บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX) ประกาศความสำเร็จคว้า 3 รางวัลความเป็นเลิศด้านทรัพยากรบุคคลในประเทศไทย ได้แก่ รางวัลสรรหาบุคลากรยอดเยี่ยม ระดับ Gold (Excellence in Talent Acquisition) รางวัลกลยุทธ์การบริหารค่าตอบแทนรวมยอดเยี่ยม ระดับ Silver (Excellence in Total Rewards Strategy) และรางวัลยอดเยี่ยมด้าน AI โซลูชันสำหรับทรัพยากรบุคคล ระดับ Bronze (Excellence in AI-Powered HR Solutions) จากเวที HR Excellence Awards Thailand 2024 ซึ่งจัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเชิดชูความสำเร็จขององค์กรที่มีกลยุทธ์และนวัตกรรมด้านการบริหารบุคลากรโดดเด่น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่ม SCBX ในการนำเทคโนโลยี AI มายกระดับประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อพัฒนาศักยภาพและเสริมทักษะพนักงานขององค์กรให้สามารถอยู่ในกระแสความต้องการของโลกปัจจุบัน
นางพัตราภรณ์ สิโรดม Chief Talent Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กล่าวว่า “SCBX มุ่งมั่นเดินหน้าสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำระดับภูมิภาค โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างแท้จริง หรือ AI-first Organization การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลจึงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ เราจึงมีการประยุกต์นำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อช่วยยกระดับกระบวนการทำงานด้าน HR ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยโซลูชันที่ช่วยเฟ้นหาบุคลากรที่เหมาะสมกับองค์กร ลดเวลาและต้นทุนการทำธุรกิจ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี เพื่อรักษาและดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ (Talent) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร อีกทั้งยังสามารถสร้างแรงจูงใจในการสร้างผลงานให้กับองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง โดยภายในสิ้นปี 2024 พนักงานกว่า 80% ขององค์กรต้องมีความเข้าใจพื้นฐานด้าน AI จึงได้จัดทำหลักสูตรออนไลน์และสื่อการฝึกอบรมด้าน AI ให้กับพนักงาน รวมถึงบริษัทยังสนับสนุนเครื่องมือ AI ให้กับพนักงาน เพื่อปลูกฝังและสร้าง AI Culture หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง AI อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างบุคลากรคนรุ่นใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของโลกการทำงานแห่งอนาคต”
รางวัล HR Excellence Awards Thailand ประจำปี 2024 ครั้งที่ 4 ซึ่งจัดโดย Human Resources Online ประเทศสิงคโปร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องความสำเร็จและนวัตกรรมที่โดดเด่นของบริษัทชั้นนำในประเทศไทยที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่ยอดเยี่ยม ภายใต้ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของการจัดการทรัพยากรบุคคลในประเทศไทย โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาตัดสินจากหลักเกณฑ์ภายใต้ 38 หมวดหมู่ ครอบคลุมวิสัยทัศน์ เป้าหมายองค์กร การดำเนินธุรกิจ และแนวทางการพัฒนาการบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรในมิติต่างๆ
ในปัจจุบันงาน HR ถือเป็นกลไกเบื้องหลังการขับเคลื่อนธุรกิจที่จะขาดไปไม่ได้ เนื่องจากบุคลากรคือทรัพยากรสำคัญขององค์กร เมื่อองค์กรเติบโตขึ้น งาน HR จึงต้องพัฒนาให้ทันตามการขยายตัวของธุรกิจ ทำให้ฟังก์ชันงาน HR บางส่วนต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการให้รวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสามารถรองรับกลยุทธ์ด้านบุคลากรของธุรกิจได้ในระยะยาว
สำหรับการขับเคลื่อนงาน HR นั้น เทคโนโลยีใหม่ ๆ สามารถเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในกระบวนการทำงานได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น Generative AI (Gen AI) และ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง โดยใช้กระบวนการเรียนรู้จากข้อมูล (Machine Learning) เพื่อสร้างโมเดลที่สามารถทำนายผลลัพธ์จากข้อมูลได้อย่างแม่นยำ
แม้ว่า Gen AI จะได้รับการพัฒนาจนนำไปใช้งานได้หลากหลายด้าน และใช้ช่วยในการทำงาน HR ได้แบบ ครบจบทุกกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ในการสร้างประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาวไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ แต่ต้องมีการเตรียมความพร้อมและวางกลยุทธ์เพื่อให้ AI สามารถสร้างผลลัพธ์ได้จริง
นายพิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่าย Advanced Insights บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาชั้นนำผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันเทคโนโลยี Gen AI ได้รับการพัฒนาจนสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับการนำไปใช้งานภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ควรมีการเตรียมความพร้อมใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1. บุคลากรที่ควรมีทักษะในการถามคำถามเพื่อป้อนคำสั่งที่เหมาะสมสำหรับให้ AI สร้างผลลัพธ์ 2. กระบวนการที่ต้องมีแนวทางการเก็บข้อมูล หรือมีนโยบายด้าน Data Governance ในการควบคุมดูแลด้านข้อมูลโดยเฉพาะในการเอา AI ไปใช้สำหรับการทำงานในส่วนต่าง ๆ และ 3. เทคโนโลยีที่ระบบภายในองค์กรควรเป็น Private System ที่มีการปกป้องดูแลความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน
สำหรับงาน HR นั้น หากมองในภาพรวมแล้วสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ประกอบด้วย การสรรหาบุคลากร (Talent Acquisition) การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) และ การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (Resource Management) ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนั้น Gen AI สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกกระบวนการ
Use Case Prioritization วางกลยุทธ์ปรับใช้ Gen AI
บลูบิค มองว่า ก่อนนำ Gen AI ไปใช้จริงสำหรับงาน HR องค์กรควรทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลในงาน HR แบ่งเป็นข้อมูลภายในองค์กรที่ครอบคลุมตั้งแต่ข้อมูลผู้สมัครงาน ข้อมูลบริษัท นโยบายบริษัท ข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และระบบการบริหารจัดการด้าน HR อีกส่วนคือข้อมูลภายนอก เช่น เทรนด์ตลาดแรงงาน นโยบายและการรับสมัครงานของบริษัทคู่แข่ง ค่าเฉลี่ยเงินเดือนและทักษะของพนักงานในตำแหน่งต่าง ๆ
เมื่อเตรียมพร้อมเรื่องข้อมูลแล้ว องค์กรควรเลือกกรณีการใช้งาน หรือ Use Case ที่เหมาะสมกับธุรกิจ โดยเลือกตามการจัดลำดับความสำคัญ (Use Case Prioritization) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพิจารณาตาม 2 แกนหลัก คือ Business Impact ซึ่งเป็นผลลัพธ์และคุณค่าที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจในแง่ผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment) รวมถึงความสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร และ Feasibility ที่เป็นความพร้อมในการพัฒนาและใช้งานจริง โดยแนวทางการทำ Use Case Prioritization นั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์ขององค์กร
สำหรับแนวทางที่ บลูบิค เข้าไปช่วยแนะนำองค์กรธุรกิจในการเลือก Use Case ที่เหมาะสม ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
1) สร้าง Use Case โดยพิจารณาจากปัญหาของธุรกิจ เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ขององค์กร และตัวขับเคลื่อนหลักที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ (Key Driver)
2) รวบรวม Use Case จากการทำ Value Stream Mapping แผนผังที่จะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของกระบวนการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างคุณค่าให้ธุรกิจ แล้ววิเคราะห์ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจและความพร้อมในการดำเนินการ
3) วางแผนการปรับใช้ Use Case ตามการจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด
4) เลือก Use Case ที่เป็น Quick-win ซึ่งสามารถทำได้เร็วและสร้างผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเริ่มดำเนินการก่อน
15 Gen AI & AI Use Cases แนะนำสำหรับงาน HR
ในมุมมองของ บลูบิค แล้ว จากประสบการณ์ในการเข้าไปช่วยวางกลยุทธ์ Gen AI Use Cases ที่น่าสนใจสำหรับงาน HR ทั้งการสรรหาบุคลากร การบริหารผลการปฏิบัติงาน และการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล สามารถ แบ่งออกเป็น 15 Use case ได้แก่
1) Automated Job Description Generation - วิเคราะห์คำอธิบายตำแหน่งงาน ข้อมูลบริษัท และเทรนด์ในภาคธุรกิจ และสร้างคำอธิบายตำแหน่งงานที่เหมาะสมที่สุด
2) Targeted Ad Placement - วิเคราะห์ตลาดแรงงานและความสนใจของผู้สมัครงาน จากนั้นให้คำแนะนำในการทำโฆษณารับสมัครงานบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย
3) Resume Screening - ระบุผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดจากทักษะและประสบการณ์ทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อหาบุคลากรที่เหมาะกับความต้องการขององค์กร
4) Skills Matching - จับคู่ผู้สมัครงานที่ตรงกับความต้องการของตำแหน่งงาน โดยอิงจากทักษะและประสบการณ์ทำงาน
5) Predictive Personality Assessment – ระบุแนวโน้มลักษณะผู้สมัครงานที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร
6) Skills Gap Analysis - วิเคราะห์ทักษะพนักงานและให้คำแนะนำในการเสริมทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคต
7) Attrition Prediction - วิเคราะห์ข้อมูลและผลการปฏิบัติงานเพื่อหาความเสี่ยงการลาออก
8) Succession Planning - ระบุตัวพนักงานที่มีศักยภาพได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
9) Personalized Learning Paths - แนะนำโปรแกรมฝึกอบรมพนักงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ทักษะ และประสบการณ์ทำงาน
10) Knowledge Management - จัดระบบเอกสาร ระเบียบปฏิบัติงานต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาสำหรับพนักงาน
11) Career Pathing - ช่วยพนักงานในการสร้าง Career Path ที่เหมาะสมกับตัวเอง
12) Personalized Benefits – สร้างแพคเกจสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคน
13) Payroll Automation - เพิ่มประสิทธิภาพของระบบบัญชีเงินเดือน เช่น การคำนวณค่า OT หรือการเข้ากะของพนักงาน
14) Compliance Monitoring - ติดตามและแจ้งเตือนความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ
15) Chatbots for HR Helpdesk - แชทบอทตอบคำถามเกี่ยวกับ HR ตลอด 24 ชั่วโมง
สุดท้ายแล้ว การสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจจาก AI ไม่ใช่แค่การทำเทคโนโลยีมาใช้งาน แต่ต้องมาจากการวางกลยุทธ์และการจัดลำดับความสำคัญว่าจะนำ AI ไปใช้สร้างคุณค่าให้องค์กรที่จุดไหน และต้องมีความพร้อมเรื่องข้อมูลสำหรับพัฒนาโมเดล AI ให้สร้างผลลัพธ์ได้ตามความต้องการ สำหรับธุรกิจที่ต้องการวางกลยุทธ์ด้าน AI เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและสร้างการเติบโตให้องค์กร
Bluebik มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data & Advanced Analytics ที่สามารถให้บริการโซลูชันครบวงจรและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ตั้งแต่ระดับกลยุทธ์ไปจนถึงการนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับองค์กร ติดต่อเราสอบถามหรือปรึกษาเราได้ที่ ✉ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. , ☎ 02-636-7011
เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร (STECO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมกับ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่ Talent Candidates และผู้ผ่านการคัดเลือก TAT Talent 2566 ณ ห้องสมุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โดยได้รับเกียรติจากคุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานมอบประกาศนียบัตรและรางวัลสำหรับคนเก่งขององค์กร (Talent) พร้อมด้วยรองผู้ว่าและคณะผู้บริหาร ททท. ร่วมแสดงความยินดี
ในการนี้ ผศ.ดร.วัชรพจน์ ทรัพย์สงวนบุญ ผู้จัดการโครงการบริหารคนเก่ง ททท. ปีงบประมาณ 2566 และ ดร.สุขยืน เทพทอง ที่ปรึกษาโครงการ เข้าร่วมพิธีด้วย โดยโครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2565 ในการนำ Talent Candidates เป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้สอดคล้องกับแผนวิสาหกิจขององค์กรใน 3 หลักสูตร ได้แก่ ภาวะผู้นำ การประเมินและบริหารผลงาน และการจัดการนวัตกรรม
โดยมีการพัฒนาและติดตามผลโครงการตามตัวชี้วัด OKRs ภายใต้การให้คำแนะนำของผู้บริหาร คณะกรรมการคัดเลือกคนเก่ง และคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจาก มจธ. ประกอบด้วย ผศ.ดร.พรรษา เอกพรประสิทธิ์, ผศ.ดร.ปกรณ์ สุปินานนท์, ดร.ดั้นดุสิต โปราณานนท์, ดร.รังสรรค์ เกียรติ์ภานนท์, ดร.สุขยืน เทพทอง และดร.สุกฤตา ปรีชาว่อง ตลอดระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา
โอกาสสำคัญที่จะได้ร่วมทำงานกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป บริษัทจัดหางานชั้นนำระดับโลก ตอบโจทย์การให้บริการอย่างครบวงจร
Manpower Talent Academy เปิดรับสมัคร Manpower Trainee ครั้งแรกในประเทศไทย!!!
