November 25, 2024

ปัจจุบันแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นของ Social Commerce ถือเป็นโอกาสทองที่น่าจับตามองของผู้ประกอบการ แต่ในขณะเดียวกันอาจต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งการแข่งขันที่ดุเดือดจากจำนวนคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น และมาตรฐานความคาดหวังของลูกค้าที่สูงขึ้น รวมไปถึงต้องคอยระวังบรรดามิจฉาชีพที่จ้องจะเอาเปรียบ ทำให้วันนี้การใช้แพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ชที่มีประสิทธิภาพและเข้าใจความต้องการของคนไทยอย่าง LINE SHOPPING ควบคู่ไปกับการมีช่องทางการสื่อสารที่สะดวกสบายผ่าน LINE OA จึงเป็นทางออกสำหรับร้านค้ายุคใหม่ที่ต้องการเลเวลอัพการขายให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งใจ

 4 ข้อดีของ LINE SHOPPING ที่ช่วยให้ทุกการขายเลเวลอัพได้ไว

การสร้างประสบการณ์ที่ดี คือจุดเริ่มต้นก้าวสำคัญที่ทำให้เกิดฐานลูกค้าประจำ และนำไปสู่การสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดย LINE SHOPPING ได้มีการพัฒนาออกแบบเครื่องมือเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกธุรกิจ ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายอย่างครอบคลุมในมิติต่าง ๆ ดังนี้

· ปิดการขายไวขึ้นผ่านแชท พร้อมมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง

เมื่อใช้ LINE SHOPPING คู่กับการพูดคุยสื่อสารและออกออเดอร์ผ่านแชทใน LINE OA สามารถเพิ่มโอกาสในการปิดการขายผ่านแชทได้ไวขึ้น 15 เท่า และมีโอกาสปิดยอดขายสำเร็จสูงถึง 97% ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา มีลูกค้าส่งแชทมาหาร้านค้าเพิ่มขึ้นถึง 11.8 เท่า รวมทั้งมีหน้าร้านของตัวเองที่ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการซื้อ-ขายทุกช่วงเวลา และยังมั่นใจได้ทุกการจ่ายเงินด้วยระบบธุรกรรมที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ยังสามารถสะสมฐานลูกค้ามาอยู่บน LINE ได้ง่าย ๆ ด้วยลิงก์ชำระเงินที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกโซเชียลมีเดีย

· ขายคล่องแบบมือโปร ด้วยระบบจัดการร้านค้า

ระบบการจัดการร้านค้าที่ครบวงจรของ LINE SHOPPING ช่วยยกระดับให้ร้านค้าสามารถขายได้อย่างมือโปร ตั้งแต่การจัดการออเดอร์ ไปจนถึงการจัดการสต็อกหลังบ้านที่สะดวก ง่าย ช่วยลดข้อผิดพลาด และที่สำคัญ LINE SHOPPING ยังจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำมากมาย ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มความแข็งแกร่งในด้านต่าง ๆ ทั้งการพัฒนาธุรกิจ การชำระเงิน และเรื่องระบบการขนส่งที่เลือกได้อย่างอิสระ ทำให้ซื้อง่ายขายคล่องยิ่งกว่าเคย พร้อมด้วยบริการส่งด่วนทันใจภายใน 1 วันด้วย LINE MAN MESSENGER ผู้ช่วยอันดับหนึ่งของร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์

· รู้ลึกข้อมูลการขาย ได้ใจฐานลูกค้า

ช่วยให้ร้านค้ามัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด ผ่านการเก็บรวมรวมข้อมูลพฤติกรรมต่าง ๆ บน LINE SHOPPING เพื่อเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์การขาย เจาะลึกทุกอินไซด์ของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ สามารถนำข้อมูลไปต่อยอดเป็นแผนการขาย และการทำการตลาดเพื่อสร้างฐานะลูกค้าประจำได้ง่ายขึ้นและต้นทุนถูกลง

· ต่อยอดการขายได้เพิ่ม ด้วยฟีเจอร์เสริมอีกหลากหลายจาก LINE SHOPPING

LINE SHOPPING ยังมีฟีเจอร์และแคมเปญต่าง ๆ ที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถเพิ่มยอดขายและมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้มากขึ้น อาทิ LINE POINTS ตัวช่วยดันยอดขายที่ร้านอยากขายดีต้องใช้ หรือฟีเจอร์ SEND GIFT ที่ช่วยสร้างวาระพิเศษให้ลูกค้าและสร้างยอดขายให้ร้านค้า รวมไปถึงฟีเจอร์ WOW Items ที่ช่วยเพิ่มความน่าตื่นเต้นให้สินค้าเพื่อดึงดูดใจคนซื้อ หรือบริการ LIVE สดที่เปิดให้ใช้ฟรี! เพื่อการสื่อสารที่ใกล้ชิดและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึงผ่านการบรอดแคสใน LINE OA

 เทคนิคการเลเวลอัพที่ทำได้จริงจากร้านค้าที่ประสบความสำเร็จ

การใช้ LINE SHOPPING คู่กับ LINE OA จะช่วยปลดล็อกขีดจำกัดศักยภาพของร้านค้า ผ่านฟีเจอร์อันทรงพลังมากมาย อาทิ · “ละมุนเบบี้ (LamoonBaby)” ธุรกิจผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก ใช้การบรอดแคสต์รูปภาพ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นผ่านโปรโมชั่นในช่วงเวลาที่จำกัดเวลา ซึ่งช่วยจูงใจลูกค้าให้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้จริง ช่วยปิดการ

ขายอย่างรวดเร็วได้ดีมาก ช่วยลดแอดมินจาก 10 เหลือ 2 แถมปิดการขายได้มากกว่าเดิม (มากกว่า lead to other platform ถึง 2 เท่า) · “Simple Fruits” ร้านผลไม้ปอกสดพร้อมทาน ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าที่อยากซื้อผลไม้ไปเป็นของฝาก จึงใช้การบรอดแคสต์วิดีโอเพื่อสื่อสารให้ลูกค้าเห็นถึงความสวยงามในการจัดวาง และความน่ากินสดใหม่ของผลไม้ เพื่อจูงใจให้เกิดการซื้อ · “Ravipa” แบรนด์เครื่องประดับสายมู เริ่มค้นหาอินไซด์ลูกค้าจากการพูดคุยผ่านแชทใน LINE OA สู่การต่อยอดพัฒนา Customer Journey ตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อสร้างความประทับใจ และอำนวยความสะดวกในการซื้อผ่านริชเมนูที่เชื่อมต่อกับ LINE SHOPPING ช่วยให้เข้าสู่หน้าร้านค้าได้ทันที นำไปสู่การปิดขายที่รวดเร็วและมีอัตราความสำเร็จสูง

โปรโมชั่นพิเศษ! เมื่อเปิดร้านบน LINE SHOPPING วันนี้

LINE SHOPPING มอบโปรเปิดร้านใหม่สุดพิเศษ รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการชำระเงินจากปกติ 3% เหลือเพียง 1% เป็นระยะเวลา 30 วัน (เฉพาะ LINE OA ที่มีจำนวนผู้ติดตาม 500 คน ขึ้นไป) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เม.ย. 2567 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://lin.ee/qnUMJXN

ไม่พลาดโอกาสในการเลเวลอัพการขายดี ๆ พร้อมปลดล็อกโอกาสในการเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นได้ง่าย ๆ แค่สมัครเปิดร้านบน LINE SHOPPING วันนี้ ที่ https://linemyshop.onelink.me/8cQa/sbr02ys5

LINE SHOPPING ผู้ให้บริการโซเชียลคอมเมิร์ซของไทย ประกาศเปิดเวที LINE SHOPPING INCUBATOR 2024 เฟ้นหาสุดยอดนักพัฒนาไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์และพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซของไทยภายใต้ธีม “Reshaping a new paradigm for social commerce growth” เปิดโอกาสให้นักพัฒนาทั่วไทยร่วมโชว์ศักยภาพผ่านการสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ พร้อมดันออกสู่ตลาดจริง เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การช้อปปิ้งออนไลน์ และยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าเดิม ผ่าน LINE SHOPPING API เปิดรับสมัครเข้าร่วมแข่งขันแล้ว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 พ.ย. 2566 พร้อมชิงเงินรางวัลสูงสุด 100,000 บาท

 

