November 22, 2024

AION เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ "Y So Amazing Trip" ให้กับลูกค้า AION Y Plus ได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมแบบปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ สัมผัสอากาศดี ๆ ในเส้นทาง นครราชสีมา - ปราจีนบุรี - นครนายก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และสร้างชุมชน ในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และมีแผนที่จะจัดกิจกรรมต่อไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความประทับใจและความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว AION Y Plus

ทริปนี้เริ่มต้นขึ้นในเช้าของวันที่ 18 ตุลาคม 2567 โดยขบวนคาราวาน AION Y Plus ได้ออกเดินทางจากโชว์รูม AION โกลด์ อินทิเกรท มีนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นของผู้ร่วมเดินทางที่มารวมตัวกันตั้งแต่เช้า หลังจากลงทะเบียนและรับของที่ระลึก ผู้เข้าร่วมทริปได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางและรายละเอียดของกิจกรรมก่อนจะเริ่มออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแรก คือ จังหวัดนครราชสีมา

จุดหมายแรกของทริปอยู่ที่ ร้านอาหารบ้านไร่ปลายเนิน เพื่อรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติและภูเขา ผู้เข้าร่วมทริปต่างเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศ พร้อมชมทิวทัศน์สวยงามของพื้นที่โดยรอบ

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ขบวนคาราวานได้เดินทางไปยังโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบสูบกลับ (Underground Powerhouse) ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจในฐานะโรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกของประเทศไทย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า รวมถึงได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบข้างที่งดงาม สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ AION ในการสนับสนุนพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

 

หลังจากจบทริปที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา ขบวนคาราวานได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมเดอะเภรี เขาใหญ่ เพื่อเข้าพักผ่อนตามอัธยาศัย พร้อมกิจกรรมทำผ้าบาติก ในช่วงเย็นได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในบรรยากาศที่อบอุ่น โดยสมาชิกผู้เข้าร่วมทริปต่างนั่งพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง

วันที่สองของการเดินทาง ขบวนคาราวาน AION Y Plus มุ่งหน้าสู่ GranMonte หนึ่งในไร่องุ่นชื่อดังของเขาใหญ่ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่ชื่นชอบไวน์ ผู้เข้าร่วมทริปได้สัมผัสและเรียนรู้กระบวนการทำไวน์ตั้งแต่การปลูกองุ่นไปจนถึงการผลิตไวน์ รวมถึงสัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติของไร่องุ่นอีกด้วย

หลังจากเยี่ยมชมไร่องุ่นกันอย่างจุใจแล้ว ก็ได้เดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่เป็นแหล่งรวมสัตว์ป่าและพืชพรรณหลากหลายสายพันธุ์ ผู้เข้าร่วมทริปได้มีโอกาสเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พร้อมทั้งฟังคำบรรยายจากเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับพืชพันธุ์และสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แบบเต็มที่ สร้างความประทับใจให้กับทุกคน ที่ได้สัมผัสความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ขบวนคาราวานได้มุ่งหน้าต่อไปยังบ้านเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรและอาหารเป็นยา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้วิถีชีวิตดั้งเดิมและภูมิปัญญาพื้นบ้าน นอกจากนี้ ยังได้แวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุและแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย

ในวันสุดท้ายของทริป ขบวนคาราวาน AION Y Plus ได้เดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ เขาอีโต้ จังหวัดนครนายก เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมปล่อยปลาลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศ พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลังจากทำกิจกรรมร่วมกัน ผู้เข้าร่วมทริปได้เพลิดเพลินกับการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของจุดชมวิวผาหินซ้อน และจุดชมวิวเขาอีโต้ ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่กว้างไกลของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนจะปิดท้ายการเดินทางด้วยการรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารวินเทจ การ์เด้น ผู้เข้าร่วมทริปร่วมกันถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึกและเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

 

