บริษัท เวียตเจ็ท จอยท์ สต๊อค จำกัด (Vietjet Aviation Joint Stock Company (HoSE: VJC)) เผยงบการเงินประจำปี 2566 ซึ่งผ่านการตรวจสอบแล้ว แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลอดทั้งปีทีผ่านมา

งบการเงินดังกล่าวจำแนกรายได้ย่อยและรายได้รวมจากการขนส่งทางอากาศรายงานอยู่ที่ 53.7 ล้านล้านดอง (ประมาณ 2.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 58.3 ล้านล้านดอง (ประมาณ 2.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่านหน้าร้อยละ 62 และร้อยละ 45 ตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทเผยการฟื้นตัวของกำไรจากบริการการขนส่งทางอากาศก่อนหักภาษีและกำไรรวมอยู่ที่ 471 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 18.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 606 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 24.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับ

รายได้เสริมและรายได้จากการขนส่งสินค้ามีมูลค่าเกือบ 21 ล้านล้านดอง (ประมาณ 846.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเติบโตถึงร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยคิดเป็นร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมดจากการขนส่งทางอากาศของสายการบินฯ

รายงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ทรัพย์สินรวมของเวียตเจ็ทมีมูลค่ารวมกว่า 84.6 ล้านล้านดอง (ประมาณ 3.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 2 ซึ่งต่ำกว่าอัตราส่วนทั่วไปทั่วโลกซึ่งอยู่ระหว่าง 3 ถึง 5 ขณะที่อัตราส่วนสภาพคล่องของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 1.3 ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีของอุตสาหกรรมการบิน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ที่ อยู่ที่ 5.051 ล้านล้านดอง (ประมาณ 203.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมากกว่าสองเท่าของปีก่อนหน้าแสดงถึงศึกยภาพทางการเงินของสายการบินฯ นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีอันดับเครดิตดีที่สุดตามเกณฑ์ของกระทรวงการคลังและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุด (VnBBB-) ในกลุ่มสายการบินเวียดนามในปี 2566

ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 สินทรัพย์รวมของเวียตเจ็ทมีมูลค่ามากกว่า 86.9 ล้านล้านดอง (ประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 2 ซึ่งต่ำกว่าอัตราทั่วไปทั่วโลกซึ่งอยู่ระหว่าง 3 ถึง 5 ขณะเดียวกัน อัตราส่วนสภาพคล่องของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 1.3 ซึ่งอยู่ในช่วงที่ดีของอุตสาหกรรมการบิน ยอดเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ที่ 5.051 ล้านล้านดอง (ประมาณ 203.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งยืนยันถึงความสามารถทางการเงินของสายการบินฯ

เวียตเจ็ทเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีอันดับเครดิตดีที่สุดตามแนวทางของกระทรวงการคลัง ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุด (VnBBB-) ในกลุ่มบริษัทเวียดนาม ในปี พ.ศ. 2566 เวียตเจ็ทได้จ่ายภาษีและค่าธรรมเนียมทั้งทางตรงและทางอ้อมประมาณ 5.2 ล้านล้านดอง (ประมาณ 209.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 ผู้นำด้านการขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ

ด้วยความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานบริการบนเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศ พร้องด้วยเดินหน้าขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 เวียตเจ็ทได้ให้บริการเที่ยวบินกว่า 133,000 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารบนเดินทางกว่า 25.3 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 183% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมีผู้โดยสารจำนวนมากกว่า 7.6 ล้านคน เดินทางบนเส้นทางบินระหว่างประเทศ

เวียตเจ็ทเปิดตัวเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศเส้นทางใหม่จำนวน 33 เส้นทาง รวมทั้งหมดเป็น 125 เส้นทาง ประกอบด้วยเส้นทางระหว่างประเทศ 80 เส้นทาง และเส้นทางภายในประเทศ 45 เส้นทาง เส้นทางที่ได้รับความนิยม ได้แก่ โฮจิมินห์ซิตี้ – เซี่ยงไฮ้ โฮจิมินห์ซิตี้ – เวียงจันทน์ ฮานอย - เสียมราฐ ฮานอย - ฮ่องกง ฟู้โกว๊ก - ไทเป ฟู้โกว๊ก - และโฮจิมินห์ซิตี้/ ฮานอย - จาการ์ตา เป็นต้น