นายเลอทัด ศุภดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซ LINE SHOPPING มีความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาออกแบบเครื่องมือให้ตรงกับพฤติกรรมการซื้อขายที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยผ่านการแชทหรือการพูดคุยที่สร้างให้เกิดความสัมพันธ์และความเป็นมนุษย์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่คุ้นเคยกัน การให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์ม ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่เรามุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง วันนี้จึงเปิดเวที LINE SHOPPING INCUBATOR 2024 เพื่อเฟ้นหานักพัฒนาไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาแพลตฟอร์มผ่าน LINE SHOPPING API เพื่อสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและคนไทย ภายใต้ธีม “Reshaping a new paradigm for social commerce growth” โดยมีจุดประสงค์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการช้อปปิ้งยุคใหม่ พร้อมยกระดับประสบการณ์ในการใช้งานของคนไทยที่ดีขึ้นอย่างไร้รอยต่อ สอดคล้องกับความตั้งใจของ LINE

SHOPPING ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซของไทย ที่ต้องการปลดล็อกทุกข้อจำกัดในการช้อปปิ้งออนไลน์”

“เราจึงต้องการเชิญชวนนักพัฒนาไทย รวมไปถึงผู้ให้บริการ API มาเข้าร่วม LINE SHOPPING INCUBATOR 2024 นอกจากจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบริการและโซลูชั่นไปพร้อมกับเราแล้ว LINE SHOPPING นักพัฒนายังจะได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกจากแพลตฟอร์มเพื่อนำข้อมูลไปต่อยอดสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ ๆ และหากโซลูชั่นนั้นผ่านการคัดเลือกจากกรรมการ จะได้รับการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในการเป็นพันธมิตรกับ LINE SHOPPING เพื่อผลักดันโซลูชั่นสู่การใช้งานจริงโดยร้านค้าซึ่งปัจจุบันมีอยู่ถึง 576,000 ร้านบน LINE SHOPPING และสร้างอิมแพคต่อผู้ใช้งานกว่า 54 ล้านคนบนแอปฯ LINE อีกด้วย

นอกจากนี้เราคาดหวังว่า LINE SHOPPING INCUBATOR 2024 จะเป็นโอกาสใหม่ที่ทำให้ตลาดได้เห็นโซลูชั่นใหม่ ๆ ด้านอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลาดอื่น ๆ และสามารถทำได้อย่างรวดเร็วโดย commerce infrastructure จาก LINE SHOPPING”

LINE SHOPPING INCUBATOR 2024 จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของเมืองไทย และเป็นโอกาสสำคัญที่เหล่านักพัฒนาไทยและผู้ให้บริการ API ไม่ควรพลาด เปิดรับสมัครบุคคลอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ในรูปแบบทีม ซึ่งแต่ละทีมมีสมาชิกได้สูงสุด 5 คน ซึ่งทุกทีมจะได้รับประสบการณ์การทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญจาก LINE ประเทศไทยตลอดการทำงาน ตั้งแต่การให้คำปรึกษา คิดค้น ลงมือทำ พร้อมชิงรางวัลมูลค่าสูงสุด 100,000 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมประชันไอเดียได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2566 และสามารถเข้าฟังรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมกันได้ในกิจกรรม Openhouse Webinar ในวันที่ 10 พฤศจิกายน นี้ ติดตามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมสมัครได้ที่ https://lineshoppingincubator.landpress.line.me/landingpage

ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่กับครั้งแรกในประเทศไทย ของงาน LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23 งานสัมมนาด้านเทคโนโลยีสุดยิ่งใหญ่จาก LINE ประเทศไทย กับการเผยวิสัยทัศน์ ทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก LINE สำหรับเมืองไทยโดยเฉพาะ มุ่งสู่การเป็น “Open platform” หรือ แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย นอกจากเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจได้ต่อยอดนำเทคโนโลยีบน LINE สร้างการเติบโตแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสครั้งใหญ่สำหรับนักพัฒนาไทย ในการสรรค์สร้างโซลูชั่นใหม่ๆ มาเชื่อมต่อกับ LINE ได้สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพขึ้น

 

ภายในงานเต็มไปด้วยข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการอัปเดตโร้ดแมปผลิตภัณฑ์ของ LINE ที่หลากหลายผลิตภัณฑ์หรือบริการ มีการคิดค้นโดยทีมงาน LINE ประเทศไทย เพื่อตลาดไทยโดยฉพาะมาแล้ว เช่น เครื่องมือ MyCustomer, บริการ LINE SHOPPING และ LINE MELODY เป็นต้น โดยในช่วงปี 2023-2024 LINE มีโร้ดแมปใหม่ๆ มากมาย ที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาไทย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ในด้าน API & Plug-in ซึ่งมุ่งเน้นเปิดขยายการเชื่อมต่อ API ให้ครอบคลุมและหลากหลาย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโซลูชั่นใหม่ตอบโจทย์เฉพาะด้านได้มากขึ้น อาทิ

