December 05, 2025

หลังประกาศแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า “วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดของไทย ก็ปั้นโครงการใหม่ไว้ในมือพร้อมเข้าร่วมการประมูลกับภาครัฐ ตามเป้าหมายร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาพลังงานสะอาดของประเทศ ซึ่งล่าสุดก็ชนะการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเข้ามาเพิ่มเติมอีก 4 โครงการ ขนาดรวม 299 เมกะวัตต์ คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ ในช่วงปี 2570-2573 จึงได้เริ่มจัดสรรแหล่งเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจต่อไป หนึ่งในนั้น คือ การออกหุ้นกู้ WEH ครั้งที่ 1/2568 ที่เสนอขายแล้วเมื่อวันที่ 17 – 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา มียอดจองทะลุ 500 ล้านบาท มากกว่าแผนงานที่เตรียมไว้ โดยจะนำเงินลงทุนทั้งหมดไปใช้รองรับการขยายกิจการ ลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ และสำหรับการกู้ยืมหรือชำระหนี้ภายในกลุ่มบริษัท และเป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น เพื่อเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

“วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” ผู้นำด้านพลังงานลม เผยทิศทางธุรกิจปี 2568 ปั้นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ เตรียมพร้อมเข้ายื่นประมูลกับภาครัฐ โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อยื่นประมูลแล้วรวมกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ตามแผนระยะยาวขยายพอร์ตธุรกิจไฟฟ้า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 1/2568 อายุ 2 ปี 7 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ [7.00-7.20] ต่อปี หนุนแผนลงทุนขยายธุรกิจ คาดปีนี้รับรู้รายได้รวมมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อเนื่องอีกปี

นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมอันดับ 1 ของไทย เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจปี 2568 บริษัทยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตธุรกิจไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแห่งใหม่เพิ่มเติม เพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นประมูลกับภาครัฐ ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจระยะยาว ที่ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตจาก 1,016 เมกะวัตต์ เป็น 2,000 เมกะวัตต์ และเพิ่มระดับรายได้รวมจากมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี สู่ระดับ 20,000 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 2580 ซึ่งสอดคล้องกับกรอบระยะเวลาของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP2024)

“ปัจจุบันบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า รวม 8 แห่ง ขนาด 717 เมกะวัตต์ โดยสามารถสร้างรายได้รวมมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลา 5 ปี รวมถึงมีกำไรสุทธิมากกว่า 5,000 ล้านบาท และกระแสเงินสดสุทธิสูงกว่า 9,000 ล้านบาท 4 ปี ต่อเนื่องกัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับสิทธิ์ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแห่งใหม่อีก 4 โครงการ รวมกำลังผลิต 299.1 เมกะวัตต์ จากการชนะการประมูลล่าสุด ซึ่งจะเริ่มทยอยดำเนินการและรับรู้รายได้ตั้งแต่ ปี 2570 – 2573 ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจไฟฟ้าของบริษัทฯ ในปัจจุบันอยู่ที่ 1,016.1 เมกะวัตต์ และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากโครงการในอนาคต”

นายณัฐพศิน กล่าวว่า WEH มีแผนเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 อายุ 2 ปี 7 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 7.00-7.20 ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดว่าเปิดจองซื้อวันที่ 17 – 19 มิ.ย.นี้

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ลงทุนในโครงการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน เพื่อขยายกิจการ และลงทุนในโครงการใหม่ เพื่อให้กู้ยืมเงิน หรือชำระหนี้ภายในกลุ่มบริษัท และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ รับรู้รายได้รวม 3,036 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,628 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 0.71 เท่า จาก 0.74 เท่า ณ สิ้นปี 2567 และ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 1.4 เท่า บริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการตลอดปี 2568 จะสามารถรับรู้รายได้รวมมากกว่า 10,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากความพร้อมด้านการผลิตไฟฟ้า และแนวโน้มปริมาณกระแสลมที่เอื้อต่อการดำเนินงาน ลักษณะรายได้ของบริษัทฯ สะท้อนความมั่งคงและไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ จึงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและต่อเนื่องให้แก่ทั้งผู้ถือหุ้น และผู้ถือหุ้นกู้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ 8 แห่ง ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้ WEH ครั้งที่ 1/2568 ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ฉายภาพใหญ่ “เข้าสู่ยุคแห่งการเติบโต” หลังคว้า 4 โครงการจำหน่ายไฟฟ้าให้ภาครัฐ ทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 แตะ 1,016 เมกะวัตต์ บรรลุตามเป้าหมาย เผยเตรียมโครงการใหม่รวมกว่า 2,000 เมกะวัตต์ พร้อมเข้ายื่นประมูลทั้งในและต่างประเทศ หลังประเมินโควตาพลังงานลมในประเทศยังมีรออยู่มากกว่า 5,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ผลประกอบการ 2567 สุดแข็งแกร่ง รายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ติดต่อกันเป็นปีที่ 5

นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม อันดับ 1 ของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการ ปี 2567 ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 11,313 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,388 ล้านบาท นับเป็นปีที่ 5 ต่อเนื่องกันตั้งแต่ปี 2563 ที่มีรายได้ในระดับ 10,000 ล้านบาท และเป็นปีที่ 4 ต่อเนื่องกัน ที่มีกำไรมากกว่า 5,000 ล้านบาท

“ผลประกอบการปี 2567 อยู่ในระดับแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า จากปริมาณกระแสลมที่เอื้อต่อการผลิตไฟฟ้า และการเตรียมความพร้อมของกังหันลมผลิตไฟฟ้าในระดับดีเยี่ยม ทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพ ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.74 ลดลงจาก 1.01 ในปีก่อนหน้า จากการชำระคืนสินเชื่อให้แก่สถาบันการเงิน ส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ปี 2567 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 9,570 ล้านบาท จากฐานธุรกิจที่มั่นคง ทำให้บริษัทฯ สามารถจ่ายปันผล ผู้ถือหุ้น และผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นกู้ ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ”

· ทิศทางพลังงานหมุนเวียนสดใส – พร้อมเข้าร่วมประมูลทุกรอบ

นายณัฐพศิน กล่าวว่า เมื่อมองภาพรวมในประเทศ ยังมีโควตาพลังงานลมให้เราเข้าไปแข่งขันรวมอย่างน้อยประมาณ 5,745 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น พลังงานลมภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ฉบับปัจจุบัน ที่ยังไม่เปิดประมูล ประมาณ 400 เมกะวัตต์ รวมกับ โครงการพลังงานลมใหม่ 5,345 เมกะวัตต์ ภายใต้ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567 - 2580 (PDP 2024) ฉบับรับฟังความคิดเห็น ซึ่งเป็นแผนถัดไป และในฐานะที่ WEH เป็นผู้บุกเบิกพลังงานลมในไทย เป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม จึงมั่นใจว่ามีศักยภาพมากพอในการตอบโจทย์พลังงานหมุนเวียนของประเทศ

“ขณะนี้ WEH พัฒนาโครงการไว้พร้อมเข้ายื่นประมูลเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้แก่ภาครัฐหลายโครงการ คิดเป็นปริมาณเสนอขายรวมมากกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยังคงมุ่งเน้นในพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีศักยภาพ”

· คว้าโรงไฟฟ้าใหม่ 4 โครงการ – บรรลุเป้าหมาย เติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ WEH ชนะประมูล ได้รับเลือกเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้แก่ภาครัฐ ตามประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เฟส 1 และ เฟส 2 ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) รวม 4 โครงการใหม่ ปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 299.1 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบมีระบบกักเก็บพลังงานติดตั้งบนพื้นดิน 1 โครงการ ขนาด 30 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการ โครงการละ 89.7 เมกะวัตต์ รวม 269.1 เมกะวัตต์ ทั้งหมดนี้ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 15,700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมทางด้านเงินลงทุนแล้ว คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ของโครงการทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2570 จนครบทั้งหมดในปี 2573

สำหรับโรงไฟฟ้าใหม่ 4 โครงการนี้ ทำให้ธุรกิจไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากปัจจุบัน 717 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 1,016 เมกะวัตต์ ถือเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่โรงไฟฟ้าแห่งล่าสุดของบริษัทฯ จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปเมื่อปี 2561 และบรรลุเป้าหมายปี 2564 ที่ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณเสนอขายไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์

“ภายใต้แผนพัฒนาธุรกิจไฟฟ้า ที่อ้างอิงตามแผน PDP ของประเทศ ประเมินว่าเมื่อสิ้นสุดแผน PDP 2024 ในปี 2580 ตั้งเป้าได้รับปริมาณเสนอขายไฟฟ้าให้แก่ภาครัฐเพิ่มเป็น 2,000 เมกะวัตต์ และมีรายได้รวมประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี”

