November 08, 2024

 SAP SE (NYSE: SAP) และ Google Cloud ได้ประกาศการขยายความร่วมมืออย่างกว้างขวาง โดยการเปิดตัวข้อเสนอข้อมูลแบบเปิดที่ครอบคลุม ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนของภูมิทัศน์ข้อมูลและปลดปล่อยพลังของข้อมูลธุรกิจ ข้อเสนอนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างระบบคลาวด์ดาต้าแบบ end-to-end ที่ข้อมูลถูกดึงมาใช้ได้จากทั่วทั้งองค์กร โดยใช้โซลูชัน SAP® Datasphere ร่วมกับระบบคลาวด์ดาต้าของ Google ดังนั้น ธุรกิจต่างๆ สามารถตรวจดูพื้นที่ข้อมูลทั้งหมดได้แบบเรียลไทม์ และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุดจากการลงทุนในซอฟต์แวร์ Google Cloud และ SAP ของพวกเขา

ข้อมูลเป็นรากฐานที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ผ่านมา องค์กรต่าง ๆ ใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการสร้างศูนย์รวมรวมข้อมูลที่ซับซ้อน เครื่องมือวิเคราะห์แบบกำหนดได้เอง รวมถึง Generative AI และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มตระหนักถึงความคุ้มค่าจากการลงทุนด้านข้อมูลเหล่านั้น ในขณะที่ข้อมูลที่มาจาก ระบบ SAP โดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดขององค์กร และสามารถให้ข้อมูลที่สำคัญอย่างข้อมูลด้านซัพพลายเชน การพยากรณ์ทางการเงิน การบันทึกทรัพยากรบุคคล ข้อมูลระบบ Omnichannel Retail และอื่น ๆ ได้ โดย SAP Datasphere จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลที่มีความสำคัญต่อภารกิจเหล่านี้ เข้ากับข้อมูลทั่วทั้งองค์กร จากหลากหลายแหล่งที่มา ซึ่งความสามารถในการรวมข้อมูลทั้งจากซอฟต์แวร์ SAP และที่ไม่ใช่มาจาก SAP (มาจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ) ไว้บน Google Cloud ได้อย่างง่ายดายนั้น ย่อมหมายความว่าองค์กรต่างๆ สามารถเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วด้วยรากฐานข้อมูลที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์ และยังคงรักษาบริบททางธุรกิจที่ครบถ้วนไว้ได้

 

Christian Klein ซีอีโอและคณะกรรมการบริหารของ SAP SE

Christian Klein ซีอีโอและคณะกรรมการบริหารของ SAP SE กล่าวว่า "การนำระบบและข้อมูลของ SAP มารวมกับข้อมูลในคลาวด์ของ Google ได้นำเสนอโอกาสใหม่สำหรับองค์กรต่างๆ ให้ได้รับคุณค่าที่มากขึ้นจากดาต้าฟุตปริ้นท์ทั้งหมด โดย SAP และ Google Cloud มีความมุ่งมั่นร่วมกันต่อข้อมูลแบบเปิด และการเป็นพันธมิตรของเราก็ได้ขยายออกไปเพื่อช่วยทลายกำแพงกั้นระหว่างข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในระบบ ฐานข้อมูล และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ลูกค้าของเราไม่เพียงแต่ได้รับประโยชน์จาก AI ของธุรกิจที่สร้างไว้ในระบบของเราเท่านั้น แต่ยังได้รับประโยชน์จากรากฐานข้อมูลที่เป็นหนึ่งเดียวด้วย"

 