1. LINE SHOPPING API เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานของนักพัฒนาไทยที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาระบบสินค้าของร้านค้าบน LINE SHOPPING ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการระบบการขายได้ดียิ่งขึ้น ผ่าน 4 API ได้แก่

· Product API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบคำสั่งจัดการบริหารข้อมูลสินค้า อัปเดตสินค้าจำนวนมากเข้าสู่หน้ารายการสินค้าได้โดยอัตโนมัติ

· Inventory API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบคำสั่งจัดการบริหารสต๊อกสินค้า เติมสินค้าเข้าหน้าร้านโดยอัตโนมัติเมื่อสินค้าหมดสต๊อก

· Order API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบการเข้าถึงข้อมูลออเดอร์ได้ เพื่อเข้าดูข้อมูลออเดอร์โดยละเอียด

· Webhook Order ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบการแจ้งเตือน ส่งแจ้งเตือนสถานะการสั่งซื้อไปยังผู้ขายหรือแอดมิน เช่น สั่งซื้อแล้ว, จ่ายเงินแล้ว ฯลฯ ได้โดยอัตโนมัติ

โดยในอนาคต LINE มีแผนพัฒนา API ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การทำงานให้นักพัฒนาไทยที่ต้องการจัดการระบบการขายบน LINE SHOPPING ได้ดียิ่งขึ้นอย่าง Chat Invoice API ให้นักพัฒนาสามารถสร้างลิงก์ชำระเงินของสินค้าบน LINE SHOPPING ส่งให้ลูกค้าผ่านช่องทางใดก็ได้ เพื่อกลับมายังหน้าการซื้อขายบน LINE SHOPPING อีกครั้งได้โดยอัตโนมัติ เป็นต้น

2. LINE OA Plus Plug-in Store ต่อยอดการพัฒนาจาก LINE OA Store เพื่อเป็นช่องทางให้นักพัฒนาภายนอกองค์กรสามารถพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มเครื่องมือภายใต้ LINE OA Plus ไม่ว่าจะเป็น MyShop, MyCustomer และ MyRestaurant โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งรวมนำเสนอให้กับนักการตลาด หรือแบรนด์ที่มองหาโซลูชั่นเฉพาะด้าน

3. New Messaging API เพิ่มประสิทธิภาพ Messaging API เพื่อขยายศักยภาพการพัฒนาโซลูชั่นบนแชท LINE ให้นักพัฒนาไทย ตัวอย่างเช่น

· Audience Created for Step messages เปิดให้นักพัฒนาไทย สามารถนำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ได้จากการใช้งาน Messaging API มาประยุกต์ใช้กับการส่งข้อความหากลุ่มลูกค้าผ่านฟีเจอร์ Step Messages บน LINE OA ได้

· Quote messages ฟังก์ชั่นใหม่ในการพัฒนาแชทบอท ให้ทั้งผู้ใช้และบอทสามารถส่งข้อความตอบกลับโดยอ้างอิงจากข้อความก่อนหน้าในห้องแชทได้

· Rich Menu Link/Unlink Batch อำนวยความสะดวกให้นักพัฒนาไทย สามารถออกชุดคำสั่งเปลี่ยน Rich Menu แบบ Personalize ใน LINE OA ให้แสดงผลสู่กลุ่มเป้าหมายจำนวนมากขึ้นได้ ด้วยชุดคำสั่งเดียว

· อัปเดตฟังก์ชั่นใหม่ๆ ในการสร้างข้อความรูปแบบ Flex Message เช่น การขยายขนาดของกล่องข้อความให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น นักพัฒนาสามารถเลือกได้ตามต้องการ และความสามารถในการกำหนดขนาดตัวอักษรและไอคอน ให้แสดงผลตามการตั้งค่าในแอปฯ LINE ของผู้ใช้แต่ละคนได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ LINE ยังได้เปิดตัวบริการใหม่อย่าง LON หรือ LINE Official Notification ข้อความแจ้งเตือนผ่านเบอร์โทรศัพท์ให้ผู้ใช้งานด้วยการแสดงผลผ่าน LINE OA ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างแบรนด์หรือองค์กร ไปยังลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและมั่นใจด้านความปลอดภัย ด้วยความหลากหลายของรูปแบบข้อความแจ้งเตือนให้นักพัฒนาได้เลือกใช้ โอกาสของนักพัฒนาไทยในการสร้างโซลูชั่นการแจ้งเตือนรูปแบบใหม่ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น พร้อมลดปัญหาข้อความสแปม

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาไทย จากงาน LCT23 เพื่อการต่อยอดสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ ให้ตอบโจทย์ในหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอกย้ำถึงจุดมุ่งหมายของ LINE ในการเป็นองค์กร

เทคฯ ที่ส่งเสริมความแข็งแกร่งให้เหล่านักพัฒนาไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อน เพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไทย ให้เติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก LINE สำหรับนักพัฒนาไทย ได้ที่ LINE OA: @linedevth, เฟซบุ๊ก LINE Developers Thailand หรือ LINE Developers Group Thailand

ครั้งแรกของ LINE ประเทศไทย กับงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่ LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23 พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ ทิศทาง และกลยุทธ์ก้าวต่อไปในการพัฒนาและดำเนินการด้านเทคโนโลยีใหม่แห่งปี สู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย” เปิดโอกาสเชื่อมต่อเทคโนโลยีอย่างไร้รอยต่อ พร้อมเผยแผนการพัฒนาโซลูชั่นภายใต้ความเข้าใจผู้ใช้ชาวไทย พันธมิตร และนักพัฒนา ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิต (Life Infrastructure) ยุคใหม่

“เปิดโอกาส” สู่อนาคตแห่งนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี Hyper-localized

ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า กว่า 12 ปีที่ LINE ประเทศไทยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน ภายใต้พันธกิจ "Closing the Distance" ผ่านแพลตฟอร์มและบริการที่มีผู้ใช้งานกว่า 54 ล้านคน ตอกย้ำการเป็นโครงสร้างพื้นฐานชีวิตในยุคดิจิทัล (Life Infrastructure) พร้อมผลักดันจุดแข็งแห่งการมีทีมนักพัฒนาประจำประเทศไทย ที่จะเป็นบันไดสู่อนาคตขั้นถัดไปของนวัตกรรมในการขับเคลื่อน Smart Country ด้วยเทคโนโลยี Hyper-Localized เพื่อ “เปิดโอกาส” ให้คนไทยเติบโตในยุคดิจิทัลได้ในหลากหลายมิติอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ไม่ทิ้งจุดแข็ง Group Chat เล็งพัฒนาโซลูชั่นเพื่อการทำงาน

ภายในงาน นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ยังได้เผยถึงบริการพื้นฐานอย่าง ‘แชท’ ที่เป็นจุดแข็งของ LINE ซึ่งยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Group Chat ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนไทย สะท้อนจากสถิติการเติบโตที่สูงขึ้นกว่า 56% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และอัตราการส่งข้อความประเภทต่าง ๆ ทั้งรูปภาพ ไฟล์ เสียง และวิดีโอ มีอัตราการเติบโตสูงกว่าประเทศอื่นทั่วโลก

โดยผลสำรวจจาก LINE ประเทศไทยพบว่า หมวดหมู่ Group Chat ยอดนิยม ได้แก่ กลุ่มเพื่อน 82% ครอบครัว 80% ที่ทำงาน 77% และโรงเรียน 27% สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของกลุ่มผู้ใช้และวิธีการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้กว่า 77% ระบุว่ากลุ่มแชทครอบครัวช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างช่วงวัยมากขึ้น ในขณะเดียวกัน Group Chat ยังสามารถช่วยให้

กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายขึ้น ส่งผลให้เกิดสังคมการทำงานที่มีประสิทธิภาพกว่าในอดีต นำมาสู่ความมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ Work Group สำหรับคนไทย เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการทำงาน การใช้ชีวิต และครอบครัวไปด้วยกัน

 

นอกจากนี้ นายนรสิทธิ์ ยังได้เผยถึงแผนเปิดตัว LINE STICKERS PREMIUM บริการสติกเกอร์จ่ายรายเดือน/รายปี สำหรับคนไทย อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเลือกใช้งานชุดสติกเกอร์ได้หลากหลายและคุ้มค่ายิ่งขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งในทิศทางการพัฒนาจุดแข็งของแพลตฟอร์ม LINE ด้านการสื่อสารดิจิทัลให้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เปิดวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีแห่งปีครั้งแรกของ LINE ประเทศไทย

