนได้กำไรที่มากกว่าเดิม

“ห้าดาวให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ในการกับการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ รสชาติ และความคุ้มค่า เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคมาโดยตลอด ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของครอบครัวห้าดาว ที่บริษัทฯ และแฟรนไชส์ มุ่งขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องตลอด 40 ปี เพื่อเดินหน้าการสร้างโอกาสแก่เถ้าแก่ห้าดาว เติบโตบนเส้นทางธุรกิจไปด้วยกันอย่างมั่นคง ควบคู่กับการสร้างแหล่งอาหารให้กับชุมชนและผู้บริโภคอย่างยั่งยืน” นายสุนทร กล่าว

ธุรกิจห้าดาว ยึดหลักการสร้างคุณค่าภายใต้ 3 ประโยชน์ คือ ประโยชน์แรก ประชาชนที่ได้รับประทานอาหารที่ดี มีคุณภาพ ในราคาคุ้มค่าเข้าถึงได้ เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ประโยชน์ต่อมา คือเถ้าแก่ในฐานะคู่ค้าที่แข็งแกร่ง ที่ต้องได้รับประโยชน์จากการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น มีกำไรเพิ่มขึ้น โดยห้าดาวไม่เคยลดกำไรของผู้ประกอบการแม้ในช่วงเวลา Promotion ก็ตาม ตอกย้ำการมุ่งสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการ และสุดท้ายประโยชน์จึงจะส่งต่อมาถึงบริษัทฯ

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้รับประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product: CFP) ประจำไตรมาสแรกของปี 2567  จำนวน 584 รายการ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. โดยมี นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ อบก.เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนีบัตรรับรองฯ ตอกย้ำความุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ (CP Low-carbon Products) เพื่อส่งมอบสู่ผู้บริโภคมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปด้วยกัน  

ผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟทั้ง 584 รายการ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บกทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมเป็นจำนวน 523 รายการ อาทิ อาหารสุกรขุน ไฮโกร 591, อาหารไก่เนื้อ ไฮโปรไวท์ 510 รวมทั้งเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์  กลุ่มผลิตภัณฑ์เป็ด มีทั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการต่ออายุฉลาก และได้รับการขึ้นทะเบียนสินค้าที่ได้รับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ อาทิ เป็ดปรุงสุก ผลิตภัณฑ์เป็ดพะโล้ รวมจำนวน 20 รายการ ยกตัวอย่าง เนื้อเป็ดย่างเครื่องเทศสไตส์ฮ่องกง ตราซีพี, เป็ดต้มทอดเลาะกระดูกแช่แข็ง ตราซีพี เป็นต้น ผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุก 1 รายการ ได้แก่ เนื้ออกไก่หั่นเต๋าอบ ตราคิทเช่นจอย ผลิตภัณฑ์ของสายธุรกิจสัตว์น้้ำ มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่อาหารกุ้งจนถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป รวมจำนวน 40 รายการ อาทิ อาหารกุ้งขาว บลังก้า พลัส,จุลินทรีย์ ไบโอติก,กุ้งขาวแวนนาไมสด,เกี๊ยวกุ้งจักรพรรดิ ตราซีพี ฯลฯ

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากอบก. เป็นการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วย ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การประกอบชิ้นงาน การกระจายสินค้า การใช้งาน และการจัดการซากบรรจุภัณฑ์หลังของเสียหลังหมดอายุการใช้งาน รวมถึงการขนส่งที่เกี่ยวข้อง โดยคำนวณออกมาในรูปของ กรัม, กิโลกรัม หรือตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า สะท้อนความมุ่งมั่นในการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งมอบผลิตภัณฑ์คาร์บอนฯต่ำ (CPF low-carbon products) ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในการมีส่วนร่วมบริหารจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยสังเกตได้จากฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์บนผลิตภัณฑ์ 

ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ โดยประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ปี 2552  ตามหลักการประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน ISO 14040 ,ISO 14044 และISO 14067  ซึ่งจนถึงปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟที่ได้รับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 880 รายการ และในปี 2024 มีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มเนื้อหมูชีวา แบรนด์ยูฟาร์ม เพื่อขึ้นทะเบียนรับรองการได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ นอกเหนือจากเนื้อหมูซีพี และหมูซีพี คุโรบุตะที่ได้รับรองไปก่อนหน้านี้แล้ว  รวมทั้งในปีนี้ จะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ขึ้นทะเบียนรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วยเช่นกัน

