เรียนรู้จากการฝึกปฏิบัติที่หลากหลาย เน้นวิเคราะห์นักศึกษารายบุคคล เพื่อให้นักศึกษาพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ พร้อมความรู้ธุรกิจ เสริมสร้าง Soft Skills เน้นการทำงานได้หลากหลายอาชีพ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานได้เป็นอย่างดี
ผศ. ดร. ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU กล่าวว่า หลักสูตรของวิทยาลัยนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น หลักสูตรภาษาจีนธุรกิจ หรือหลักสูตรภาษาอังกฤษธุรกิจ ล้วนมีจุดแข็งทั้งในเรื่องของคณาจารย์ที่มีความรู้ ประสบการณ์ และเข้าใจแนวคิดของการจัดการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงในโลกสมัยใหม่ ขณะเดียวกัน วิทยาลัยมีความเข้มแข็งเนื่องจากเป็นชุมชนภายใต้สภาพแวดล้อมนานาชาติที่มีความหลากหลายของนักศึกษาต่างชาติ กว่า 22 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมีเครือข่ายกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศสำหรับการต่อยอดการเรียนให้แก่นักศึกษา เช่น จบปริญญาตรีจากวิทยาลัยนานาชาติ มธบ. สามารถขอทุนไปเรียนต่อที่ประเทศจีนได้ ที่สำคัญคือ บัณฑิตที่จบไปมีโอกาสทำงานและก้าวหน้าในสายอาชีพที่หลากหลาย ทั้งในองค์กรภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเป็นผู้ประกอบการด้วยเช่นกัน
ด้าน ดร. สกลกานต์ อินทร์ไทร หัวหน้าหลักสูตรภาษาอังกฤษธุรกิจ วิทยาลัยนานาชาติ มธบ. กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 30 กว่าปีที่ผ่านมา หลักสูตรฯ ได้มีการพัฒนาให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคแต่ละสมัยมาโดยตลอด โดยในปัจจุบัน หลักสูตรภาษาอังกฤษธุรกิจ ได้เน้นให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในบริบทการทำงาน ทั้งยังเสริมความรู้ทางธุรกิจแบบรอบด้าน โดยได้วิเคราะห์ความต้องการของตลาดแรงงาน และนำมาปรับปรุงรายวิชา ปรับรูปแบบการเรียนการสอนอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนา Soft Skills ไม่ว่าจะเป็นทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม เป็นต้น จึงเชื่อว่า ทักษะภาษาและความรู้ธุรกิจที่บัณฑิตมีอยู่นั้น สามารถนำไปปรับใช้กับงานอาชีพใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี
“การจัดการเรียนการสอนนั้น ในช่วงปีที่ 1-2 จะเน้นฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษ ฟัง พูด อ่าน เขียน คำศัพท์ ไวยากรณ์ การออกเสียง รวมถึงทักษะที่จำเป็นในการเรียนภาษา โดยฝึกฝนแบบไต่ระดับขึ้นไปเพื่อความแม่นยำ เสริมด้วยรายวิชาที่ให้ความรู้พื้นฐานทางด้านธุรกิจ และเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3-4 จะเน้นฝึกฝนทักษะภาษาในบริบทการทำงานแบบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นทักษะการแปล การนำเสนอข้อมูล การใช้ภาษาในงานสำนักงาน งานด้านการตลาด หรือแม้แต่ทักษะในการสื่อสารกับผู้คนต่างวัฒนธรรม ที่สำคัญคือ มีวิชาให้นักศึกษาเลือกเรียนได้ตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการบิน ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก หรือภาษาอังกฤษเพื่อการเรียนการสอนภาษา และในปี 4 เทอม 2 นักศึกษายังสามารถเลือกไปฝึกงานในสถานประกอบการแบบเต็มรูปแบบได้ทั้งเทอม เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานในสถานการณ์จริง และเป็นการค้นหาตนเอง ว่าเราชอบหรือถนัดงานนั้น ๆ มากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมตัวทำงานจริงหลังจากจบการศึกษา” ดร.สกลกานต์กล่าว
