ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.)

บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ต่อยอดความสำเร็จแพลตฟอร์มออนไลน์ Healthy Living มุ่งนำเสนอสาระความรู้ ครอบคลุมทุกประเด็นการใช้ชีวิต ภายใต้แนวคิด “กินดี ชีวิตดี สุขภาพดี มีใช้”

บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โชว์ผลงานช่องทางตัวแทนเติบโตแกร่ง เตรียมเข้าสู่ยุคดิจิตัลเต็มตัวภายในปี 2563 ด้วยเครื่องมือเสริมศักยภาพช่วยวางแผนการขาย การพิชิตเป้าหมาย การปิดการขายที่รวดเร็ว การพัฒนาความเป็นมืออาชีพ พร้อมจัดงานสัมมนาผู้บริหารตัวแทน ภายใต้แนวคิด “Explore the best in you” มีผู้บริหารตัวแทนร่วมงานกว่า 1,000 คน ร่วมติดอาวุธทางปัญญา ประกาศเดินหน้าสร้างผลงานพิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวม 1.5 หมื่นล้านบาท

นายวิรงค์ พัฒนกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารตัวแทน บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ช่องทางขายผ่านตัวแทนของอลิอันซ์ อยุธยา ทำผลงานได้ดีเป็นที่น่าพอใจอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยในไตรมาส 1 ปี 2562 นี้ ถือเป็นช่วงที่ตลาดประกันยังมีภาวะชะลอตัวจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในเรื่องของกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง แต่ตัวแทนของเรายังคงเดินหน้าโชว์ศักยภาพที่แข็งแกร่ง สร้างการเติบโตของเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจใหม่ได้ถึง 10% นับว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ มีผลมาจาก การดำเนินกลยุทธ์ที่ถูกต้องเหมาะสมกับสภาวะตลาดและความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสินค้าสุขภาพ ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ รวมถึงยังมีสินค้าสุขภาพ ที่เราร่วมมือกับ โรงพยาบาลในเครือ บีดีเอ็มเอส  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุมทุกการรักษาพยาบาล  ที่ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ และการให้บริการที่สร้างประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า”นอกจากนี้ ยังมีการนำเครื่องมือดิจิตัลเข้ามาช่วยในการทำงานของตัวแทน ไม่ว่าจะเป็น

  • Allianz Discover เครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยให้การเสนอขายสะดวกรวดเร็ว ปิดการขายได้ง่ายขึ้น
  • Allianz Learning Management System (LMS) เครื่องมือที่ช่วยพัฒนาศักยะภาพ เพิ่มความรู้ ให้กับตัวแทน เป็นการเรียนออนไลน์ ได้ตลอดเวลาด้วยระบบ E - learning เพิ่มทางเลือกให้ตัวแทนในการพัฒนาตนเอง ลดความยุ่งยากในการเดินทาง ทำให้ตัวแทนสะดวกมากยิ่งขึ้น
  • Allianz Activity Management System (AMS) ที่ช่วยตัวแทนให้สามารถวางแผนการทำงานเพื่อพิชิตเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การกำหนดเบี้ยที่ต้องพิชิตในแต่ละเดือน กำหนดจำนวนการนัดหมายลูกค้าแต่ละวัน เป็นต้น ซึ่งเครื่องมือนี้ ใช้สำหรับบริหารการทำงานได้ทั้งระดับตัวแทน ไปจนถึงผู้บริหารตัวแทน

 

ด้วยเครื่องมือและแพลทฟอร์มดิจิทัลที่เราเร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปีนี้ คาดว่า จะทำให้ช่องทางตัวแทน ก้าวสู่ระบบ Paperless หรือการทำงานโดยปราศจาการใช้กระดาษได้ภายในปี 2563

อย่างไรก็ตาม นอกจาก กลยุทธ์ด้านดิจิตัล และผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น อลิอันซ์ อยุธยา ยังคงเดินหน้าพัฒนาตัวแทนของเรา ให้มีความเป็นมืออาชีพ โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการสรรหาตัวแทนใหม่ที่เน้นคุณภาพ อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง เพื่อสร้างทีมงานรุ่นใหม่ที่มีบุคลิกลักษณะเฉพาะแบบอลิอันซ์ อยุธยา โดยสิ่งเหล่านี้ได้ถูกขับเคลื่อนผ่านผู้บริหารตัวแทน เราจึงให้ความสำคัญมากกับการให้ความรู้และทำความเข้าใจกับผู้บริหารตัวแทน ให้มีการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการจัดงานสัมมนาผู้บริหารตัวแทนในวันนี้ ที่มีผู้บริหารตัวแทนร่วมงานกว่า 1,000 คน จากทั่วประเทศ โดยการสัมมนาปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Explore the best in you” มีกิจกรรมน่าสนใจและเป็นประโยชน์มุ่งให้ความรู้ ติดอาวุธทางปัญญาแก่ผู้บริหารตัวแทน อาทิ การบรรยายในหัวข้อ “Explore Your Creativity - Accelerator” โดย คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์  CEO OOKBEE  ผู้ซึ่งเติบโตจากเด็กประกอบคอมฯ สู่อัจฉริยะผู้นำด้าน Tech Startup ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท อุ๊คบี พร้อมด้วยช่วงเวิร์คช็อปกลุ่มย่อยที่ผู้บริหารฝ่ายขายที่มีผลงานยอดเยี่ยมมาร่วมแบ่งปันเทคนิคในการบริหาร อีกด้วย

