บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  ในฐานะหนึ่งในผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และ Maybank Securities Pte. Ltd., Singapore (MSSG) ในฐานะผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchaser)   ร่วมประกาศความสำเร็จการกระจายหุ้นของธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ให้แก่ ผู้ลงทุนต่างประเทศหลายรายรวมกัน โดยมีผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศรายหลัก (Cornerstone Investors) ได้แก่   ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank), บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ(International Finance Corporation) และ ธนาคารอีซัน (E.SUN Commercial Bank Ltd.) รวมทั้งมีผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายย่อยอื่นๆในต่างประเทศอีกจำนวนหลายราย มีการเข้าซื้อหุ้นธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) รวมจำนวน 166,805,400 หุ้น ผ่าน MSSG

นายอารภัฏ สังขรัตน์ (ที่สองจากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงความยินดี กับนายวิญญู ไชยวรรณ(ที่สามจากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต  ในโอกาสเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มธุรกิจการเงิน / ธนาคาร ในชื่อย่อ “CREDIT” โดยมี นางสาวนลิน วิริยะเสถียร(ที่สองจากขวา)  รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)พร้อมด้วยทีมงาน ร่วมแสดงความยินดี ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ณ  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ร่วมงานสัมมนา “คว้าโอกาสทำกำไร เสริมพอร์ตแกร่งด้วย TFEX”  จัดโดย บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) (TFEX) อัปเดตแนวโน้มเศรษฐกิจการลงทุนปี 2567 เมย์แบงก์ ได้ร่วมบรรยาย ในหัวข้อ How to เทรด TFEX แบบสบายใจ ไม่ต้องเฝ้าจอ ด้วยฟังก์ชั่น Conditional Order”  โดยคุณณภัทร์ ภัทรานิตฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจอนุพันธ์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ร่วมเป็นวิทยากร ให้ความรู้ด้านการลงทุนอย่าง  ตอกย้ำกลยุทธ์มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียม แนะนำการลงทุนอย่างถูกวิธี ตอกย้ำภาพเมย์แบงก์ บริษัทหลักทรัพย์ที่พร้อมเป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้คนไทย เพราะเราเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นนักลงทุนได้ งานสัมมนาจัดขึ้น ณ ห้องประชุม ศุกรีย์ อาคารตลาดหลักทรัพย์ เมื่อเร็วๆนี้

บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำความเป็นผู้นำการลงทุนครบวงจร ซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ด้วยการออก MBi Global แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายหุ้นต่างประเทศออนไลน์ พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการด้านการลงทุน ลูกค้าสามารถ ค้นหาข้อมูลข้อมูลหุ้นที่สนใจได้อย่างรวดเร็ว ส่งคำสั่งซื้อขายง่าย พร้อมบอก Lot Size  มีตัวช่วยแสดงภาพรวมดัชนีราคาหุ้นต่างประเทศ และพลอตการฟเพื่อประเมินเทรนด์หุ้นได้แม่นยำ  หมดปัญหาการแปลงค่าเงิน ด้วยการแสดงวงเงินเป็นเงินบาท นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งหน้าจอการใช้งานตามสไตล์ที่ชอบ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ ลูกค้าสามารถล็อกอินเข้าใช้งาน MBi Global ได้จากเว็บไซท์ www.Maybank-ke.co.th  

ดูรายละเอียดวิธีการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่ Youtube : Maybank  https://bit.ly/3tWO7ms หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แผนก Offshore โทร 02-658-5000 ต่อ 5043,1645,4037,1064 สำหรับลูกค้าใหม่ที่สนใจในการลงทุนกับ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) และเปิดบัญชี พร้อมเลือกลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศทุกรูปแบบการลงทุน ติดต่อได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2658-5050 วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08:30 - 17:30 น. หรือ อีเมล  This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ชี้อัตราดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ความเสี่ยงส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ (Market Earnings Yield Gap; MEYG) ลดลง แนะนักลงทุนเตรียมเก็บหุ้นปันผลสูงและยั่งยืนเข้าพอร์ต

จากสถานการณ์และทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯและไทย ที่ดูน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้ความเสี่ยงเรื่องส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ (Market Earnings Yield Gap, MEYG) ลดลง ซึ่งปัจจุบัน MEYG ของ SET Index กับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี  อยู่ที่ 3.95% สูงกว่าเฉลี่ย 10 ปี ที่ 3.6% จึงมีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินลงทุนเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตลาดหุ้นได้มากขึ้นในไตรมาส 1

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ทีมวิจัยหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (MST Research) เชื่อว่าหุ้นปันผลสูงบนความยั่งยืน หรือ หุ้นที่จ่ายปันผลสูง สม่ำเสมอ และมีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จะเป็นเป้าหมายสำหรับกระแสเงินลงทุนรอบใหม่ที่กำลังเข้ามา โดยแนะนำ 3 หลักเกณฑ์ในการคัดกรองหุ้นเพื่อลงทุน เก็บเข้าพอร์ต ดังนี้

  • เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอและมากกว่า SET Index ในช่วง 2563-2565 หรือหุ้นที่จ่ายปันผลในปี 2566 มากกว่า 5%
  • เป็นหุ้นที่คาดว่าจะมี EPS Growth ปี 2567 เติบโต (EPS Growth 2567F > 0)
  • เป็นหุ้นที่ ESG Rating มากกว่าระดับ A ขึ้นไป

ซึ่งจาก 3 หลักเกณ์ดังกล่าว พบว่าได้หุ้นปันผลสูงบนความยั่งยืน 10 บริษัท ประกอบด้วย  SAT TISCO SCB TCAP AP ICHI SABINA PTT INTUCH และ SCC อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมตามตารางด้านล่างนี้  

ตาราง รายละเอียดหุ้นปันผลสูงบนความยั่งยืน

 

Page 1 of 6
X

Right Click

No right click