เอไอเอส โดยนายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจสัมพันธ์และองค์กร บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  โดย ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ นิเวศน์ นันทจิต  อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการศึกษา วิจัย ทดลอง ทดสอบ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะมาถึง เพื่อสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการและบ่มเพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเหนือและประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

โดยการทดลอง ทดสอบ 5G ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะดึงจุดเด่นของอัตลักษณ์ทางภูมิศาสตร์ โอกาส ความสนใจ และความท้าทายในแต่ละภูมิภาคเป็นตัวกำหนด เพื่อให้นิสิต นักศึกษา นักวิจัย ประชาชน และทุกภาคส่วนใน 5G Ecosystem เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีแห่งอนาคต ตลอดจนสามารถวางแผน ต่อยอด และพัฒนานวัตกรรมและการบริการบนระบบ 5G ให้เหมาะสมกับพื้นที่หรือภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดรับกับเจตนารมณ์ของ กสทช. ที่สนับสนุนสถาบันอุดมศึกษาให้ทดลองทดสอบ 5G ทั้งในกรุงเทพฯ และในส่วนภูมิภาค

นางสาวรวิสรา เลิศปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอแอมไชน่าทาวน์ จำกัด ร่วมแสดงความยินดี กับนายณรัล วิวรรธนไกร กรรมการบริหาร บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเล็ทส์ รีแลกซ์ สปา (Let’s Relax Spa) บูติคเดย์สปาระดับ 4 ดาว เนื่องในโอกาสที่ Let’s Relax Spa ฉลองการก้าวสู่ทศวรรษที่ สามกับการเปิดสาขาที่ 20 ในโครงการ I’m Chinatown โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่สุดของย่านเยาวราช โดย Let’s Relax Spa จะเป็นสปาระดับพรีเมี่ยมแห่งแรกและใหญ่ที่สุดของไชน่าทาวน์ ขนาด 500 ตรม. บนชั้น 3 ของส่วน ศูนย์การค้า มีจำนวน 30 เตียง แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนนวดเท้า นวดไทย และนวดน้ำมัน  ซึ่งจะเปิดให้ บริการตั้งแต่ 10.00 ถึงเที่ยงคืน เพื่อรองรับกลุ่มนักเที่ยวชาวจีน ไต้หวัน และฮ่องกง เป็นหลัก พร้อมกลุ่มเจ้าของ ธุรกิจในย่านเยาวราชและนักท่องเที่ยวชาวไทย

Let’s Relax Spa ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยเทคนิคการนวดและแนวทางการบำบัดทั้ง 5 สัมผัส ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์เอง บริการระดับพรีเมี่ยม คอร์สการนวดที่หลากหลาย ทั้งยังขึ้นชื่อในด้านการ ตกแต่งร้านที่สวยงาม มีความแตกต่างกันในทุกสาขา โดยสาขาโครงการ I’m Chinatown จะตกแต่งในคอนเซ็ปต์ Modern Contemporary Chinese เพื่อสอดรับกับเอกลักษณ์ของทำเลไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ ในปี 2561 บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สามารถทำสถิติยอดลูกค้ามาใช้บริการได้มากกว่า 1.1 ล้านคน ทำให้สามารถ รักษาระดับการเติบโตของยอดรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยปีล่าสุดมียอดขาย 1,152 ล้านบาท

พบกับโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเปิด Let’s Relax Spa สาขาโครงการ I’m Chinatown  ซื้อ Cash Card ที่ Let's Relax Spa มูลค่า 10,000 บาท รับเพิ่มทันที 2,000 บาท รวมมูลค่า 12,000 บาท

การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด มีความสำคัญอย่างมากทั้งต่อการอยู่รอด และความสำเร็จ ในโลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างในวันนี้

Capstone Project for Entrepreneur Workshop กิจกรรมที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เป้าหมายอยู่ที่การ “สร้างและส่งต่อ” พร้อมกับ “ต่อยอด” ความรู้ให้นั้นไปยังสองกลุ่มเป้าหมายหลักได้แก่ อาจารย์ผู้สอน และนักศึกษา โดยในปีนี้จัดขึ้น ณ Makerspace มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU)

กิจกรรมพิเศษครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับอาจารย์ DPU  เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเป็น Startup University ที่พร้อมก้าวเข้าสู่การสอนในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังได้ร่วมแบ่งปัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านต่างๆ จากองค์กรชั้นนำ

ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานภาคีสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า ​โครงการ capstone จัดขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มพูนทักษะความรู้ให้อาจารย์มีความเชี่ยวชาญที่จะเป็น accelerator ในวิชา capstone project โดยที่อาจารย์ที่เข้าร่วมติวเข้มความรู้ในครั้งนี้จะนำไปใช้ Coach กับนักศึกษาปี 3

ในชั้นเรียนปี 1 และ 2 นักศึกษาจะได้รับการพัฒนาทักษะความเป็นผู้ประกอบการ เทคโนโลยี และ Soft skills เมื่อขึ้นปี 3 เด็กๆ จะต้องมารวมกลุ่มจากเพื่อนต่างคณะ ต่างหลักสูตร เพื่อทำโปรเจ็คร่วมกัน ซึ่งในกระบวนการนี้จำเป็นที่จะต้องมีอาจารย์ที่มีทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่จะสามารถดูแลเด็กได้  กิจกรรมในเวิร์คชอปนี้จะเลือกอาจารย์ที่เป็นดรีมทีมขึ้นมาก่อนในชุดแรก จากนั้นมองถึงการขยายไปสู่การพัฒนาอาจารย์ทุกคนในมหาวิทยาลัยต่อไป

นอกจากการเวิร์คชอปเพื่อให้อาจารย์ไปสร้างเด็ก ในอีกมุมหนึ่งอาจารย์ก็ได้รับการ Re-skills โดยคนที่ผ่านกระบวนการนี้จะเป็น New work force ที่สำคัญต่อไปของ DPU  

ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม ผู้อำนวยการสถาบัน DPU X แห่งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า อาจารย์แต่ละท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปจะมาจากทุกคณะ เช่น ศิลปกรรม วิศวกรรม บริหาร ท่องเที่ยว นิเทศน์ โดยเป็นบุคคลที่เปิดรับและ อยากทดลองทำอะไรใหม่ ๆ

สิ่งที่สนใจเป็นเรื่อง  mind set กระบวนการความคิดมากกว่า เทคโนโลยีเป็นแค่เครื่องมือในการใช้งาน แต่หลักคิดในความเป็นมนุษย์ ในความเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานกับเครื่องมือใหม่ ๆ ควรจะเป็นอย่างไร เราจะพัฒนามันอย่างไรเพื่อให้เราใช้ศักยภาพ จุดประสงค์หลักของ Capstone วัดได้ที่นักศึกษา แม้ไม่คาดหวังว่าเด็กทุกคนต้องได้ แค่ให้ส่วนใหญ่รับรู้และเข้าใจในแนวคิดนี้ในเชิงลึก ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ แล้วจะเห็นผล ค่อยๆ สะสมไปเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นวัฒนธรรมระหว่างอาจารย์กับเด็ก

ดร. รชฏ ขำบุญ รองคณบดีสายงานวิชาการ วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี เปิดเผยว่า ทักษะความรู้ที่ได้เข้าร่วมในโครงการนี้เกิดข้อดีในสองส่วนด้วยกัน ส่วนแรกนักศึกษาสามารถสร้างธุรกิจใหม่ได้ กับ สอง การปรับมุมมองคิดที่จะปรับธุรกิจเดิมๆ แล้ว สร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น

ไม่ใช่เด็กทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จบไปแล้วจะไปเป็นสตาร์ทอัพ ส่วนหนึ่งอาจต้องการทำงานในบริษัทใหญ่ซึ่งก็ต้องมีความรู้ด้านการสร้างนวัตกรรมหรือคิดปรับปรุงช่วยประโยชน์ให้องค์กร เพราะไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพ หรือทำงานในองค์กร หลักการเดียวกัน คือ การเข้าใจลูกค้า หาความต้องการของลูกค้าแล้วสนองตอบให้ได้มากที่สุด