 

“การสัมมนาตลอดทั้ง 2 วันนี้ อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาวิชาการที่เข้มข้น รวมทั้งการสร้างแรงบันดาลใจดีๆจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย มั่นใจว่าพลังผู้บริหารตัวแทน 1,000 กว่าคนที่เข้าร่วมงาน จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ พร้อมพิชิตเป้าหมายการเติบโตในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนตัวแทนใหม่กว่า 2,500 คน จำนวนตัวแทนที่มีผลงานสม่ำเสมอ 2,000 คน ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทสามารถเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ และพิชิตเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมของช่องทางตัวแทนที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ได้อย่างแน่นอน” นายวิรงค์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้วยรากฐานกว่า 80 ปี รวมกับความไว้วางใจของลูกค้าในประเทศไทย ทำให้เอไอเอ ประเทศไทย เป็นผู้นำตลาดประกันชีวิตในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อดูการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตทั้งตลาดในปี 2561 จะเห็นว่า เบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกหดตัวลง 7.2 เปอร์เซ็นต์ แต่เบี้ยประกันแบบจ่ายครั้งเดียวเพิ่มขึ้น 31.0 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ เอไอเอ ประเทศไทย สามารถทำผลงานได้โดดเด่นกว่าตลาดโดยรวม โดยมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกถึง 8.6 เปอร์เซ็นต์ และเบี้ยประกันแบบจ่ายครั้งเดียวที่เติบโตถึง 32.2 เปอร์เซ็นต์

เอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า เหตุที่เอไอเอสามารถทำผลงานได้ดีมาอย่างต่อเนื่อง มาจากการปรับตัวอย่างสม่ำเสมอของเอไอเอเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาตัวแทนที่เป็นที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน หรือ AIA Financial Advisor รวมถึงการผลักดันนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและพัฒนาการบริการในด้านต่างๆ

แนวโน้มประกันชีวิต ปี 2562 สมาคมประกันชีวิตไทยประเมินว่าตลาดประกันชีวิต ในภาพรวมปี พ.ศ. 2562 จะเพิ่มขึ้น 3.5 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น เอกรัตน์มอง 4 แนวโน้มที่น่าจับตามองของธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้ซึ่งประกอบด้วย

ดิจิทัลจะเพิ่มความสำคัญ

แม้ธุรกิจประกันชีวิตจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกระแสดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงเช่นที่เกิดขึ้นแล้วในหลายอุตสาหกรรม แต่จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในบางอุตสาหกรรมทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะได้รับบริการในรูปแบบใกล้เคียงกัน จึงเป็นโจทย์ที่บริษัทประกันชีวิตต้องเตรียมรับมือเอไอเอ ตั้งเป้าหมายจะเป็น Leading Digital Insurer ของประเทศไทยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น “การนำเทคโนโลยีมาช่วยให้กระบวนการภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็จะกลับไปเป็นบริการที่ดีขึ้น คืนให้กับลูกค้าทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น”

การตลาดแบบการแบ่งกลุ่มลูกค้า (Segmentation Marketing)

จากแนวโน้มที่การสื่อสารการตลาดแบบมุ่งกระจายในวงกว้างไม่จำเพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายมีประสิทธิภาพลดลงในยุคปัจจุบัน เพราะผู้บริโภครุ่นใหม่มีช่องทางรับข่าวสารจำนวนมาก การสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์รวมถึงวิธีการทำการตลาดจากข้อมูลที่มีอยู่จึงเป็นเรื่องสำคัญ