เพื่อร่วมเรียนรู้ สัมผัสประสบกาณ์ในการทำงานจัดหาคน และการสัมภาษณ์ โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญจากทุกหน่วยงานของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ที่จะมาถ่ายทอดวิชาให้แบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อก้าวสู่การเป็น Recruiter หน้าใหม่ของวงการ HR และยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้รับคัดเลือกเข้าทำงานกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป บริษัทชั้นนำระดับโลก หนึ่งในลิสต์ของ Fortune 500 companies ที่เปิดให้บริการมากว่า 70 ปี และได้ถูกจัดอันดับว่าเป็นบริษัทที่มีจรรยาบรรณมากที่สุดในโลก 13 ปีซ้อน
นางสาวลิลลี่ งามตระกูลพานิช ผู้จัดการประจำประเทศไทย แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่า แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เชื่อว่า "คน" หรือ "Manpower" คือ กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของทุกองค์กร จึงได้จัดโครงการ ‘Manpower Talent Academy’ นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยทาเลนท์ โซลูชันส์ (Talent Solutions) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานภายใต้แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจให้บริการจัดหาคน-จัดหางานชั้นนำระดับโลก ที่ตอบโจทย์การให้บริการอย่างครบวงจร และสร้างมูลค่ามหาศาลให้ผู้สมัครงานและองค์กรมาทั่วโลก โดยมีผู้เชี่ยวชาญมากด้วยประสบการณ์ในการสรรหาบุคลากร ตั้งแต่ระดับทั่วไปจนถึงระดับบริหารให้เข้ากับองค์กรชั้นนำมากว่า 20 ปีในประเทศไทย เพื่อยกระดับตลาดแรงงาน พัฒนาศักยภาพพนักงานและธุรกิจสู่ความสำเร็จไปพร้อมกัน ภายใต้แบรนด์ แมนพาวเวอร์ (Manpower) และทาเลนท์ โซลูชันส์ (Talent Solutions)
โครงการพัฒนา Recruiter มืออาชีพนี้ มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2566
โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่จบปริญญาตรี ทั้งที่ มีประสบการณ์ในการทำงาน และยังไม่มีประสบการ์การทำงาน รวมถึงผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายงาน
ได้เข้าร่วมเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์จริงในการจัดหาคนให้เหมาะกับงาน และจัดหางานให้เหมาะกับคน โดยผู้เชี่ยวชาญจากทุกหน่วยงานของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ที่พร้อมจะถ่ายทอดวิชาให้ผ่านหลักสูตรพิเศษที่ถูกออกแบบมาอย่าง ‘รวบรัด กระชับ เข้าใจง่าย’ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการคัดเลือกคนอย่างมืออาชีพ ทักษะการโน้มน้าว ทักษะการสัมภาษณ์ ทักษะการเจรจาต่อรอง ถือเป็นซอฟต์สกิลที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากในการทำงานยุคนี้
นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาในการที่เข้าร่วมโครงการ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้ทดลองลงสนามการทำงานจริง ได้รับสวัสดิการพนักงาน ค่าตอบแทนเริ่มต้น 12,000 บาท++ และค่าคอมมิชชั่นหากสามารถปิด job order ได้อีกด้วย ซึ่งเมื่ออบรมครบจบหลักสูตร และผ่านเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดจะได้รับพิจารณาบรรจุเป็นพนักงานประจำทันที โดยไม่ต้องมีช่วงทดลองงาน
โดยผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี สาขาศิลปศาสตร์ จิตวิทยา ท่องเที่ยวและการโรงแรม ภาษาอังกฤษ บริหารธุรกิจ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- มีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ (TOEIC ขั้นต่ำ 600 คะแนน)
- มีแรงจูงใจในการทำงาน มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ และสามารถปรับตัวได้ดี รวมถึงมีจรรยาบรรณในการทำงานที่ดี
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ ‘Manpower Talent Academy’ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มกราคม 2566 ที่ www.manpowerthailand.com
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและวิธีการสมัครได้เบอร์โทรศัพท์ 0 2171 2345
องค์กรที่น่าทำงานพิสูจน์ได้จากรอยยิ้มของพนักงาน การบริหารบุคลากรให้มีความสุขเพื่อเป็นฟันเฟืองที่มีประสิทธิภาพนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย