November 08, 2024

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เดินหน้ายกระดับประสบการณ์การใช้จ่ายด้วยการเปิดตัว “Money Plus” บัญชีที่ช่วยให้การใช้จ่ายและการทำธุรกรรมทางการเงินกลายเป็นเรื่องง่ายและได้เพิ่มมากกว่าที่เคย ทั้งได้รับเงินคืน 1%** ทุกการใช้จ่าย และเก็บเงินไว้ได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงสุดถึง 4% ต่อปี* แถมช่วยให้สามารถจ่าย เติม โอน เก็บ ได้สะดวกและคล่องตัว ครบ จบมากขึ้น บนแอปทรูมันนี่ เพียงสมัครหรือกดอัปเกรดในแอปทรูมันนี่วันนี้

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน ลูกค้าทรูมันนี่ สามารถใช้จ่ายและบริหารการเงินแบบไร้เงินสดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แถมปลอดภัย มั่นใจทุกการใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ยังมีลูกค้าส่วนหนึ่งมองว่าการเติมเงินทิ้งไว้ในบัญชีจำนวนมากอาจทำให้เสียสิทธิประโยชน์ ทรูมันนี่ จึงส่ง Money Plus ซึ่งเป็นเสมือนบัญชีทรูมันนี่อัปเกรด เพราะผสานความยืดหยุ่นและคล่องตัวของการใช้ฟีเจอร์การเงินต่าง ๆ ทั้ง จ่าย เติม โอน และเก็บเงิน พร้อมมอบผลตอบแทนที่คุ้มค่า คือจะใช้จ่ายก็ได้เงินคืน หรือจะเก็บเงินไว้ เงินก็งอกเงย ตอบโจทย์และรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานให้พลัสเงินในบัญชีได้ไม่มีสะดุด”

 

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า “ในยุคดิจิทัลที่พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนต้องการบริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย สะดวก และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ธนาคารเกียรตินาคินภัทรจึงได้ร่วมมือกับ ทรูมันนี่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการนี้ด้วย Money Plus บัญชีที่จะช่วยให้ลูกค้าบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการใช้จ่ายและการออม ด้วยดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4% ต่อปี* จากบริการฝากเงินอัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับเงินออมโดยไม่เสียความคล่องตัวในการใช้จ่าย เป็นอีกหนึ่งก้าวในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกคน”

Money Plus มี 4 จุดเด่น ช่วยพลัสเงินในบัญชี ดังนี้

· พลัสที่ 1 ยิ่งจ่ายยิ่งพลัส – ทุกการใช้จ่ายจะได้รับเงินคืน 1%** เมื่อเลือกเป็นช่องทางการชำระเงินบน ทรูมันนี่ หรือ 7App

· พลัสที่ 2 เงินงอกจัดเต็ม – เก็บไว้ได้ดอกเบี้ยสูงถึง 2% ต่อปี* ตั้งแต่บาทแรก สูงสุดถึง 4% ต่อปี*

· พลัสที่ 3 เติมเงินได้ตลอด ไม่มีขั้นต่ำ – เติมเงินเข้าทรูมันนี่ได้ทันทีที่ต้องการ สะดวก ไว ทำได้เลยในแอป ทรูมันนี่ ไม่ต้องกังวลยอดเติมเงินขั้นต่ำ

· พลัสที่ 4 สะดวกคล่องทุกธุรกรรม – เชื่อมต่อการจ่าย เก็บ ถอน โอนได้สะดวก คล่องตัวทุกการทำธุรกรรม

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถพลัสเงินให้เพิ่มขึ้นผ่าน Money Plus ได้ง่าย ๆ ทันที เพียงกดปุ่ม อัปเกรด หรือ ไอคอน Money Plus บนหน้าแอปทรูมันนี่ กรอกข้อมูลส่วนตัวตามขั้นตอน และยืนยันตัวตนที่เคาน์เตอร์ 7-Eleven ใกล้บ้าน หรือ ตู้ทรูมันนี่

ที่ทรูช้อป พร้อมยืนยันรายละเอียดเพื่อเปิดบัญชี Money Plus บนทรูมันนี่ เพียงเท่านี้ก็สามารถเริ่มพลัสเงินในบัญชีได้อย่างไม่มีสะดุด (กรุณาอัพเดตแอปทรูมันนี่ก่อนอัปเกรดบัญชี)

กรุงเทพฯ 20 กันยายน 2567 – ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นตัวกลางส่งต่อกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือที่ถึงแม้น้ำจะลดแล้วในหลายพื้นที่ ก็ยังต้องการได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดช่องทางให้ผู้บริจาคผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ เพื่อสมทบทุนการร่วมบริจาคเข้า 5 มูลนิธิและหน่วยงานที่กำลังดำเนินการบรรเทาสาธารณภัย ได้แก่ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก, สภากาชาดไทย, มูลนิธิปอเต๊กตึ้ง, มูลนิธิกระจกเงา และ มูลนิธิ Soi Dog เพื่อบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือวิกฤติภัยในครั้งนี้ได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว ใน 5 ขั้นตอน 1. กดเลือกไอคอน ‘บริจาคให้มูลนิธิ’ บนแอปทรูมันนี่ 2. เลือกมูลนิธิฯ ที่ท่านต้องการบริจาค 3. กรอกยอดเงินบริจาค 4. เลือกช่องทางการชำระเงิน และ 5. กดยืนยันการชำระเงิน

สำหรับผู้สนใจบริจาคฯ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ https://www.truemoney.com/donatioin/

 

ทรูมันนี่  หนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถสแกนจ่ายด้วยแอปทรูมันนี่ที่ฮ่องกงได้แล้ว ผ่านอาลีเพย์พลัส (Alipay+) แพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยดิจิทัลโซลูชันที่พัฒนาโดย แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล

โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถสแกนจ่ายที่ร้านค้ากว่า 90% ทั่วฮ่องกง ที่มีสัญลักษณ์ Alipay+ หรือ AlipayHK ซึ่งครอบคลุมทั้งร้านอาหาร ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ หมดกังวลเรื่องการหาที่แลกเงิน เพียงแค่เปิดแอปทรูมันนี่เลือกประเทศและสแกนจ่ายได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องแลกเงินค้างไว้ในบัญชี เพราะระบบจะแปลงเงินบาทในบัญชีตามสกุลและอัตราแลกเปลี่ยนคงที่รายวันตามประเทศที่เลือกให้ใช้จ่ายได้ทันที ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ เพิ่มเติม และคุ้มยิ่งกว่าด้วยสิทธิพิเศษจาก อาลีเพย์พลัส รีวอร์ด (Alipay+ Rewards) 

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ฮ่องกงถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเลือกเดินทางท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมที่มีให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่งดงามและสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการช้อปปิ้ง การรับประทานอาหาร และการไหว้พระขอพร โดยปีนี้คาดว่าฮ่องกงจะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปไม่น้อยกว่า 5 แสนคน ซึ่งจะมากเป็นอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  การเปิดบริการให้คนไทยสามารถใช้จ่ายด้วยแอปพลิเคชันทรูมันนี่ที่ฮ่องกงผ่าน  Alipay+ ถือเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สะดวก ปลอดภัย และคล่องตัวผ่านการสแกนจ่าย แถมยังได้สิทธิพิเศษ” 

ความร่วมมือระหว่าง ทรูมันนี่ และ อาลีเพย์พลัส ในครั้งนี้ ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าถึงผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในฮ่องกงบนเครือข่ายของ AlipayHK ได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านร้านค้าที่สามารถรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ ได้ทันที โดยที่ร้านค้าเดิมไม่ต้องลงทุนติดตั้งระบบใหม่เพิ่มเติม นับเป็นการสร้างโอกาสใหม่ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ให้กับบรรดาร้านค้ารายย่อยอีกด้วย 