 · เปิดพอร์ทไฟฟ้าแข็งแกร่ง – รุกธุรกิจอสังหาฯ สุขภาพ และบริการทางการเงิน

นายณัฐพศิน กล่าวว่า ภาพรวมกลุ่มธุรกิจของ WEH ในปัจจุบัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย

1. กลุ่มธุรกิจพลังงาน เป็นพลังงานหมุนเวียนร้อยละ 100 ได้รับอนุญาตจากภาครัฐ รวม 1,016 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้า 12 โครงการ แบ่งเป็น กลุ่มที่ COD แล้ว 717 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม 8 โครงการ และกลุ่มที่มีกําหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (SCOD) ขนาดรวม 299 เมกะวัตต์ จาก 4 โครงการ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบมีระบบกักเก็บพลังงานติดตั้งบนพื้นดิน 1 โครงการ และพลังงานลม 3 โครงการ

2. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สุขภาพ และบริการทางการเงิน ผ่านการลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

“ภาพของ วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เข้าสู่ยุคของการเติบโต ขยายกิจการในพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานลม เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง เรายังมองหาโอกาสในธุรกิจที่มีศักยภาพ เข้ามาในพอร์ทของเรา เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจในระยะยาว”

· สานต่อภารกิจลดคาร์บอนไดออกไซด์ ขยายคาร์บอนเครดิต

นายณัฐพศิน กล่าวว่า WEH ยังสานต่อภารกิจด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยปี 2567 ปริมาณไฟฟ้าจากพลังงานลมที่บริษัทฯ ผลิตได้ เทียบเท่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลง รวม 938,943 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) หรือเทียบเท่าต้นไม้ช่วยฟอกอากาศประมาณ 41 ล้านต้น (คำนวณจากไม้ยืนต้นโตเต็มที่ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 2 กิโลกรัมต่อปี) หากบริษัทฯ ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ตามแผน จะยิ่งเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลง ได้มากขึ้นตามไปด้วย

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ใช้มาตรฐานการตรวจรับรองคาร์บอนเครดิตระดับโลก ประกอบด้วย Gold Standard และ VERRA ซึ่งปีที่ผ่านมา ได้จำหน่ายคาร์บอนเครดิตรวมประมาณ 810,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ทำให้ระหว่างปี 2564 – 2567 บริษัทฯ จำหน่ายคาร์บอนเครดิตได้รวมทั้งสิ้น 3.48 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยทั้งหมดนี้จำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อในสหรัฐอเมริกา และกลุ่มสหภาพยุโรป โดยกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ และการบิน

“นอกจากนี้ ระหว่างปี 2562 – 2567 บริษัทฯ จัดทำใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน IREC (International Renewable Energy Certificate Standard) ได้รวม 506,455 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) โดยใบรับรอง IREC กำลังมีความสำคัญเพิ่มขึ้นในตลาดโลก เพราะมีกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% (RE100) ซึ่งประกอบด้วย องค์กรระดับโลก เช่น Apple, Google, Microsoft, Ikea ต้องการใบรับรอง เพื่อยืนยันการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นความตื่นตัวระดับองค์กรต่อการใช้พลังงานหมุนเวียน ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น”

บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ฉายภาพใหญ่ “เข้าสู่ยุคแห่งการเติบโต” หลังคว้า 4 โครงการจำหน่ายไฟฟ้าให้ภาครัฐ ทำให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 แตะ 1,016 เมกะวัตต์ บรรลุตามเป้าหมาย เผยเตรียมโครงการใหม่รวมกว่า 2,000 เมกะวัตต์ พร้อมเข้ายื่นประมูลทั้งในและต่างประเทศ หลังประเมินโควตาพลังงานลมในประเทศยังมีรออยู่มากกว่า 5,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ผลประกอบการ 2567 สุดแข็งแกร่ง รายได้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ติดต่อกันเป็นปีที่ 5

นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม อันดับ 1 ของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการ ปี 2567 ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 11,313 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,388 ล้านบาท นับเป็นปีที่ 5 ต่อเนื่องกันตั้งแต่ปี 2563 ที่มีรายได้ในระดับ 10,000 ล้านบาท และเป็นปีที่ 4 ต่อเนื่องกัน ที่มีกำไรมากกว่า 5,000 ล้านบาท