ในกิจกรรมเวิร์คชอปสองวันเป็นการอบรมที่พยายามนำเสนอเครื่องมือที่หลากหลายที่จะเอาไปใช้ในการค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า

“ผมสอนในระดับปริญญาโท ก็ได้เอาประสบการณ์จากการอบรมไปสอน โดยให้นักศึกษา ให้จับกลุ่มสามคน เช่น วิศวะ การตลาด บัญชี แล้วไปทำธุรกิจอาหารเสริม ผลปรากฏว่าได้กำไรเป็นสิบๆ ล้านเมื่อปีที่แล้ว”

ผศ.ณธกร อุไรรัตน์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์​ หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรมเวิร์คชอป Capstone Project เปิดเผยว่า  After school hub เป็นผลงานที่นำเสนอภายใต้การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้   เริ่มจากมองปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเองและคนใกล้ตัว รวมถึงการได้ไปสอบถามกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนพ่อแม่วัยทำงานทำให้พบว่า การเดินทางไปรับลูกวัยประถมศึกษาหลังเลิกเรียนไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ อีกต่อไป

“โรงเรียนเลิกเวลาบ่ายสามโมง การจะเดินทางไปรับที่ต้องฝ่าจราจรติดขัดทำให้หลายๆ ครั้งไปไม่ทันกับเวลาที่ได้นัดหมายเอาไว้ คลาดกัน และทำให้ต้องวนรถหลายต่อหลายครั้ง ทำให้เริ่มมาคิดถึงแนวทางแก้ปัญหา

ไอเดียที่ทางทีมเรานำเสนอว่าควรจะทำศูนย์​รับดูแลเด็กหลังเลิกเรียนเพื่อรอจนกว่าผู้ปกครองจะมารับในตอนเย็นหรือค่ำไปแล้ว นอกจากเป็นจุดศูนย์รวมของเด็กหลังเลิกเรียนแล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆ เสริมด้วย เช่น สอนการบ้าน อาหารเย็น พ่อแม่เลิกสองทุ่มก็มารับได้”

โดยข้อดีของกิจกรรมนี้ อาจารย์ผู้สอนเอาโปรเซสการสอนนี้ไปปรับใช้กับการสอนจริงในคลาสกับนักศึกษาแม้ในตอนที่เรียนก็ได้เรียนรู้จากของจริงซึ่งได้ผลมากกว่าการเลคเชอร์เพียงอย่างเดียว ที่สำคัญในบางไอเดียที่นำเสนออาจพัฒนาเป็นธุรกิจจริงได้ในอนาคตของจริง

เราเริ่มรู้แล้วถึงวิธีคิด และการพัฒนาเป็นธุรกิจ ต่อไปจะเอาตรงนี้ไปพัฒนาเป็นสคริปในการสอน เปลี่ยนบทบาทจากอาจารย์ เป็นโค้ช ซึ่งจะเกิดประโยชน์ได้มากกว่าสำหรับนักศึกษา  

ผศ.ดร.เนื่องวงศ์ ทวยเจริญ รองคณบดีฝ่ายวิชาการวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์​(CITE) เปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้นำเสนอโปรเจ็คเว็บสอนภาษาไทยสำหรับนักศึกษากัมพูชา เนื่องจากมองว่ามีความต้องการของแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาในไทยต้องการเรียนภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร

“ก่อนจะทำโมเดล เห็นแล้วว่ามีเว็บไซต์สอนภาษาต่างประเทศเยอะมาก แต่ไม่มีภาษากัมพูชา ซึ่งจากการสอบถามชาวกัมพูชาที่มาทำงานในไทยก็พบว่ามีปัญหาเรื่องการสื่อสาร อยากมาทำงานในไทย ก็ลำบากเพราะไม่รู้ภาษาไทย   เมื่อมาทำงาน และเรียนในไทย ก็หาที่เรียนลำบาก ทำให้ทางกลุ่มเราคิดที่จะทำโมเดลการเรียนออนไลน์ขึ้นมา ทั้งการเรียนเป็นกลุ่ม ไลฟ์สอนสดโดยนัดเวลาเรียน”

