

ลาซาด้า ประกาศความร่วมมือกับ POP MART เปิดตัวแคมเปญ Super Brand Day (SBD) ระดับภูมิภาคครั้งแรก ซึ่งจะจัดขึ้นบนแอปพลิเคชันลาซาด้าทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มจากไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ในวันที่ 22 สิงหาคม ตามด้วยฟิลิปปินส์วันที่ 27 สิงหาคม และเวียดนามวันที่ 28 สิงหาคม โดยในแคมเปญนี้ แฟน ๆ ชาวไทยจะได้ตื่นเต้นไปกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ในคอลเลกชัน Twinkle Twinkle และ SKULLPANDA รวมถึงการวางจำหน่ายคาแรกเตอร์ยอดฮิตตลอดกาลอย่าง The Monsters และ Crybaby ตามรอบเวลาที่กำหนด นอกจากนี้แฟน ๆ ยังจะได้เพลิดเพลินกับส่วนลดทั้งร้านสูงสุด 8% ตลอดแคมเปญ พร้อมรับของขวัญลิมิเต็ดอิดิชั่น เมื่อช้อปตามเงื่อนไขกำหนด (จนกว่าสินค้าจะหมด)สินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟเหล่านี้จะวางจำหน่ายที่ร้านออฟฟิเชียลของ POP MART บน LazMall ในช่วงแคมเปญ
POP MART เตรียมจัดเต็มสต็อกสินค้าและเพิ่มการมองเห็นของหน้าร้านบน LazMall เพื่อตอบรับกระแสความต้องการจากนักช้อป อีกทั้งยังมีคูปองส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษบนลาซาด้า ที่จะทำให้ความร่วมมือระหว่างกันครั้งนี้ สามารถดึงดูดทั้งแฟนพันธุ์แท้และนักสะสมหน้าใหม่เข้าสู่โลกของอาร์ตทอยได้มากยิ่งขึ้น
“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ POP MART อีกครั้ง ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผสานความแข็งแกร่งด้านอีคอมเมิร์ซของลาซาด้าเข้ากับความมีชีวิตชีวาของคอมมูนิตี้อาร์ตทอย เราหวังว่าจะได้เชื่อมต่อแฟนๆ จากทั่วภูมิภาคให้เป็นส่วนหนึ่งของกระแสความนิยมที่กำลังเติบโตและเข้าถึงสินค้าคาแรกเตอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเหล่านี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น” ตัวแทนของลาซาด้ากล่าว “นอกจากนี้ มหกรรมงานวิ่ง Lazada Run ที่จัดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม สามารถสร้างการมีส่วนร่วมและผสานกระแสรักสุขภาพเข้ากับป๊อปคัลเจอร์ได้อย่างลงตัว”
ความร่วมมือครั้งนี้ นอกจากนำเสนอคอลเล็กชันหายาก ยังสะท้อนบทบาทของลาซาด้าในการเชื่อมโยงครีเอเตอร์ นักสะสม และคอมมูนิตี้ เข้าไว้ด้วยกัน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของแพลตฟอร์มในการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และการจับมือพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลาซาด้า ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศไทย จากรายงาน Thailand’s Top 50 Brands 2025 โดย Campaign Asia ร่วมกับบริษัทวิจัยตลาดระดับโลก Pureprofile สะท้อนความแข็งแกร่งของแบรนด์ในสายตาผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านคุณภาพของสินค้าและบริการ ประสบการณ์การใช้งาน นวัตกรรม และความภักดีต่อแบรนด์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของลาซาด้าในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
จากการประเมินแบรนด์ในประเทศไทยจากหลากหลายอุตสาหกรรม ลาซาด้าได้รับคะแนนรวมสูงสุดถึง 84% จากผู้บริโภคตามเกณฑ์การสำรวจในหลากหลายด้าน เช่น ช่องทางในการเข้าถึงแบรนด์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ระดับความภักดีต่อแบรนด์ ความเต็มใจที่จะแนะนำแบรนด์ให้ผู้อื่น ตลอดจนความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยลาซาด้ามีคะแนนนำในด้านคุณภาพ การบริการลูกค้า และประสบการณ์การช้อป
การจัดอันดับครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของรายงาน Southeast Asia’s Top 50 Brands 2025 ซึ่งรวบรวมผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคที่มีความครอบคลุมมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเก็บข้อมูลจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ผ่านการสัมภาษณ์ออนไลน์ตลอดเดือนเมษายน 2568 กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนประชากรรวมกว่า 10,000 คน โดยใช้ แพลตฟอร์มสำรวจของ Pureprofile งานวิจัยครอบคลุมแบรนด์กว่า 620 รายใน 10 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ, ยานยนต์, อีคอมเมิร์ซ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อาหารจานด่วน, การเงิน, ความงาม, บริการวิดีโอสตรีมมิง, ขนส่งและเดลิเวอรี่ และการท่องเที่ยว โดยผลสำรวจดังกล่าวใช้โมเดลการให้คะแนนที่สะท้อนทั้งระดับการรับรู้และความเชื่อมโยงของแบรนด์กับชีวิตประจำวันของผู้บริโภค โดยมีระดับความน่าเชื่อถือสูงถึง 95% ถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีความแม่นยำสูง

ผลการจัดอันดับดังกล่าว ยังสะท้อนบทบาทที่เพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทย โดยลาซาด้าได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากนักช้อป จากจุดเด่นด้านความหลากหลายและคุณภาพของสินค้า บริการที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอย่างครบวงจร ตลอดจนความคุ้มค่า และการพัฒนาแพลตฟอร์มด้วยนวัตกรรมอย่าง AI อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความมุ่งมั่นของลาซาด้าในการส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เหนือกว่า เพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้ซื้อ แบรนด์ ผู้ขาย และพันธมิตรในระบบนิเวศธุรกิจอย่างยั่งยืน
ดูรายละเอียด Thailand’s Top 50 Brands 2025 ได้ที่: https://www.campaignasia.com/article/thailands-top-50-brands-2025/503009
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแส “กล่องสุ่มฟีเวอร์” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ขยับจากความชื่นชอบเฉพาะกลุ่มของนักสะสม สู่เทรนด์กระแสหลักที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ และผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก POP MART แบรนด์อาร์ตทอยระดับโลก ผู้จุดกระแสนิยมผ่านคาแรกเตอร์เอ็กซ์คลูซีฟ แรร์ไอเทมที่ใคร ๆ ก็อยากได้ ไปจนถึงกิจกรรมออฟไลน์ที่เชื่อมโลกแห่งจินตนาการสู่ประสบการณ์จริง ปัจจุบัน Pop Mart ได้นำโลกของตัวละครขวัญใจอย่าง MOLLY, DIMOO และ SKULLPANDA เข้ามาใกล้ชิดบรรดาแฟนมากยิ่งขึ้น ผ่าน LazMall บนลาซาด้า ไม่ว่าจะเป็นเซอร์ไพรส์ดร็อปสุดตื่นเต้น ประสบการณ์แกะกล่องที่หลายคนรอคอย ตลอดจนกิจกรรมกับคอมมูนิตี้ของกลุ่มแฟนพันธุ์แท้
การเปิดร้านบน LazMall ช่วยให้ POP MART เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น นับตั้งแต่เปิดตัวบนแพลตฟอร์มในปี 2566 แบรนด์สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 5 เท่า กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ของเล่นที่เติบโตเร็วที่สุดบน LazMall สะท้อนถึงความหลงใหลของผู้บริโภคในภูมิภาคที่มีต่อของสะสมและการเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครที่น่าสนใจ ตั้งแต่การแกะกล่องผ่านไลฟ์สตรีม ไปจนถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ด้วยอินไซต์ที่แม่นยำ ความสำเร็จของ POP MART สะท้อนถึงพลังของการผสานโลกดิจิทัลเข้ากับวัฒนธรรมแฟนด้อมได้อย่างไร้รอบต่อ ขณะเดียวกัน ตลาดกล่องสุ่มอาร์ตทอยทั่วโลกก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2574 โดย
แรงขับเคลื่อนหลักมาจากนักสะสมรุ่นใหม่อย่างเจนซีและมิลเลนเนียล ที่หลงใหลในความหายาก ความผูกพันทางอารมณ์ และกลิ่นอายของความทรงจำในวัยเด็ก
POP MART เผยว่า ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นจากความลุ้นระทึก หรือความสุขที่ได้เจอคาแรกเตอร์โปรด นักสะสมกำลังมองหาอะไรที่มากกว่าของเล่น นั่นคือเรื่องราวเบื้องหลังตัวละครเหล่านั้น การร่วมมือกับลาซาด้าช่วยให้ POP MART สามารถถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างไร้รอยต่อและเข้าถึงผู้คนได้มากยิ่งขึ้น
พบกับคอลเลคชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟในเดือนมิถุนายนนี้
POP MART เตรียมปล่อย 2 คอลเลคชันสุดลิมิเต็ด ได้แก่ MOLLY และ Zsiga และเปิดตัว SKULLPANDA คอลเลคชันที่สองในรูปแบบตุ๊กตาพลัชสุดนุ่มนิ่มน่ากอด เพิ่มสีสันใหม่ให้กับไลน์อัปคาแรกเตอร์ยอดฮิตที่ครองใจแฟน ๆ มาอย่างยาวนาน
คอลเลคชันพิเศษทั้งหมดนี้จะวางจำหน่ายบน LazMall ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 เป็นต้นไป โดย POP MART เตรียมขยายสต็อกสินค้าและเพิ่มการมองเห็นหน้าร้านออนไลน์บนลาซาด้า เพื่อรองรับความต้องการที่ของแฟน ๆ ทั่วภูมิภาค
![]()
เจาะอินไซต์คอมมูนิตี้ สู่ตะกร้าในโลกคอมเมิร์ซ
แฟน ๆ POP MART ไม่เพียงแค่สามารถช้อปสินค้าได้สะดวกสบายผ่านลาซาด้าเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับประสบการณ์ช้อปปิงที่เหนือระดับ ด้วยระบบแนะนำสินค้าที่ขับเคลื่อนโดย AI พร้อมผสานข้อมูลเชิงลึกเฉพาะตลาด ทำให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้าที่ตรงใจนักสะสมในแต่ละประเทศได้อย่างแม่นยำ เช่น SKULLPANDA ที่กลายเป็นคาแรกเตอร์ขวัญใจชาวไทย และ DIMOO ที่ได้รับความรักอย่างล้นหลามในมาเลเซีย
นอกจากนี้ ฟิกเกอร์ตัวโปรดยังรับการจัดส่งที่รวดเร็ว โดย 85% ของคำสั่งซื้อในเมืองหลักทั่วภูมิภาค เช่น กรุงเทพฯ และมะนิลา จะส่งถึงมือภายใน 48 ชั่วโมงหลังยืนยันคำสั่งซื้อ พร้อมบรรจุในแพ็กเกจกันกระแทกพิเศษเพื่อรักษาสภาพให้สมบูรณ์ และลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุแบบเรียลไทม์ผ่านแอปลาซาด้าได้อย่างสะดวกสบาย
อาร์ตทอยจาก POP MART ไม่ใช่เพียงแค่ของเล่นทั่วไป แต่คือไลฟ์สไตล์และสัญลักษณ์ของความหรูหราและความเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของแฟนคลับและเหล่าครีเอเตอร์ โดยปัจจุบันกว่า 34% ของยอดขาย POP MART บนลาซาด้า มาจากพาร์ทเนอร์ในเครือข่าย Lazada Affiliate ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สตรีมเมอร์ นักสะสมอาร์ตทอย และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่ถ่ายทอดเสน่ห์ของ POP MART ผ่านมุมมองเฉพาะตัว ทั้งการเล่าเรื่องราว การเจาะลึกคาแรกเตอร์ และคอนเทนต์แกะกล่อง กลุ่มครีเอเตอร์เหล่านี้ไม่เพียงแค่โปรโมตสินค้า แต่ยังช่วยสร้างคอมมูนิตี้ และยกระดับการสะสมให้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่แชร์ร่วมกันได้อย่างแท้จริง
ลาซาด้า ประเทศไทย ร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2025 ผลักดันการท่องเที่ยวไทยสู่กลุ่มนักเดินทางอาเซียนผ่าน LazTravel บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักบนแพลตฟอร์มลาซาด้า ชูจุดแข็งฐานผู้ใช้งานครอบคลุม 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย สร้างแคมเปญโปรโมตรูปแบบข้ามพรมแดน พร้อมมอบดีลสุดคุ้มสำหรับการจองเที่ยวบินและที่พัก ชูไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งในประเทศ (Domestic Tourism) และจากต่างประเทศ (Inbound Tourism)
![]()
วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “LazTravel ไม่เพียงช่วยให้การจองทริปเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่า แต่ยังเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมและโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวไทย ทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว ช่วยเปิดประสบการณ์และถ่ายทอดเสน่ห์ความเป็นไทยสู่สายตานักเดินทาง ผ่านบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจรบนแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งเข้าถึงฐานผู้ใช้ได้มากขึ้นในระดับภูมิภาค ตอกย้ำประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Thailand as a popular destination in Southeast Asia) ขณะเดียวกัน ความร่วมมือกับ ททท. ในครั้งนี้ยังช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคุณภาพได้กว้างขึ้น ในฐานะผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ”
ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่า ในปี 2567 ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอาเซียนกว่า 10.6 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ขณะที่รายงานจาก Visa ยังชี้ว่า นักท่องเที่ยวจาก สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับแรกในไทย โดยเฉพาะหมวดที่พัก ช้อปปิง ร้านอาหาร และบริการสุขภาพ
ความร่วมมือระดับภูมิภาคครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2025 ซึ่งเป็นแคมเปญสำคัญของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มุ่งกระตุ้นการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวในช่วงฤดูท่องเที่ยว พร้อมมอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟแก่นักท่องเที่ยวจากอาเซียน ผ่านส่วนลดเที่ยวบินและโรงแรมสูงสุด 15% (เป็นไปตามเงื่อนไขในแต่ละประเทศ)
![]()
ขณะเดียวกัน ลาซาด้ายังเดินหน้าสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านแคมเปญเที่ยววันธรรมดา เพื่อจูงใจให้คนไทยออกเดินทางในช่วงวันจันทร์ - พฤหัสบดี โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568’ จากภาครัฐ ซึ่งเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อกระตุ้นการเดินทางในช่วงโลว์ซีซันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ LazTravel ยังมีบทบาทสำคัญในการขยายการรับรู้และกระตุ้นการเดินทางในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลักดันแหล่งท่องเที่ยวทางเลือก เช่น เมืองน่าเที่ยว ให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของลาซาด้า อาทิ แบนเนอร์หน้าแคมเปญหลัก การแจ้งเตือนข้อความ และคูปองส่วนลดพิเศษ เช่น
· Amazing Thailand Grand Sale: นักท่องเที่ยวจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รับส่วนลดสูงสุด 15% เมื่อจองตั๋วเครื่องบินและที่พักในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2568
· เที่ยววันธรรมดา: นักท่องเที่ยวชาวไทยรับส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักภายในประเทศ (สูงสุด 150 บาท) ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กันยายน 2568
LazTravel ให้บริการจองตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก กิจกรรม และแหล่งท่องเที่ยว ผ่านแอปพลิเคชันลาซาด้า โดยรวบรวมเที่ยวบินจากกว่า 200 สายการบิน ครอบคลุมกว่า 50,000 เส้นทาง พร้อมตัวเลือกโรงแรมมากกว่า 282,000 แห่งใน 7,000 เมืองทั่วโลก ปัจจุบันเปิดให้บริการใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ โดยผู้ใช้งานสามารถวางแผนและจองการเดินทางทั้งในและต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบาย ครบจบในแอปเดียว พร้อมความคุ้มค่าสูงสุดจากฟีเจอร์เปรียบเทียบราคาสายการบินและโรงแรม รวมถึงโปรโมชันพิเศษจากแคมเปญต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางยุคใหม่ทั้งในไทยและอาเซียน
ลาซาด้า ประเทศไทย เผยภาพรวมความสำเร็จ ตอกย้ำตำแหน่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ครองใจนักช้อปและผู้ขาย พร้อมชู 3 กลยุทธ์เสริมแกร่งอีโคซิสเต็ม มุ่งขยายฐานนักช้อปขาประจำในเซ็กเมนต์สินค้าพรีเมียม-แฟชัน-ความงาม เสริมแกร่งนวัตกรรมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และขยายสิทธิประโยชน์และบริการเสริมสำหรับร้านค้า ตั้งเป้าสานต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน หลังธุรกิจทั่วภูมิภาคมีผลกำไรเป็นบวกครั้งแรกในปีนี้
วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี ลาซาด้าได้ขับเคลื่อนนวัตกรรมและเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่ง สะท้อนได้จากสถานะ EBITDA จากการดำเนินธุรกิจใน 6 ประเทศของลาซาด้า กรุ๊ป ที่มีผลเป็นบวกเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ความสำเร็จดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการก้าวสู่ยุคใหม่ของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ มากกว่าการบรรลุเป้าหมายในระยะสั้น เพื่อมุ่งสู่การเติบโตระยะยาวอย่างยั่งยืน”
อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทยมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ไทยเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยอัตราการเติบโต 20% เทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค ลาซาด้า ยังเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่ การยกระดับประสบการณ์นักช้อป นวัตกรรมและเทคโนโลยี และการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ยกระดับประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล
เพื่อตอบรับการขยายตัวของกลุ่มนักช้อปหญิงและบทบาทที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ลาซาด้า เดินหน้ากลยุทธ์เพิ่มประสบการณ์การช้อปที่แตกต่าง ภายใต้แนวคิด “Customer-First” เน้นการตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำและความเหนียวแน่นของนักช้อป โดยสร้างความแตกต่างในหมวดหมู่สินค้าพรีเมียม แฟชัน และความงาม ซึ่งเป็นจุดแข็งของแพลตฟอร์ม เห็นได้จากยอดขายรวมของ LazMall ในช่วงเมกะแคมเปญ ซึ่งก้าวกระโดดมากกว่า 7 เท่า เมื่อเทียบกับวันปกติ ในขณะที่ LazBEAUTY มีจำนวนสมาชิกในไทยกว่า 1 ล้านราย
ในโค้งสุดท้ายของปี 2567 ลาซาด้า จะเสริมความแข็งแกร่งของ LazMall ผ่านการขยายพันธมิตรแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟ และรุกเซ็กเมนต์สินค้าลักชูรี ผ่านหมวดสินค้า LazMall Premium Brand นอกจากนี้ ยังตอกย้ำ LazLOOK ในฐานะจุดหมายสินค้าแฟชัน ผ่านแคมเปญรายสัปดาห์ที่จะเข้ามาสร้างความตื่นเต้นและสีสันให้แก่นักช้อปอย่างต่อเนื่อง

ลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้การช้อปเป็นเรื่องสะดวกและสนุกยิ่งขึ้น ลาซาด้า ยังนำเทคโนโลยี AI เข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและฟีเจอร์ต่าง ๆ โดยมี Gamification เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับนักช้อป ที่ผ่านมา LazGame ได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยมีผู้เล่นเกมกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ซึ่งนักช้อปกลุ่มนี้มีการใช้งานแอปพลิเคชันนานกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์มถึง 3 เท่า และราว 82% กลับมาใช้งานแอปพลิเคชันเป็นประจำทุกวัน
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงความสำเร็จของการลงทุนด้านนวัตกรรมของลาซาด้า คือ ฟีเจอร์ “ถามผู้ใช้งานจริง (Ask the Buyer)” ซึ่งนำเทคโนโลยี AI มาช่วยตั้งคำถามเชิญชวนให้ผู้ซื้อรายก่อน ๆ มาร่วมรีวิวสินค้า เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อรายใหม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันมีการตอบคำถามจากผู้ซื้อจริงไปแล้วกว่า 1.5 ล้านครั้ง

ส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพผู้ขายไทย
ด้วยพันธกิจในการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ลาซาด้า ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโซลูชันการตลาดเพื่อสนับสนุนผู้ขายให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ เช่น เครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยปรับแต่งรูปภาพ เขียนคำอธิบายสินค้า และให้บริการลูกค้า โดยพบว่าสามารถเพิ่มอัตราการซื้อได้กว่า 30% ลาซาด้า ยังนำเสนอโปรแกรมสิทธิประโยชน์ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับร้านค้าในทุกกลุ่มและทุกก้าวของธุรกิจนอกจากนี้ ยังพัฒนาบริการเสริมที่จะช่วยให้ผู้ขายนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิงออนไลน์ที่ผสานกับออฟไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ เช่น บริการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ การประกันสินค้าประเภทต่าง ๆ รวมถึงการนำสินค้าเก่ามาแลกสินค้าใหม่ในหมวดโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ลาซาด้า ประเทศไทย ยังได้ผนึกความร่วมมือระยะยาวกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซของผู้ประกอบการไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร ผ่านโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง