

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน จาก Standard & Poor’s หรือ S&P
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวปาริชาต อนุชิตชาตรี (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้จัดการสาขาอุดรธานี เป็นผู้แทนบริษัทฯ มอบสินไหมทดแทนประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล PA VIP ให้แก่ นางสาวสุวรัตน์ จันยอย (กลาง)
นางสาวลสา โสภณพนิช (กลาง) ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับคณะผู้บริหาร Aon Reinsurance Solutions บริษัทนายหน้าประกันภัยประจำสำนักงานในประเทศเวียดนาม และ Sai Gon – Ha Noi Insurance Corporation หรือ BSH บริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำในประเทศเวียดนาม ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมการทำงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสินไหมทดแทนยานยนต์ที่บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีระบบ Quick Assignment มาใช้ในการค้นหาเจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุดเพื่อเดินทางไปให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นตอนการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทน อีกทั้งยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้การดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยของทั้ง 3 องค์กร ซึ่งนับเป็นเกียรติของบริษัทฯ เป็นอย่างยิ่ง พร้อมกันนี้ยังได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์กรุงเทพประกันภัยที่รวบรวมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์กว่า 2,000 ชิ้น ณ อาคารกรุงเทพประกันภัย เมื่อเร็วๆ นี้
ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH และ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของ BKIH ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 (เม.ย.-มิ.ย.) มีกำไรสุทธิ 978.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.5 คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 9.19 บาท สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2568 บีเคไอ โฮลดิ้งส์ มีรายได้จากการประกันภัย 15,735.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,549.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15.6 คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 14.55 บาท
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2568 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 3.75บาท ในวันที่ 5 กันยายน 2568 และเมื่อรวมกับเงินปันผลไตรมาสที่ 1 เท่ากับจ่ายเงินปันผล 6 เดือนแรกของปี 2568 ให้แก่ผู้ถือหุ้น 7.50 บาทต่อหุ้น
ในส่วนของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่สร้างรายได้หลักของบีเคไอ โฮลดิ้งส์ (BKIH) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 (เม.ย.-มิ.ย.) มีรายได้จากการประกันภัย 7,593.0 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 และมีค่าใช้จ่ายในการบริการประกันภัยสุทธิ 6,946.5 ล้านบาท ส่งผลให้มีผลการดำเนินงานการบริการประกันภัย 646.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 19.4 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 453.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 โดยเมื่อรวมรายได้อื่นและหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทำให้มีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,117.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว มีกำไรสุทธิ 980.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.6 คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 9.21 บาท
โดยผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2568 มีรายได้จากการประกันภัย 15,735.7 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 และมีรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 893.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 โดยเมื่อรวมรายได้อื่นและหักค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นแล้ว ทำให้กรุงเทพประกันภัยมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,782.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.8 และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว มีกำไรสำหรับงวด 1,544.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.3 คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 14.51 บาท