Thomas Kurian, ซีอีโอของ Google Cloud

Thomas Kurian, ซีอีโอของ Google Cloud กล่าวว่า "ตอนนี้ SAP และ Google Cloud นำเสนอระบบคลาวด์ข้อมูลแบบเปิดที่ครอบคลุมอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับอนาคต AI ขององค์กร. แหล่งทรัพยากรเพียงบางแห่งอาจสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลพอ ๆ กับข้อมูล แต่ด้วยการผสานรวมข้อมูลและระบบ SAP เข้ากับคลาวด์ข้อมูลของเราอย่างลึกซึ้ง ลูกค้าจะสามารถใช้งานความสามารถในการวิเคราะห์ของเราได้เช่นเดียวกับเครื่องมือ AI ขั้นสูงและ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกใหม่จากข้อมูลของพวกเขา" องค์กรต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น Blue Bird Group, JB Cocoa, Kopi Kenangan, Link Net, NTUC Enterprise, Ocean Network Express, Siam Cement Group (SCG) และ Vingroup เป็นต้น ได้ใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันของ Google Cloud และ SAP เสนอเพื่อช่วยให้พวกเขาดำเนินธุรกิจอย่างชาญฉลาดและยั่งยืนมากขึ้น และบรรลุผลลัพธ์ที่มีผลกระทบ ข้อเสนอข้อมูลแบบเปิด ใหม่จาก SAP และ Google Cloud ช่วยส่งเสริมโซลูชัน RISE with SAP และจะช่วยให้ลูกค้าสามารถ: · เข้าถึงข้อมูลสำคัญทางธุรกิจแบบเรียลไทม์: การผสานรวมระหว่าง SAP Datasphere และ Google Cloud BigQuery ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญที่สุดได้อย่างง่ายดายแบบเรียลไทม์โดยไม่มีข้อมูลซ้ำซ้อน ข้อเสนอร่วมนี้สามารถรวมข้อมูลจาก ระบบซอฟต์แวร์ SAP เช่น SAP S/4HANA® และ SAP HANA® Cloud ทำให้องค์กรต่างๆ มีมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับข้อมูลที่สำคัญที่สุดของตนบนคลาวด์ดาต้าของ Google

· ลดความซับซ้อนของภูมิทัศน์ข้อมูล: SAP และ Google Cloud ได้ร่วมกันสร้างวิศวกรรมการจำลองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีการรวมศูนย์ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถรวมข้อมูลจากซอฟต์แวร์ SAP เข้ากับ สภาพแวดล้อม BigQuery ได้อย่างง่ายดาย และใช้ประโยชน์จากความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลชั้นนำของ SAP และ Google Cloud ปัจจุบันนี้ ลูกค้าสามารถรวมข้อความค้นหาระหว่าง SAP Datasphere และ BigQuery เพื่อผสมผสานข้อมูลจาก ซอฟต์แวร์ SAP และ ที่ไม่ใช่ของ SAP ซึ่งช่วยขจัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลทั่วไปจากแหล่งที่มาที่ครอบคลุมทั้งด้านการตลาด การขาย การเงิน ห่วงโซ่อุปทาน และอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่ทำธุรกิจค้าส่ง สามารถเห็นผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างสมบูรณ์ขณะที่พวกเขากำลังดำเนินการจำหน่ายสินค้าและเข้าถึงลูกค้า

· สร้างข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อถือได้ด้วย โมเดล AI และแมชชีนเลิร์นนิง (ML) ขั้นสูงของ Google Cloud: ธุรกิจต่างๆ จะสามารถใช้ บริการ AI และ ML ของ Google Cloud เพื่อฝึกโมเดลบนข้อมูลทั้งจาก ระบบ SAP และ ไม่ได้มาจาก SAP · ทำการวิเคราะห์ขั้นสูง: องค์กรสามารถใช้ความสามารถในการวิเคราะห์ของโซลูชัน SAP Analytics Cloud ใน Google Cloud เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางการเงินและธุรกิจ พร้อมปรับปรุงความแม่นยำของโมเดล ด้วยการผสานรวมกับข้อมูลใน BigQuery ด้วย SAP Datasphere ลูกค้าสามารถวางแผนด้วยมุมมองเดียวที่ครอบคลุมธุรกิจของตน

· ใช้โซลูชันร่วมกันเพื่อความยั่งยืน: SAP และ Google Cloud กำลังค้นหาแนวทางที่จะรวม SAP Datasphere เข้ากับ ชุดข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่กว้างขึ้น รวมถึงข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนโดย Google Cloud เพื่อเร่งการเดินทางสู่ความยั่งยืนด้วยข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง

· ใช้ SAP Business Technology Platform (SAP BTP) บนระบบ Google Cloud ทั่วโลก: SAP จะพัฒนาข้อเสนอมัลติคลาวด์โดยขยายการรองรับ SAP BTP และ SAP HANA Cloud บน Google Cloud ระดับภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการสนับสนุน SAP Analytics Cloud และ SAP Datasphere SAP และ Google Cloud ตั้งใจที่จะเปิดตัว SAP BTP ใน 5 ภูมิภาคใหม่ในปีนี้ รวมถึงจะเพิ่มการรองรับเป็น 8 ภูมิภาคภายในปี 2568

ทั้งสองบริษัทยังวางแผนเป็นพันธมิตรกันในการริเริ่มเข้าสู่ตลาดสำหรับโครงการข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดขององค์กร ทำให้ลูกค้าสามารถนำผลิตภัณฑ์ข้อมูลจากทั้ง SAP และ Google Cloud มาใช้ได้

SAP (เอสเอพี) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัว GROW with SAP โซลูชันและบริการใหม่ที่จะช่วยให้องค์กรขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) เพื่อประโยชน์สูงสุดจาก Cloud ERP ทำให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว คาดการณ์ธุรกิจในอนาคตได้อย่างแม่นยำ และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง

การเปิดตัวดังกล่าวจัดขึ้นภายในงานการประชุม SEA Partner Success Summit 2023 ซึ่งมีพาร์ทเนอร์กว่า 300 รายทั่วภูมิภาคเข้าร่วม

โซลูชัน GROW with SAP ได้รวบรวมแพลตฟอร์มเพื่อตอบสนองการขยายธุรกิจอย่าง SAP Business Technology Platform เข้าไว้ในบริการนี้เพื่อให้องค์กรสามารถปรับใช้และกำหนดแนวทางซอฟต์แวร์ในแบบคลาวด์เนทีฟผ่าน SAP Build ด้วยโซลูชัน SAP Build ผู้ใช้งานสามารถสร้างแอปพลิเคชันภายในองค์กร สร้างกระบวนการทำงานอัตโนมัติ และออกแบบเว็บไซต์ธุรกิจได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเขียนโค้ด ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาธุรกิจผ่านการสร้างสรรค์โซลูชันที่ตอบโจทย์

งานวิจัยของ SAP study พบว่า มากกว่า 2 ใน 3 ขององค์กรขนาดกลางและขนาดเล็ก มองเห็นว่าการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่น มีความสำคัญต่อองค์กรและความอยู่รอดในอนาคตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน องค์กรมีความจำเป็นที่จะต้อง

อาศัยผู้เชี่ยวชาญและพาร์ทเนอร์ที่สามารถให้คำแนะนำพวกเขาตลอดกระบวนการดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่น เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างคล่องตัวและคุ้มค่ากับการลงทุน

องค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 99% ของธุรกิจทั้งหมด ก่อให้เกิดการจ้างงาน 90% และคิดเป็นเกือบ 60% ของจีดีพีในหลายประเทศในอาเซียน การร่วมมือประสานกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรธุรกิจของ SAP และพาร์ทเนอร์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการใช้ประโยชน์จากโซลูชัน GROW with SAP จะช่วยส่งเสริมศักยภาพขององค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล กระตุ้นให้องค์กรเกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิดข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งยังส่งเสริมศักยภาพเพื่อโอกาสการเติบโตทางธุรกิจระหว่างประเทศใหม่ ๆอีกด้วย” เวเรน่า เซียว ประธานและกรรมการผู้จัดการ เอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

“T-PRIDE ก่อตั้งขึ้นเเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนชุมชนในการสร้างความร่วมมือและความยืดหยุ่นเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือต่อการระบาดใหญ่ของโควิด 19 แม้ว่าปัจจุบันเราจะอยู่ในยุคหลังการระบาด แต่ T-PRIDE ยังคงเดินหน้าป้องกันและเตรียมความพร้อมขององค์กรอยู่เสมอ ซึ่งการย้ายการทำงานขององค์กรไปยังระบบคลาวด์และใช้งาน GROW with SAP ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางการทำงานระบบดิจิทัล ช่วยให้องค์กรสามารถยกระดับกระบวนการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นและเป็นไปตามหลักธรรมภิบาลมากยิ่งขึ้น การมีตัวช่วยที่ครบครันจะช่วยให้เราสามารถควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้แนวทางการทำงานและการบริหารสอดคล้องกัน ด้วยแนวคิดการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลที่รวมเป็นหนึ่งช่วยให้การประมวลผลและการตัดสินใจถูกต้องและม่นยำ ทำให้ T-PRIDE สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ตอบสนองความต้องการของชุมชน และบรรลุเป้าหมายการมีส่วนร่วมและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ” จูดี้ เฮย ประธานกรรมการบริหาร Temasek Public Resilience Infectious Disease Emergency (T-PRIDE) กล่าว

“ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเอสเอพีที่มากกว่า 50 ปี ในการช่วยบริษัททุกขนาดในหลากหลายองค์กรให้กลายเป็นองค์กรอัจฉริยะที่ยั่งยืน เราเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าและแนวทางเพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการนำ Cloud ERP มาใช้ รวมถึงทำอย่างไรลูกค้าจึงสามารถนำเอาโซลูชันคลาวจากเอสเอพีมาใช้เพื่อขยับขยายและสนับสนุนธุรกิจ พร้อมทั้งนำเสนอบริการที่ซับซ้อนให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถเตรียมความพร้อมสู่เป้าหมายความยั่งยืนขององค์กรในอนาคต” เวเรน่า เซียว กล่าวเสริม

“ธุรกิจต่างๆทราบดีว่าการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่นและการย้ายไปยังระบบคลาวด์มีประโยชน์อย่างมาก แต่ความกังวลและไม่มั่นใจทำให้หลายองค์กรยังคงลังเล” คริสตอฟ เดอร์เดน หุ้นส่วนและผู้อำนวยการบริษัท Delaware ประเทศสิงคโปร์ และDelaware นานาชาติ กล่าว “GROW with SAP แสดงให้ลูกค้าเห็นว่าโซลูชันดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการด้านงบประมาณและธุรกิจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เมื่อลูกค้าเข้าใจรายละเอียดขององค์ประกอบและบริการอย่างชัดเจน การย้ายไปยังระบบคลาวด์จึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป แต่ทุกกระบวนการจะอยู่ภายใต้การควบคุมที่เป็นขั้นเป็นตอน นอกจากนี้ยังรับประกันได้ว่า SAP และกลุ่มบริษัทพาร์ทเนอร์ พร้อมดูแลลูกค้าเป็นอย่างดีเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับธุรกิจ”

“SAP ผนึก 3 องค์ประกอบสำคัญที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเข้าด้วยกันในโซลูชันครบวงจร เพื่อช่วยให้ลูกค้าย้ายไปยังระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" กริช วิโรจน์สายลี ประธานกรรมการ บริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าว “ลูกค้าของเราสามารถพัฒนาธุรกิจผ่านการใช้งานบนระบบ SAP S/4HANA® Cloud ตลอดจนสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆผ่าน SAP Business Technology Platform ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากการประสบการณ์ในการช่วยเหลือลูกค้ามายาวนานกว่า 50 ปีของเอสเอพี ยิ่งเรานำเทคโนโลยีและโซลูชันดังกล่าวมาใช้งานเร็วเท่าไหร่ ข้อได้เปรียบทางการแข่งขันขององค์กรยิ่งมีมากเท่านั้น

นอกจากนี้ SAP ยังได้มีการประกาศผู้ชนะรางวัล SAP SEA Partner Awards 2023 ซึ่งให้ความสำคัญกับพาร์ทเนอร์ดีเด่นในด้านการขาย นวัตกรรม เทคโนโลยี บริการ และโซลูชันอีกด้วย

 

 

เอสเอพี เอสอี (NYSE: SAP) เปิดเผยว่า บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ 

X

Right Click

No right click