ในปัจจุบัน ทรูมันนี่ ได้ขยายบริการใช้จ่ายในต่างประเทศครอบคลุมมากกว่า 40 กว่าประเทศทั่วโลก อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม เยอรมนี และฝรั่งเศส ฯลฯ เพื่อมอบความสะดวกสบาย และปลอดภัยในการใช้จ่ายให้นักเดินทางในต่างแดนได้โดยไม่ต้องแลกเงิน  เพียงดาวน์โหลด สมัครและเติมเงินได้ง่าย และเมื่อจะจ่ายก็เพียงเปิดคิวอาร์โค้ดบนแอป ทรูมันนี่ กดเลือกประเทศ  และสแกนจ่ายได้ทุกร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Alipay+ (อาลีเพย์พลัส) 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริการใช้จ่ายในต่างประเทศผ่าน ทรูมันนี่ และ Alipay+ รวมถึงโปรโมชันต่าง ได้ที่ https://www.truemoney.com/global-network-offline-payment/  

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จับมือร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรกับ Gogolook ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech) ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall แอปพลิเคชันระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จักและป้องกันสแปม สำหรับสมาร์ทโฟน ในแคมเปญ “จับมือเพื่อนรัก ตัดสายมิจร้าย (Save Friends From Fraud)” เพื่อสร้างการรับรู้และภูมิคุ้มกันป้องกันคนไทยถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพผ่านเทคโนโลยีเกราะป้องกันภัยผู้ใช้มือถือ โดยมอบโค้ด Whoscall พรีเมียม เบสิก จำนวน 1,000,000 โค้ด ให้ผู้ใช้ทรูมันนี่ทดลองฟรี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 – 19 กรกฎาคม 2567

นายอธิปัตย์ พลอยพรายแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยงและตรวจสอบทุจริต บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ทรูมันนี่ ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินดิจิทัลรายแรก ๆ ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อปกป้องและป้องกันบัญชีผู้ใช้งานโดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ อาทิ ระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น TrueMoney 3X Protection ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยแอปมือถือที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ ตรวจ-จับ-หยุด ธุรกรรมแปลกปลอมและป้องกันมิจฉาชีพเข้าถึงบัญชีได้แบบเรียลไทม์ โดยการจับมือเป็นพันธมิตรของ Whoscall ในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันไม่หยุดยั้งของ ทรูมันนี่ ในการช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันความปลอดภัยให้ผู้ใช้งานมือถือของไทยแบบครบวงจร รวมถึงการเข้าถึงฟีเจอร์ความปลอดภัยของการใช้อุปกรณ์มือถือที่เป็นประโยชน์ อาทิ การระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก ตรวจจับและป้องกัน SMS และ URL Link อันตรายผ่าน Whoscall”

นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท Gogolook ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Whoscall กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มด้านการป้องกันและต่อต้านการหลอกลวงในรูปแบบดิจิทัล เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เปิดตัวแคมเปญ “จับมือเพื่อนรัก ตัดสายมิจร้าย (SAVE FRIENDS FROM FRAUD)” เนื่องด้วยการหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ทาง Whoscall จึงมีความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการต่อสู้กับกลโกงและการหลอกลวงจากมิจฉาชีพ การได้รับความสนับสนุนจากพันธมิตรที่ดีอย่าง ทรูมันนี่ มาร่วมในแคมเปญถือเป็นการสร้างเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันคนไทยให้พ้นจากการถูกหลอกลวงทางดิจิทัล และจะช่วยยกระดับความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าของ ทรูมันนี่ ได้เป็นอย่างดี โดยการนำเสนอบริการ Whoscall จะช่วยให้การสื่อสารของลูกค้าทรูมันนี่ปลอดภัยด้วยฟีเจอร์หลัก ระบุเบอร์โทรไม่รู้จักและสแกนความเสี่ยงลิงก์ และยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยฟีเจอร์เพิ่มเติมจาก Whoscall พรีเมียม เบสิก ได้แก่ 1. บล็อกสายสแปมอัตโนมัติ 2. อัปเดตฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์อัตโนมัติ และ 3. ผู้ช่วย SMS อัจฉริยะ”

เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่ ทรูมันนี่ ห่วงใย ใส่ใจและให้ความสำคัญความปลอดภัยของผู้ใช้ ทรูมันนี่ จึงมอบสิทธิ์พิเศษ แจกโค้ด Whoscall พรีเมียม เบสิก  ให้กับผู้ใช้ทรูมันนี่ จำนวน 1,000,000 โค้ด (จำกัด 1 สิทธิต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งาน) โดยสามารถกดรับโค้ด Whoscall พรีเมียม เบสิก ใช้ฟรี 6 เดือน ได้ง่าย ๆ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทรูมันนี่ จากนั้น กดแบนเนอร์ Whoscall x TrueMoney บนหน้าแอปพลิเคชัน แล้ว “รับโค้ด Whoscall พรีเมียม เบสิก ” โดยนำโค้ดที่ได้ไป กรอก Redeem ในเว็บไซต์ https://redeem.whoscall.com/ เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน การใช้งานจะเริ่มต้นทันทีเมื่อกรอกโค้ดบนเว็บไซต์ ซึ่งใช้งานได้เป็นระยะเวลาสูงสุดถึง 6 เดือน โดย Whoscall พรีเมียม เบสิก สามารถบล็อกเบอร์สแปมหรือมิจฉาชีพ ระบุหมายเลขที่ไม่รู้จัก รวมถึง สแกนความเสี่ยง เพื่อให้ผู้ใช้บริการทรูมันนี่ สามารถทำธุรกรรมออนไลน์บนแอปพลิเคชันได้อย่าง ง่าย สะดวก ปลอดภัย ไร้กังวล ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น

TrueMoney Mastercard (หรือเดิมเรียกว่า WeCard) เพื่อชำระเงิน ณ ร้านค้าชั้นนำที่มีเครื่องหมายแตะจ่ายง่ายๆ แบบไร้สัมผัสผ่าน Google Pay ได้แล้ววันนี้

นายอภินันท์ ดาบเพ็ชร ผู้อำนวยการฝ่ายการเติบโตของวอลเล็ทแพลตฟอร์ม บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน ผู้ใช้ TrueMoney Mastercard หรือเดิมที่เราเรียกว่า WeCard มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดย TrueMoney Mastercard เป็น Virtual Prepaid Mastercard หรือบัตรที่เชื่อมต่อเงินในบัญชีทรูมันนี่ ที่ช่วยให้ผู้ใช้นำเงินจากบัญชีทรูมันนี่ไปใช้ใช้ซื้อของได้ตามร้านค้าต่างๆ ที่รับบัตรเครดิตได้ โดยผู้ใช้งานส่วนใหญ่ชื่นชอบ TrueMoney Mastercard เนื่องจากเปิดใช้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่ และความคล่องตัวในการนำไปใช้จ่ายออนไลน์ได้แม้ไม่มีบัตรเครดิต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังรู้สึกมั่นใจ เพราะ TrueMoney Mastercard จะเชื่อมตัดเงินจำกัดเฉพาะที่เติมไว้ในบัญชีทรูมันนี่เท่านั้น ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ และยังเลือกเปิด-ปิดการใช้งานได้ทำให้รู้สึกปลอดภัย โดยล่าสุด ทรูมันนี่ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือกับ มาสเตอร์การ์ด ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง Google ในการเปิดให้ผู้ใช้ Google Wallet สามารถเพิ่ม TrueMoney Mastercard เพื่อใช้จ่ายผ่าน Google Pay ทั้งการแตะเพื่อจ่ายที่ร้านค้าและการใช้จ่ายออนไลน์บนเว็บไซต์ชั้นนำทั่วโลกได้”

นางสาวณัชสิชา วรพฤกษ์พิสุทธิ์ รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการพัฒนาตลาด มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “ผู้บริโภคทั่วโลกต้องการความยืดหยุ่นและทางเลือกในการชำระเงินมากขึ้น โดยการสำรวจพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคด้านวิธีการชำระเงินทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกประจำปี 2022 ของมาสเตอร์การ์ด (Mastercard New Payments Index) ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยใช้ระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งความร่วมมือกับ TrueMoney และ Google ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมาสเตอร์การ์ดในการเพิ่มทางเลือกการชําระเงินเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและการทําธุรกรรมของลูกค้าชาวไทยในยุคดิจิทัล โดยมาสเตอร์การ์ดยังคงมุ่งมั่นนำเสนอทางเลือกการชำระเงินในโลกไร้เงินสดที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะด้วยบัตรหรืออุปกรณ์สมาร์ตโฟน”

