December 22, 2024

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้จ่ายในยุค “ดิจิทัล” ทำให้การใช้ชีวิตของเราง่ายขึ้น ช่วยให้กลายเป็นสังคมไร้เงินสดอย่าง

รถยนต์ถือเป็นทรัพย์สินที่มากกว่าแค่ใช้ขับขี่ แต่ยังสามารถใช้เพื่อสร้างรายได้ และต่อยอดโอกาสได้มากมาย เช่น ปล่อยให้เช่า หรือนำไปประกอบธุรกิจในการรับส่งของ รวมทั้งสามารถผันไปเป็นหลักประกันเงินกู้ยามจำเป็นได้อีกด้วย

วันนี้ fintips by ttb #เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ จะมาช่วยเปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างสินเชื่อยอดนิยมทั้ง 2 รูปแบบ คือ รีไฟแนนซ์รถยนต์ และสินเชื่อรถแลกเงิน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนการกู้ยืม

รีไฟแนนซ์รถยนต์

รีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ สินเชื่อทางเลือกสำหรับคนที่มีรถแต่ยังผ่อนไม่หมด แม้จะมีภาระผูกพันทางการเงิน แต่สินเชื่อประเภทนี้ช่วยให้ผู้กู้สามารถใช้รถยนต์เป็นหลักประกันในการกู้ได้  แต่ก็ยังสามารถนำรถยนต์ไปใช้ได้ตามปกติ ซึ่งประโยชน์ที่นำไปใช้จากเงินก้อนนี้ ได้แก่ ช่วยขยายระยะเวลาการผ่อนคืนได้นานขึ้น อัตราดอกเบี้ยในการผ่อนชำระที่ลดลงเมื่อเทียบกับหนี้เดิม และที่สำคัญช่วยคลายความเครียดจากภาระการผ่อนรายเดือน รวมทั้งหากมีเงินส่วนต่างเหลือยังสามารถนำไปจัดสรรเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้

ตัวอย่างการทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์

หากกู้เงินเพื่อผ่อนรถเป็นจำนวน 500,000 บาท โดยผ่อนไปแล้ว 300,000 บาท เหลือเงินอีก 200,000 บาท และหากสถาบันการเงินทำการประเมินมูลค่ารถยนต์อีกครั้งและปล่อยกู้ได้ที่ 350,000 บาท เราก็จะสามารถนำเงินที่ได้ตรงนี้ไปปิดหนี้ที่เหลืออยู่ 200,000 บาทได้ โดยที่ยังเหลือเงินกู้ส่วนต่างอีกจำนวน 150,000 บาท ซึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพื่อต่อยอดทำธุรกิจ หรือนำไปชำระหนี้ส่วนอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล

สินเชื่อรถแลกเงิน

สำหรับสินเชื่อรถแลกเงิน เป็นสินเชื่อเพื่อคนมีรถที่ผ่อนชำระหมดแล้ว โดยผู้ที่ต้องการกู้สามารถใช้รถยนต์หรือเล่มทะเบียนรถเป็นหลักค้ำประกันเพื่อยื่นขอกู้สินเชื่อได้ และยังสามารถนำรถไปใช้ได้ตามปกติ ซึ่งทางธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะแบ่งประเภทสินเชื่อรถแลกเงินออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบโอนเล่มทะเบียนรถ และ แบบไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน ซึ่งโดยปกติสถาบันการเงินส่วนใหญ่มีเงื่อนไขในการรับรถยนต์ที่ขอยื่นกู้จำเป็นต้องมีอายุการงานไม่เกิน 16 ปี

เมื่อจำเป็นต้องกู้เงินโดยใช้รถเป็นหลักประกันนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องเลือกพิจารณา คือ รถที่จะนำไปเป็นหลักประกันยังมีภาระผูกพันทางการเงินหรือไม่ เพราะถ้าหากยังผ่อนไม่หมด การรีไฟแนนซ์อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยปิดวงเงินสินเชื่อเดิม และได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง รวมทั้งอาจมีเงินกู้เหลือพอที่จะนำไปใช้เป็นเงินทุนทำอย่างอื่น ในทางกลับกัน หากมีรถที่ผ่อนหมดแล้ว สามารถขอสินเชื่อรถแลกเงินเพื่อเพื่อนำเงินไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ทางการเงินที่ต้องการได้

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกทำสินเชื่อแบบใดแบบหนึ่ง ควรหาข้อมูล และขอรายละเอียดให้ครบถ้วนจากสถาบันการเงินเสียก่อน เช่น เงื่อนไขในการปล่อยเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย วงเงินที่ให้ การให้บริการ และรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อนำมาเปรียบกันหลาย ๆ ที่เพื่อให้สามารถได้รับสิ่งที่คุ้มค่าและดีที่สุด

มาร่วมออกแบบชีวิตทางการเงินในวันนี้และในอนาคต เพื่อพิชิตเป้าหมายการมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ด้วยเคล็ดลับทางการเงินดี ๆ ได้ที่ “fintips by ttb” เรื่องเงินที่รู้จริงแบบเพื่อนที่รู้ใจ

เพียงคลิก https://www.ttbbank.com/th/fintips-075 

หรืออ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/fintips-car-loan  

X

Right Click

No right click