กรุงเทพฯ (16 ธันวาคม 2567) – 24X บริษัทสตาร์ทอัพผู้ให้บริการด้านงานซ่อมแซมบำรุงรักษาและติดตั้งแบบครบวงจรให้กับลูกค้าทั้งแบบ B2B และ B2C ผ่านพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่มีความหลากหลาย ประกาศความสำเร็จครั้งใหม่ในการระดมทุนรอบซีรีส์ บี โดยสองกลุ่มนักลงทุนระดับชั้นนำอย่าง เวฟเมคเกอร์ เวนเจอร์สและกรุงศรี ฟินโนเวต ในเครือกรุงศรี ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ 24X ในการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการเฉพาะทางด้านการซ่อมแซมบำรุงรักษาและติดตั้งครบวงจร
โดยธุรกิจการให้บริการของ 24X ประกอบไปด้วย
- 24 FIX บริการซ่อมแซมบ้านแบบ All-in-one สำหรับลูกค้าทั่วไป
- 24 House Solution บริการต่อเติมและตกแต่งพื้นที่อยู่อาศัยภายใต้การควบคุมดูแลของนักออกแบบตกแต่งภายในและ Project Managers ตลอดการทำงาน
- 24 FIX for Business บริการซ่อมแซมสำหรับลูกค้าธุรกิจอย่างมืออาชีพ
- 24 Projects บริการออกแบบและก่อสร้างสำหรับลูกค้าธุรกิจ
- VERTE ให้บริการด้าน Green Energy Solution เช่น การติดตั้งระบบพลังงานโซลาร์ และระบบชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger)
นายคณิศร มีพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง 24X กล่าวว่า “24X เป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทย ที่มีประสบการณ์กว่า 6 ปีในการให้บริการด้านงานซ่อมแซมบำรุงรักษา และติดตั้ง แบบครบวงจรให้กับลูกค้า และตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและทิศทางในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโดยมุ่งเน้นสนับสนุนลูกค้าภาคธุรกิจต่างๆ เสนอโซลูชั่นในการซ่อมแซมแบบครบวงจร และการติดตั้งงานกลุ่ม Green Energy งานโซลาร์เซลล์ รวมถึงเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า จนทำให้เราสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาเราสามารถทำรายได้รวมกว่า 480 ล้านบาท ซึ่งโตกว่าปีก่อนถึง 2.5 เท่า และมากกว่าครึ่งมาจากลูกค้ากลุ่มธุรกิจ ความสำเร็จนี้ ตอกย้ำให้สองนักลงทุนระดับชั้นนำอย่าง เวฟเมคเกอร์ เวนเจอร์สและกรุงศรี ฟินโนเวต มั่นใจในศักยภาพและโอกาสในการเติบโตในระยะยาวของเรา เป็นผลให้เราสามารถระดมทุนในรอบ Series B ได้สำเร็จ”
นอกจากการบริการด้านงานซ่อมแซมบำรุงรักษา ติดตั้ง และโซลูชั่นเพื่อบ้านและธุรกิจแบบครบวงจรแล้ว 24X ยังมุ่งเน้นในการขยายบริการและโซลูชั่นที่ครอบคลุมธุรกิจกลุ่ม Green Energy ไม่ว่าจะเป็นงานติดตั้งระบบ Solar และจุดชาร์จยานพาหนะ EV ผ่านดำเนินงานภายใต้แบรนด์ ‘VERTE’ โดยในปัจจุบัน บริษัทฯ และพันธมิตรทางธุรกิจด้านระบบโซลาร์อย่าง JA Solar และ TRINA รวมถึงอีกหลายแบรนด์อื่นๆ ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำของโลกสามารถติดตั้งระบบพลังงานทางเลือกแบบครบวงจรไปแล้วกว่า 80 แห่ง ทั้งแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) และ Power Purchase Agreement (PPA) รวมทั้งสิ้นกว่า 20 เมกะวัตต์ (MW) และยังเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบ AC และ DC มากว่า 2,000 แห่ง ให้กับแบรนด์รถ EV ชั้นนำอย่าง BYD, NETA, Changan, และ Aion รวมถึงสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ณ สถานีให้บริการน้ำมันอีกด้วย
Joel Ang Investment Principals ของบริษัท เวฟเมคเกอร์ เวนเจอร์ส กล่าวว่า “รูปแบบการบริการด้านการ ซ่อมแซม บำรุงรักษา การติดตั้ง และรีโนเวทในปัจจุบันนั้น ยังมีโอกาสในการปรับปรุงและพัฒนาได้อีกมาก โดยเฉพาะ ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัญหาที่มักพบบ่อย เช่น การขาดความโปร่งใสด้านราคา ปัญหาด้าน คุณภาพ กำหนดเวลาที่คลาดเคลื่อน มาตรฐานการบริการที่ไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด และนี่คือเหตุผลที่เราเลือกจะสนับสนุน 24X บริษัทที่กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมนี้ โดยเป็นแพลตฟอร์มที่
ลูกค้าจะไว้วางใจได้สำหรับบริการคุณภาพในราคาที่โปร่งใส ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการกำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบและเวลาส่งงานที่ชัดเจน และการสร้างเครือข่ายช่างฝีมือที่น่าเชื่อถือ ทำให้ 24X พร้อมที่จะตั้งมาตรฐาน ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงสร้างมูลค่าระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด”
