November 23, 2024

ตลาดฟรีแลนซ์ในไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ความต้องการจ้างงานอิสระที่มีมากขึ้นทั่วโลก และรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 - 2566 แพลตฟอร์มจ้างงาน ประเภทฟรีแลนซ์ในไทยมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 50% โดยมีฟรีแลนซ์หน้าใหม่มากกว่า 23,700 คนเข้าร่วมแพลตฟอร์ม อาทิ Fastwork ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ที่ใหญ่ที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเภทงานยอดนิยมที่เป็นที่ต้องการ ได้แก่ แปลภาษา ออกแบบเว็บไซต์ และการป้อนข้อมูล เป็นต้น และมีผู้ที่ต้องการจ้างงานจากหลากหลายประเทศอย่าง อินเดีย สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย

ยิ่งไปกว่านั้นมีการรายงานว่าฟรีแลนซ์ชาวไทยเป็นที่ต้องการอย่างมากบนแพลตฟอร์มจ้างงาน อย่าง Freelancer.com โดยเฉพาะในงานแปลภาษา ออกแบบเว็บไซต์ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ และการป้อนข้อมูล ในประเทศต่าง ๆ นอกจากประเทศไทย อาทิ อินเดีย สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นนายจ้างหลักของฟรีแลนซ์ชาวไทย

ปัจจุบันฟรีแลนซ์หันมาพึ่งพาแพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้นในการหางาน โดย 73% ระบุว่าเทคโนโลยี ทำให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Fastwork ได้มุ่งพัฒนาการใช้งาน ของแพลตฟอร์มอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการบูรณาการการสื่อสารแบบเรียลไทม์ของ Agora จากการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้มีผู้ใช้งานมากกว่า 3 ล้านคน และมีฟรีแลนซ์หน้าใหม่ลงทะเบียนมากกว่า 230,000 คน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงาน (Conversion Rate) เป็นสองเท่า ทำให้การเชื่อมต่อระหว่าง ธุรกิจกับฟรีแลนซ์เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ Fastwork เผชิญกับความท้าทายในด้านอัตราการจ้างงาน จากลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ ผ่านฟังก์ชันแชท และด้วยการเติบโตของตลาดฟรีแลนซ์ในประเทศไทยที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น Fastwork ได้นำโซลูชันการสื่อสารเรียลไทม์จาก Agora เข้ามาใช่ เพื่อเชื่อมต่อฟรีแลนซ์กับธุรกิจผู้จ้างงาน และแก้ปัญหาที่เคยมีมาก่อนหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการบูรณาการบริการโทรแบบเรียลไทม์ของ Agora ฟรีแลนซ์และลูกค้าสามารถพูดคุย เจรจาข้อตกลง และทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ ฟีเจอร์นี้มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้แพลตฟอร์ม และเสริมสร้างความเชื่อมั่นระหว่างลูกค้ากับฟรีแลนซ์

“Fastwork มีอัตราการแปลงจากการแชทไปสู่การชำระเงินเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า หลังจากที่ได้ผสาน การโทรแบบเรียลไทม์ของ Agora เข้าไปในแพลตฟอร์มทำให้ผู้จ้างงานและฟรีแลนซ์เชื่อมต่อและทำงานร่วมกัน ได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน” คุณชนะสิทธิ์ ธนเสถียรวิชญ์ Product Manager ของ Fastwork กล่าว

Fastwork เลือกใช้ Agora เพราะความสามารถในการเชื่อมต่อระบบได้อย่างราบรื่น และบริการการสื่อสาร แบบเรียลไทม์ที่มีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้แพลตฟอร์ม ยกระดับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ เพิ่มอัตราการจ้างงาน และในที่สุดทำให้ Fastwork ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดฟรีแลนซ์ในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโซลูชันของ Agora ที่เชื่อมต่อง่าย เป็นส่วนหนึ่งในการ ช่วยให้ทีมพัฒนาของ Fastwork ปรับปรุงฟังก์ชันแพลตฟอร์มได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้

กิจกรรมเวิร์คช็อปด้านเทคโนโลยีโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของอโกด้าสำหรับนักเรียนโรงเรียนนาหลวง

อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ (Saturday School) จัดทำโครงการ Agoda Tech Day Camp กิจกรรมเวิร์คช็อปด้านเทคโนโลยีสำหรับนักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษามหาวิทยาลัยในปี 2566 โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนนาหลวง จำนวน 60 คนได้เข้าร่วมเวิร์คช็อปครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2566  