ดร.สกลกานต์ กล่าวต่อว่า นักศึกษาที่จบจากหลักสูตรภาษาอังกฤษธุรกิจสามารถทำงานได้หลากหลายมาก ยืนยันได้จากรุ่นพี่ศิษย์เก่าที่ทำงานอยู่ในแวดวงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานลูกค้าสัมพันธ์งานขาย งานด้านการตลาด งานนำเข้าส่งออก งานประชาสัมพันธ์ ธุรกิจการบิน ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจการท่องเที่ยว หลายคนรับราชการ บางคนก้าวตามความฝันไปทำงานและใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ หลายคนเป็นผู้ประกอบการ มีธุรกิจของตนเอง ส่วนงานอาชีพที่ต้องใช้ภาษาโดยตรงก็มีอีกหลายอย่าง เช่น นักแปล ล่าม นักเขียนคอนเทนต์ ติวเตอร์ ครูอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ เป็นต้น
“ในช่วงปีแรก เราจะวิเคราะห์นักศึกษา ว่าแต่ละคนจำเป็นต้องเสริมทักษะด้านไหน หรือต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ โดยหลักสูตรฯ จะมีระบบดูแลนักศึกษา ที่มีทั้งอาจารย์และรุ่นพี่คอยดูแลช่วยเหลือรุ่นน้อง ทั้งด้านการเรียน การปรับตัว โดยมุ่งเน้นให้ทุกคนได้พัฒนาตามศักยภาพของตน ภาษาที่ฝึกฝนจะอยู่ในสถานการณ์ที่หลากหลาย มีโครงการกิจกรรมที่ช่วยฝึกภาษานอกห้องเรียน ทั้งนี้ สภาพแวดล้อมของหลักสูตรฯ ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของวิทยาลัยนานาชาติ จะมุ่งความเป็นนานาชาติให้เด็กได้สื่อสารกับเพื่อนต่างชาติ นักศึกษาจะได้มีความมั่นใจในการใช้ภาษาได้มากขึ้น”
การได้ฝึกทักษะภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้นควบคู่กับการมีความรู้ด้านธุรกิจ ทำให้นักศึกษาสื่อสารได้อย่างมั่นใจเมื่อก้าวไปสู่โลกการทำงาน โดยจะสามารถเรียนรู้ ปรับตัว และก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต เพราะมีเครื่องมือสำคัญคือทักษะทางภาษาที่ได้ฝึกฝนเรียนรู้มานั่นเอง จริง ๆ แล้วนั้น หากงานใดเป็นงานที่ต้องการสื่อสารกับผู้คนทั่วโลก งานนั้นจะต้องการคนเก่งภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นในแวดวงเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การศึกษา การทูต การค้าการลงทุน การบิน เป็นต้น ดังนั้น คนที่จบโดยตรงทางด้านภาษาจึงมีโอกาสที่เหนือกว่า ในการใช้ภาษาเพื่อต่อยอดไปทำงานเป็นกลไกหนึ่งในแวดวงเหล่านั้น ภาษาอังกฤษเป็นประตูที่เปิดออกสู่โอกาสอีกมากมาย ไม่ว่าจะเพื่อการเรียนต่อระดับสูงขึ้นไป หรือการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อความก้าวหน้าในการทำงาน
วิทยาลัยนานาชาติ มธบ. เองนั้น มีความร่วมมือกับภาคธุรกิจ โดยมีสถานประกอบการจำนวนมากที่ เด็กสามารถไปฝึกงานในโครงการสหกิจศึกษา มีสถานประกอบการประมาณ 80 แห่งที่มีการทำงานร่วมกัน ฉะนั้น การมาเรียนในหลักสูตรภาษาอังกฤษธุรกิจ มธบ. บัณฑิตที่จบไปจะมีศักยภาพ มีความพร้อมในการทำงาน อีกทั้งยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปได้ในอนาคต เพื่อไปทำงานในสายอาชีพต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