 

นายอดิทิพ ภาณุพงศ์ Head of Industry, Strategic Partnerships, Google Thailand กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ผู้ใช้ TrueMoney Mastercard สามารถเพิ่มบัตรลงใน Google Wallet เพื่อใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสได้อย่างปลอดภัยทั้งบนแอปพลิเคชันและร้านค้าออนไลน์ โดยทาง Google หวังว่าจะได้ร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้นเพื่อผลักดันให้ Google Wallet เป็นแอปพลิเคชันที่คนไทยเลือกใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายผ่านบัตร หรือการทำรายการทางดิจิทัลต่างๆ เช่น บัตรสะสมคะแนนและตั๋วโดยสาร”

ปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการ Google Pay มากกว่า 150 ล้านคน จาก 40 ประเทศทั่วโลก ด้วยความสะดวกสบายในการใช้งาน ที่ช่วยให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์สามารถชำระค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าชั้นนำทั่วโลกได้ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ ครอบคลุมร้านค้าชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านขายยา เสื้อผ้า ร้านเสริมสวย ไปจนถึงร้านค้าปลีกจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทยให้เป็นไปอย่างราบรื่น และไร้พรมแดน

นอกจากนี้ยังมี Paymentology พาร์ทเนอร์ที่มีบทบาทสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังการออกบัตรและประมวลผลบัตรเสมือน โดยใช้แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ในการช่วยประสานระหว่างทรูมันนี่มาสเตอร์การ์ด และ Google Wallet เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมนำเสนอการประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ที่มีความลื่นไหลและยืดหยุ่นที่สุด

นายเอมเร่ ดุรุสสุต ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ Paymentology กล่าวว่า "เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจ และได้เป็นพันธมิตรผู้ดำเนินการการออกบัตรให้กับ TrueMoney และเราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ TrueMoney ในฐานะผู้บุกเบิกด้านการชำระเงินทางดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย จาก Paymentology และความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมอย่าง Mastercard และ Google เราภูมิใจที่มีส่วนร่วมทำให้ TrueMoney ได้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกในการนำ Google Pay มาสู่ประเทศไทย"

โดยการร่วมมือกันของสี่พันธมิตรใหญ่ในครั้งนี้ นับเป็นการส่งเสริมเทรนด์การใช้จ่ายแบบไร้สัมผัสที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัย Mastercard New Payments Index 2022 ที่พบว่าผู้บริโภคชาวไทยกว่า 94% เคยใช้ระบบดิจิทัลเพื่อชำระค่าบริการต่างๆ มากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคอยู่ที่ 88% โดยรูปแบบการชำระเงินที่มีการใช้งานมากที่สุดก็คือดิจิทัลวอลเล็ท ตามมาด้วยการชำระผ่านการโอนเข้าบัญชี และ QR code

ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หรือสมาร์ตวอตซ์ Wear OS ที่มี NFC ติดตั้งบนตัวเครื่อง สามารถใช้บริการ Google Pay ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Wallet โดยดาวน์โหลดแอปฯ Google Wallet จาก Google Play Store

โดยการเพิ่มบัตรเสมือน TrueMoney Mastercard ลงใน Google Wallet สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงเปิดแอปฯ Google Wallet จากนั้นให้เลือกเมนู “Add to wallet” เพื่อเพิ่ม TrueMoney Mastercard โดยการใส่ข้อมูลบัตร และยืนยันตัวตนตามขั้นตอน เพียงเท่านี้ ผู้ใช้ TrueMoney Mastercard ก็สามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการ ณ ร้านค้าทั่วโลกที่มีเครื่องหมายแตะจ่ายง่ายๆ แบบไร้สัมผัสผ่าน Google Pay ได้ทันที ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.truemoney.com/google-pay/

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click