นายสุนทร จักษุกรรฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด เปิด เผยว่า "ธุรกิจห้าดาว" (Five Star) สานฝันผู้ประกอบการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มุ่งสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการ มาตลอด 40 ปี ปัจจุบันมีแฟรนไชส์กว่า 5,000 รายในประเทศไทย และอีก 3,500 รายในต่างประเทศ ตั้งเป้าปี 2567 ขยายความสำเร็จเป็น 11,500 ราย ใน 10 ประเทศ โดยมุ่งเน้นการสานต่อความสำเร็จ สร้างเถ้าแก่ที่เข้มแข็งมีคุณภาพ ส่งต่ออาหารคุณภาพปลอดภัยสู่ผู้บริโภค โดยมีบริษัทฯ เป็น “เพื่อนแท้ทางธุรกิจ” ที่ช่วยสนับสนุนในทุกๆด้าน ช่วยสร้างโอกาสที่จับต้องได้ บนพื้นฐานความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจของห้าดาวที่มีมาอย่างยาวนาน ด้วยกลยุทธ์ที่โดดเด่น ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้ประกอบการเป็นเถ้าแก่ที่มีการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคง

“ตลอดการดำเนินงาน 40 ปี ธุรกิจห้าดาวมุ่งมั่นสร้างอาชีพ ให้ผู้ประกอบการมีโอกาสเติบโตบนเส้นทางธุรกิจไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน จากระบบบริหารจัดการแบบครบวงจร ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ โดยมีบริษัทฯ เป็นทีมหลังบ้านที่แข็งแกร่ง ด้วยการลงทุนที่ต่ำกว่าในอุตสาหกรรมใกล้เคียงกัน จึงลดความเสี่ยงของผู้ลงทุน ทำให้สามารถคืนทุนได้ในเวลาอันรวดเร็ว เป็นการสร้างอาชีพและรายได้ที่แน่นอน ช่วยสร้างงานให้กับคนในชุมชน เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งมอบอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภค และมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน” นายสุนทร กล่าว

ธุรกิจห้าดาว เป็นธุรกิจจุดจำหน่ายอาหารในรูปแบบแฟรนไชส์สัญชาติไทย ดำเนินการภายใต้ บริษัท ซีพีเอฟเรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด บริษัทย่อยของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ปัจจุบันธุรกิจห้าดาวมีแฟรนไชส์จำหน่ายอาหารหลากหลาย ตั้งแต่ ซุ้มไก่ย่าง-ไก่ทอดห้าดาว กระทะเหล็ก Hi Pork เป็ดเจ้าสัว ข้าวมันไก่ไห่หนาน และ STAR COFFEE และยังคงเดินหน้าพัฒนารูปแบบร้านให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ ทั้งรูปแบบ Five Star Glass House และ Five Star Shop

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการทำ Food Delivery สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่าน TrueMoney Wallet ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในยุคของสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ที่สำคัญยังมีทีมงานเข้าตรวจสอบคุณภาพมาตรฐาน QSC และประเมินการรักษามาตรฐานของร้านอยู่เสมอ ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นเจ้าของธุรกิจอาหารที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นด้านคุณภาพ ความปลอดภัยของสินค้า และมีความเป็นเลิศในการบริการ

บุชเชอร์ (BUCHER) แบรนด์ไส้กรอกพรีเมียมอันดับหนึ่งของไทย ในกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ร่วมกับ ร้านอาหาร Potong Fine Dining ที่ได้รับมิชลินสตาร์ การันตีความอร่อย โดย 'เชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม' จัดกิจกรรม 'The Exclusive Fine Dinning by Chef Pam' เปิดประมูลบัตรรับประทานอาหารการกุศล โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสมทบทุนปรับปรุงห้องผ่าตัดและสร้างอาคารหอผู้ป่วยใน ภายใต้โครงการ “ได้โอกาส ให้โอกาส”

สำหรับ การเปิดประสบการณ์เหนือระดับ แบบ Exclusive Fine Dining สุดหรู โดย 'เชฟแพม' จะรังสรรค์เมนูพิเศษจากวัตถุดิบพรีเมียมยอดนิยมของบุชเชอร์ อย่าง 'ไส้กรอกอกหมูชีส กลิ่นทรัฟเฟิล' ไส้กรอกหมูบดหยาบหนังกรอบ สอดไส้ชีสกลิ่นทรัฟเฟิลนำเข้าจากเยอรมนี และ 'ไส้กรอกหมูคูโรบูตะ กลิ่นชาร์โคลกริลล์' ที่ทำจากเนื้อหมูคูโรบูตะบดหยาบคัดสรรพิเศษ เนื้อนุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นย่างถ่านชาร์โคลเป็นเอกลักษณ์ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมประมูลบัตรรับประทานอาหาร 8 ที่นั่ง (Charity Seat) ณ ร้านโพทง (Potong) ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2567 ทาง www.Bucherxpotong.com 

ทั้งนี้ ยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้โอกาส ด้วยการบริจาคสมทบทุน 'ปรับปรุงห้องผ่าตัด และสร้างอาคารหอผู้ป่วยใน' ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 901-7-05611-1 ชื่อบัญชี ศิริราชมูลนิธิ สร้างอาคารส่วนขยายศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก กองทุน สร้างอาคารส่วนขยายศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ระยะที่ 2 (ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ตามกรมสรรพากรกำหนด) เว็บไซต์ : https://www.gj.mahidol.ac.th/main/donation

Page 1 of 43
X

Right Click

No right click