

BAM เชื่อมั่นภาพรวมบริษัทแข็งแกร่ง โดย TRIS ยังคงอันดับเครดิตของ BAM ในระดับเดิมที่ “A-” แม้ปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” คาดปี 2568 BAM จะกลับมามีผลประกอบการดีที่สุดในรอบ 3 ปี รวมถึงได้รับผลตอบแทนจากเงินลงทุนในกิจการร่วมทุน JV AMC ได้แก่ ARI AMC และ ARUN AMC หนุนกระแสเงินสดต่อเนื่อง
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย รองประธานกรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่าผลการดำเนินงานปี 2567 อยู่ในระดับที่น่าพอใจโดยสามารถสร้างผลเรียกเก็บได้เป็นจำนวน 15,161 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2566 ที่ทำได้จำนวน 15,150 ล้านบาท ในขณะที่ผลกำไรยังมีการเติบโตต่อเนื่องทำผลงานอยู่ที่จำนวน 1,602 ล้านบาท ขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีผลกำไรอยู่ที่จำนวน 1,534 ล้านบาท ทั้งนี้การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากกลยุทธ์เชิงรุกในการบริหารจัดการทั้งทางด้าน NPLs และ NPAs
ด้าน NPLs เน้นกลยุทธ์การสร้างโอกาสและเร่งการประนอมหนี้ ได้แก่ โครงการช่วยเหลือลูกหนี้หลายโครงการ เช่น โครงการสุขใจได้บ้านคืน โครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ และโครงการ BAM ช่วยลดเพื่อปลดหนี้ รวมทั้งการเร่งการติดต่อและติดตามลูกหนี้ รวมทั้งเร่งกระบวนการขายทอดตลาด เช่น แถลงเร่งประกาศขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกัน แถลงเร่งจัดทำบัญชีแสดงรายการรับจ่ายเงิน และร่วมมือกับกรมบังคับคดีจัดมหกรรมขายทอดตลาด เป็นต้น
ในขณะที่กลยุทธ์ NPAs เน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยการออกบูธและจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการขาย การจัดการทรัพย์ให้พร้อมอยู่ พร้อมใช้ (Renovate) การจำหน่ายทรัพย์ให้นักลงทุนรายย่อย ตลอดจนการกำหนดทรัพย์ราคาพิเศษ และการเพิ่มฐานลูกค้าผ่อนชำระอย่างต่อเนื่อง
นายบรรยง กล่าวเพิ่มเติมว่า BAM มีความมั่นใจในปี 2568 จะยังสร้างผลการดำเนินงานที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มฟื้นตัวจากแรงขับเคลื่อนของภาครัฐ ส่งผลดีต่อภาวะหนี้ครัวเรือนและธุรกิจ AMC ทั้งนี้ BAM จะเร่งสร้างรายได้ ผ่านกลยุทธ์ 3S (Speed Up, Sustainable Income, Streamline Process) โดยตั้งเป้าหมายผลเรียกเก็บปี 2568 รวม 17,800 ล้านบาท จากการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ NPLs 10,800 ล้านบาท และจากการขายทรัพย์สินรอการขาย NPAs 7,000 ล้านบาท แนวโน้มครึ่งปีแรกจะมีผลเรียกเก็บดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างชัดเจนจากยอดการอนุมัติที่เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี จึงมั่นใจว่า BAM จะทำผลประกอบการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับการขยายฐานสินทรัพย์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา BAM ได้พิจารณาการลงทุนซื้อหนี้โดยคำนึงถึงโครงสร้างเงินทุน ความเสี่ยงในการลงทุน และโอกาสทางธุรกิจ โดย ณ สิ้นปี 2567 BAM มีพอร์ตบริหารหนี้ NPLs (รวม JV ทั้ง 2 แห่ง) มูลค่ารวม 523,513 ล้านบาท และมีพอร์ตทรัพย์สินรอการขาย NPAs มูลค่าตามราคาประเมินรวม 74,517 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจของ BAM ซึ่งพร้อมดำรงบทบาทในการเป็นองค์กรที่พลิกฟื้นสินทรัพย์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้มีการเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นายสมพร มูลศรีแก้ว ผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจ พร้อมคณะผู้บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM มอบรางวัลจากการจัดกิจกรรม LUCKY DRAW BAM ครบรอบ 25 ปี ให้ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ BAM และโอนกรรมสิทธิ์ภายในปี 2567 จำนวน 14 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว หมู่บ้านนันทนา 2 อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ทาวน์เฮ้าส์ หมู่บ้านป้อมปราการ จ.สมุทรปราการ และที่ดินเปล่า โครงการอยุธยาวังทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งมอบ Apple watch se จำนวน 10 รางวัล ให้กับลูกค้าที่กดติดตาม Social Media ทั้ง 5 ช่องทางของ BAM Thailand และดาวน์โหลด BAM Choice แอปฯ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการลูกค้า NPL และ NPA ณ โชว์รูม BAM สำนักงานใหญ่
BAM จัดแคมเปญ “ บ้าน BAM สุข x 4 ” คัดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศกว่า 2,300 รายการ นำมาลดราคาสูงสุด 30 % ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2568 พร้อมรับโปร “ โอนเร็ว รับเลย ” ฟรีค่าโอนสูงสุด 900,000 บาทต่อรายการทรัพย์ และรับบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 25,000 บาท พิเศษจองซื้อทรัพย์ ผ่านช่องทาง Online : BAM Choice Application รับฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า SHARP

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย รองประธานกรรมการ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า BAM ได้ผนึกกำลังพันธมิตรจัดแคมเปญ “ บ้าน BAM สุข x 4 ” ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2568 ให้กับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ BAM ได้แก่ สุขที่ 1 ทรัพย์ BAM ราคาพิเศษลดสูงสุด 30% สุขที่ 2 ดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารกรุงเทพ (BBL) สุขที่ 3 เบี้ยประกันอัคคีภัยราคาพิเศษจากกรุงเทพประกันภัย (BKI) (เฉพาะลูกค้าที่ขอสินเชื่อกับธนาคารกรุงเทพ) สุขที่ 4 ส่วนลดซื้อสินค้า และบริการออกแบบ Everyroom 3D Design จากบุญถาวร โดยคัดทรัพย์ที่อยู่อาศัยสภาพดี 3 ดาวขึ้นไป ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ จำนวนกว่า 2,300 รายการ มูลค่ารวมกว่า 5,200 ล้านบาท มาให้ลูกค้าเลือกช็อป นอกจากนี้ เมื่อซื้อทรัพย์ในแคมเปญทุกรายการ และโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 30 วัน รับโปร “โอนเร็ว รับเลย” ฟรีค่าโอนสูงสุด 900,000 บาท ต่อรายการทรัพย์ รับบัตรกำนัลมูลค่าสูงสุด 25,000 บาท พิเศษสุด เมื่อจองซื้อทรัพย์ ผ่านช่องทาง BAM Choice Application และซื้อทรัพย์ไม่เกิน 1 ล้านบาท รับไมโครเวฟ SHARP หรือซื้อทรัพย์เกิน 1 ล้านบาท รับเครื่องฟอกอากาศ SHARP ทั้งนี้ BAM คัดทรัพย์นำมาจัดแคมเปญหลากหลายทำเล เช่น
โดยในปี 2568 นี้ BAM ได้ชู 3 โปรเจกต์เพื่อช่วยเหลือสังคมควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ได้แก่ 1. BAM Smart Garden Homeโครงการพลังงานสะอาดบนพื้นที่หลาย 100 ไร่ ที่จังหวัดนครนายก รวมถึงสำนักงาน BAM ทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และหาดใหญ่ ด้วยแนวคิด SMART ที่ย่อมาจาก S: Self-efficient, M: Modern & Quality,A: Absorb Carbon, R: Recharge Royally, T: time Wait for no man.) เน้นพึ่งพาตนเอง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตสมัยใหม่ ด้วยพลังงานสะอาดเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยจัดสรรที่ดินแบ่งขายแปลงละประมาณ 200 ตารางวา 2. BAM Quality Home โครงการรีโนเวตบ้านมือสองให้มีคุณภาพระดับ 5 ดาว แก้ไขปัญหาความกังวลของผู้ซื้อบ้านมือสอง ด้วยการรับประกันโครงสร้างและวัสดุ พร้อมให้บ้านพร้อมอยู่ในทุกมิติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ 3. แคมเปญผ่อนซื้อที่ช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อให้คนไทยมีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน
ธนาคารกสิกรไทยผนึกกำลังบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) ร่วมลงทุน 1,000 ล้านบาท จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ อรุณ จำกัด (ARUN AMC) เพื่อช่วยพลิกฟื้นสถานะลูกหนี้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งการดำรงชีพและการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคาร ซึ่งสอดรับกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ส่งเสริมการจัดตั้งกิจการร่วมทุนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสีย ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับระบบนิเวศการจัดการด้านสินเชื่อ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ
นายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีแนวโน้มสูงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทยที่ส่งเสริมการจัดตั้งกิจการร่วมทุนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้เสีย จึงเป็นที่มาของการร่วมลงทุนระหว่างธนาคารกสิกรไทย และบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ อรุณ จำกัด (ARUN AMC) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารจะได้รับส่วนแบ่งจากผลกำไรของการบริหารหนี้จาก ARUN AMC ในฐานะผู้ถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 50 ซึ่งธนาคารลงทุนผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KVISION) อีกด้วย โดยมุ่งหวังว่า ARUN AMC จะช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินให้ลูกหนี้มีโอกาสแก้ไขหนี้ และสามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเช่นกัน
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย รองประธานกรรมการ และรักษาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) เปิดเผยว่า ARUN AMC มีเงินทุนเริ่มต้นในการจัดตั้งบริษัทจำนวน 1,000 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทย และ BAM ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50เท่ากัน ซึ่งที่ผ่านมาBAM เป็นผู้นำในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ และมีความเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพในระบบสถาบันการเงินและบริหารสินทรัพย์ รวมทั้งเป็นพันธมิตรที่ดีกับธนาคารกสิกรไทยมาอย่างยาวนาน การร่วมลงทุนจัดตั้ง ARUN AMC ในครั้งนี้ นอกจากจะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของ BAM ในการพลิกฟื้นสินทรัพย์ ช่วยเหลือลูกหนี้ให้กลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ และฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มือสองให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยส่งเสริมศักยภาพให้ทั้งธนาคารกสิกรไทยและ BAM มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จ และเป็นการร่วมมือกันเพื่อผลักดันให้เกิดมูลค่าเพิ่มของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ได้อย่างแท้จริง
นายสมชาย ธนุรักษ์ไพโรจน์ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ อรุณ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ARUN AMC ตั้งเป้าในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากธนาคารกสิกรไทย มูลค่าหนี้รวมประมาณ 50,000 – 60,000 ล้านบาท มาบริหารจัดการภายใต้ทีมงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อพลิกฟื้นสถานะลูกหนี้ รวมถึงให้โอกาสลูกหนี้ฟื้นตัว และสามารถรักษาทรัพย์สินเพื่อใช้ในการดำรงชีพและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ อีกทั้งยังมีแนวทางการบริหารที่ตอบรับมาตรการแก้ไขหนี้ของภาครัฐที่ออกมาในปัจจุบัน เช่น โครงการคุณสู้ เราช่วย รวมถึงมาตรการที่อาจออกมาในอนาคต ซึ่งแม้ว่าลูกหนี้ธนาคารกสิกรไทยจะถูกโอนขายหนี้มาที่ ARUN AMC แล้วตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2567 ก็จะยังคงได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการแก้ไขหนี้อย่างต่อเนื่อง
ARUN AMC จะดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ "เป็นแสงสว่างให้ลูกหนี้พ้นจากวิกฤตทางการเงิน" โดยช่วยเหลือลูกหนี้อย่างเต็มที่ ด้วยการผสานจุดแข็งของธนาคารกสิกรไทยและ BAM เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ มีต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสม และสร้างรายได้และกำไรที่ตอบโจทย์ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ ARUN AMC ได้รับใบทะเบียนบริษัทบริหารสินทรัพย์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM โดย นายธงชัย ชัยโลหกุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายกำกับดูแลกิจการและบริหารความเสี่ยง เป็นผู้แทนรับมอบรางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2567” (Human Rights Award 2024) ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ในระดับ “ดีเด่น” จัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม โดยได้รับเกียรติจากพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้มอบรางวัล ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา

รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ BAM ในการยกระดับการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนของ BAM ที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบูรณาการด้านสิทธิมนุษยชนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ การปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียด้วยความเสมอภาค (Equity) ความเท่าเทียม (Equality) และความเป็นธรรม (Fairness) การตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน หรือ Human Rights Due Diligence (HRDD) ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจของบริษัท

ทั้งนี้ BAM ได้ปฏิบัติตามหลักการดังกล่าว เพื่อเป็นต้นแบบในการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน อันก่อให้เกิดผลดีและประโยชน์กับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การสร้างผลตอบแทน การสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนได้เสีย การสร้างภาพลักษณ์ที่ดี การสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานและผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถด้านทรัพยากรบุคคลที่ส่งผลในทางบวกต่อการสรรหา จูงใจ และรักษาพนักงานต่อไป