ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พันธมิตรทางธุรกิจ ต่อยอดขยาย ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ หรือร้านสาขานอกศูนย์การค้า เปิดตัว ยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหง ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์สาขาล่าสุด และนับเป็นครั้งแรกที่ทางยูนิโคล่ ประเทศไทย เปิดร้าน โรดไซด์สโตร์ที่คอมมูนิตี้มอลล์ของ OR พร้อมมอบความสะดวกสบายให้ชาวรามคำแหงและละแวกใกล้เคียงตั้งแต่ 13 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ เปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทย และอาเซียนในปี 2561 เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ใน การช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายในการเข้าถึงเสื้อผ้าไลฟ์แวร์ (LifeWear) ที่ครบครัน ใกล้บ้านมากยิ่งขึ้น และเป็นศูนย์กลางของชุมชน โดยยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหง เป็นร้านโรดไซด์สโตร์สาขาที่ 11 ต่อจาก ยูนิโคล่โรดไซด์พัฒนาการ, ยูนิโคล่โรดไซด์ลาซาล, ยูนิโคล่โรดไซด์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ชัยพฤกษ์, ยูนิโคล่โรดไซด์นวมินทร์, ยูนิโคล่โรดไซด์มีนบุรี, ยูนิโคล่โรดไซด์บุญถาวร ปิ่นเกล้า, ยูนิโคล่โรดไซด์บุญถาวรบางนา, ยูนิโคล่โรดไซด์ลาดกระบัง, ยูนิโคล่โรดไซด์ขอนแก่น และ ยูนิโคล่โรดไซด์หาดใหญ่ ความพิเศษของร้านนี้คือเป็นร้านโรดไซด์สโตร์ดีไซน์ใหม่สาขาแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ที่ถอดแบบมาจากร้านยูนิโคล่สาขา Maebashi และ Nishiiba ในประเทศญี่ปุ่น โดยนำคอนเซ็ปต์การออกแบบที่เน้นการใช้โลโก้ยูนิโคล่เป็นจุดเด่นขนาดใหญ่ที่หน้าร้าน เป็นจุดสังเกตสำหรับผู้ที่สัญจรผ่านไป-มา ในส่วนของการออกแบบร้าน ยูนิโคล่โรดไซด์ รามคำแหงถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงหลักการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยมีการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์เป็นสาขาแรกของยูนิโคล่ ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการออกแบบกระจกใสบานใหญ่ เพื่อเพิ่มช่องรับแสงธรรมชาติ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในระหว่างวันเพิ่มเติมขึ้นด้วย
มร. โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยูนิโคล่ ประเทศไทย เปิดตัวยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์มาแล้วกว่า 7 ปี นับตั้งแต่สาขาแรกที่ยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ พัฒนาการ ในปี 2561 โดยเน้นโลเคชันที่อยู่กลางชุมชนที่อยู่อาศัย ทำเลติดถนน และมีที่จอดรถ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย ครบครัน ใกล้บ้าน ทำให้ลูกค้าหลายคนเลือกที่จะซื้อสินค้า ไลฟ์แวร์จากยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์ที่อยู่ใกล้บ้านของตน โดยในปีนี้เราได้จับมือกับ OR เปิดยูนิโคล่โรดไซด์สโตร์สาขาแรกในคอมมูนิตี้มอลล์ของ OR ปักหมุดนำร่องที่ย่านรามคำแหงเป็นที่แรก โดยยูนิโคล่เล็งเห็นถึงศักยภาพของย่านรามคำแหง ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีผู้เดินทางผ่านเส้นทางนี้เพื่อเชื่อมกับถนนสายอื่นๆ อีกหลายสาย คอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้น่าจะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญย่านรามคำแหงสำหรับลูกค้าที่มองหาความสะดวกสบายและรวดเร็ว ยูนิโคล่เชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง OR ในครั้งนี้จะเปิดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ของยูนิโคล่อีกด้วย”
คุณพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน OR เปิดเผยว่า " OR มุ่งสร้างทางเลือกเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบอย่างครบวงจร พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้านไลฟ์สไตล์ และขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ธุรกิจที่นอกเหนือจากน้ำมันให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค OR จึงมีกลยุทธ์ในการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือกับยูนิโคล่ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการใช้ประโยชน์จากคอมมูนิตี้มอลล์ของ OR เพื่อสร้างภาพลักษณ์ การดำเนินธุรกิจ และสร้างประโยชน์ต่อชุมชน โดย OR ให้การสนับสนุนด้านพื้นที่และได้สนับสนุนแผงโซล่าร์เซลล์พร้อมการติดตั้งให้แก่ยูนิโคล่ ซึ่งมุ่งเน้นการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน OR SDG ทั้งในด้าน“D” หรือ “DIVERSIFIED” การสร้างโอกาสเพื่อทุกการเติบโตทุกรูปแบบ และ “G” หรือ “GREEN” โอกาสเพื่อสังคมสะอาดและสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของ OR 2030 ตลอดจนสร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมชุมชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ตามวิสัยทัศน์ของ OR “Empowering All Toward Inclusive Growth” เพื่อเติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน”
บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ประกาศอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้อายุ 3 ปี ที่จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปในระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2567 ที่ 5.50% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยสามารถจองซื้อผ่านสถาบันการเงิน 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บล.บลูเบลล์ บล.เอเซีย พลัส และบล.หยวนต้า อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ BBB- เป็น “ระดับลงทุน” ซึ่งสะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในการรับงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐขนาดใหญ่ มั่นใจตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ดี ในบริษัทที่มีความมั่นคง ด้วยมูลค่างานในมือ (Backlog) เกือบ 5 หมื่นล้านบาท ที่สามารถทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2571
นายเติมพงษ์ เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ในอัตรา 5.50% ต่อปี โดยจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป ในระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2567 ผู้สนใจสามารถจองซื้อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
“นอกเหนือจากอัตราผลตอบแทนที่จูงใจผู้ลงทุนแล้ว ที่ผ่านมาผู้ที่เคยลงทุนในหุ้นกู้ UNIQ มีความพึงพอใจที่ได้รับดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 3 เดือน ไม่เคยมีประวัติผิดนัดหรือเลื่อนชำระดอกเบี้ย ซึ่งทำให้มั่นใจว่า หุ้นกู้ชุดใหม่นี้จะได้รับความสนใจและการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา อีกทั้งอายุหุ้นกู้ 3 ปี เป็นรุ่นที่ตรงกับความต้องการของผู้ลงทุนส่วนใหญ่ด้วย” นายเติมพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นกู้ UNIQ ชุดนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB- จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็น “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ BBB ซึ่งสะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในการรับงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐขนาดใหญ่และมีมูลค่างานในมือ (Backlog) จำนวนมาก โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีมูลค่างานคงเหลือที่รอการส่งมอบและรับรู้รายได้จำนวน 49,574.45 ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2571 ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 34.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 133.41% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่บริษัทฯ มีโครงการที่มีลักษณะการทำงานคล้ายๆ กัน ทำให้การบริหารรวมถึงการใช้เครื่องจักรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการซื้อวัสดุก่อสร้างในปริมาณมากๆ ทำให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างในราคาที่ลดลงได้
นอกจากนี้ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะส่งผลดีกับบริษัทฯ ในระยะต่อไปอีกด้วย โดยบริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลงานต่างๆ ของภาคราชการและรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าจะได้รับงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชี่ยวชาญของ UNIQ ที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ที่มีความสามารถดำเนินโครงการขนาดใหญ่ มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน เช่น สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์
ผู้ลงทุนที่สนใจหุ้นกู้ UNIQ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสถาบันการเงินที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้
สำหรับผู้ลงทุนทุกประเภท (ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน)
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือโทร 0-2111-1111 โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next
นายเติมพงษ์ เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง [5.25-5.50]% ต่อปี โดยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้ง คาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2567 ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
หุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ระดับ BBB- ซึ่งเป็น “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ BBB โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในการรับงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐขนาดใหญ่และมีมูลค่างานในมือ (Backlog) จำนวนมาก โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ประมาณ 2.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของทริสเรทติ้ง ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 ดีกว่าประมาณการของทริสเรทติ้งด้วย EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย) จำนวน 590 ล้านบาท หรือ EBITDA Margin ที่ 23% สะท้อนถึงการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นและต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ลดลง สอดคล้องกับผลการดำเนินงานไตรมาสแรก (มกราคมถึงมีนาคม) ปี 2567 ของบริษัทฯ ซึ่งมีกำไรสุทธิ 34.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 133.41% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่บริษัทฯ มีโครงการที่มีลักษณะการทำงานคล้ายๆ กัน ทำให้การบริหารรวมถึงการใช้เครื่องจักรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการซื้อวัสดุก่อสร้างในปริมาณมากๆ ทำให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างในราคาที่ลดลงได้
UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารการจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน
ลูกค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บมจ.ท่าอากาศยานไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น ทำให้ความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากงานของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ภาครัฐจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯ
ล่าสุด กิจการร่วมค้ายูเอ็น-ซีซี ซึ่งประกอบด้วย บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บริษัท ซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซส แอนด์ โปรดักส์ จำกัด ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้าง กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สำหรับการจ้างงานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน พร้อมโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญา 1 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มูลค่า 383.916 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าสัดส่วนงานของ UNIQ จำนวน 322.489 ล้านบาท หรือคิดเป็น 84% ของมูลค่ารวม ส่งผลให้งานในมือ (Backlog) ของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 อยู่ที่ 49,574.45 ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2571
“เราเชื่อว่า หุ้นกู้ UNIQ จะยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ลงทุน และจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ที่สามารถรับงานโครงการใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นโอกาสในการขยายงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของยูนิค ในฐานะบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศ” นายเติมพงษ์กล่าว
ผู้ลงทุนที่สนใจหุ้นกู้ UNIQ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสถาบันการเงินที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้
ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก ประกาศความร่วมมือล่าสุดกับ KAWS ศิลปินร่วมสมัยชื่อดังจากนิวยอร์ก เตรียมเปิดตัวคอลเลคชันเสื้อยืด UT ใหม่ ร่วมกับการเปิดตัวอาร์ตบุ๊คเล่มล่าสุดของ KAWS พร้อมกันในวันศุกร์ที่ 8 กันยายนนี้ โดยคอลเลคชันเสื้อยืดลายใหม่และอาร์ตบุ๊คจะเปิดตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ยูนิโคล่และที่ Phaidon สำนักพิมพ์แนวหน้าระดับโลก และวางจำหน่ายที่ร้านสาขาของยูนิโคล่ทั่วโลกและผ่านเว็บไซต์ uniqlo.com
สำหรับลายของเสื้อยืดและเสื้อสเวตเตอร์ในคอลเลคชันนี้ ประกอบไปด้วยคาแรคเตอร์ประจำตัวของ KAWS อย่างคอมพาเนียน (COMPANION) บีเอฟเอฟ (BFF) คาแรคเตอร์ตัวล่าสุดที่มาในสีชมพูสดใส หน้าปกของหนังสือใหม่ และสัญลักษณ์ไอคอนิกรูป XX ของ KAWS ไอเทมต่างๆ ประกอบด้วยเสื้อผ้าสำหรับผู้ใหญ่ ที่ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย (Unisex) และเสื้อผ้าสำหรับเด็ก พร้อมให้ทุกคนเข้าสู่โลกของ KAWS นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ยูนิโคล่ยังมีของขวัญแบบลิมิเต็ด เอดิชัน หลากหลายรูปแบบสำหรับลูกค้าที่ซื้ออาร์ตบุ๊คและสินค้าจากคอลเลคชันนี้ เพื่อร่วมฉลองการกลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง โดยร้านสาขายูนิโคล่ขนาดใหญ่บางร้านทั่วโลกจะตกแต่งกำแพงหน้าด้านนอกร้านที่ออกแบบขึ้นจากคาแรคเตอร์ของ KAWS อีกด้วย
ไบรอัน ดอนแนลลี ศิลปินที่รู้จักกันดีในนามของ KAWS พูดถึงผลงานล่าสุดนี้ว่า “ผมดีใจที่ได้เปิดตัวซีรีส์หนังสือศิลปินร่วมสมัยของ Phaidon เล่มใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกับยูนิโคล่ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ที่ร่วมงานกับผมมาอย่างยาวนาน ผมออกแบบแคปซูลคอลเลคชันเล็กๆ ของเสื้อยืดและเสื้อสเวตเตอร์ซึ่งจะวางจำหน่ายเฉพาะช่วงนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบคอลเลคชันนี้ของผม!”
ตกแต่งหน้าร้านทั่วโลกด้วยดีไซน์ของ KAWS
สำหรับยูนิโคล่ประเทศไทยจะตกแต่งร้านสาขา โรดไซด์พัฒนาการ โรดไซด์มีนบุรี และ โรดไซด์ลาดกระบัง ในวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม ด้วยดีไซน์คาแรคเตอร์ไอคอนิกของ KAWS
ภาพรวมคอลเลคชัน
คอลเลคชันนี้ประกอบด้วยเสื้อยืดสำหรับผู้ใหญ่ (UNISEX) 3 ลวดลาย 590 บาท เสื้อสเวตเตอร์สำหรับผู้ใหญ่ (UNISEX) 2 ลวดลาย 990 บาท เสื้อยืดสำหรับเด็ก 3 ลวดลาย 390 บาท เสื้อสเวตเตอร์สำหรับเด็ก 2 ลวดลาย 790 บาท และอาร์ตบุ๊ค KAWS 1,990 บาท วางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566 ณ ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาและ Uniqlo.com โดยสินค้าเด็กวางจำหน่ายเฉพาะสาขาที่มีไลน์อัพสินค้าเด็กเท่านั้น รวมถึงบนเว็บไซต์ UNIQLO.com หรือสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.uniqlo.com/kawsut2023
อาร์ตบุ๊ค KAWS
ตีพิมพ์โดย Phaidon สำนักพิมพ์แนวหน้าระดับโลกด้านครีเอทีฟอาร์ต หนังสือเล่มนี้รวบรวมองค์ความรู้ของศิลปะร่วมสมัยที่ทรงอิทธิพลและได้รับความสนใจมากที่สุดเล่มหนึ่ง โดยอาร์ตบุ๊คเล่มนี้เป็นหนึ่งในเล่มเพิ่มเติมของชุดซีรีส์ศิลปินร่วมสมัย (Contemporary Artist Series) ของสำนักพิมพ์ Phaidon ชุดซีรีส์อาร์ตบุ๊คนี้ผลิกโฉมการพูดถึงเรื่องของศิลปะด้วยความร่วมมือและเสียงสนับสนุนจากศิลปินยุคปัจจุบัน