นายวีระ เกษตรสิน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ (CPO) กล่าวว่า LINE ประเทศไทยเล็งเห็นความสำคัญในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะองค์กรเทคฯ เพื่อคนไทย โดยในช่วง 5 ปีจากนี้ LINE จะมุ่งสู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิด” ที่พร้อมเปิดรับการเชื่อมต่อกับหลากหลายเทคโนโลยีนำสมัย นำมาซึ่งผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทย ทั้งในด้านผู้ใช้งาน ธุรกิจ และพันธมิตร โดยอาศัยแนวคิดตั้งต้นจากทีมงาน LINE ประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

1. Extensive Plug-Ins เปิดการเชื่อมต่อกับระบบหรือโซลูชั่นอื่น ๆ อย่างหลากหลาย ทั้งโซลูชั่นที่คิดค้นเพิ่มเติมโดย LINE เอง และระบบที่พาร์ทเนอร์หรือนักพัฒนาทั่วไปได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยในมิติที่กว้างและลึกขึ้น

2. Data Utilization ส่งเสริมให้พันธมิตรและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพอย่างไร้รอยต่อ นำไปสู่การใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างแท้จริง

3. Performance Marketing เพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดบนแพลตฟอร์ม ด้วยศักยภาพการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้น สร้างการเติบโตให้ภาคธุรกิจผ่านโซลูชั่นต่าง ๆ ของ LINE ได้อย่างยั่งยืน

4. Privacy Focused คงไว้ซึ่งการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างเคร่งครัด

ปู 3 โร้ดแมป ยกระดับเทคโนโลยี

1. Customer Data Tools เพิ่มขีดความสามารถในจัดการข้อมูลลูกค้าผ่านเครื่องมือ MyCustomer ในการเก็บรวบรวม 1st Party Data ของผู้บริโภค โดยให้อำนาจร้านค้าในการเข้าถึงและจัดการข้อมูลได้มากกว่าที่เคย ภายใต้ขอบเขตการยินยอมจากผู้บริโภคตามกฎหมาย โดยมีแผนการเปิดตัว MyCustomer สำหรับกลุ่มธุรกิจรายย่อย (SME) และในอนาคต สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อการทำ CRM โดยเฉพาะ

2. Ads Improvement ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับการโฆษณาบน LINE ให้สามารถวิเคราะห์ ประยุกต์ใช้ข้อมูลที่แบรนด์ได้มาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น อาทิ การเพิ่ม Segment ในการหากลุ่มเป้าหมายผ่าน Persona Targeting ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น และการเปิดให้ภาคธุรกิจ ร้านค้า สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคบน LINE SHOPPING มาวิเคราะห์แบ่งกลุ่ม เพื่อการยิงโฆษณาผ่าน LINE ADS ได้แม่นยำและครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น

3. API & Plug-In เปิดขยายการเชื่อมต่อ API ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์เฉพาะด้านได้อย่างครอบคลุมขึ้น อาทิ LINE SHOPPING API, Messaging API รวมถึงแผนการเปิดตัว LINE OA Plus Plug-in Store แหล่งรวมโซลูชั่นสำหรับนักพัฒนานอกองค์กร LINE ในการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ ๆ และยังเป็นโอกาสสำหรับภาคธุรกิจไทย ในการมองหาโซลูชั่นให้ตรงกับความต้องการ

 

LINE ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษเวิร์คช็อป LINE STICKERS Creator แก่เยาวชนจากมูลนิธิออทิสติกไทย โดยมุ่งถ่ายทอดเนื้อหาการสร้างสรรค์และวิธีจำหน่าย LINE STICKERS ซึ่งเป็นการผสานงานศิลปะลงบนเทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพผู้มีความสามารถด้านศิลปะสู่การต่อยอดสร้างอาชีพและรายได้ ตอกย้ำการผลักดันโอกาสบนแพลตฟอร์ม LINE ที่มุ่งขับเคลื่อน Smart Country ด้วย LINE Economy ระบบเศรษฐกิจบนแอปพลิเคชั่น LINE ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 54 ล้านคน ทั้งนี้ นางสาวณิชารัศมิ์ อาชญาสิทธิวัตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด พร้อมด้วยพนักงาน ร่วมเป็นตัวแทนมอบเงินบริจาคแก่มูลนิธิฯ เป็นจำนวน 123,700 บาทในนามพนักงานบริษัทฯ จากการจัดกิจกรรมประมูลฉลองโอกาสครบรอบ 12 ปี แอปพลิเคชั่น LINE โดยนายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย เป็นตัวแทนรับมอบ ณ ออฟฟิศ LINE ประเทศไทย เมื่อเร็ว ๆ นี้

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click