Spacely AI สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มที่นำ Generative AI มาช่วยในการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในที่ได้รับการลงทุนระดับ Pre-Seed จาก SCB 10X บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ซึ่งเป็นการสนับสนุนเป้าหมายของ Spacely AI ที่ต้องการสร้างโอกาสในการออกแบบให้กับทุกคน และมุ่งหวังเป็นแพลตฟอร์มหลักในอุตสาหกรรมการออกแบบเชิงพื้นที่ สอดรับกับยุทธศาสตร์ของกลุ่ม SCBX ในการมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาด้านเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

 นางมุขยา (ใต้) พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และ Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า "SCB 10X มีความภูมิใจที่ได้สนับสนุน Spacely AI เพื่อปลดล็อกความสามารถในการออกแบบด้วยความก้าวหน้าของ visual-based generative AI และเพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์แก่นักออกแบบให้ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของเทคโนโลยีนี้ โดย SCB 10X ร่วมสนับสนุน Spacely AI ทั้งด้านกลยุทธ์และการพัฒนาให้แก่แพลตฟอร์ม รวมถึงความพยายามในการผลักดัน Spacely AI ไปสู่วงการการออกแบบทั่วโลก"

 นายพารวย อันอดิเรกกุล Chief Executive Officer Spacely AI กล่าวว่า "การสนับสนุนจาก SCB 10X ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลงทุนทางธุรกิจ แต่เป็นความร่วมมือที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในการพัฒนาวงการการออกแบบเชิงพื้นที่ และยังเน้นย้ำถึงความเชื่อร่วมกันในศักยภาพของ Generative AI ในการเปลี่ยนแแปลงมาตรฐานของการออกแบบระดับโลก"

Spacely AI กำลังขยายฐานผู้ใช้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 170 ประเทศทั่วโลก และยังได้รับการยอมรับจากสตาร์ทอัพคอมมูนิตี้ระดับสากล จากการชนะรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากรายการ “LabLab Stable Diffusion Hackathon 2023” ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 2,600+ ทีมทั่วโลก และได้รางวัลรองอันดับ 2 จากรายการ “Tech in Asia 2023 Regional Startup Competition” ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันกว่า 200 ทีม

Spacely AI ได้สร้างผลงานด้วยระบบ AI ไปแล้วมากกว่า 1,000,000 รูป มีผู้ใช้กว่า 120,000 คนทั่วโลก และยังมีการพัฒนาฟีเจอร์การใช้งานอย่างต่อเนื่องกว่า 12 รายการ มีธีมห้องให้ผู้ใช้เลือกใช้กว่า 100 สไตล์ พร้อมรูปแบบห้องและพื้นที่มากกว่า 100 ประเภท ตั้งแต่ภายในไปจนถึงภายนอกอาคาร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการออกแบบเชิงพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน Spacely AI มีการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านการตกแต่งบ้านและอสังหาริมทรัพย์อย่าง Index Living Mall และ Proud Real Estate ซึ่งเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของ Spacely AI

 

ด้าน นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ Senior Vice President Business Development YOUNIQUE & The Walk Line ผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า "ในการเลือกใช้เทคโนโลยีของ Spacely AI ทาง Index Living Mall มุ่งหวังที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เพิ่มความสามารถในการทำงานให้แก่นักออกแบบ และยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Spacely AI สามารถลดเวลาในกระบวนการออกแบบและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของดีไซน์เนอร์ นี่จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของเราที่จะเป็นเลิศในด้านการบริการและการเติบโตทางธุรกิจ"

ความร่วมมือระหว่าง Spacely AI ถือเป็นส่วนช่วยในการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ พร้อมสะท้อนความพิเศษที่มากกว่าของแบรนด์และโครงการของพราวได้เป็นอย่างดี โดยตลอด Customer Journey ลูกค้าจะสามารถต่อยอดไอเดียการออกแบบบนพื้นที่ภายในโครงการให้เป็นพื้นที่เสมือนจริงของตัวเองได้ด้วย AI” กล่าวโดย นายพสุ ลิปตพัลลภ Director Proud Real Estate ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย

Spacely AI เปิดตัว Enterprise API ตัวใหม่สำหรับองค์กรและ SME ในอุตสาหกรรมการออกแบบ และที่อยู่อาศัย:

