LINE BK ผู้นำด้าน Social Banking ของไทย ฉลองครบรอบ 4 ปีแห่งความสำเร็จ พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพลิกโฉมบริการทางการเงินดิจิทัลที่เข้าถึงง่ายและครอบคลุมทุกความต้องการของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการฝาก ถอน โอน ยืม หรือซื้อประกัน ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในแอปพลิเคชัน LINE อย่างครบครัน โดยมีผู้ไว้วางใจใช้งานทุกบริการรวมกว่า 7 ล้านคนทั่วประเทศ ด้านบริการยืมเงินยังเป็นบริการหลักที่ช่วยเหลือคนไทยในทุกช่วงเวลาสำคัญ ปัจจุบันให้วงเงินลูกค้ากว่า 7 แสนคน มียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 21,000 ล้านบาท ภายใต้นโยบายปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและการบริหารพอร์ทหนี้เสียที่ดี
ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด กล่าวว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา LINE BK ได้เปลี่ยนแปลงวงการการเงินดิจิทัลของไทย ด้วยการให้บริการทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน LINE ที่เป็นที่นิยมอันดับ 1 ของคนไทย ในฐานะ Social Banking รายแรกของประเทศ โดยได้สร้างพฤติกรรมใหม่ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีเงินฝาก ถอน โอน สแกนจ่าย QR บริการบัตรเดบิตออนไลน์ บริการขอสินเชื่อ รวมทั้งบริการนายหน้าประกัน
“LINE BK ได้เข้ามาท้าทายความเชื่อเดิมที่ว่าบริการทางการเงินต้องทำผ่านธนาคารเท่านั้น โดยเราต้องการเปลี่ยนเรื่องเงินให้ง่ายและใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น ด้วยการรวมทุกบริการทางการเงินไว้ในแอป LINE แอปแชตอันดับหนึ่งในไทยที่มีผู้ใช้งานกว่า 56 ล้านคน (ข้อมูลล่าสุด มิถุนายน 2567) เราได้ทลายข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างสะดวก ทั้งการทำธุรกรรมการเงินต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปธนาคาร หรือแม้กระทั่งผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือนก็สามารถสมัครขอสินเชื่อกับเราได้”
บริการการเงินที่ครบจบใน LINE
LINE BK มีผู้ใช้บริการมากกว่า 7 ล้านคนทั่วประเทศ โดยกลุ่มอายุที่ใช้บริการมากที่สุด คือ 20-40 ปี คิดเป็น 67% ของลูกค้าทั้งหมด จังหวัดที่มีผู้ใช้บริการสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสมุทรปราการ ตามลำดับ ในส่วนของอาชีพ ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระถึง 42% รองลงมาเป็นพนักงานประจำ 39% และอาชีพอื่น ๆ อีก 19% ขณะที่บริการหลักของ LINE BK ในปัจจุบันยังคงครอบคลุมทุกด้าน รายละเอียดดังนี้
วงเงินให้ยืม
บริการสินเชื่อของ LINE BK ที่เคียงข้างคนไทยทั้งวงเงินให้ยืมและวงเงินให้ยืมนาโน ปัจจุบันมีลูกค้าใช้งานกว่า 7 แสนคน ทั่วประเทศ เฉลี่ยวงเงินสินเชื่อต่อคนประมาณ 44,000 บาท สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของ LINE BK ในการช่วยให้ลูกค้ามีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมา บริษัทฯ บริหารความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ปัจจุบันคุมหนี้เสีย (NPL) ได้อยู่ที่ 3% โดยพอร์ทสินเชื่อมียอดคงค้างกว่า 21,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อที่ปล่อยรวมตั้งแต่เปิดให้บริการสูงกว่า 90,000 ล้านบาท
LINE BK ยังคงมุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อที่เข้าถึงง่ายสำหรับคนทุกกลุ่ม ล่าสุดร่วมมือกับ LINE MAN Wongnai ในการพัฒนาโมเดลสินเชื่อใหม่สำหรับร้านค้าบนแพลตฟอร์ม LINE MAN เพื่อปรับปรุงและเพิ่มโอกาสให้ร้านค้าเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น โดยสามารถเสนอวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมกับยอดขายของร้านค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะเริ่มใช้งานภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เช่น ปรับปรุงระบบเพื่อให้ลูกค้า K PLUS สามารถสมัครสินเชื่อได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดบัญชีเงินฝากใหม่ รวมถึงพัฒนาระบบ AI เพื่อคัดกรองลูกค้าที่มีคุณภาพ ทำให้กระบวนการอนุมัติสินเชื่อมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งจะมีการพัฒนาให้รองรับการส่งเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครสินเชื่อที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ LINE BK ขอแนะนำผู้ใช้บริการสินเชื่อให้กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