เอกรัตน์ยกตัวอย่าง เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (AIA Vitality) และ เอไอเอ เพรสทีจ (AIA Prestige) ว่า เป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เอไอเอสามารถทำผลงานได้อย่างชัดเจน โดย เอไอเอ ไวทัลลิตี้ เป็นโปรแกรมที่มีลูกค้าที่สนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพและใส่ใจดูแลสุขภาพตนเองเข้าร่วมแล้วถึง 250,000 ราย ทำให้บริษัทสามารถลงทุนเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ เอไอเอ เพรสทีจ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เอไอเอมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth) ซึ่งได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดย เอไอเอ เป็นบริษัทประกันชีวิตเจ้าแรกของประเทศไทยที่ทำการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูงอย่างเป็นรูปธรรม และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้เปิดตัวโครงการ เอไอเอ เพรสทีจ คลับ เพื่อมอบเอกสิทธิ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้าคนสำคัญ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ ซึ่งได้รับสนใจจากลูกค้ากลุ่มนี้อย่างมาก ทำให้ปัจจุบัน มีลูกค้าที่อยู่ในโครงการมากกว่า 70,000 ราย ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในการเตรียมพร้อมรับมือกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันของเอไอเอ

การดูแลข้อมูลส่วนบุคคล

พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำลังจะประกาศใช้เป็นกฎหมายในประเทศไทยซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจประกันชีวิตต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจโดยเอไอเอจะมีการพัฒนาการจัดการข้อมูลของลูกค้า ให้รองรับกฎหมายที่กำลังจะออกมาเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละคนจะถูกนำไปใช้อย่างถูกต้อง และมีการป้องกันข้อมูลสำคัญต่างๆ เป็นอย่างดี

บทบาทของ ‘ที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการการเงิน’ จะเพิ่มขึ้น

จากการที่ธุรกิจประกันชีวิตมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ซึ่งในหลายผลิตภัณฑ์มีความซับซ้อนต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ และนี่คือบทบาทของที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน (AIA Financial Advisor) ที่จะเข้ามาช่วยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทที่ทำเรื่องนี้ได้ดีก็จะสามารถสร้างความแตกต่างในตลาดได้ เอกรัตน์มองว่า ที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตและการเงิน จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของเอไอเอ เพราะตัวแทนกลุ่มนี้มีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและการวางแผนการเงินอย่างลึกซึ้ง สามารถช่วยเหลือให้คำปรึกษากับลูกค้าในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย โดยบริษัทมีการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ AIA Financial Advisor สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การเสนอแบบประกันชีวิต การชำระเงิน การตรวจสอบสถานะการเคลม ซึ่งตัวแทนทำได้เองบนแท็บเล็ทเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

เอกรัตน์สรุปว่า ในปี 2562 เอไอเอจะมีการพัฒนาทางด้านกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าได้รับการดูแลที่ดีขึ้น และจะมีการพัฒนาตัวแทนให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมทั้งจะมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการให้บริการลูกค้าให้ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนแต่ละ กลุ่มมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ทั้งหมดนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เอไอเอจะยังเป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภคต่อไป

ขณะเดียวกัน เอไอเอ ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัท ผ่านโครงการเพื่อตอบแทนสังคมในรูปแบบต่างๆ เพื่อมุ่งเน้นให้ประชากรในประเทศไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ ในปีนี้นอกจากการไปร่วมเป็นสปอนเซอร์ให้กับงานวิ่งต่างๆ เอไอเอ ประเทศไทย จะมีการจัดงานวิ่งต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยจะมีการประกาศรายละเอียดในช่วงกลางๆ ปีนี้ พร้อมกันนี้ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี เอไอเอ ประเทศไทย ก็ยังมีการเปิดโรงเรียนศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เอไอเอ ประเทศไทย ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคำขอบคุณที่ เอไอเอ ประเทศไทย มอบให้แก่สังคมเพื่อร่วมพัฒนาบุคลากรและสังคมที่มีคุณภาพให้กับประเทศไทยต่อไป

ประกันสุขภาพ ถือว่าเป็น Segment ที่แท้จริง ปี 2568 (2025) “อลิอันซ์ อยุธยา” ตั้งเป้าเป็นผู้นำธุรกิจประกัน สุขภาพของไทย เห็นได้จาก ผลงานในปี 2561 ภาพรวม ตลาดประกันสุขภาพโต 10% โดย อลิอันซ์ อยุธยา เติบโตกว่า ตลาดรวมโดยอยู่อันดับ 3 ของธุรกิจกิจประกันสุขภาพ