ปัจจุบัน เวียตเจ็ทยังเป็นผู้ให้บริการเที่ยวบินรายใหญ่ที่สุดที่เชื่อมต่อระหว่างเวียดนาม อินเดียและออสเตรเลีย เส้นทางบินดังกล่าวช่วยส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศที่มีศักยภาพสูง นับตั้งแต่ต้นปี 2567 สายการบินฯ ได้เปิดเส้นทางบินตรงระหว่างฮานอยและซิดนีย์ ส่งผลให้มีจำนวนเส้นทางบินระหว่างเวียดนามและออสเตรเลียเพิ่มขึ้นทั้งหมดเป็น 7 เส้นทาง

สายการบินตั้งแต่ต้นปี 2567 ได้เปิดเส้นทางบินตรงระหว่างฮานอยและซิดนีย์เพิ่มเติม ส่งผลให้จำนวนเส้นทางเวียดนาม-ออสเตรเลียทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 7 เส้นทาง

นอกจากนี้ สายการบินฯ ได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินจาก ฮานอย สู่ ฮิโรชิมา (ญี่ปุ่น) และโฮจิมินห์ซิตี้ สู่ เฉิงตู (จีน) บริการบนเส้นทางดังกล่าวนำมาซึ่งโอกาสในการเสริมสร้างการท่องเที่ยวและการค้าทวิภาคี พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทเปิดเส้นทางบินภายในประเทศเส้นทางใหม่ระหว่างฮานอย และ เดียนเบียน เพื่อนำผู้โดยสารเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางทางประวัติศาสตร์อย่าง ‘เดียนเบียนฟู’  สายการบินฯ มีอัตราโหลดแฟคเตอร์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 87 และอัตราความน่าเชื่อถือทางเทคนิคอยู่ที่ร้อยละ 99.72

 เดินหน้าเสริมทัพฝูงบินที่มีความทันสมัย มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) เป็นหนึ่งในเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ระยะยาวของสายการบินฯ ยืนยันได้จากการเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร การประหยัดเชื้อเพลิง และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยฝูงบินใหม่และทันสมัย

เวียตเจ็ทให้ความสำคัญกับการลงทุนในฝูงบินที่ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ฝูงบินของเวียตเจ็ทประกอบด้วยเครื่องบิน 105 ลำ รวมถึงเครื่องบิน A330 ลำตัวกว้างด้วย

ภายในปี 2566 ฝูงบินของเวียตเจ็ทเติบโตขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้ประสบความสำเร็จในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงประหยัดเชื้อเพลิงได้มากถึง 15-20% มุ่งเน้นการปกป้องสิ่งแวดล้อม การพัฒนาที่ยั่งยืนและการวิจัยเทคโนโลยีสีเขียว

 ในปีที่ผ่านมา สายการบินฯ ได้จัดประชุมหลักสูตรการฝึกอบรม รวมถึงการจำลองสถานการณ์ด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก อาทิ การประชุมด้านคุณภาพและความปลอดภัย การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยของ ISAGO (International Standard for Ground Operations) และการจำลองการตอบสนองฉุกเฉินในเชิงรุก เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติการบิน เวียตเจ็ทได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในสายการบินราคาประหยัดที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอีกครั้งโดย AirlineRatings

ศูนย์บริการภาคพื้นดินของเวียตเจ็ทปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยยึดมั่นในคุณภาพของการบริการในขณะที่ลดต้นทุนการดำเนินงานที่สนามบิน นอกเหนือจากนี้ เวียตเจ็ทยังใช้แนวทางเชิงรุกในงานซ่อมบำรุงเครื่องบินอีกด้วย ในปี 2566 เวียตเจ็ทได้เปิดตัวศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องบินตามมาตรฐานสากลภายใต้ความร่วมมือกับสายการบินลาวในเวียงจันทน์

รายงานผลประกอบการประจำปี 2566 เน้นย้ำฐานะหนึ่งในสายการบินที่มีความยืดหยุ่นและเติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก พร้อมด้วยการขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศที่ครอบคลุม ส่งเสริมการฟื้นตัวและการพัฒนาการท่องเที่ยว การลงทุน และการค้าในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ในปี 2566 เวียตเจ็ทให้บริการเที่ยวบินกว่า 133,000 เที่ยวบิน ขนส่งผู้โดยสารทั้งสิ้น 25.3 ล้านคน (ไม่รวมสายการบินไทยเวียตเจ็ท) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 183 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากรายงานดังกล่าวจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 7.6 ล้านคนเป็นผู้ที่เดินทางบนเที่ยวบินระหว่างประเทศ