เรื่องเงินง่ายใน LINE
LINE BK ยังคงเน้นความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงิน นอกเหนือจากบริการหลักที่ลูกค้าสามารถโอนเงินผ่านแชทหรือสแกนจ่ายด้วย QR Code ได้ง่าย ๆ จากหน้าแชท LINE รวมถึงสามารถเปิดบัญชีเงินฝากและสมัครบัตรเดบิตได้ภายในแอปฯ ช่วยให้ลูกค้าจัดการการเงินได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว ในปีนี้ยังได้พัฒนาระบบเพื่อการใช้งานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น เช่น ปรับหน้าแรกของ LINE BK ให้สามารถเลือกดูข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการก่อนกดสมัครได้ และในปีหน้า LINE BK จะเพิ่มนวัตกรรมที่ผสมผสานโซเชียลกับธุรกรรมการเงิน เพื่อให้การทำธุรกรรมผ่านบัญชีง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีใหม่มาช่วยให้ลูกค้าจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลูกค้าจะได้ใช้บริการการเงินที่ล้ำหน้าและทันสมัย โดยไม่ต้องรอการเปิดตัวของ Virtual Bank ใหม่ ๆ
ประกันแพ็กเล็กเพื่อลูกค้าตัวเล็ก
หลังจากเปิดตัว บริษัท กสิกร ไลน์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ในปี 2566 LINE BK เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพได้สะดวกและเป็นราคาที่เข้าถึงง่าย โดยเฉพาะกลุ่มคนตัวเล็ก เช่น ฟรีแลนซ์และลูกจ้างที่ยังไม่มีประกัน โดยแบบประกันที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ "ประกันผู้ป่วยนอกเบาเบา" ให้ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก และประกันโรคร้ายเจอจ่ายซึ่งมีจุดเด่นที่สามารถซื้อความคุ้มครองแยกตามความต้องการได้ทำให้ค่าเบี้ยประกันถูกลง โดยแผนมะเร็งเป็นแผนที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดในกลุ่มโรคร้ายแรง ทั้งนี้ จากสถิติพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงถึง 53% อยู่ในช่วงอายุ 25-34 ปี
โดยที่ผ่านมา LINE BK เป็นช่องทางออนไลน์ที่ขายประกันสุขภาพได้เป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ๆ ของพาร์ทเนอร์อย่างเมืองไทยประกันชีวิต ทำให้ LINE BK และ เมืองไทยประกันชีวิต ได้รับรางวัลนวัตกรรมผู้ประกันตน (Insurer Innovation Awards) จากเวที The World’s Digital Insurance Awards 2024 ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการซื้อประกันผ่าน LINE BK ที่เข้าถึงง่าย ตอบโจทย์กลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง โดยใช้ข้อมูลและประสบการณ์ลูกค้าแบบครบวงจรผ่านแพลตฟอร์ม LINE ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายสูงสุดในการซื้อประกัน
และในเดือนนี้ (ตุลาคม 2567) LINE BK ได้เปิดตัว 2 แบบประกันใหม่ “ประกันชีวิต มีหนี้ไม่มีห่วง” เป้าหมายหลัก คือ ลูกค้าสินเชื่อของ LINE BK รวมถึงบุคคลที่กังวลเรื่องภาระหนี้ และต้องการมีหลักประกันให้คนข้างหลังในวันที่ตนเองไม่อยู่ และ “ประกันออมทรัพย์ ออมใจ 11/5” ที่เน้นการออมเงินพร้อมได้ความคุ้มครองชีวิต จ่ายเบี้ยระยะสั้น 5 ปี แต่คุ้มครองยาวถึง 11 ปี
แผนและเป้าหมาย
ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 5 LINE BK ยังคงมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยนอกจากการขยายบริการด้านสินเชื่อที่เข้าถึงง่ายและตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มรายย่อยแล้ว บริษัทฯ ยังเน้นการพัฒนาบริการที่ครอบคลุมทุกมิติของการเงิน ทั้งออมและการประกันภัย ซึ่งทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และช่วยให้ทุกคนสามารถจัดการการเงินได้ครบวงจรผ่านแพลตฟอร์มเดียว ความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการเพื่อลูกค้าภายใต้นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยนี้จะช่วยให้ LINE BK สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน และมีบทบาทสำคัญในวงการการเงินดิจิทัลของไทยต่อไป
*คำแนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อ: กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว ดอกเบี้ยวงเงินให้ยืม 18%-25% ต่อปี ดอกเบี้ยวงเงินให้ยืมนาโน 33% ต่อปี
**คำแนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัย: LINE BK Insurance Broker ในฐานะนายหน้าประกันภัย รับประกันภัยโดย บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ในยุคที่คอมมิวนิตี้ออนไลน์กำลังมาแรง เกิดการรวมตัวของผู้คนที่มีความสนใจเดียวกันเพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยจะเห็นได้จากการจัดตั้งกลุ่มความสนใจต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์ม LINE ที่มีฟีเจอร์ LINE OpenChat คอมมิวนิตี้ออนไลน์ แหล่งรวมความสนใจที่หลากหลายให้ผู้คนที่มีความสนใจและมีความชอบในเรื่องเดียวกัน เข้ามาพูดคุยกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีกลุ่มความสนใจต่างๆ มากกว่า 21 ความสนใจให้ผู้ใช้งานได้เลือกเข้าร่วม
LINE OpenChat ได้เปิดให้บริการมากว่า 5 ปี ได้รับความนิยมต่อเนื่อง และยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจุดเด่นที่ทำให้ใครที่ได้ลองใช้บริการเป็นต้องติดใจ เพราะสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับสมาชิกในกลุ่มได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน ดังนั้นไม่ว่าจะมีความชอบที่หลากหลายแค่ไหน ก็เป็นตัวของตัวเองได้แบบไม่สะดุด
LINE OpenChat ได้รับการยอมรับว่าเป็นคอมมิวนิตี้ออนไลน์ที่อิมแพ็กสูง จนขึ้นแท่นเป็นช่องทางเนื้อหอมในหมู่ศิลปินดารา คนดังจากหลากหลายวงการ อาทิ แวดวงนางงาม นักการเมือง เกมเมอร์ ไปจนถึง เหล่าครีเอเตอร์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่ต้องการขยายฐาน และสร้าง Engagement กับแฟนคลับ ล้วนตบเท้าเข้ามาเปิดด้อมอยู่ในจักรวาล LINE OpenChat จนก่อให้เกิดปรากฏการณ์ชวนแฟนคลับเข้าด้อม ที่กลายเป็นศัพท์ฮิต อินเทรนด์บนโลกออนไลน์
ที่สำคัญแวะเข้า LINE OpenChat เมื่อไหร่ไม่ต้องกลัวเหงา หรือไม่มีเพื่อนคุย เพราะคอมมิวนิตี้แห่งนี้ คึกคักอยู่ตลอด ด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่มากกว่าเดือนละ 20 ล้านคน หรือคิดเป็นเป็นราว 1 ใน 3 ของผู้ใช้งาน LINE
อย่างไรก็ตาม นอกจาก LINE OpenChat จะเป็นเหมือนจุดรวมพลของคนที่มีความชอบและความสนใจคล้ายๆ กัน เป็นเหมือนสเปซที่ทำให้ศิลปิน คนดัง และเหล่าแฟนคลับได้มาพบปะ พูดคุยได้อย่างใกล้ชิด ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา LINE OpenChat ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงของสังคม ผ่าน 5 บทบาทในฐานะตัวกลางในการเชื่อมโยงทุกความสนใจคนไทยให้มีความหมายในด้านต่างๆ ได้แก่
เชื่อมจักรวาลวัยเรียน พร้อมไขทุกคำถามคาใจ
LINE OpenChat ไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วยบริหารจัดการห้องเรียนออนไลน์ แต่ยังเป็นคอมมิวนิตี้ ที่พร้อมเชื่อมต่อทุกเรื่องในวัยเรียนอย่างครบเครื่อง แทนที่จะต้องนั่งหาความรู้เองในโลกอินเตอร์เน็ต หรือ รอปรึกษาครูแนะนำในการเรียนต่อ หรือ หาคนช่วยติวข้อสอบ แค่กดเข้ากลุ่ม LINE OpenChat เลือกหัวข้อที่ตอบโจทย์ เช่น กลุ่มติวเตรียมสอบ กลุ่มให้คำปรึกษาเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือ การเลือกคณะ ก็เหมือนมีที่ปรึกษาส่วนตัว และมีเพื่อนที่หัวอกเดียวกัน มาช่วยฮีลใจ
ไม่เฉพาะวัยว้าวุ่นอย่างช่วงมัธยม พอเข้ารั้วมหาลัยวิทยาลัยแล้ว LINE OpenChat ก็ยังพร้อมเชื่อมต่อไปสู่การหาเพื่อนใหม่ หรือ รุ่นพี่ ที่พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่เรื่องซีเรียสอย่างเรื่องเรียน หาทุน หรือการวางแผนไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปจนถึงเรื่องรอง อย่างการหาหอ หรือหาแหล่งของกินอร่อยรอบๆ รั้วมหาวิทยาลัย
เชื่อมเหล่าแฟนด้อม ผูกมิตรคนแปลกหน้าสู่เพื่อนที่เข้าใจกัน
จุดแข็งของ LINE OpenChat คือ นอกจากจะเป็นพื้นที่สานฝันชีวิตแฟนคลับให้คอมพลีต ในฐานะศูนย์รวม “ด้อม” คนดังจากแทบทุกวงการ ได้มาพูดคุยอัปเดตตารางงานศิลปินคนโปรด แชร์รูป แชร์คลิป หรือชวนกันไปสนับสนุนศิลปิน ด้วยการอุดหนุนตั๋วคอนเสิร์ตหรือสินค้าต่างๆ ก็สามารถทำได้ครบจบในที่เดียว LINE OpenChat ยังเป็นเวทีแจ้งเกิดให้เหล่า Creator หน้าใหม่ที่ต้องการสร้างตัวตน ด้วยการสร้างด้อมของตัวเองได้ง่ายๆแค่ปลายนิ้ว อย่างล่าสุด จูเนียร์ - ภาคิน กาญจนจูฑะ พ่อค้าไทป์หมาเด็ก ที่แจ้งเกิดจากไลฟ์ขายเสื้อมือสอง จนตกเหล่าพี่ชายพี่สาวที่ไม่เพียงมาแย่งกัน CF สินค้า แต่ยังตกเข้าด้อมไว้อัพเดตผลงาน และพูดคุยเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งข้อดีของ “การเข้าด้อม” นอกจากจะทำให้เหล่าแฟนคลับใจฟู ยังเปิดโอกาสไปสู่การสร้างมิตรภาพใหม่ ของคนที่มีความชอบคล้ายกันอีกด้วย
เชื่อมโยงความรู้หลากหลาย รวมพลังคำแนะนำช่วยซ่อมทั้งกายใจ
ในยุค ‘Health is the New Wealth’ ใครๆ ก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจ LINE OpenChat จึงเป็นอีกช่องทาง ที่เหล่าคนรักสุขภาพมารวมตัวกัน เพื่อดูแลสุขภาพกายและใจ กลุ่มสุขภาพใน LINE OpenChat จึงเป็นเหมือนจุดนัดพบของเหล่ากูรูด้านสุขภาพ นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมแชร์ความรู้และเทคนิคดีๆ แบบไม่มีกั๊ก ตั้งแต่ปัญหาสุขภาพทั่วไป หรือคนที่ป่วยเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็ง ก็มีกลุ่มที่พร้อมฮีลกายและใจ ไปจนถึงกลุ่มคนที่ใจพัง มีปัญหาสุขภาพจิต
ที่น่าสนใจ คือ แม้จำนวนห้อง OpenChat กลุ่มสุขภาพจะไม่เยอะมาก แต่กลับเป็นกลุ่มที่สมาชิกค่อนข้างแอกทีฟ มีส่วนร่วมในการสนทนาเพิ่มขึ้นจาก จากปี 23 มากถึง 31% และยังมีตัวเลขสมาชิกใหม่ เพิ่มขึ้นถึง 13% โดยข้อมูลที่นิยยมมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันมักเป็นข้อมูลเชิงลึกจากผู้มีประสบการณ์ โดยเฉพาะห้องแม่และเด็กกับวัคซีน เป็นคลังข้อมูลชั้นดีที่เหล่ามนุษย์แม่ไม่ควรพลาด
เชื่อมนักเดินทางทุกวัย ชวนกันไปแตะขอบฟ้า สู่หมุดหมายใหม่ที่น่าจดจำ
แทนที่จะมัวอ่านรีวิว หลายคนเลือกเก็บ Bucket list หรือหาที่เที่ยวน่าไปจาก LINE OpenChat ที่พร้อมตอบโจทย์เหล่านักเดินทางขั้นสุด ที่แค่กดเข้ากรุุ๊ป ก็อยากลุกไปจัดกระเป๋า เพราะมีกลุ่มที่พร้อมป้ายยา อัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวชิคๆ น่าจะไปเช็กอิน ตอบโจทย์ทั้งสายชิล ชอบเช็กอินแหล่งท่องเที่ยวปังๆ ไปจนถึงขาลุยชอบเดินป่าหรือโรดทริป ก็มีกลุ่มที่พร้อมแชร์ประสบการณ์และให้คำแนะนำว่าควรเตรียมตัวอย่างไร เลือกรถยี่ห้อไหน หรือรุ่นใด ส่วนใครที่สายโซเชียล ควักกระเป๋าไปเที่ยวทั้งที ต้องได้รูปจึ้งๆ ก็มีกลุ่มที่พร้อมแนะนำที่เด็ด มุมปัง หรือถ้าอยากหาเพื่อนเที่ยว เพื่อนมู ทัวร์ไหว้พระ ก็หาได้ผ่าน LINE OpenChat
เชื่อมทุกอินไซต์ของลูกค้า ส่งตรงถึงแบรนด์ แบบไม่ต้องเสียเวลาเดาใจ
หมดยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่นี่คือยุคปลาเร็ว กินปลาช้า ใครที่ทำการตลาดโดนใจลูกค้าที่สุด คือ ผู้ชนะ แต่จะคว้าใจลูกค้าได้ก็ต้องรู้ใจลูกค้าก่อน ซึ่ง LINE OpenChat คือ ช่องทางสุดปังที่ทำให้แบรนด์เหมือนได้เปิดบ้านต้อนรับลูกค้า เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นและฟีดแบ็กตรงถึงแบรนด์ เพื่อให้แบรนด์นำไปแก้ไขหรือต่อยอดการทำการตลาดเพื่อรับรู้ความต้องการและฟีดแบ็กของลูกค้าอย่างตรงจุดที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ‘ด้อมน้องเนย’ ที่ ‘ทำถึง’ ในทุกความเคลื่อนไหวจน ‘ได้ใจ’ แฟนคลับไปเต็มๆ รวมถึง เวทีประกวดความงามต่างๆ ที่นำความคิดเห็นดีๆ ไปพัฒนาเวที สร้างสรรค์การประกวดให้เข้มข้น สนุกยิ่งขึ้น แถมแบรนด์ยังได้อินไซต์ดีๆ ไปต่อยอดการทำการตลาดแบบปังๆ ได้แบบเต็มอิ่มครบทุกมิติ