จากปีแรกที่ได้เข้าร่วมเวิร์คชอป Capstone จนถึงปีนี้ ผศ.ดร.เนื่องวงศ์ บอกว่า ได้นับโมเดลวิธีคิดและการโค้ชไปใช้กับนักศึกษามาแล้วในปีที่ผ่านมา ทั้งการสอดแทรกมุมมองความเป็นผู้ประกอบการ การให้นักศึกษาได้ฝึกเขียนแผนธุรกิจ (Business Canvas) รวมถึงการเชิญผู้รู้จากในประเทศและต่างประเทศมาถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ ทำให้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

“ในช่วงแรกที่เด็กๆ คิดหัวข้อโปรเจ็คจะเลือกจากสิ่งที่อยากทำ หรือไม่ก็เว็บขายของ  แต่มาวันนี้วิธีคิดเปลี่ยนไป เริ่มคิดจากลูกค้าว่ามีปัญหาอะไร แล้วไปช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง ตัวอย่างในปีที่แล้วนักศึกษาเสนอ โปรเจ็ค คนขายหอย มาจากที่บ้านทำธุรกิจฟาร์มหอย แต่ก็เจอปัญหาไม่สามารถจัดการการเงิน ปัญหาพ่อค้าคนกลาง จึงได้พัฒนาแอพพลิเคชันมาเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหา” ผศ.ดร.เนื่องวงศ์ กล่าว

ด้าน ชิน วังแก้วหิรัญ ผู้บริหารจาก Vonder chatbot หนึ่งในเมนเทอร์ที่เข้าร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การทำธุรกิจสตาร์ทอัพใน Capstone Project กล่าวว่า Vonder เป็นสตาร์ทอัพที่ทำทางด้านการศึกษา โดยพัฒนาการเรียนรู้ในนรูปแบบของเกม เมื่อกดเข้าไป เลือกวิชาที่อยากเรียน ซึ่งมีวิชาที่เรียน ได้แก่ อังกฤษ ประวัติศาสตร์ ​วิทยาศาสตร์ (เคมี ฟิสิกส์) ที่เน้นการประสบการเรียนรู้ในแบบ Interactive

จนถึงวันนี้ Vonder ทำธุรกิจมาแล้วปีเศษ ประสบการณ์จากการทำธุรกิจทำให้เรียนรู้ว่า บิสิเนสโมเดล และการหารายได้เป็นเรื่องสำคัญ​ ในปีแรกๆ ทำเฉพาะเกมการเรียนรู้ในกลุ่มนักเรียนแม้จะเป็นโปรดักท์ที่น่าสนใจและสร้างการเรียนรู้ได้ดี แต่ในด้านรายได้กลับไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้เริ่มมองหาโอกาสใหม่ๆ ซึ่งก็พบว่า HR ในแต่ละองค์กรที่วันนี้นำโปรดักส์ของ Vonder เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการให้ความรู้กับพนักงานซึ่งตลาดตรงนี้ก็เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

“สิ่งที่นำมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในครั้งนี้อยากชี้ให้เห็นว่า ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสมอไป ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นได้ง่ายที่สุด และใหญ่ที่สุดคืออารมณ์ของตัวเอง ต้องรู้จักบริหารจัดการอารมณ์ในสถานการณ์ที่เจอให้ได้ รวมทั้งเรื่องของเงินทุน อย่าประมาท

การทำธุรกิจสมัยนี้ เริ่มต้นมีแค่คอมพิวเตอร์​ และทีมอีกสองคนก็เพียงพอ เมื่อเทียบกับการลงทุนเริ่มต้นธุรกิจที่ต้องมีสเกลที่ใหญ่กว่านี้มาก อย่างไรก็ดี ขอแค่มีความพร้อม และไม่ประมาทในการประเมินต้นทุน เชื่อว่าอย่างไรก็ได้อะไรที่ล้ำค่ากลับไป แม้ไม่เป็นตัวเงิน แต่ก็ได้ประสบการณ์ในการทำธุรกิจ”