สำหรับกลยุทธ์หลักเพื่อไปถึงเป้าหมาย การขายผ่านตัวแทน จะเป็นช่องทางหลักที่มีความสำคัญ และจะต้องมีเพิ่มสัดส่วนยอดขายประกันสุขภาพเป็น 42.5% จากปี 2561 ที่มีสัดส่วนที่ 40% และ เป้าหมายปี 2562 คาดการณ์ว่าภาพรวม ตลาดจะเติบโตประมาณ 10-20% อลิอันซ์ อยุธยา ตั้งเป้าจะมีอัตราการเติบโต 20% และภายในปี 2564 อลิอันซ์ อยุธยา จะก้าวขึ้นอันดับ 2 และภายใน 7 ปี ครองตลาดขึ้นเบอร์ 1 ในธุรกิจประกัน สุขภาพของไทย

 

นายไบรอัน สมิท กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยถึง 5 กลยุทธ์สำคัญ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายผู้นำประกันสุขภาพในอนาคตที่จะเดินไปนั้น ในเชิงกลยุทธ์ ของอลิอันซ์ อยุธยา ปีนี้ เราจะไม่ใช้กลยุทธ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่เป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับปีที่ผ่านมา และเป็นแผนระยะยาว 7 ปี ถึงปี 2568 (2025) โดยเน้นใน 5 ด้าน ได้แก่

  1. Digital การรุกธุรกิจเข้าไปสู่ช่องทางดิจิทัล เน้นใช้ช่องทางดิจิทัลผลักดันธุรกิจให้เติบโตผ่านการหาพันธมิตรรายใหม่ ในการพัฒนาช่องทางการขาย อาทิ การสานต่อความสัมพันธ์ของอลิอันซ์ และ Go-Jek สตาร์ตอัปยูนิคอร์นจากเอเชีย ในตลาดประเทศไทย นอกจากนั้น ยังเน้นการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้พัฒนา การให้บริการลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น Allianz Discover ใน ช่องทางตัวแทน Digital for Life เพื่อ สนับสนุนการขายของช่องทางธนาคาร ระบบ Robotics ที่เอามาช่วยการทำงานแบบอัตโนมัติในสายงานต่างๆ เช่น สายงานการเงิน การใช้ Big Data เพื่อมาวิเคราะห์ข้อมูล
  2. Health Leadership มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันสุขภาพแห่งอนาคต โดย จับมือกับผ้าด้านบริการสุขภาพอย่าง BMDS ในการให้บริการด้านสุขภาพดิจิทัลอย่างครบวงจร พร้อมสร้างการเติบโตให้ กับแพลตฟอร์มออนไลน์ Healthy Living ที่หวังจะให้เป็นชุมชนด้านสุขภาพขนาดใหญ่ขึ้นที่นอกจากจะช่วยสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้าและแบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังถือเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับบริษัทในการ พัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพอีกด้วย
  3. Professional Agency การพัฒนาช่องทางการขายผ่านตัวแทน เน้นสร้าง และพัฒนาตัวแทนที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาและพัฒนาตัวแทนเต็มเวลาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน สร้างตัวแทนมืออาชีพที่สร้างผลงานสม่ำเสมอ และพัฒนา ตัวแทนยุคดิจิทัลที่มุ่งสู่ระบบ Paperless ภายในปี 2563
  4. One Allianz Ayudhya การผสานพลังธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัย ภายใต้แบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา ซึ่งจะทําให้แบรนด์ อลิอันซ์ อยุธยา มีความแข็งแกร่ง และสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งในส่วนของประกันชีวิตและประกันภัยได้อย่างครบวงจร สร้างความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบ One Stop Service
  5. True Customer Centricity (TCC) วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ขับเคลื่อน อลิอันซ์ อยุธยา มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TCC ไม่ได้หมายความถึงเพียงผู้ถือ กรมธรรม์เท่านั้น แต่พนักงานฝ่ายขาย และพันธมิตรทางธุรกิจ ต่างก็เป็นลูกค้าที่สำคัญของกันและกัน โดยตัวชี้วัดความสำเร็จที่สำคัญ ก็คือการสร้างความพึงพอใจจนลูกค้าอยากบอกต่อ หรือ NPS Score และความผูกพันที่พนักงานมีกับองค์กร หรือ AES Score ให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

นายไบรอัน กล่าวทิ้งทายว่า ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจทั้งหมดที่กล่าวมา รวมทั้งความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานทุกคน ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้อลิอันซ์ อยุธยา สามารถเติบโตธุรกิจในประเทศไทย ได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นแบรนด์ประกันอันดับหนึ่งในใจลูกค้า รวมทั้งสร้างความผูกพันกับพนักงาน พร้อมพิชิตยอดเบี้ย ประกันภัยรับรวม 33,000 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 6,500 ล้านบาท จากทุกช่องทาง และก้าวสู่ผู้นำด้านความ คุ้มครองชีวิตและสุขภาพได้อย่างมั่นคง

 

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click