ในงานดังกล่าว มีบุคคลสำคัญจากหน่วยงานหลักที่ร่วมดำเนินโครงการเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาวเพ็ญลักษณ์ บุญความดี ผู้อำนวยการโรงเรียนนาหลวง และนายออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ อโกด้า โดยมีพนักงานชาวไทยของอโกด้าซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเป็นผู้ดำเนินการอบรมและพัฒนาหลักสูตรขึ้นใหม่โดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสมกับการสอนสร้างเว็บไซต์ให้กับนักเรียนโดยใช้โปรแกรมต่าง ๆ เช่น React-Bootstrap

 

โดยมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษา ได้ร่วมพัฒนาเนื้อหาการอบรมในครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนมากที่สุด ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยี อโกด้ามีความหลงใหลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เช่น การศึกษาด้านเทคโนโลยี Hackathon และ โครงการ Codegoda กิจกรรมแข่งขันเขียนโค้ดซึ่งอโกด้าจัดขึ้นเป็นประจำในทุก ๆ ปี

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความพร้อมที่จะร่วมงานกับอโกด้าในการพัฒนาการศึกษาด้านเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า “การปลูกฝังให้คนรุ่นต่อไปได้เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีนั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราที่จะพัฒนาเมืองอันเต็มไปด้วยชีวิตอย่างกรุงเทพฯ โดยโครงการ 'Agoda Tech Day Camp' จะช่วยส่งเสริมและปลูกฝังแนวคิดด้านดิจิทัลสำหรับนักเรียนไทยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น" ผู้ว่าฯ ยังหวังที่จะขยายความร่วมมือนี้ไปสู่การร่วมกับองค์กรภาครัฐหรือเอกชนอื่น ๆ ในอนาคตเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบุคลากรให้พร้อมรับมือกับสังคมที่กำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในวันข้างหน้า

 

นายออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอโกด้า แสดงความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ กทม. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดยคุณออมรีกล่าวว่า "ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อโกด้ามองว่าหน้าที่หลักของเรา คือการลงทุนและถ่ายทอดทั้งองค์ความรู้และ know-how แก่เหล่าผู้นำในอนาคตเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นมีทักษะที่เหมาะสมซึ่งจะเป็นรากฐานสู่ความสำเร็จได้"

โครงการ 'Agoda Tech Day Camp' ที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระหว่างอโกด้าและกทม. โดยทั้งสองฝ่ายยังมีโครงการอื่น ๆ ที่ได้มีโอกาสดำเนินการร่วมกัน อาทิ โครงการปลูกต้นไม้กลางกรุง กิจกรรม Action Day PM 2.5 BKK และโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนที่ตลาดน้อย

 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความพร้อมที่จะร่วมงานกับอโกด้าในการพัฒนาการศึกษาด้านเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า “การปลูกฝังให้คนรุ่นต่อไปได้เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีนั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเราที่จะพัฒนาเมืองอันเต็มไปด้วยชีวิตอย่างกรุงเทพฯ โดยโครงการ 'Agoda Tech Day Camp' จะช่วยส่งเสริมและปลูกฝังแนวคิดด้านดิจิทัลสำหรับนักเรียนไทยตั้งแต่ระยะเริ่มต้น" ผู้ว่าฯ ยังหวังที่จะขยายความร่วมมือนี้ไปสู่การร่วมกับองค์กรภาครัฐหรือเอกชนอื่น ๆ ในอนาคตเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับบุคลากรให้พร้อมรับมือกับสังคมที่กำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในวันข้างหน้า

นายออมรี มอร์เกนสเติร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอโกด้า แสดงความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ กทม. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดยคุณออมรีกล่าวว่า "ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อโกด้ามองว่าหน้าที่หลักของเรา คือการลงทุนและถ่ายทอดทั้งองค์ความรู้และ know-how แก่เหล่าผู้นำในอนาคตเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นมีทักษะที่เหมาะสมซึ่งจะเป็นรากฐานสู่ความสำเร็จได้"

 โครงการ 'Agoda Tech Day Camp' ที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระหว่างอโกด้าและกทม. โดยทั้งสองฝ่ายยังมีโครงการอื่น ๆ ที่ได้มีโอกาสดำเนินการร่วมกัน อาทิ โครงการปลูกต้นไม้กลางกรุง กิจกรรม Action Day PM 2.5 BKK และโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนที่ตลาดน้อย

X

Right Click

No right click