ในปีที่ผ่านมา เวียตเจ็ทยังคงขยายเครือข่ายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศและเส้นทางบินภายในประเทศรวมทั้งสิ้น 33 เส้นทาง ส่งผลให้ขณะนี้มีจำนวนเส้นทางบินทั้งหมด 125 เส้นทาง ประกอบด้วยเส้นทางบินระหว่างประเทศ 80 เส้นทาง และเส้นทางบินภายในประเทศ 45 เส้นทาง เส้นทางบินระหว่างประเทศสู่เมืองที่ได้รับความนิยม ได้แก่ โฮจิมินห์ซิตี้ - เซี่ยงไฮ้ โฮจิมินห์ซิตี้ - เวียงจันทน์ ฮานอย - เสียมราฐ ฮานอย - ฮ่องกง ฟู้โกว๊ก - ไทเป และฟู้โกว๊ก - ปูซาน เป็นต้น

เวียตเจ็ทเป็นสายการบินแรกที่เชื่อมต่อเวียดนามกับ 5 เมืองที่ใหญ่ในออสเตรเลีย ได้แก่ ซิดนีย์ เมลเบิร์น เพิร์ธ แอดิเลด และบริสเบน รวมถึงเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดระหว่างเวียดนามและอินเดีย โดยมีเส้นทางเชื่อมต่อเวียดนามกับเมืองเดลี มุมไบ อาห์เมดาบัด โคจิ และติรุจิรัปปัลลิ เวียตเจ็ทขนส่งสินค้าทางอากาศกว่า 81,500 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 73 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

 

ทั้งนี้ ในปี 2566 รายบางส่วนของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 53.6 ล้านล้านดอง (ประมาณ 2.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และรายได้รวมอยู่ที่ 62.5 ล้านล้านดอง (ประมาณ 2.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าร้อยละ 62 และร้อยละ 56 ตามลำดับ กำไรหลังหักภาษีของรายได้บางส่วนและรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 697 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 28.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 344 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับ

ในไตรมาสที่สี่ของปี 2566 รายได้บางส่วนและรายได้รวมเพียงไตรมาสเดียวทะยานสูงถึง 14.9 ล้านล้านเวียดนามดอง (ประมาณ 609.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 18.8 ล้านล้านดอง (ประมาณ 768.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าร้อยละ 89 และร้อยละ 49 ตามลำดับ ขณะเดียวกัน กำไรหลังหักภาษีแยกและรวมรายไตรมาสอยู่ที่ 7 หมื่นล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 2.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ 152 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 6.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามลำดับ

รายได้เสริมและรายได้จากการขนส่งสินค้ามีมูลค่า 18.9 ล้านล้านดอง (ประมาณ 773.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเติบโตถึงร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นร้อยละ 40 ของรายได้จากการขนส่งทางอากาศทั้งหมดของสายการบินฯ

รายงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ทรัพย์สินรวมของเวียตเจ็ทมีมูลค่ารวมกว่า 84.6 ล้านล้านดอง (ประมาณ 3.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ 2 ภายหลังจากการสั่งซื้อเครื่องบิน A321neo รุ่นใหม่จำนวน 3 ลำ ซึ่งต่ำกว่าอัตราส่วนทั่วไปทั่วโลกที่อยู่ระหว่าง 3 ถึง 5 ขณะที่อัตราส่วนสภาพคล่องของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 1.24 ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีของอุตสาหกรรมการบิน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ที่ 5.021 ล้านล้านดอง (ประมาณ 205.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมากกว่าสองเท่าของปีก่อนหน้าแสดงถึงศึกยภาพทางการเงินของสายการบินฯ นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีอันดับเครดิตดีที่สุดตามเกณฑ์ของกระทรวงการคลังและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุด (VnBBB-) ในกลุ่มสายการบินเวียดนามในปี 2566