ทริป "Y So Amazing Trip" ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus ผ่านประสบการณ์การท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าประทับใจ ไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ร่วมทริป แต่ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของ AION ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจลูกค้าและสร้างสรรค์กิจกรรมที่มีคุณค่า นอกจากนี้ ทริปดังกล่าวยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ AION Y Plus และสร้างเครือข่ายในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า สะท้อนถึงแนวทางของบริษัทที่เน้นความเป็นมิตรและใส่ใจลูกค้า การจัดทริป "Y So Amazing Trip" ในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นการมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

คาร์ดเอกซ์ (CardX) เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกเติบโตต่อเนื่อง โดยหมวดธุรกิจที่มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตสูงสุด เรียงตามยอดการใช้จ่าย 5 อันดับแรก ได้แก่ ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต ประกันภัย การศึกษา โรงแรม และดีพาร์ทเมนท์สโตร์ สะท้อนคนไทยเน้นการเลือกซื้อเฉพาะสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และส่งเสริมคุณภาพชีวิตมากกว่าการจับจ่ายกับสินค้าที่มีความฟุ่มเฟือย สอดคล้องไปกับเหตุจูงใจด้านสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปี 2567 อยู่ที่ 5-8% พร้อมขานรับนโยบายเร่งด่วนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วม มุ่งสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อช่วยลดภาระ และเสริมสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ รวมถึงแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนไปพร้อมกัน โดยยังคงให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) อย่างต่อเนื่อง

จากการศึกษาแนวโน้มสถานการณ์ทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังของไทยจาก SCB EIC พบว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มการฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงมีความระมัดระวังในการจับจ่าย แม้ว่าหลายภาคส่วนจะมีการเร่งปรับตัว พร้อมมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการฟื้นตัวได้อย่าวรวดเร็ว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังปรับลดลงต่อเนื่องตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ ภาระหนี้ครัวเรือนยังคงกดดันสภาวะการใช้จ่ายในปัจจุบัน ยังผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไป การจับจ่ายใช้สอยในแต่ละครั้งของผู้คนในปัจจุบัน เริ่มมีการวางแผนมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจภาพรวมในสถานการณ์ครึ่งปีหลัง จะมีการปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งมาจากรัฐบาลที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังเร่งดำเนินการ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายของปีในภาพรวม

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์ด เอกซ์ จำกัด (CardX) เปิดเผยว่า “พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปัจจุบัน หลายครอบครัวเลือกที่จะจับจ่ายซื้อของด้วยความรอบคอบ วางแผนการใช้จ่าย และเลือกซื้อของใช้ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ลดการใช้จ่ายกับสินค้าที่ฟุ่มเฟือย โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ทั้งด้านการใช้งานและราคา อีกทั้งยังมองหาโปรโมชัน หรือส่วนลดที่คุ้มค่าต่อการซื้อของในแต่ละครั้งมากที่สุด สะท้อนผ่านการจับจ่ายใช้สอยผ่านบัตรเครดิตของคาร์ดเอกซ์ โดยหมวดธุรกิจที่มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่มีอัตราเติบโตสูงสุดในช่วงครึ่งปีแรกเทียบกับปีที่แล้ว เติบโตระหว่าง 8%-17% ได้แก่ ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต (+17%) ประกันภัย (+12%) การศึกษา (+11%) โรงแรม (+9%) และดีพาร์ทเมนท์สโตร์ (+8%) ตามลำดับ ซึ่งมีการเติบโตสอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจที่คาร์ดเอกซ์ ที่มุ่งผลักดันการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ผ่านแคมเปญ โปรโมชันต่างๆ รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในทุกภาคส่วนที่มีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี "

 

โดยผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา ถือว่ามีการเติบโตอย่างมั่นคงเป็นที่น่าพอใจจากการเดินกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการขยายระบบนิเวศด้านพันธมิตร เพื่อร่วมกันนำเสนอสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลอดทั้งปี โดยในช่วงปลายปีที่กำลังจะมาถึงนี้ จะเริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองและการท่องเที่ยว คาร์ดเอกซ์ ได้เตรียมแผนการตลาดที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นที่ธุรกิจช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว และ ร้านอาหาร เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าในช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะมาถึง นอกจากนี้ คาร์ดเอกซ์ ยังคงเดินหน้าขานรับมาตรการต่าง ๆ ให้สอดคล้องและเป็นไปตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยเฉพาะมาตรการในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ อย่างเหมาะสม อาทิ

