กรุงเทพประกันชีวิตเผยผลดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกปี 2567 กวาดเบี้ยรับรวม 26,400 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ส่วนไตรมาส 3 ปี 67 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 10,315 ล้านบาท มาจากเบี้ยรับปีแรก 1,550 ล้านบาท มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 614 ล้านบาท ประกาศสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ ในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม พร้อมดูแลลูกค้าด้วยความคุ้มครองที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์และบริการที่เป็นเลิศ
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมจำนวน 10,315 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกจำนวนทั้งสิ้น 1,550 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากช่องทางธนาคารที่มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกลดลง โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 614 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมในช่วง 9 เดือนของปี 2567 จำนวน 26,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 จำนวน 2,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 จำนวน 313,594 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ที่ร้อยละ 4 จากการลดลงของสินทรัพย์ลงทุนจากกรมธรรม์ที่ครบกำหนด ทั้งนี้ สินทรัพย์ลงทุนและรายการเทียบเท่าเงินสดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 95 ของสินทรัพย์รวม และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (CAR) ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ร้อยละ 433 ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่กฎหมายระบุไว้ที่ 140% อย่างมีนัยสำคัญ
นายโชน กล่าวว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ ในการมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ To be the Most Caring Life Insurance Company เพื่อขับเคลื่อนองค์กรทำหน้าที่ด้วยความใส่ใจต่อผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัวสิทธิประโยชน์ใหม่ 5 ด้านตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และยกระดับการให้ความคุ้มครองและการบริการแก่ผู้ถือกรมธรรม์ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดอายุสัญญา
“บริษัทฯ ยังได้สร้างความผูกพันธ์กับผู้ถือกรมธรรม์ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดงาน Age of Happiness: Thank You Event for Our Valued Customers เพื่อขอบคุณลูกค้าธนาคารกรุงเทพที่ให้ความไว้วางใจส่งมอบความคุ้มครองเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงินมามากกว่า 20 ปี และ กิจกรรมคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 73 ปี BLA Feel Good Concert รวมไปถึงการพัฒนาบริการและบริการเสริมด้านสุขภาพ ‘BLA EveryCare’ ที่กรุงเทพประกันชีวิตให้มากกว่าความคาดหวังของผู้ถือกรมธรรม์ โดยมีการทำงานร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง” นายโชนกล่าวในที่สุด
กรุงเทพประกันชีวิต ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อขับเคลื่อนองค์กรทำหน้าที่ด้วยความ “ใส่ใจ” ต่อผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม พร้อมเปิดตัวแบรนด์แคมเปญ “ใส่ใจ” สื่อภาพลักษณ์ผ่านปรัชญาการทำงานบนความ “เชื่อมั่นในพลังของความใส่ใจ” ในทุกมิติ เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งด้านความใส่ใจ (The Most Caring Insurance Brand) และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงเป้าหมายในการปรับวิสัยทัศน์ใหม่ขององค์กร เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ ว่า กรุงเทพประกันชีวิตได้ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการใส่ใจมาอย่างยาวนาน และถือเป็นจุดแข็งขององค์กร หลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้นำแนวทางการทำงานอย่างใส่ใจมาใช้ในด้านต่างๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ บุคคลากรของบริษัทรวมถึงตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน และบริการเสริม BLA Every Care ที่ตอบโจทย์ความใส่ใจลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งจากการสำรวจกลุ่มลูกค้า พบว่า เมื่อนึกถึงกรุงเทพประกันชีวิต ลูกค้าต่างพูดถึงเรื่องความใส่ใจมาเป็นอันดับต้น ๆ
“เราเชื่อว่า พลังของการใส่ใจนั้นมีผลต่อแบรนด์กรุงเทพประกันชีวิตอย่างมาก จึงมุ่งหวังให้ กรุงเทพประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งด้านความใส่ใจในทุกมิติ ตั้งแต่ลูกค้า ตัวแทน ที่ปรึกษาทางการเงิน พันธมิตรทางการค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น สังคมและสิ่งแวดล้อม” นายโชนกล่าว
ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่นี้ เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศจากความใส่ใจ เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ถือกรมธรรม์ด้านความมั่นคงในชีวิต ผ่านตัวแทนที่มีความจริงใจ เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการที่ดี และ สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของทุกเจนเนอเรชั่น สำหรับตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงิน เราส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพของทีมงานให้สามารถทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างพลังบวกและการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของการใส่ใจ เพื่อให้ทุกคนสามารถส่งต่อการให้บริการที่ประทับใจไปสู่ลูกค้าอย่างดีที่สุด และสำหรับพนักงาน เราส่งเสริมให้ทุกคนมีความสุข มีความก้าวหน้าและมีความมั่นคงในอาชีพ มีการเพิ่มพูนทักษะให้สามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ เคารพในความแตกต่าง ให้ความเสมอภาค ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
“สิ่งสำคัญคือ ความใส่ใจที่มีต่อสังคม ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ด้านการวางแผนการเงินเห็นประโยชน์ในการทำประกันชีวิตและการมีสุขภาพที่ดีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น และท้ายสุด เราให้การใส่ใจในสิ่งแวดล้อม เราพร้อมจะขับเคลื่อนองค์กร สู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน บริหารจัดการด้านพลังงาน ทรัพยากรน้ำ และ ขยะ ซึ่งทั้งหมดเป็นการสร้างพลังของความใส่ใจและจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้เราเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งด้านการใส่ใจและมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในที่สุด” นายโชนกล่าว
ด้านนางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้บริหารสายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า เปิดเผยถึงแนวคิดการปรับภาพลักษณ์องค์กรในครั้งนี้ว่า มาจากผลการสำรวจเพื่อต้องการหา Insight กลุ่มผู้บริโภคและลูกค้า ที่มีความคาดหวังต่อธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งพบว่าคนแต่ละเจนเนอเรชั่นมีความต้องการที่ไม่เหมือนกันทั้งผลิตภัณฑ์ ช่องทางการขายและการบริการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทุกเจนคาดหวังและต้องการเหมือนกันคือ “ความใส่ใจ” ในบริการหลังการขาย ซึ่งการสื่อสารแบรนด์แคมเปญนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคเห็นความแตกต่างและรับรู้ถึงความใส่ใจได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการขยายการรับรู้ และต้องการเข้าไปมีส่วนช่วยด้านการวางแผนการเงินในช่วงเริ่มต้นวัยทำงาน
“แคมเปญ “ใส่ใจ” ครั้งนี้ จะถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง ซึ่งได้ผลมาจากงานวิจัยที่น่าสนใจ คือ ในยุคที่เทคโนโลยีมีผลกับชีวิตผู้คน ทำให้คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาในการสร้างความสัมพันธ์ผ่านเทคโนโลยี จนละเลย หลงลืม ขาดความผูกพันที่อบอุ่น โดยเรื่องแรก จะสะท้อนความสัมพันธ์ที่เล็กแต่แข็งแรงที่สุด คือ คนในครอบครัว ด้วยความเชื่อที่ว่า พลังของความใส่ใจ ถ้าในสังคมไทยมีให้กันมากพอ จะทำให้ทุกคนมีความสุข ความอุ่นใจและความมั่นใจในการใช้ชีวิต ไม่ว่าสังคมจะพัฒนาด้านเทคโนโลยีไปอย่างไร เรื่องที่ 2 คือ เป็นการนำเสนอบริการเสริมที่ได้มาจากการทำวิจัยจากลูกค้าชื่นชอบ คือ Driving Home และ Home Health Care เป็นการดูแล ใส่ใจลูกค้า หากลูกค้าเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล หรือ มีการต้องพักรักษาตัวต่อที่บ้าน โดยมีกำหนดการเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาในวันที่ 13 พฤศจิกายนศกนี้ ผ่านสื่อ TV, Out Of Home, Online และ KOL” นางสาวอรนาฎกล่าวในที่สุด
กรุงเทพประกันชีวิตคาดหวังว่า แคมเปญใส่ใจนี้จะเป็นแรงกระเพื่อมให้สังคมได้หันกลับมาคิด และเลือกที่จะสร้างความสุขให้ตนเองและคนรอบตัว เมื่อทุกครอบครัวเห็นคุณค่าของการใส่ใจซึ่งกันและกัน ก็จะส่งผลกับระดับสังคมไม่มากก็น้อย ขณะเดียวกัน ในส่วนของกรุงเทพประกันชีวิต ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งดีๆอีกมากเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าด้วยความตั้งใจ เพื่อให้แบรนด์กรุงเทพประกันชีวิตอยู่ในใจผู้บริโภค และ ก้าวสู่การเป็น The Most Caring Insurance Brand ได้ในที่สุด
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติสถานประกอบกิจการดีเด่น ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ประจำปี 2567 ระดับประเทศ ปีที่ 6 ประเภทไม่มีสหภาพแรงงาน กลุ่มสถานประกอบกิจการขนาดใหญ่ จัดโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จากการที่บริษัทฯ มีการบริหารจัดการด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการที่มีมาตรฐานและเหมาะสม และมีการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคงและปลอดภัย รวมถึงพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจ และสร้างความเติบโตให้แก่องค์กรอย่างยั่งยืน
นายโชน โสภณพนิช (ที่ 3 จาก ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และกลุ่มตัวแทนจาก BLA Top 100 Club ร่วมกิจกรรมโครงการ “สานฝันจากพี่สู่น้อง” ปี 2567 ณ โรงเรียนบ้านยางงาม โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมให้เยาวชนไทยเข้าถึงการศึกษา มีพัฒนาการ และสุขภาพที่ดี โดยได้มอบทุนการศึกษา ครุภัณฑ์ ชุดปฐมพยาบาล พร้อมสร้างพื้นที่การเรียนรู้สนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กปฐมวัย ปรับปรุงทัศนียภาพ รวมทั้งติดตั้งระบบน้ำดื่มสะอาด โดยมี นางสาวอัจฉรี สรรพคุณ (ที่ 3 จาก ขวา) ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครูให้การต้อนรับ ณ โรงเรียนบ้านยางงาม อำเภอแกลง จังหวัดระยองเมื่อเร็วๆนี้