 ในปี 2566 เวียตเจ็ทได้จ่ายภาษีและค่าธรรมเนียมทั้งทางตรงและทางอ้อมประมาณ 5.2 ล้านล้านดอง (ประมาณ 212.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เวียตเจ็ทยังคงลงทุนเสริมทัพฝูงบินที่ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น รายงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ฝูงบินของเวียตเจ็ทประกอบด้วยเครื่องบิน 105 ลำ รวมถึงเครื่องบิน A330 ลำตัวกว้าง  จากการริเริ่มการปฏิบัติงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเมื่อสิบกว่าปีก่อนด้วยเครื่องบินเพียงสามลำ ภายในปี พ.ศ. 2566 ฝูงบินของเวียตเจ็ทเติบโตขึ้นอย่างมาก รวมถึงมีส่วนช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยประหยัดเชื้อเพลิงได้มากถึงร้อยละ 15-20 รวมถึงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาประยุกต์ใช้ในปี 2566 เวียตเจ็ทได้มีส่วนร่วมในการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐอเมริกา โดยบรรลุข้อตกลงกับโบอิ้งในการส่งมอบเครื่องบิน 737 MAX จำนวน 200 ลำ ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า รวมถึงข้อตกลงการจัดหาเงินทุนสำหรับเครื่องบินกับสถาบันการเงินต่างประเทศมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารโดยเฉลี่ยของสายการบินอยู่ที่ร้อยละ 87 และอัตราความน่าเชื่อถือทางเทคนิคอยู่ที่ร้อยละ 99.72 พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทได้เปิดตัวโปรแกรมสะสมคะแนน SkyJoy ซึ่งช่วยให้สมาชิกสามารถสะสมคะแนนเพื่อแลกสิทธิประโยชน์จากแบรนด์ต่างๆ กว่า 250 แบรนด์ ภายในปี 2566 เวียตเจ็ทมีสมาชิก SkyJoy จำนวน 10 ล้านคน

นอกจากนี้ เวียตเจ็ทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อมอบความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารด้วยบริการ "บินก่อน จ่ายทีหลัง (Fly Now Pay Later)" อำนวยความสะดวกด้วยการเสนอทางเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่นแก่ผู้โดยสาร เกตเวย์การชำระเงิน Galaxy Pay ของเวียตเจ็ทช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยและสะดวกสบายผ่านวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงเวียตเจ็ทเป็นสายการบินแรกของเวียดนามที่เริ่มให้บริการชำระเงินผ่าน Apple Pay ในขณะเดียวกัน ผู้โดยสารของเวียตเจ็ทจะได้รับสิทธิ์เช็คอินออนไลน์ ณ สนามบิน 18 แห่งในเวียดนาม

 เวียตเจ็ทการันตีมาตรฐานบริการด้วยรางวัลหนึ่งในสายการบินราคาประหยัดที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอีกครั้งโดย AirlineRatings ซึ่งเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงในการประเมินการบริการและความปลอดภัยของสายการบิน ในปีที่ผ่านมา สายการบินได้จัดการประชุม หลักสูตรการฝึกอบรม และการจำลองด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย อาทิ การประชุมด้านคุณภาพและความปลอดภัย การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยของ ISAGO (International Standard for Ground Operations) และการจำลองการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อสร้างมั่นใจในความปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติการบิน นอกจากนี้ ยังมีส่วนร่วมในฟอรัมด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติงานด้านการบินระดับโลกที่จัดโดยองค์กรที่มีชื่อเสียง อาทิ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เพื่อมีส่วนร่วมในการอภิปรายเชิงลึกเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบิน

ในปี 2566 เวียตเจ็ทได้เปิดตัวศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องบินที่ได้มาตรฐานสากลโดยร่วมมือกับสายการบินลาวในเวียงจันทน์ ด้วยเหตุนี้ เวียตเจ็ทจึงใช้แนวทางเชิงรุกในงานซ่อมบำรุงเครื่องบินหลังจากการลงทุนในบริการการจัดการภาคพื้นดิน

ด้วยตระหนักถึงกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาและสร้างบุคลากรที่มีมาตรฐานสากล Vietjet Aviation Academy (VJAA) จึงกลายเป็นพันธมิตรการฝึกอบรมของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ในปี 2566

ด้วยกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาและสร้างบุคลากรที่มีมาตรฐานสากล Vietjet Aviation Academy (VJAA) จึงกลายเป็นพันธมิตรศูนย์ฝึกอบรมของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ในปี 2566

VJAA ฝึกอบรมนักเรียนมากกว่า 97,000 คนผ่านหลักสูตร 6,300 หลักสูตร โดยจัดให้มีการฝึกอบรมนักบินและเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงเครื่องบิน (CRS) อย่างเต็มกำลังในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ สถาบันแห่งนี้ยังได้เปิดตัวเครื่องจำลองการบินแห่งที่สามซึ่งกลายเป็นศูนย์ฝึกนักบินชั้นนำในภูมิภาค

ในปีที่ผ่านมา เวียตเจ็ทประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการพัฒนาและยกระดับบริการอย่างครอบคลุมด้วยการขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศ ขณะเดียวกัน สายการบินฯ พร้อมตอบสนองความต้องการการเดินทางภายในประเทศ รวมถึงวางแผนขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต

 

บริษัท เวียตเจ็ท เอวิเอชั่น จอยท์สต็อค (VJC) ประเทศเวียดนาม รายงานผลประกอบการเป็นบวกในไตรมาส 2 และครึ่งแรกของปี 2565 ขณะที่ความต้องการการเดินทางทั้งภายในประเทศเวียดนามและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง 

ในไตรมาส 2 ของปีนี้ รายได้รวมของการขนส่งทางอากาศของเวียตเจ็ท (เวียดนาม) อยู่ที่ 11,355 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 488 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 17,607 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในปี 2562 โดยมีกำไรหลังหักภาษีอยู่ที่ 36 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 1.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 55 ล้านบาท) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายได้ภายในประเทศในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ด้วยบริการภายในประเทศ 53 รายการ 

ทั้งนี้ รายรับรวมของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 11,590 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 499 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 18,000 ล้านบาท) และกำไรหลังจากหักภาษีรวมในไตรมาส 2 อยู่ที่ 181 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 7.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 281 ล้านบาท) 

สำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรก รายได้ค่าขนส่งทางอากาศของสายการบินและรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 14,696 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 532 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,886 ล้านบาท) และ 16,112 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 693 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,500 ล้านบาท) ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในปี 2562 

กำไรโดยรวมหลังหักภาษีของเวียตเจ็ทในช่วงครึ่งปีแรกมูลค่าสูงถึง 76 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 3.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 117 ล้านบาท) ในขณะที่กำไรรวมของบริษัทอยู่ที่ 426 พันล้านดอง (18.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 660 ล้านบาท) 

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทได้เพิ่มความถี่ในการให้บริการบนเส้นทางบินต่าง ๆ มากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นภายหลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เพื่อรองรับการฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยให้บริการเที่ยวบินทั้งหมด 52,500 เที่ยว มีผู้โดยสารเดินทางด้วยอากาศยานกว่า 9 ล้านคน ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้น 54% และ 92% ต่อปี และมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในปี 2562 

ในช่วงไตรมาสที่ 2 เวียตเจ็ทให้บริการ 33,000 เที่ยวบิน โดยมีผู้โดยสารร่วมเดินทางกว่า 6 ล้านคน ทั้งจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารนั้นสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19  รวมถึงปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 11,000 ตัน 

เวียตเจ็ทเดินหน้าขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อส่งเสริมการก้าวเป็นผู้นำในตลาดทันทีที่น่านฟ้าของประเทศเวียดนามและต่างประเทศเปิดอีกครั้งภายหลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ถือเป็นสายการบินบุกเบิกในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินตรง 17 เส้นทาง เชื่อมต่อระหว่างเวียดนามและอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน โดยเฉพาะในเดลี มุมไบ อาเมดาบัด ไฮเดอราบัด และบังกาลอร์ พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทยังเปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่จากโฮจิมินห์และดานัง สู่ ปูซาน (ประเทศเกาหลีใต้) จากฮานอย สู่ นาโกย่าและฟุกุโอกะ (ประเทศญี่ปุ่น) เป็นต้น 

 

 

นอกจากนี้ เพื่อเสริมทัพฝูงบินของเวียตเจ็ทซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320 และ A321 เวียตเจ็ทได้รับมอบเครื่องบินแอร์บัส A330 รุ่นใหม่ ซึ่งมีความทันสมัยและมีลำตัวกว้างมาใช้งานเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยเทคโนโลยีควบคุมเสียงรบกวน เพื่อประสบการณ์การบินที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสาร

พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทเปิดตัวเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือใหม่ล่าสุด พร้อมบริการแพ็คเกจ “บินก่อน จ่ายทีหลัง” เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้าผู้ประสบปัญหาทางการเงิน และบริการสกายฮอลลิเดย์ ให้บริการแพ็คเกจตั๋วเครื่องบินและที่พักในโรงแรมและรีสอร์ททั่วประเทศเวียดนาม 