“ผลประกอบการปี 2567 อยู่ในระดับแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า จากปริมาณกระแสลมที่เอื้อต่อการผลิตไฟฟ้า และการเตรียมความพร้อมของกังหันลมผลิตไฟฟ้าในระดับดีเยี่ยม ทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพ ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.74 ลดลงจาก 1.01 ในปีก่อนหน้า จากการชำระคืนสินเชื่อให้แก่สถาบันการเงิน ส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ปี 2567 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 9,570 ล้านบาท จากฐานธุรกิจที่มั่นคง ทำให้บริษัทฯ สามารถจ่ายปันผล ผู้ถือหุ้น และผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นกู้ ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ”

· ทิศทางพลังงานหมุนเวียนสดใส – พร้อมเข้าร่วมประมูลทุกรอบ

นายณัฐพศิน กล่าวว่า เมื่อมองภาพรวมในประเทศ ยังมีโควตาพลังงานลมให้เราเข้าไปแข่งขันรวมอย่างน้อยประมาณ 5,745 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น พลังงานลมภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ฉบับปัจจุบัน ที่ยังไม่เปิดประมูล ประมาณ 400 เมกะวัตต์ รวมกับ โครงการพลังงานลมใหม่ 5,345 เมกะวัตต์ ภายใต้ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567 - 2580 (PDP 2024) ฉบับรับฟังความคิดเห็น ซึ่งเป็นแผนถัดไป และในฐานะที่ WEH เป็นผู้บุกเบิกพลังงานลมในไทย เป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม จึงมั่นใจว่ามีศักยภาพมากพอในการตอบโจทย์พลังงานหมุนเวียนของประเทศ

“ขณะนี้ WEH พัฒนาโครงการไว้พร้อมเข้ายื่นประมูลเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้แก่ภาครัฐหลายโครงการ คิดเป็นปริมาณเสนอขายรวมมากกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยังคงมุ่งเน้นในพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีศักยภาพ

· คว้าโรงไฟฟ้าใหม่ 4 โครงการ – บรรลุเป้าหมาย เติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ WEH ชนะประมูล ได้รับเลือกเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนให้แก่ภาครัฐ ตามประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เฟส 1 และ เฟส 2 ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) รวม 4 โครงการใหม่ ปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 299.1 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบมีระบบกักเก็บพลังงานติดตั้งบนพื้นดิน 1 โครงการ ขนาด 30 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการ โครงการละ 89.7 เมกะวัตต์ รวม 269.1 เมกะวัตต์ ทั้งหมดนี้ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 15,700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมทางด้านเงินลงทุนแล้ว คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ของโครงการทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2570 จนครบทั้งหมดในปี 2573

สำหรับโรงไฟฟ้าใหม่ 4 โครงการนี้ ทำให้ธุรกิจไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากปัจจุบัน 717 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 1,016 เมกะวัตต์ ถือเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่โรงไฟฟ้าแห่งล่าสุดของบริษัทฯ จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปเมื่อปี 2561 และบรรลุเป้าหมายปี 2564 ที่ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณเสนอขายไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตจากภาครัฐแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์

“ภายใต้แผนพัฒนาธุรกิจไฟฟ้า ที่อ้างอิงตามแผน PDP ของประเทศ ประเมินว่าเมื่อสิ้นสุดแผน PDP 2024 ในปี 2580 ตั้งเป้าได้รับปริมาณเสนอขายไฟฟ้าให้แก่ภาครัฐเพิ่มเป็น 2,000 เมกะวัตต์ และมีรายได้รวมประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี”

· เปิดพอร์ทไฟฟ้าแข็งแกร่ง – รุกธุรกิจอสังหาฯ สุขภาพ และบริการทางการเงิน

นายณัฐพศิน กล่าวว่า ภาพรวมกลุ่มธุรกิจของ WEH ในปัจจุบัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย

1. กลุ่มธุรกิจพลังงาน เป็นพลังงานหมุนเวียนร้อยละ 100 ได้รับอนุญาตจากภาครัฐ รวม 1,016 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้า 12 โครงการ แบ่งเป็น กลุ่มที่ COD แล้ว 717 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าพลังงานลม 8 โครงการ และกลุ่มที่มีกําหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (SCOD) ขนาดรวม 299 เมกะวัตต์ จาก 4 โครงการ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบมีระบบกักเก็บพลังงานติดตั้งบนพื้นดิน 1 โครงการ และพลังงานลม 3 โครงการ

2. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สุขภาพ และบริการทางการเงิน ผ่านการลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

“ภาพของ วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เข้าสู่ยุคของการเติบโต ขยายกิจการในพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานลม เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง เรายังมองหาโอกาสในธุรกิจที่มีศักยภาพ เข้ามาในพอร์ทของเรา เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจในระยะยาว”

 · สานต่อภารกิจลดคาร์บอนไดออกไซด์ ขยายคาร์บอนเครดิต

นายณัฐพศิน กล่าวว่า WEH ยังสานต่อภารกิจด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยปี 2567 ปริมาณไฟฟ้าจากพลังงานลมที่บริษัทฯ ผลิตได้ เทียบเท่าปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลง รวม 938,943 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) หรือเทียบเท่าต้นไม้ช่วยฟอกอากาศประมาณ 41 ล้านต้น (คำนวณจากไม้ยืนต้นโตเต็มที่ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 2 กิโลกรัมต่อปี) หากบริษัทฯ ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ตามแผน จะยิ่งเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลง ได้มากขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ บริษัทฯ ใช้มาตรฐานการตรวจรับรองคาร์บอนเครดิตระดับโลก ประกอบด้วย Gold Standard และ VERRA ซึ่งปีที่ผ่านมา ได้จำหน่ายคาร์บอนเครดิตรวมประมาณ 810,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ทำให้ระหว่างปี 2564 – 2567 บริษัทฯ จำหน่ายคาร์บอนเครดิตได้รวมทั้งสิ้น 3.48 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยทั้งหมดนี้จำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อในสหรัฐอเมริกา และกลุ่มสหภาพยุโรป โดยกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ และการบิน

“นอกจากนี้ ระหว่างปี 2562 – 2567 บริษัทฯ จัดทำใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน IREC (International Renewable Energy Certificate Standard) ได้รวม 506,455 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) โดยใบรับรอง IREC กำลังมีความสำคัญเพิ่มขึ้นในตลาดโลก เพราะมีกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% (RE100) ซึ่งประกอบด้วย องค์กรระดับโลก เช่น Apple, Google, Microsoft, Ikea ต้องการใบรับรอง เพื่อยืนยันการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นความตื่นตัวระดับองค์กรต่อการใช้พลังงานหมุนเวียน ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น”

บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนการยื่นไฟลิ่งให้ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ต่อ ก.ล.ต. เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.75 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ วัตถุประสงค์เตรียมขยายกิจการและลงทุนในโครงการใหม่ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน คาดกำหนดวันจองซื้อ 11-12 และ 15 กรกฎาคม 2567 และคาดออกขายหุ้นกู้ 16 กรกฎาคม 2567

นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งมากเป็นอันดับ 1 ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ครั้งที่ 1/2567 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 6.75 ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

สำหรับวัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้มาลงทุนขยายกิจการในโครงการพลังงานลม และ พลังงานแสงอาทิตย์ อีกทั้งเตรียมดำเนินการพัฒนาโครงการใหม่ที่มีศักยภาพตามแผนการดำเนินงาน รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ

“ปัจจุบันบริษัทมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งกระแสไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 717 เมกะวัตต์ (MW) โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วทุกโครงการ ล่าสุดบริษัทมีโครงการใหม่ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) กับกฟผ. 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานลมกำลังการผลิต 89.7 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในอีก 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตโครงการละ 89.7 เมกะวัตต์ ซึ่งผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นจากกกพ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนงานพัฒนาโครงการพลังงานไฟฟ้าในต่างประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการกับพันธมิตรท้องถิ่นใน 3 ประเทศที่ได้สำรวจตลาดแล้ว คือ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม รวมถึงศึกษาการพัฒนาโครงการในประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพ จึงต้องเตรียมเงินทุนรองรับการขยายกิจการ และสร้างการเติบโตของรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่จำนวน 15,000 ล้านบาท โดยมีความสามารถการทำกำไรอยู่ในระดับ 40-50% ทุกปี จากล่าสุดปี 2566 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 11,384 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,779 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 52.42%

 

ขณะที่ นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนการยื่นไฟลิ่งและหนึ่งในผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ กล่าวว่า บริษัทยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นกู้บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ต่อ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติจาก ก.ล.ต. โดยคาดว่าจะกำหนดวันจองซื้อในช่วงระหว่างวันที่ 11-12 และ 15 กรกฎาคม 2567 และ คาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2567

สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ WEH ในครั้งนี้ มีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ร่วม จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยมี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ และ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

X

Right Click

No right click