1. มาตรการเร่งด่วนสำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อช่วยลดภาระ และเสริมสภาพคล่องของลูกหนี้ โดยการผ่อนปรนเงื่อนไขบางประการ อาทิ การพักชำระหนี้สูงสุด 3 รอบบัญชี โดย คาร์ดเอกซ์ยังคงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนตามแนวนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการเงินที่เหมาะสมและไม่กระทบต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกค้าแต่ละราย พร้อมทั้งสร้างความเป็นไปได้ทางการเงินอย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม

2. มาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยผ่อนปรนอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต ให้ยังคงอยู่ที่ร้อยละ 8 ออกไปอีก 1 ปี จนถึงสิ้นปี 2568 เพื่อช่วยลดภาระการจ่ายชำระหนี้และรักษาสภาพคล่องให้ครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และให้เครดิตเงินคืน เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ปิดจบเร็วขึ้น โดยครึ่งปีแรก ลูกหนี้ที่ผ่อนชำระหนี้ขั้นต่ำมากกว่าหรือเท่ากับ 8% จะได้รับเครดิตเงินคืนเทียบเท่ากับการลดดอกเบี้ย 0.5% ของยอดค้างชำระ และ 0.25% สำหรับครึ่งปีหลังของปี 2568

“คาร์ดเอกซ์ เข้าใจสถานการณ์ที่ท้าทายในขณะนี้ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ลูกค้าของคาร์ดเอกซ์ ยังสามารถใช้โปรโมชันผ่อนสินค้า รวมถึงรายการส่งเสริมการขายร่วมกับเครือข่ายร้านค้าและพันธมิตรอื่น ๆ ที่มีความหลากหลาย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับทุกท่าน เพื่อให้ทุกความจำเป็นทางการเงินเป็นไปได้ด้วยบัตรเครดิตและสินเชื่อจากคาร์ดเอกซ์ โดยเรายังคงให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) อย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำการให้ความรู้ทางด้านการเงิน พร้อมทั้งการวางแผน และสร้างความเข้าใจเรื่องการเป็นหนี้ และวินัยทางการเงิน พร้อมส่งเสริมการกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว” นายสารัชต์ กล่าวเสริม

ในส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ที่ผ่านมา ยอดสินเชื่อรวมครึ่งปีแรก อยู่ที่ 103,000 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 2.9 ล้าน บัญชี สำหรับครึ่งปีหลัง 2567 ทางคาร์ดเอกซ์ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของการใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 5-8% เพราะธุรกิจในขณะนี้ยังคงเผชิญปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีความท้าทาย และยังต้องระมัดระวังอยู่ตลอด โดยกลยุทธ์หลังจากนี้ จะยังคงเน้นการเติบโตและกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มลูกค้าเดิม ควบคู่ไปกับการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีรายได้สูงขึ้น และเฝ้าระวังหนี้เสียให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตลอดครึ่งปีหลัง

นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดช่วงปิดเทอม วันหยุดยาว หรือวันหยุด สดสัปดาห์ กรุงเทพฯ น่าจะเป็นสถานที่เที่ยวใกล้บ้านสำหรับครอบครัวที่อยากจะหากิจกรรมให้เด็กๆ ทำในยามว่าง เพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ของครอบครัว และเปิดโลกทัศน์เพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตให้ลูกที่กำลังจะเติบโต แม้ในยุคออนไลน์ที่ข้อมูลข่าวสารสามารถค้นหาได้ง่ายและรวดเร็ว แต่การออกไปสัมผัสเรียนรู้ด้วยตัวเอง คือกุญแจสำคัญในการพัฒนาทั้งทางร่างกาย ปัญญา อารมณ์และสังคม ซึ่งสวนสัตว์เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีของเด็กๆ ทุกยุคสมัย และปัจจุบัน “ซาฟารีเวิลด์” เป็นสวนสัตว์เปิดแห่งเดียว ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และเดินทางไปสะดวกและประหยัดเวลา” 

 

“เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับซาฟารีเวิลด์ ชวนสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี พาบุตรหลานเปิดประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยมอบโปรโมชันบัตรสมาชิกรายปีซาฟารีเวิลด์ ราคา 1,300 บาท (ราคาปกติ 2,880 บาท) พิเศษ! เพียงใช้ 1 คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลด 100 บาท หรือใช้ 1,500 คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลด 300 บาท

โดยแลกรับโค้ดส่วนลด ผ่านแอปฯ KTC Mobile และนำโค้ดไปรับสิทธิ์ผ่านช่องทาง www.safariworld.com/365 หรือ ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรคนไทยซาฟารีเวิลด์ หรือรับสิทธิพิเศษ ผ่อนชำระ 0%  นาน 3 เดือน หรือ 6 เดือน เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรคนไทยซาฟารีเวิลด์เท่านั้น สามารถซื้อและลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 -  18 สิงหาคม 2567” 

“ทั้งนี้ ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) ในไตรมาส 2 ของปี 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 47% และมีจำนวนสมาชิกใช้จ่ายในหมวดนี้เพิ่มขึ้น 27% เราจึงอยากสนับสนุนให้คนไทยท่องเที่ยวไทยกันมากๆ เพราะในเมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รอให้เราไปค้นหาและเคทีซีก็พร้อมจะมอบสิทธิพิเศษเพื่อเติมเต็มความสุขให้สมาชิกทุกช่วงชีวิต” 

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ktc.co.th/promotion/travel/attractions หรือสอบถามที่ KTC PHONE 02 123 5000 สำหรับผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card หรือศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี   

ในโลกของสังคมไร้เงินสดในปัจจุบันนี้ เราสามารถใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นด้วยแอปพลิเคชั่นและบัตรใบเดียว สำหรับการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะประเภทต่าง ๆ และรถไฟฟ้าก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน เพียงแค่มีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ที่เป็นบัตร EMV Contactless ก็สามารถแตะจ่ายค่าโดยสารได้ในทันที ดังเช่น ที่รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ที่ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารด้วยช่องทางการชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเครดิต Visa / Mastercard ของทุกธนาคารและบัตรเดบิตของธนาคารกรุงไทยและยูโอบี และเพื่อให้ทุกท่านได้แตะจ่ายและเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

 

BEM ได้รวบรวม 5 ข้อต้องรู้สำหรับการเดินทางด้วยบัตร EMV มาให้แล้ว

· บัตรเครดิต/เดบิตที่จะใช้เดินทางต้องมีสัญลักษณ์ Contactless หรือสัญลักษณ์ WIFI แนวนอน

· ผู้โดยสารควรยืนหลังเส้นสีเหลืองบริเวณประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติเมื่อแตะบัตร

· บริเวณจุดแตะบัตรจะอยู่ด้านบนของประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ ซึ่งมีสัญลักษณ์ Contactless ที่คล้ายสัญญาณ WIFI ในแนวนอน

· ใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต 1 คน 1 ใบ ตลอดการเดินทาง และแตะเข้า-ออกระบบที่ประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติด้วยบัตรใบเดียวกัน

· หากผู้โดยสารอยู่ในสถานีนานเกินกว่าเวลาที่กำหนด หรือไม่มีการแตะบัตรออกจากสถานี ระบบจะคำนวณค่าโดยสารตามอัตราสูงสุดในขณะนั้น

 

สำหรับบัตรเครดิต / บัตรเดบิต EMV Contactless ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต โดยชิปที่ใช้ในบัตรจะเป็นการสร้างรหัสการทำธุรกรรมในการชำระเงินที่ไม่ซ้ำกัน ช่วยลดโอกาสในการปลอมแปลงบัตรและการขโมยเลขบัตรไปใช้ และนอกจากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแล้ว ผู้โดยสารยังสามารถใช้บัตรพรีเพด (Prepaid Card) หรือบัตรทราเวลการ์ด (Travel Card) ที่มีสัญลักษณ์ Contactless เพื่อเข้า-ออกระบบรถไฟฟ้า MRT ได้เช่นเดียวกัน ความสะดวกสบายของระบบการชำระเงินเหล่านี้ จะช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสารในเมืองง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วงได้ที่ศูนย์บริการข้อมูล โทร. 0 2624 5200 หรือติดตามทางช่องทาง Facebook (เฟซบุ๊ก) และ X (เอ็กซ์) : BEM Bangkok Expressway and Metro / Instagram (อินสตาแกรม) : mrt_bangkok และ Mobile Application (โมบายแอปพลิเคชัน) : Bangkok MRT

นายณัฐสิทธิ์ สุนทราณู ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในระหว่างที่สภาพเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และเป็นช่วงที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้จ่ายในหลายเทศกาลไตรมาสแรกนี้เคทีซีจึงต้องการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภค โดยในหมวดของการช้อปออนไลน์ที่มีกลุ่มผู้บริโภคตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆ เราได้เตรียมความคุ้มค่าไว้มอบให้กับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี และสมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ในแคมเปญ 3.3 ลดใหญ่ต้นปี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำสิทธิพิเศษในหมวดช้อปออนไลน์ ซึ่งมี “ช้อปปี้” (Shopee) เป็นพันธมิตรที่ทำธุรกิจร่วมกันมายาวนาน และเป็นอีคอมเมิร์ซเบอร์ต้นๆ ที่ครองใจนักช้อปชาวไทย โดยในปีที่ผ่านมา 5 หมวดสินค้ายอดนิยมที่มีการใช้จ่ายด้วยบัตรเคทีซีผ่านช้อปปี้ ได้แก่ ของใช้ในบ้าน ความงามและของใช้ส่วนตัว สุขภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อุปกรณ์มือถือและแก็ดเจ็ท (Gadget)”

“สำหรับสิทธิพิเศษที่เคทีซีจัดเตรียมให้กับสมาชิกในแคมเปญดังกล่าว คือ 1) แลกรับโค้ด Shopee มูลค่า 333 บาท โดยใช้ 1,699 คะแนน KTC FOREVER แลกรับผ่านแอปพลิเคชัน “KTC Mobile” และนำโค้ดส่วนลดไปกรอกในแอป “ช้อปปี้” ก่อนการชำระด้วยบัตรเครดิตเคทีซี ระหว่างวันที่ 3 มีนาคม 2567 – 31 มีนาคม 2567 หรือ 2) รับส่วนลดสูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไขที่กำหนด สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี และ บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” โดยสมาชิกฯ ยังสามารถรับบริการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ในวันที่ 3 มีนาคม 2567”

“นอกจากนี้ สมาชิกฯ ยังสามารถรับโค้ดส่วนลดอีกมากมายจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 อาทิ ส่วนลดทุกวันพุธเที่ยงวัน / ส่วนลดเฉพาะร้านค้า Shopee Mall / ส่วนลดวันเงินเดือนออก (PAYDAY) และส่วนลดรายเดือน ช้อปคุ้มค่าและครบครันบนช้อปปี้ ผ่านแคมเปญ Shopee 3.3 ลดใหญ่ต้นปี โดยสามารถค้นหารายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่ ktc.promo/shopee”

ผู้สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท คลิก https://ktc.today/apply-card สมัครบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” คลิก https://ktc.today/KTC-PROUD หรือติดต่อ KTC PHONE โทร. 0-2123-5000 หรือศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรเครดิตควรใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี สำหรับผู้ถือบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

Page 1 of 5
X

Right Click

No right click