นอกจาก 5 บทบาทในการเชื่อมทุกความสนใจ ให้มีความหมาย LINE OpenChat ยังเป็นชุมชนในการเชื่อมทุกความรู้ผ่านกูรูด้านต่างๆ เรียกว่าต่อไปนี้ ไม่ว่าสงสัยอะไร ลองกดเข้า LINE OpenChat ก็มีโอกาสได้ปรึกษากูรูด้านต่างๆ หรือถือโอกาสเก็บประสบการณ์จากคนอื่นๆ เพราะ LINE OpenChat มีครบตั้งแต่ห้องแชร์ประสบการณ์การใช้งานสินค้าต่างๆ ห้องให้คำแนะนำด้านการลงทุน การเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ทั่วไป สัตว์เลี้ยงเอ็กโซติก หรือใครที่อยากหาบ้านให้น้องหมา-แมว ห้องแชร์สูตรอาหารการกิน ห้องหาเพื่อนเล่นกีฬา ไปจนถึงห้องที่ไม่คิดว่าจะมี อย่างห้องแชร์ประสบการณ์สารพัดการสอบประเภทต่างๆ เช่น สอบข้าราชการ สอบครู
ด้วยความครบเครื่องนี้เอง ทำให้ LINE OpenChat ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ใช้งานที่เติบโตอย่าก้าวกระโดด สำหรับห้อง OpenChat ที่มีสมาชิกมากกว่าพันคน และแอดมินมีการจัดการที่ดี จะสามารถได้รับการรับรองว่าเป็น Super Openchat หรือหากเป็นด้อมที่ศิลปิน ดารา KOL เจ้าของห้องเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง ก็จะได้รับ Official Badge เครื่องหมายการันตีว่า ห้อง OpenChat นั้นเป็นคอมมิวนิตี้หลัก และเป็นโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้เข้ามาพูดคุยและแลกเปลี่ยนเรื่องราวในคอมมิวนิตี้ใกล้ชิดกับศิลปินกันอย่างเต็มที่
เรียกได้ว่า LINE OpenChat ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มคอมมิวนิตี้ออนไลน์ ที่ไม่ใช่แค่ทำถึง แต่ยังครบเครื่อง พร้อมเชื่อมต่อทุกความสนใจให้มีความหมายอย่างแท้จริง งานนี้ สำหรับใครที่อยากเปิดโลกใหม่ ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในคอมมิวนิตี้ที่ใช่ โอกาสอยู่แค่ปลายนิ้ว เพียงเข้าแอปพลิเคชัน LINE แล้วกดเลือก OpenChat จะพบว่าไม่ว่าจะมีความชอบหรือความสนใจแบบไหน ก็สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ผ่าน LINE OpenChat #ครบรอบ5ปีโอเพนแชท #ด้อมดีๆยังมีอีกเยอะ
ธุรกิจการเงินและประกันเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นและความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในบริการทางการเงิน ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้ แพลตฟอร์ม LINE ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของธุรกิจกลุ่มนี้ในการสื่อสาร ทำการตลาด ไม่เพียงเพราะความสามารถในการเข้าถึงคนไทยจำนวนมาก แต่ยังมีโซลูชันหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าคนไทย พร้อมข้อมูลอินไซด์มากมาย เพื่อให้ภาคธุรกิจได้นำมาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนการเติบโต ล่าสุด LINE ประเทศไทย ได้จัดงาน Insight Sharing อัปเดตเทรนด์สำคัญในการใช้เทคโนโลยี LINE สำหรับธุรกิจการเงินและประกันโดยเฉพาะ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก LINE ประเทศไทย นำโดย คุณพันพิศุทธิ์ เอี๊ยเจริญ (ในรูป-กลาง) หัวหน้าทีมที่ปรึกษาธุรกิจการเงินและประกัน LINE ประเทศไทย พร้อมด้วย คุณราชัน รัชนิวรากรกุล (ในรูป-ซ้าย) และคุณภาคิณ ฤทธิ์คำรพ (ในรูป-ขวา) ที่ปรึกษาธุรกิจการเงินและประกัน LINE ประเทศไทย มาร่วมให้ข้อมูล
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทรนด์การใช้ LINE ของกลุ่มธุรกิจการเงินและประกันในไทยพัฒนาไปอย่างมาก จากในระยะเริ่มต้น ที่เน้นใช้งานเครื่องมือหลักอย่าง LINE OA เพื่อสื่อสารทางเดียวในรูปแบบการบรอดแคสต์หาลูกค้าจำนวนมาก ด้วยคอนเทนต์เดียวกัน สู่ยุคแห่งการสร้างสรรค์การสื่อสารแบบ Personalized เฉพาะกลุ่ม เฉพาะบุคคลมากขึ้น ด้วยอัตราการเติบโตของจำนวนข้อความรูปแบบดังกล่าว ในช่วงปี 2022-2023 เกิน 130% และการสื่อสารแบบสองทางผ่านแชตบอท ด้วยอัตราการเติบโตของแชตบอทเกิน 82% ชี้ให้เห็นว่า LINE กลายเป็นศูนย์กลางการสื่อสาร การให้บริการลูกค้าแต่ละบุคคลได้อย่างครบครัน โดยสรุปเป็นภาพรวมความเคลื่อนไหวการใช้งานเครื่องมือดิจิทัลบน LINE สำหรับธุรกิจการเงินและประกันได้เป็น 4 เทรนด์ใหญ่ ดังนี้
1) เชื่อมต่อ LINE OA ด้วย API เพื่อสื่อสาร ให้บริการแบบ Personalized
หลากหลายแบรนด์มีการเชื่อมต่อ LINE OA กับระบบต่างๆ ที่ตนเองมีอยู่ผ่าน LINE API นอกจากเพื่อเสริมสร้าง ต่อยอดประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าใน LINE OA ให้ครบครัน ครอบคลุมและหลากหลายแล้ว ยังช่วยให้แบรนด์ได้รับข้อมูลส่วนตัวจากลูกค้าโดยตรง ด้วยเงื่อนไขที่ลูกค้าจำเป็นต้องผูกบัญชีและ Verify ตัวตนเบื้องต้นก่อนใช้งาน โดยแบรนด์สามารถนำข้อมูลดังกล่าว รวมถึง User ID ของลูกค้าที่ได้ มาร่วมจำแนก จัดเป็นกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป เพื่อเลือกสื่อสาร นำเสนอคอนเทนต์ และบริการแบบ Personalized ให้ลูกค้าแต่ละคน แต่ละกลุ่ม ได้ตรงใจ ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การบรอดแคสต์ข้อความแบบ Narrowcast ตามกลุ่มลักษณะของลูกค้าที่แบรนด์ได้แบ่งกลุ่มไว้ การบรอดแคสต์ข้อความแบบ Multicast ถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่โดยอาศัยข้อมูล User ID ที่แบรนด์ได้มา รวมไปถึงการส่งข้อความแชต 1:1 หาลูกค้าเป้าหมายรายบุคคล เป็นต้น ซึ่งการส่งข้อความแบบ Personalized เช่นนี้ ย่อมทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นที่น่าประทับใจ ลูกค้าได้รับข้อมูลตรงความสนใจ ลดอัตราการบล็อค LINE OA ไปด้วยในตัว จึงกลายเป็นที่นิยมของหลากหลายแบรนด์ในกลุ่มธุรกิจนี้ ด้วยอัตราการบรอดแคสต์ข้อความแบบ Narrowcast และ Multicast ในปี 2024 เติบโตจากปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่า
2) ทำ Data Utilization ใช้ประโยชน์จากข้อมูลหลายแหล่งที่มา
ธุรกิจกลุ่มการเงินและประกันในไทย ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่ใช้ดาต้าเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้งานเครื่องมือ Business Manager ในการรวมทุกข้อมูลจากหลากหลายแหล่งที่มาไว้ในถังข้อมูลเดียวกัน เพื่อให้แบรนด์สามารถนำมาบริหารจัดการร่วมกัน และดึงมาใช้เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าในการสื่อสาร ทำการตลาดแบบ Cross-Targeting บน LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าที่เกิดขึ้นบน LINE OA เช่น การคลิกข้อความบรอดแคสต์หรือริชเมนู ข้อมูลที่ได้จากการติด Tag ฯลฯ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นต่อโฆษณาบน LINE เช่น การรับชม การคลิกโฆษณา ทั้งโฆษณาที่มาจากระบบประมูลผ่าน LINE Ads และโฆษณาในตำแหน่ง Smart Channel และ Master Banner เป็นต้น อีกทั้งแบรนด์ยังสามารถเพิ่มข้อมูล 1st Party Data เดิมที่แบรนด์มี เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ User ID มาร่วมเก็บไว้ในถังข้อมูลเดียวกัน เพื่อวิเคราะห์แบ่งกลุ่มร่วมกันได้อีกด้วย โดยจากผลทดสอบ การใช้ Business Manager สำหรับทำการตลาดแบบ Cross-Targeting บน LINE สามารถช่วยเพิ่ม CTR ได้มากถึง 1.46 เท่า และหากมีการใช้ข้อมูล 1st Party Data ร่วมด้วย จะช่วยเพิ่มผล CTR สูงถึง 1.76 เท่าเลยทีเดียว จึงทำให้กลุ่มธุรกิจการเงินและประกันในไทย เริ่มมีการเปิดใช้งาน Business Manager ในปีนี้เพิ่มมากขึ้นจากปี 2023 ถึง 90% และ 90% ของกลุ่มดังกล่าว เน้นความต้องการดึงข้อมูลพฤติกรรมต่อโฆษณาบน LINE เป็นสำคัญ
3) เสริมความมั่นใจ คงความปลอดภัยในการแจ้งเตือนด้วย LINE Official Notification (LON)
การแจ้งเตือนจากกลุ่มธุรกิจการเงินและประกัน มักเกี่ยวเนื่องกับข้อมูลสำคัญเชิงธุรกรรม จึงต้องการความปลอดภัยสูงในการสื่อสาร LON คือ โซลูชั่นการส่งข้อความแจ้งเตือนแบบอัตโนมัติ ที่แบรนด์สามารถส่งหาลูกค้าด้วยระบบของ LINE ผ่านฐานข้อมูลที่เป็นเบอร์โทรศัพท์ โดยจะแสดงผลผ่าน LINE OA ของแบรนด์ดังกล่าว นับเป็นเครื่องมือใหม่จาก LINE ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยในทุกการแจ้งเตือนจากแบรนด์สู่ลูกค้าได้ พร้อมเสริมความมั่นใจให้ลูกค้าไร้ความกังวลในการเปิดอ่าน โดยผลการใช้งานจริงจากธุรกิจโบรกเกอร์ชั้นนำอย่าง ‘หยวนต้า’ พบว่าการใช้งาน LON ช่วยประหยัดงบประมาณในการส่งข้อความ SMS ลดลงกว่า 80% พร้อมอัตราการส่งข้อความสำเร็จที่สูงขึ้นถึง 47.29% สะท้อนถึงประสิทธิภาพของโซลูชั่น LON ที่ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจนี้ได้เป็นอย่างดี จนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยสัดส่วนข้อความแจ้งเตือน LON ที่ถูกส่งโดยกลุ่มธุรกิจนี้สูงถึง 37% ของจำนวนข้อความแจ้งเตือน LON ทั้งหมด นับว่าเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจอื่นที่มีการเปิดใช้งาน LON
4) สร้างการรับรู้ผ่านโฆษณาบน LINE สู่ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้
ผลลัพธ์และประสิทธิภาพของเครื่องมือดิจิทัลที่วัดผลได้ชัดเจน เป็นสิ่งที่กลุ่มธุรกิจการเงินและประกันให้ความสำคัญ โดยกลุ่มธุรกิจนี้ นับเป็นกลุ่มธุรกิจที่ลงทุนในโฆษณาผ่าน LINE Ads มากที่สุดในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความคุ้มค่าในเม็ดเงินลงทุน โดยวัตถุประสงค์ 3 อันดับแรกของการใช้งาน LINE Ads สำหรับกลุ่มธุรกิจนี้ คือ Website Conversion 45% การเข้าชมเว็บไซต์หรือ Website Visit 30% และ Smart Channel Custom 11% พร้อมค่าเฉลี่ยผลลัพธ์การใช้งาน LINE Ads อันโดดเด่นจากกลุ่มธุรกิจนี้ (ณ เดือนก.ค. 2567) อาทิ ต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้งหรือ CPM 16 บาท ต้นทุนต่อการคลิกหรือ CPC 2.20 บาท อัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็นหรือ CTR 0.57% เป็นต้น เมื่อมีมาตรฐานการชี้วัดผลลัพธ์ที่ชัดเจน LINE Ads จึงถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การใช้งานดิจิทัลบน LINE ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มธุรกิจนี้เช่นกัน
ธุรกิจการเงินและประกันถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่เป็นผู้นำในด้านการใช้งานเทคโนโลยีในประเทศไทย เป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่มีการใช้งาน LINE เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดย LINE พร้อมเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนให้กลุ่มธุรกิจนี้เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตลาดดิจิทัลไทยในภาพรวมได้เทียบเท่าระดับสากล กลุ่มธุรกิจธนาคารและประกัน ที่สนใจใช้งานแพลตฟอร์มหรือโซลูชั่นต่างๆ บน LINE สามารถกรอกแบบฟอร์มเพื่อติดต่อสอบถามทีมที่ปรึกษาธุรกิจองค์กร LINE ประเทศไทยได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/contact หรือติดต่อสอบถามเอเจนซี่ที่ดูแลแบรนด์ของท่านได้ทันที หรือเลือกติดต่อพันธมิตรเอเจนซี่ของ LINE ได้ที่ https://lineforbusiness.com/th/partner
ท่ามกลางการแข่งขันที่ท้าทายในตลาดออนไลน์ การทำความรู้จักพฤติกรรมลูกค้า และการมองหาช่องทางการขายใหม่ ๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญ LINE SHOPPING ผู้ให้บริการโซเชียลคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งของไทย เปิดอินไซต์นักช้อปออนไลน์ที่ร้านค้าควรรู้ พร้อมอัปเดตเทรนด์พฤตกรรมนักช้อปบน LINE SHOPPING ที่จะช่วยให้ไม่พลาดทุกโอกาสการขาย และวิธีสร้างฐานลูกค้าด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ด้วยค่าธรรมเนียมการใช้บริการที่ถูกกว่า
LINE SHOPPING ยังคงเป็นขวัญใจของเหล่าสาวนักช้อปอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้งานหญิงครองสัดส่วนถึง 75% โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 20 - 34 ปี ที่มีการซื้อขายอย่างคึกคัก รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 35 - 44 ปี ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มวัยทำงานและมีกำลังซื้อสูง เวลาที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่นิยมเข้ามาช้อปปิ้ง คือ วันอังคารและวันพุธ ระหว่างเวลา 10:00 - 12:00 น. ทำให้ร้านค้าที่มี LINE OA และเปิดขายแอคทีฟ (Active)ในช่วงเวลานี้ อาจเพิ่มโอกาสในการปิดการขายที่เร็วขึ้นและกระตุ้นยอดขายได้สูงขึ้น ผ่านการพูดคุยและออกออเดอร์ผ่านแชทที่รวดเร็วได้ใจลูกค้า
หมวดหมู่สินค้าที่ครองใจนักช้อปสาวสุดอินเทรนด์บน LINE SHOPPING ต้องยกให้หมวดสุขภาพและความงาม รวมไปถึงหมวดแฟชั่น ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ดูแลผิว เครื่องสำอาง หรือเสื้อผ้าแฟชั่นที่สาว ๆ ชอบอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ และอีกหนึ่งหมวดสินค้าที่มีอัตราการเติบโตถึง 5% จากปีที่แล้ว ได้แก่ หมวดแม่และเด็ก โดยมียอดขายกว่า 6 แสนออเดอร์ในปีที่ผ่านมา
LINE SHOPPING ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้าคนดังของศิลปิน ดารา และอินฟลูเอนเซอร์มากมาย ที่เหล่าแฟนคลับต่างพากันมาอุดหนุนสินค้า แย่งชิงของเอ็กซ์คลูซีฟมาครองในตะกร้า โดยเฉพาะร้านค้าหมวดอาหารที่มาแรงแซงทางโค้งจากกระแสในโซเชียลมีเดีย อาทิ ร้าน Nie & Ivan ของ “เนเน่ พรนับพัน” ที่ยอดออเดอร์เค้กทุเรียนและเค้กลอดช่องทะลักยาวข้ามเดือน, ร้านมาการอง Souri ของ “วิน เมธวิน” ที่สามารถสั่งเป็นเช็ตของขวัญสุดคิ้วท์ที่ส่งให้เพื่อนได้ทุกเทศกาล และร้าน Pop Monsters ป๊อปคอร์นหลากรสของ “โอ๋ ภัคจีรา” ที่เป็นขวัญใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าหมวดไลฟ์สไตล์ของบ้านแฟนด้อมทั้งในและต่างประเทศ ที่ได้รับความนิยมสูงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น เทพลีลา, Rubsarb, VELENCE, Astro Stuffs, hometomyheart หรือ GMMSHOPS สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้ใช้ที่มีความเป็นแฟนคลับอันเหนียวแน่น และพร้อมยินดีจ่ายให้กับสินค้าพิเศษเอ็กซ์คลูซีฟ ทำให้ LINE SHOPPING เหมาะสำหรับร้านค้าที่ขายสินค้าแบบเน้นความ exclusive ต่อฐานแฟนคลับที่มีอยู่ และรวมไปถึงร้านค้าที่ต้องการต่อยอดสร้างฐานแฟนคลับเป็นของตัวเอง
ในปี 2024 มีผู้ใช้ LINE POINTS เพื่อซื้อสินค้ารวมแล้วกว่า 14 ล้านพอยท์ หรือเทียบเท่ากับ 14 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้งาน LINE SHOPPING อีกกว่า 150,000 คน ที่ได้รับ LINE POINTS แล้วเลือกกลับไปช้อปเพิ่มอีกกว่า 9 ล้านพอยท์
LINE SHOPPING รวมฟีเจอร์ไม้ตายช่วยเพิ่มฐานลูกค้า ด้วยต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า
LINE SHOPPING มีฟีเจอร์ช่วยสร้างฐานลูกค้าให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ LIVE, การบรอดแคสต์บน LINE OA, ระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้าหลังบ้าน หรือแม้แต่คูปองส่วนลดที่เป็นเครื่องมือหนึ่งในการพิชิตใจทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ รวมทั้งยังช่วยสร้างความ Loyalty ที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ได้ ซึ่งจากข้อมูลของบริษัทฐานข้อมูลการตลาด Acxiom พบว่า ผู้บริโภคกว่า 72% เต็มใจพร้อมที่จะภักดีต่อแบรนด์หากได้รับข้อเสนอส่วนลด นอกจากนี้ LINE SHOPPING ยังให้ความสำคัญกับการช่วยลดต้นทุนให้ร้านค้า คิดค่าธรรมเนียมการใช้บริการอย่างเป็นมิตรและคิดตามจริง โดยแบ่งเป็นค่าธรรมเนียมธุรกรรมการเงิน (Transaction Fee) 3% และค่าธรรมเนียมการใช้บริการ (Service Fee) 3% เฉพาะคำสั่งซื้อจากช่องทาง สื่อ และแคมเปญ LINE SHOPPING ซึ่งโดยรวมป็นอัตราที่ต่ำกว่าท้องตลาด จึงช่วยให้ร้านค้ามีกำไรเพิ่มขึ้น และสำหรับร้านค้าที่สนใจเพิ่มช่องทางขายเป็นของตัวเอง พิเศษ! เพียงเปิดร้านกับ LINE SHOPPING วันนี้ ฟรีส่วนลดค่าธรรมเนียมการชำระเงิน 0% นาน 30 วัน