จากภาพรวมของปีนี้ "Capstone Business Project" นับเป็นอีกโมเดลการเรียนรู้ที่สำคัญในโลกยุคปัจจุบันที่ให้มุ่งเน้นพัฒนาทักษะแห่งอนาคตให้กับบุคลากรและนักศึกษา DPU ในการมีมุมมองความคิดการเป็นผู้ประกอบการ รวมถึงการทำ Startup ให้ประสบความสำเร็จอย่างมืออาชีพ ชี้วัดจากปีที่ผ่านมา DPU  ส่งนักศึกษาเข้าแข่ง startup Thailand เป็นปีแรกจำนวน 10 ทีม สามารถทะลุ เข้ารอบ 4 ทีม ที่สุดคว้ารางวัลที่ 2 ของภูมิภาคได้เป็นผลสำเร็จ

บมจ.ทิพยประกันชีวิต นำโดย คุณนพพร บุญลาโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จับมือธนาคารออมสิน และบมจ.ทิพยประกันภัย ร่วมจัดการประชุมสัมมนาไตรภาคี ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2562 ณ ห้องแกรนด์บอลลูม โรงแรมฮอลิเดย์อิน วานา นาวา หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจัดขึ้น ด้วยแนวคิด We are Together : Drive Success with Highest Performance Delivered เพื่อหารือแลกเปลี่ยนมุมมองและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการด้านการประกันภัยและการประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ร่วมกัน โดยมีผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 3องค์กร เข้าร่วมฟังและแลกเปลี่ยนมุมมองในบรรยากาศเป็นกันเอง

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ร่วมออกบูธในงาน งานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 20 โดยได้รับเกียรติจาก คุณชูฉัตร ประมูลผล (ที่ 4 จากขวา) รองเลขาธิการ คปภ. เข้าเยี่ยมชมบูธโดยมี คุณภควิภา เจริญตรา (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าบริหาร ฝ่ายลูกค้าและผู้บริหารฝ่ายตัวแทน  ให้การต้อนรับและร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก กิจกรรมภายในบูธกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต  ลูกค้าได้พบกับที่สุดของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองทุกความต้องการทั้งด้านสุขภาพ ความคุ้มครอง และการวางแผนทางการเงิน พร้อมตรวจสุขภาพฟรี และแคมเปญพิเศษ ที่ได้จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต จ.นนทบุรี เมื่อเร็วๆ นี้

นายวีรภัทร จันทรวรรณกูล (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และ นายวีรภัทร สภากาญจน์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่สายงานทรัพยากรบุคคล บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ Agile 66  จัดงาน Bangkok Business Agility Unconference 2019 งานสัมนารูปแบบใหม่ ที่ไม่มีการกำหนดหัวข้อและผู้พูดล่วงหน้าก่อนวันงาน แต่อาศัยปรัชญาของ Unconference ที่จะเน้นเรื่อง Self-Organizing โดยมีธีมงานคือ “Agile Beyond IT” งานนี้มีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันเป็นจำนวนมาก ณ อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก

บัตรเครดิตทีเอ็มบีให้คุณเป็นเจ้าของ Gadget ผ่อนได้แบบสุดคุ้มที่ร้าน Jaymart, JIB และ TG Fone ทุกสาขาที่ร่วมรายการ และในงานอีเวนท์ต่างๆ ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2562 พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10,000 บาท เมื่อทำรายการแบ่งชำระ TMB Pay Plan 0% นานสูงสุด 10 เดือน สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ ยอดใช้จ่าย 10,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 250 บาท ยอดใช้จ่าย 25,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 800 บาท ยอดใช้จ่าย 50,000 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป รับเครดิตเงินคืน 2,000 บาท จำกัดการรับเครดิตเงินคืน สูงสุด 10,000 บาท /บัตร/ทุกร้านค้าที่ร่วมรายการรวมกัน ลงทะเบียน SMS พิมพ์ TMBJT ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต TMB 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ TMB Contact Center โทร. 1558

เอไอเอ ประเทศไทย จัดกิจกรรม AIA Vitality Virtual Run ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 งานวิ่งที่คุณสามารถกำหนดเส้นทางการวิ่งได้ด้วยตนเอง ทั้งเวลา สถานที่ และระยะทาง ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ โดยเฉพาะคนเมืองที่ชีวิตเร่งรีบ หรือมีเวลาออกกำลังกายที่จำกัด ซึ่งปีนี้มาในธีม AIA CENTENNIAL เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ตอกย้ำคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives - เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น” อีกทั้ง ยังเป็นการวอร์มอัพก่อนงานวิ่ง AIA Centennial Run งานวิ่งครั้งยิ่งใหญ่ของเอไอเอ ประเทศไทย ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

ขอเชิญชวนคนไทยนักวิ่งทุกท่านมาร่วมวิ่งในแบบสะสมระยะทาง 5 กิโลเมตร หรือ 10.5 กิโลเมตร โดยมีเงื่อนไขเพียงนักวิ่งต้องวิ่งสะสมการวิ่ง 1 ครั้งให้สำเร็จครบตามระยะทางที่เลือกภายในวันที่ 12-26 สิงหาคม 2562 ซึ่งสามารถสะสมระยะทางวิ่งผ่านทางแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์สุขภาพที่สามารถจับเวลาและระยะทางได้ นอกจากนี้ นักวิ่งทุกท่านยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเงินเข้าองค์กรการกุศลระดับโลกอย่าง OXFAM และองค์กรการกุศลในประเทศไทย

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนสมัครได้ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ผ่านทางเว็บไซต์ http://aiavitalityrun.com/th/

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย  ผนึกพลังต่อยอดกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดโครงการความร่วมมือทางวิชาการ ให้ความรู้อบรมหลักสูตรวิทยาศาสตร์ข้อมูล “Data Science” ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ให้กับพนักงาน ตลอดหลักสูตรระยะเวลา 11 เดือน และนำเสนอโครงการต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดในการให้บริการ ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นและมีความล้ำสมัยมากที่สุด

โดยได้รับเกียรติ รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการอบรม พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจาก คุณต้น ตัณฑ์สุทธิวงศ์ คุณวิชัย ลิขิตชัยวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย ผศ.ดร.ธีรเดช เจียรสุขสกุล คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ ผศ.ดร.วิบูลย์ศักดิ์ วัฒายุ หัวหน้าภาควิชาคณิตศาสตร์ ร่วมพิธี ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

นางประณยา นิถานานนท์ ผู้อำนวยการ - ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนายวิสุทธิศักดิ์ มัจฉาชีพ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและลูกค้าสัมพันธ์ สายการบินนกสกู๊ต เปิดแคมเปญใหญ่อีกครั้งตามคำเรียกร้อง  “กินญี่ปุ่น ลุ้นบินญี่ปุ่นกับบัตรเครดิต เคทีซี และนกสกู๊ต” ให้สมาชิกอิ่มอร่อยสุดคุ้มกับส่วนลดสูงสุดถึง 30% ณ ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำที่ร่วมรายการกว่า 100 แห่งรวมกว่า 300 สาขา พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นฟรีแพ็คเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่นกับนกสกู๊ต เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ทุกๆ 1,000 บาท  ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2562 บินสบายๆ กับนกสกู๊ตด้วยเครื่องโบอิ้ง 777 กรุงเทพฯ – โอซาก้า 50 รางวัล รวม 100 ที่นั่ง มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท

พิเศษสุดกับโปรโมชั่น Wow Week!! 10 ร้าน 10 สัปดาห์ แลกรับส่วนลดสูงสุด 40% เพียงสมาชิกเคทีซีใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป ณ ร้านอาหารที่ร่วมรายการ  ได้แก่ ซูชิ เด็น / ชาบูตง ราเมน / เปปเปอร์ ลันซ์ / โยชิโนยะ / ชินเซน ฟิช มาร์เก็ต / อากิโยชิ / ซูชิ ฮานะ /  ยูแอนด์ไอ สุกี้ / เทนยะ / และคัตสึยะ ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2562 – 20 กันยายน 2562

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 เว็บไซต์ www.ktc.co.th หรือสมัครบัตรเครดิตได้ที่ศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกลิงค์เพื่อสมัครบัตรเครดิตได้ที่นี่: http://bit.ly/2uPcS19 #สุขไม่จำกัด กับบัตรเคทีซี #กินเที่ยวเรื่องเดียวกัน

X

Right Click

No right click