บริการ "บินก่อน จ่ายทีหลัง" ได้รับรางวัล Best New Fintech Product 2022 จากนิตยสาร The Global Economics Times อันทรงเกียรติจากสหราชอาณาจักร ซึ่งได้รับการยกย่องไม่เพียงแค่การสนับสนุนทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัตถุประสงค์ของบริการซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย 

นอกจากนี้ เวียตเจ็ทสามารถรักษานโยบายแรงงานและเอื้ออำนวยหลักสูตรการฝึกอบรมหลายหลักสูตรแก่พนักงานทุกคน ในขณะที่หลายสายการบินประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานภายหลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 

สายการบินเวียตเจ็ท (VJAA) ได้เปิดหลักสูตรมากกว่า 650 หลักสูตรสำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมกว่า 15,000 คน อาทิ นักบิน ลูกเรือ ผู้จัดส่งเที่ยวบิน วิศวกรการบิน และเจ้าหน้าที่บริการภาคพื้นดิน ฯลฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเริ่มโปรแกรมการฝึกนักบินเบื้องต้น 

พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทได้รับการยกย่องให้เป็น 'สายการบินทรงคุณค่าแห่งปี' และ 'สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุด 10 อันดับแรก' ประจำปี 2565 โดย AirlineRatings เว็บไซต์จัดอันดับที่มีชื่อเสียง เวียตเจ็ทได้ผ่านการประเมินการรับรองความปลอดภัยจาก ISO27001 อีกครั้งโดย TUV NOR ของเยอรมัน ซึ่งตรงตามเกณฑ์ทั้งหมดของการจัดการความปลอดภัยของ ISO27001:2013 

ที่งานฟาร์นโบโรห์แอร์โชว์ ซึ่งจัดขึ้นในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เวียตเจ็ทบรรลุข้อตกลงกับบริษัทโบอิ้งในการปรับโครงสร้างการตกลงซื้อขาย ยืนยันความมุ่งมั่นของสายการบินในการซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 200 ลำด้วยทุนระหว่างประเทศ ถือเป็นความร่วมมือของโบอิ้งและเวียตเจ็ทในการสนับสนุนการค้าทวิภาคีระหว่างเวียดนามและสหรัฐอเมริกา แม้ว่ารายได้จะพุ่งทะยานในไตรมาสที่ 2 และครึ่งหลังของปี 2565 แต่กำไรรวมหลังหักภาษีก็สูงถึง 426 พันล้านดองเวียดนาม หรือประมาณร้อยละ 85.2 ของเป้าหมายในช่วงครึ่งปีแรกของสายการบิน เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น 

อย่างไรก็ตาม เวียตเจ็ทได้ชำระเงินจำนวนทั้งสิ้น 2,300 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับรัฐบาล ซึ่งรวมภาษีและค่าธรรมเนียมทั้งทางตรงและทางอ้อมสำหรับครึ่งแรกของปี 2565 ผลการดำเนินงานเชิงบวกของสายการบินเวียตเจ็ทซึ่งนำหน้าสายการบินอื่น ๆ มีส่วนทำให้รายได้สนามบินพุ่งสูงขึ้น รวมถึงสร้างรายได้แก่ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องในครึ่งหลังของปี 2565 

เวียตเจ็ทมุ่งมั่นดำเนินตามมาตรการจัดการลดต้นทุนที่เข้มงวดต่อไป พร้อมผลักดันโครงการด้านดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังใช้ประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งรวมถึงการยกเว้นค่าธรรมเนียมการนำอากาศยานขึ้นและลงจอด 50% และลดภาษีการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสำหรับน้ำมันที่ใช้กับอากาศยานลงเหลือ 1,000 ดองเวียดนาม (ประมาณ 4 เซ็นต์สหรัฐ) ต่อถัง เวียตเจ็ทตั้งเป้าที่จะเร่งการฟื้นตัวภายหลังการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และในไตรมาสเหลือของปี 2565 โดยความร่วมมือจากท้องถิ่นและประชากรภายในประเทศเพื่อก้าวเข้าสู่การปรับตัวเพื่อการพัฒนาและบูรณาการ

X

Right Click

No right click