  • Instant Rendering API: ช่วยออกแบบห้องตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
  • Product Visualization API: ช่วยสร้างภาพจำลองสินค้า ภายในห้องของลูกค้าได้อย่างสมจริง
  • Precision Space Planning API: ช่วยวิเคราะห์ขนาดพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ
  • Smart Recommendation API: ช่วยจับคู่สินค้าให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณของลูกค้า

Enterprise API ช่วยส่งเสริมประสบการณ์การขาย และสร้างผลตอบรับให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพใน 4 ด้าน:

  1. Hyper-Personalized Shopping Experiences: สร้างประสบการณ์ระดับเฉพาะบุคคล ซึ่งถูกออกแบบมาให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างละเอียด
  2. Accelerated Revenue Growth: เร่งการเติบโตของรายได้ ผ่านการจำลองภาพสินค้าในพื้นที่จริง และปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
  3. Increased Average Basket Size: แสดงสินค้าจากแคตตาล็อกของผู้ให้บริการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย
  4. Amplified Online Conversion Rates: ช่วยให้ลูกค้าเห็นภาพ และปรับแต่งพื้นที่ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย เพื่อเพิ่มความต้องการและความเหมาะสมการในเลือกซื้อ

 นายพารวย อันอดิเรกกุล Chief Executive Officer Spacely AI กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิดตัว Enterprise API เป็นก้าวที่สำคัญสู่อุตสาหกรรมการออกแบบและเฟอร์นิเจอร์ แต่สิ่งนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น Spacely AI มุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสามารถของ Generative AI เพื่อให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกปัญหาของการออกแบบเชิงพื้นที่ พร้อมทั้งผลักดันขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ในโลกแห่งการออกแบบต่อไป”

มาเป็นส่วนหนึ่งกับ Spacely AI ในการยกระดับอุตสาหกรรมการออกแบบและค้นพบศักยภาพสูงสุดของ Generative AI ในการเปลี่ยนแปลงโลก และยกระดับมาตรฐานของการออกแบบ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่องค์กรและเสริมความเป็นผู้นำในวงการธุรกิจของคุณ สามารถใช้ Spacely AI ได้แล้ววันนี้ที่ www.spacely.ai

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) จับมือ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ร่วมกันศึกษาและพัฒนา WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ ด้วยจุดเด่นในการสรุปเนื้อหา คิดไอเดีย และเขียนบทความภาษาไทย ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ WangChanGLM เปิดให้ทดลองใช้และเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อพัฒนาประสบการณ์ใช้งานโมเดลแล้ววันนี้ที่ https://www.wangchanglm.in.th โดยได้รับเกียรติจาก ดร. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร (กลาง) นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี พร้อมด้วย รศ.ดร.สรณะ นุชอนงค์ (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสัย เอไอ จำกัด และคณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) และนายกสิมะ ธารพิพิธชัย (ซ้าย) Entrepreneur in Residence บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) ร่วมงานเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี

รศ.ดร.สรณะ นุชอนงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิสัย เอไอ จำกัด และ และคณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) กล่าวว่า “สถาบันวิทยสิริเมธี หรือ VISTEC เป็นมหาวิทยาลัยวิจัย (Research University) มุ่งเน้นงานวิจัยระดับแนวหน้าด้านวิทยาศาสตร์

เทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับชั้นนำของโลก เปรียบเสมือนเมืองแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม เราให้ความสำคัญในการผลิตงานวิจัยด้านเทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูง เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้ เราจึงได้สร้างและพัฒนา WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) AI ด้านโมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ขึ้นมา โดยเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ SCB 10X เข้ามาช่วยในการศึกษาและพัฒนา Demo Interface WangChanGLM ให้สามารถเข้าถึงภาคธุรกิจได้ง่ายขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยคนไทยอีกด้วย”

ด้าน นายกสิมะ ธารพิพิธชัย Entrepreneur in Residence บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “SCB 10X เล็งเห็นถึงศักยภาพมหาศาลของเทคโนโลยี AI ในการรับมือกับความท้าทายทางการเงินทั่วโลก นอกเหนือจากภาคธุรกิจการเงินและธนาคาร เรายังให้ความสำคัญกับภาษา วัฒนธรรม และมรดกของไทย เป็นลำดับแรกๆ การร่วมมือกับ สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ในการเปิดตัว Public Demo ของ WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โดย SCB 10X ได้เข้าส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนา Web Application ที่ง่ายต่อการใช้งานและมีเทคโนโลยี AI ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยจุดเด่นในการสรุปเนื้อหา คิดไอเดีย และเขียนบทความภาษาไทยเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการปิดช่องว่างทางภาษาที่ส่วนใหญ่การวิจัย AI จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ SCB 10X ที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการลงทุน และร่วมสร้างสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง ในกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคต ที่จะนำมาซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีการเงินและการธนาคาร ในมีประสิทธิภาพที่ดีต่อไป”

นอกจากนี้ SCB 10X ยังได้ลงทุนรอบ Pre-Series A ใน วิสัย (VISAI) ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ครบวงจรสำหรับภาคธุรกิจ โดยในรอบนี้ได้ลงทุนร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูง และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยคนไทย ผ่าน 3 บริการหลัก คือ AI Cloud Platform บริการโมเดลปัญญาประดิษฐ์คุณภาพสูงบนระบบคลาวด์ AI Solutions บริการให้คำปรึกษาและออกแบบปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ในธุรกิจ และ AI Training บริการจัดอบรมความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์และวิทยาศาสตร์ข้อมูลให้ธุรกิจและองค์กร

WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โมเดลภาษาที่เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและสามารถรองรับภาษาอื่นๆ ได้ในรูปแบบ Generative AI และ Large Language Model ภายใต้ใบอนุญาตเชิงพาณิชย์ ใช้โมเดล XGLM ขนาด 7.5 พันล้านพารามิเตอร์จาก Meta โดยเปิดชุดข้อมูลและโมเดลแบบสาธารณะ (open source) ที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมดบน GitHub และ Google Colab เพื่อให้นักพัฒนาสามารถนำไปใช้ต่อยอดและเทรนโมเดลได้ด้วยตนเอง พร้อมเปิดให้ผู้ที่สนใจทดลองใช้งานและเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อพัฒนาโมเดลแล้ววันนี้ที่ https://www.wangchanglm.in.th

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ตอกย้ำภารกิจ “Moonshot Mission” มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการสร้างและบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน Web 3.0 และอุตสาหกรรมบล็อกเชน ล่าสุด เปิดตัว “SCB 10X DISTRICTX” พื้นที่แห่งใหม่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนานวัตกรรมและพันธมิตรจากบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกด้าน Web 3.0 และ บล็อกเชนเข้ามามีส่วนร่วมในชุมชน สร้างเครือข่ายและต่อยอดไอเดียทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด มุ่งหวังผลักดันให้เกิดศูนย์กลางคอมมูนิตี้ด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 ระดับโลกในประเทศไทย

 

DISTRICTX ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกใจกลางกรุงเทพฯ ที่เปิดโอกาสให้สามารถใช้พื้นที่ในการสร้างศูนย์กลางคอมมูนิตี้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคต รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับทำงานร่วมกันทางธุรกิจ ด้วยพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ที่ได้รับการตกแต่งอย่างทันสมัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องประชุม พื้นที่ส่วนกลางสำหรับใช้ประชุม (Town Hall), ห้องประชุมแบบปฏิบัติการ (Operational War Room), ห้องบันทึกเสียงสำหรับ Podcast และพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารที่ให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มฟรี โดยพื้นที่ของ DISTRICTX จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.Hacker House: พื้นที่แบบเปิดโล่งสำหรับนักพัฒนานวัตกรรมทั่วโลกด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 สามารถเข้ามามีส่วนร่วม พบปะและพูดคุยกัน รวมถึงทำงานร่วมกับทีม SCB 10X และพันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนผู้ที่เข้าร่วมโครงการ DISTRICTX Hacker House Incubation Program 2. Exponential Hub: พื้นที่ทำงานร่วมกัน (co-working space) สำหรับพันธมิตรระดับโลกของ SCB 10X รวมถึงบริษัทชั้นนำด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 อาทิ Axelar, Fireblocks, Nansen, The Sandbox, Nebula, Token Unlocks และ RakkaR Digital

 

นางมุขยา (ใต้) พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และ Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “DISTRICTX จะเป็นพื้นที่ที่เราเห็นถึงศักยภาพสำหรับการทำงานร่วมกันได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงเป็นพื้นที่ในการสร้างเครือข่าย และการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งการทำงานร่วมกันนั้นจะเป็นกุญแจสำคัญในช่วงตลาดซบเซา (Bear Market) และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เชื่อมเหล่าสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง ผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่น กลุ่มพันธมิตรในอนาคต และนักพัฒนารุ่นใหม่ไฟแรง มาสู่กรุงเทพฯ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนระดับโลกด้านบล็อกเชนและ Web 3.0”

ด้าน สตีเฟน ริชาร์ดสัน (Stephen Richardson) Head of APAC and SVP of Financial Markets, Fireblocks กล่าวว่า “เราเชื่อว่าการเป็นพันธมิตรและการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ประเมินค่าไม่ได้ต่อการสร้างการเติบโตที่แข็งแรงให้กับอุตสาหกรรม โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเปิดรับด้านสินทรัพย์ดิจิทัลสูงที่สุดแห่งหนึ่ง DISTRICTX จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับพวกเรา ในการยกระดับนวัตกรรมด้านบล็อกเชน พร้อมช่วยให้สถาบันการเงินต่างๆ และภาคธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

โครงการ “DISTRICTX Hacker House Incubation Program” ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะช่วยบ่มเพาะประสบการณ์อย่างเข้มข้นเพื่อนำเสนอไอเดียสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดย SCB 10X จะเฟ้นหานักพัฒนาที่มีความสามารถโดดเด่นและผู้ประกอบการไฟแรงเพื่อเข้าร่วมคิดค้นและสร้างสตาร์ทอัพแถวหน้าด้าน Disruptive Technology โดยโครงการนี้จะให้การสนับสนุนตั้งแต่ต้นจนจบจากทีม Venture Builder ของ SCB 10X เริ่มตั้งแต่การทดสอบผลิตภัณฑ์และการออกแบบ การให้คำปรึกษาโดยคนเก่งในระบบ

นิเวศ รวมถึงการระดมทุนจากภายนอกและขยายการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเข้ามาใช้พื้นที่บริเวณ Hacker House ของ DISTRICTX ตลอดระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการ

นอกจากบทบาทในการลงทุนร่วมสร้างแล้ว SCB 10X จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคนทั่วไปเกี่ยวกับโลกของเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Web 3.0 ผ่านการจัดงาน “Moonshot Meetup" ที่ DISTRICTX ในรูปแบบเวิร์คช็อปสองเดือนครั้งเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างพาร์ทเนอร์ นักพัฒนา และ community ด้วยการแบ่งปันความรู้และสร้างสรรค์โปรเจคร่วมกัน DISTRICTX จะเป็นศูนย์รวมของการจัดกิจกรรมต่างๆ ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง เช่น DISTRICTX Hacker House Program, Hackathons และอื่นๆ อีกมากมาย

“เรามีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน ecosystem ของ SCB 10X และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยผลักดันบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลให้เกิดในประเทศไทย นอกจากนี้เรายังตั้งตารอความร่วมมือใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายบนพื้นที่ DISTRICTX แห่งนี้” อเล็กซ์ สวาเนวิก (Alex Svanevik) CEO แห่ง Nansen กล่าวเสริม

โดยการเปิดตัว DISTRICTX ครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำภารกิจ “Moonshot Mission” มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ผ่านการลงทุนทั่วโลกใน disruptive บล็อกเชน Web 3.0 และเทคโนโลยีการเงิน (Fin Tech) ตลอดจนบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งโลกอนาคต เพื่อผลักดันให้เกิดยูนิคอร์นด้านบล็อกเชนและ Web 3.0 ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยต่อไป

รายละเอียดเพิ่มเติม www.districtx.space สมัครเข้าร่วมโครงการ “DISTRICTX Hacker House Incubation Program” ได้ที่ www.districtx.space รับชม VDO แนะนำ DISTRICTX ได้ที่ https://youtu.be/-oEGdXy2qJk

 

 

 

บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ประกาศแต่งตั้ง นางมุขยา (ใต้) พานิช ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เพื่อรับภารกิจสำคัญในการเป็นหัวเรือใหญ่ขับเคลื่อนองค์กรภายใต้ภารกิจพิชิตดวงจันทร์ “Moonshot Mission” มุ่งเน้นสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด และนำพา SCB 10X ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการลงทุนร่วมสร้าง และการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นางมุขยาจะยังคงดำรงตำแหน่ง Chief Venture and Investment Officer พร้อมไปกับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) 

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click