×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 840

หนึ่งในสิ่งที่คนไทยและทั่วโลกยอมรับต่อชาวญี่ปุ่นคือความเป็นเลิศของการเป็น Craftsmanship หรือ “ช่างฝีมือ” ที่มีบทพิสูจน์ของความสามารถคือความสำเร็จของเศรษฐกิจช่างศิลป์ (Artisan Economy) ผ่านสิ่งประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ สิ่งของที่สวยงาม และฟังก์ชันในการใช้สอยได้อย่างเป็นที่พออกพอใจของผู้ใช้ สร้างเป็นการตลาดสินค้าได้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสิ่งนี้ในจังหวัดยามานาชิก็มีงานศิลป์เช่นนี้อยู่ไม่น้อย และหนึ่งในนั้นอีกทั้งยังเป็นความภูมิใจของท้องถิ่นคือ อินเด็นยะ (INDEN-YA) งาน “ลงรัก” พิมพ์ลายบนแผ่นหนังกวาง จากนั้นทำเป็นผลิตภัณฑ์ใช้สอยที่งดงามทั้งกระเป๋าสตางค์ ซองนามบัตร กระเป๋าถือ พวงกุญแจ และผลิตภัณฑ์อีกหลากหลาย

 

ข้อสังเกตหนึ่งซึ่งทีมงาน MBA พบเห็นจากการพบปะบุคคลสำคัญหรือแม้แต่บุคคลทั่วไปที่พบเจอในจังหวัดยามานาชิ คือ คนส่วนใหญ่จะใช้ซองนามบัตรของ INDEN-YAแทบทั้งสิ้น (สังเกตพบในการแลกนามบัตรกับทุกคน) เป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จของ INDEN-YA ที่ไม่ได้ถ่ายทอดเพียงความงดงาม แต่ยังหีบห่อความรัก-ศรัทธา และความไว้วางใจของคนในพื้นที่ไว้ได้อย่างกลมกลืน

 

เมื่อเราได้มีโอกาสสอบถามผู้จัดการร้าน INDEN-YA ที่เมืองโคฟุ หลังรับชมวีดิทัศน์ที่ฉายแสดงถึงประวัติความเป็นมา และกระบวนการผลิตงานบนพิพิธภัณฑ์ INDEN-YA ที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของร้าน ที่เมืองโคฟุ ว่าอะไรคือคติพจน์หรือ ปรัชญาที่ INDEN-YA ทั้งผู้บริหารและทีมงานยึดถือและคิดว่าคือสิ่งที่ทำให้ INDEN-YA ครองใจลูกค้ามาได้ถึงกว่า400 ปี ซึ่งตอบที่ได้คือ “สิ่งที่ INDEN-YA ทำคือเราพยายามรักษาประวัติศาสตร์ในงานช่างศิลป์ของเราให้คงความยืนยาว ในขณะเดียวกันเราก็พยายามทำให้ลูกค้าพึงพอใจให้มากที่สุดเป็นปรัชญาของบริษัทแห่งนี้ และที่ผู้บริหารมักเน้นย้ำและให้ความสำคัญที่สุดคือ การสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าของเราไปแม้จะนาน เมื่อเกิดมีความชำรุดหรือเสียหาย ในวันหน้าเราก็พยายามช่วยซ่อมแซมให้อย่างเต็มที่ และอย่างเต็มใจ”

 

 

หัวใจสำคัญของ INDEN-YA ที่ยังรักษาและคงความคลาสิคของผลิตภัณฑ์ คือ การใช้วัสดุจากหนังกวางพันธ์ุเฉพาะ ซึ่งในอดีตเป็นสัตว์ที่มีอยู่มากในประเทศญี่ปุ่น และมีการนำมาประยุกต์ทำเสื้อเกราะนักรบยุคศตวรรษที่ 10-12 ซึ่งในตอนนั้น INDEN-YA ก็ได้เริ่มคิดค้นการสร้างความงดงามของลวดลายด้วยวิธีการลงรักพิมพ์ลายให้กับเสื้อเกราะนักรบจนต่อมาเมื่อหมดยุคสงคราม องค์ความรู้ในการสร้างงานศิลป์ คือการ “ลงรัก” สร้างลวดลายนี้ก็ได้ถูกประยุกต์ไปสู่การสร้างสิ่งของใช้สอยทั่วไปของชาวบ้าน สืบต่อมาจนยุคปัจจุบันที่พัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าสตางค์ และผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิด

 

 

INDEN-YA ไม่ได้ขยายสาขาหรือแม้แต่ส่งออก (Export) ผลิตภัณฑ์ออกไปยังต่างประเทศโดยตรง แม้จะมีกิจกรรมไปร่วมแสดงสินค้าในนิทรรศการในต่างประเทศบ้าง แต่ INDEN-YA มีความร่วมมือกับแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับโลก เช่น Gucci รวมทั้ง Tiffany ในการสร้างสรรค์กระเป๋าเป็น collection พิเศษ ซึ่งสินค้าทุกงานออกแบบจะถูกจัดแสดงในShop ของ INDEN-YA ในกลางเมืองโคฟุอย่างหลากหลายละลานตา และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักช้อปไม่พึงควรที่จะพลาดการเยี่ยมชมหากมาถึงที่ยามานาชิทุกวันนี้ทายาทของตระกูลอูเอะฮาระยังคงสืบทอดและดูแลการผลิตและสร้างสรรค์งานของ INDEN-YA บนความมุ่งมั่น และถือเป็นพันธกิจที่สำคัญเป็นอันดับ 1

โคฟุ เป็นเมืองหลวงของจังหวัด ยามานาชิ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคชุบุ (Chubu) อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวด้วยระยะเวลาขับรถประมาณ 2 ชม. หรือนั่งรถไฟ 1.30 ชม โคฟุมีภูมิประเทศและพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างมากมายนับแต่อดีต เคยมีการทำเหมืองทอง เจียระไนหินสี ทำเป็นสินค้าอัญมณีจนมีชื่อเสียงโด่งดัง และมีส่วนในรากฐานของการพัฒนาทักษะฝีมือช่างชั้นสูงสืบทอดมาถึงปัจจุบันโดย “โคฟุ” ยังได้รับการเรียกขานกันในนาม “เมืองแห่งอัญมณี” เพราะเป็นสถานที่ซึ่งอุตสาหกรรมการผลิตอัญมณีหินสีเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก และได้รับการยอมรับในด้านฝีมือว่าเป็นที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

 

 

นอกจากนั้น “โคฟุ” ที่ “ยามานาชิ” ยังเป็นที่ล่วงรู้และยอมรับกันเป็นอย่างดี ว่าเป็นจังหวัดที่มีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ทั้งในด้านรสชาติและความบริสุทธิ์ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ โคฟุ เป็นต้นกำเนิดการผลิตไวน์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 อีกด้วยเช่นกันที่สำคัญเมืองโคฟุอยู่ห่างจากภูเขาไฟฟูจิ ด้วยระยะเวลาขับรถเพียง 1 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่มาฟูจิซัง สามารถมาพักผ่อนและท่องเที่ยวในโคฟุ ได้อย่างสะดวกสบาย

 

 

นอกจากเสน่ห์และกลิ่นอายของท้องถิ่นของโคฟุ ที่น่าสัมผัสและค้นหาแล้ว อัตราค่าครองชีพทั้งที่พักและอาหารการกิน หรือแม้แต่ราคาที่ดินในจังหวัด (หากมีความคิดที่มาอยู่อาศัยหรือมาลงทุน) ก็อยู่ในระดับที่น้อยกว่าเมืองหลวงโตเกียวประมาณ 30% แบบฉบับของเมืองโคฟุ อีกเรื่องที่ดูจะเป็นเอกลักษณ์ และเป็นวิถีชุมชน คือ “การปลูกต้นผลไม้” ที่พบเห็นอยู่ทั่วไป ทั้งในพื้นที่สวนเกษตร หรือแม้แต่บ้านเรือนที่พักอาศัยที่จะมีการปลูกต้นพลับ ต้นพีช กันอย่างดาษดื่น บางบ้านถึงขั้นทำรั้วปลูกองุ่นขนาดเล็กๆ ก็ยังมี

 

 

อาจจะเป็นด้วยเหตุผลและบรรยากาศแบบนี้ ยามานาชิ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งผลไม้” ของประเทศญี่ปุ่นอีกหนึ่งเรื่องจากประสบการณ์ท่องเที่ยวในจังหวัดยามานาชิ ที่เมืองโคฟุ ในครั้งนี้มีข้อสังเกตว่า การเช่ารถเพื่อเดินทางและท่องเที่ยว จะให้ความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ของการท่องเที่ยวของเมืองโคฝุให้ความเห็นว่า นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถขับมาได้ตั้งแต่ที่สนามบินนาริตะหรือ ฮาเนดะ ซึ่งเมื่อสอบถามในอัตราค่าเช่ารถต่อวันก็ไม่แตกต่างจากค่าเช่ารถในเมืองไทยสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับช่วงไฮซีซันในบ้านเรา

 

ลดระดับความสูงจากที่ตั้งศาลเจ้าคะนะซากุระ ลงมาตามถนนโชเซ็นเคียวไดเส้นเดียวกัน จะมีน้ำตกที่สวยงามจากต้นน้ำบนหน้าผาสูงในช่องเขาโชเซ็นเคียวที่โด่งดังและมีชื่อเสียงรู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ เพราะทั้งทิวทัศน์ของหน้าผาและน้ำตกเซ็งกะ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เหล่าช่างภาพต้องการจะมาถ่ายบันทึกความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ โดยน้ำตกเซ็งกะ จะมีนักท่องเที่ยวมาตลอดเกือบทุกฤดู โดยเฉพาะฤดูร้อน เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่นจากทั่วประเทศ

 

 

บริเวณลานจอดรถก่อนจะถึงบันไดลงไปยังน้ำตกเซ็งกะ มีร้านรวงเปิดให้บริการขนาบเป็นแนวทั้งซ้ายและขวาไปตลอดสองข้างทางเข้าน้ำตก ประเภทของร้านก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจิวเวลรีหินสี และยังมีร้านขายสินค้าท้องถิ่นที่สวยงามน่ารัก และน่าจะถูกใจบรรดาเหล่านักช้อปตั้งอยู่หลายร้าน มีศาลเจ้าเพื่อคาราวะเทพเจ้าประจำท้องถิ่น แต่ร้านที่สะดุดตาที่เราพบเห็นคือร้านไวน์ที่มีชื่อร้านว่า Wine Kingdom

 

 

เหตุผลมิใช่เพราะรสชาติไวน์ที่ยังไม่ได้ลิ้มลองแต่อย่างใดแต่แวบแรกเมื่อเหลือบไปเห็น ต้องขยี้ตาว่า “จริงหรือ?” จากนั้นก็ต้องอาศัยสายสัมพันธ์ของคุณป้าโอนิชิ เพื่อขอถ่ายรูปจากในร้าน ส่วนที่ว่า “จริงหรือ?” คือภาพของน้ำตกเซ็งกะ ที่มองผ่านกระจกใสจากในร้าน เพราะเป็นภาพที่สวยงามเสมือนภาพวาดที่มีชีวิต ตั้งประดับอยู่บนผนัง จินตนาการว่าลูกค้าที่มานั่งจิบชา กาแฟ หรือไวน์ ในร้าน Wine Kingdom คงจะดื่มด่ำไปด้วยความอภิรมย์ของความงามที่รายรอบ จนยากจะหาคำมาบรรยาย

 

 

ด้วยภูมิลักษณ์ของจังหวัดยามานาชิ ที่เป็นเมืองในหุบเขาจากการโอบล้อมไปด้วยภูเขา ทั้ง 4 ด้าน โดยหนึ่งในนั้นมีภูเขาไฟฟูจิ หรือ ฟูจิซัง อันโด่งดัง และเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วทั้งโลกปรารถนาที่จะมาเยือนรวมอยู่ด้วย ซึ่ง “ฟูจิซัง” นอกจากจะมีความงดงามในทุกมิติตามฤดูกาลทั้ง 4 แล้ว ยังเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นบนความสูงที่ 3,776 เมตร โดยตั้งอยู่ทางใต้ของจังหวัดยามานาชิ กล่าวกันว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวที่ภูเขาไฟฟูจิ เช่นที่ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าได้มาถึงจังหวัดยามานาชิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ความพิเศษอย่างเป็นที่สุด บอกกล่าวมาโดยชาวเมืองยามานาชิแห่งนี้คือ “ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในจังหวัดยามานาชิแห่งนี้ ก็จะสามารถมองเห็นและสัมผัสความงามของ ฟูจิซัง ได้อย่างแตกต่างกันไป ด้วยมุมมองของแต่ละท้องที่” โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามอง จาก สวนอะราคุระยามะ (Arakurayama Sengen Park)

 

Page 5 of 5
X

Right Click

No right click