นางสาวปาลิดา อธิศพงศ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจด้านการก่อสร้าง ซ่อมบำรุง และโซลูชั่นด้านพลังงานทางเลือก ล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงทั้งสิ้น และการที่ 24X เข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจเหล่านี้ได้อย่างครอบคลุม ก็แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ เองก็มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก โดยการลงทุนในรอบซีรีส์ B จะช่วยส่งเสริมให้ 24X สามารถบรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการเฉพาะทางด้านการซ่อมแซมบำรุงรักษา และติดตั้งครบวงจร”
“สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในขั้นต่อไป เราต้องการพุ่งเป้าไปที่การให้บริการด้านการซ่อมบำรุง ทั้งแบบ Preventive Maintenance (PM) และ Corrective Maintenance (CM) ธุรกิจจะสามารถไว้วางใจให้เราช่วยดูแลงานติดตั้งซ่อมแซมและบำรุงรักษาหลังบ้านด้วยประสบการณ์จากการบริหารงานกว่า 100,000 งาน พร้อมระบบ Digital Platform ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมา ได้แก่ Eagle Platform ระบบบริหารงานซ่อมแซม, Cheetah Platform สำหรับบริหารโครงการแบบศูนย์รวม และ Wolf App แอปพลิเคชันควบคุมงานช่าง ทั้งหมดนี้สร้าง Ecosystem ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น ช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้มั่นใจในคุณภาพบริการของเรา และสามารถทุ่มเททรัพยากรไปสู่การขยายธุรกิจสามารถทุ่มเทเวลาและทรัพยากรไปกับการขยายธุรกิจเป็นหลักได้” นายคณิศร กล่าวเสริม
“กรุงศรี ฟินโนเวต” เผยผลการดำเนินงานตลอด 12 เดือนของปี 2023 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จสามารถ deploy capital ได้มากถึง 75% จากแผนงานเป้าการลงทุนตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ และปี 2024 พร้อมทะยานอย่างต่อเนื่อง วางกลยุทธ์เสริมแกร่งครบ 360 องศา เพื่อที่จะนำพาสตาร์ทอัพไทยให้เติบโตมากที่สุดอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน
“คุณแซม ตันสกุล” MD, Krungsri Finnovate ที่มีประสบการณ์ ในแวดวงธนาคารมานานกว่า 20 ปี เผยว่า “ปี 2023 นั้น Krungsri Finnovate ได้ลงทุนในสตาร์ทอัพเรื่อยมา พร้อมกับเปิด Finnoventure Fund กองทุนสตาร์ทอัพของไทยที่เปิดให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาร่วมลงทุนได้ บนความตั้งใจที่ต้องการสร้างไทยสตาร์ทอัพให้เป็น “ยูนิคอร์น” เพราะหมายความว่าเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดันเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น ถึงแม้ว่าในปี 2023 กลุ่มสตาร์ทอัพ ในไทยอาจดูเงียบเหงา เนื่องจากเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลง แต่ “Krungsri Finnovate” ก็ไม่ได้หยุดการลงทุน โดยปีที่ผ่านมา (รวมทั้งปี2022 และ 2023) เราได้ลงทุนไปแล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท ใน 14 กิจการสตาร์ทอัพจากกองทุนที่ชื่อว่า “Finnoventure Private Equity Trust 1” นอกจากนี้ต้นปีที่ผ่านมาได้เปิด Accelerator ที่ชื่อว่า Krungsri Upcelerator ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยรับสตาร์ทอัพจากภาคเหนือเข้ามาร่วมบ่มเพาะด้วยกัน”
“เช่นเดียวกัน ปี 2023 “Krungsri Finnovate” ก็ถือว่าเป็นหน่วยงาน CVC ที่ได้รับความน่าเชื่อถือ จนหลายองค์กรต่างมอบรางวัลให้กับเรา ผมขอเป็นตัวแทน ขอขอบคุณมากๆ ที่เห็นความตั้งใจของทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นรางวัลจาก Digital Banking, หรือว่า Innovation Awards ได้โอกาสพูดบนเวทีของสื่อระดับประเทศอย่าง The People เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ภายใต้บริบทของ “Game Changer” ภูมิใจมากที่เราได้รับโอกาสเป็นองค์กร Game Changer ของประเทศไทย ที่จะสร้าง Startup ของประเทศไทย ให้เป็น Unicorn แล้วก็เข้าสู่ IPO และล่าสุดกับการได้รับการคัดเลือกส่งท้ายปีของ Chosen by The People 2023 หมวดเทคโนโลยี ถือเป็นกำลังใจให้พวกเราตั้งใจมากยิ่งขึ้นไปครับ”
นอกจากนี้ “คุณแซม ตันสกุล” MD, Krungsri Finnovate ยังได้เผยถึงแผนงานปี 2024 ว่า “ปี 2024 เรายังคงให้ความสำคัญกับ IMPACT และ Digital Transformation เพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพตัวเล็กๆ ที่จะทำร่วมกับ "คุณป้อม ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพเติบโตและประสบความสำเร็จด้วยการสร้างความยั่งยืน พัฒนาเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเตรียมเปิดกองทุนใหม่ที่ชื่อว่า “Finno Efra Fund” เพื่อระดมทุน ระดมเงินเข้ามา เพื่อที่จะลงทุนในกิจการสตาร์ทอัพที่อยู่ใน Early Stage ตั้งแต่ Seed จนถึง Pre-Series A โดยโฟกัสไปที่กิจการในไทยก่อนเป็นหลัก และอาจรวมถึงเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้นด้วย นอกจากนี้ “Krungsri Finnovate” ยังมี FINNOVERSE & FUTURISTIC FUND ที่จะลงทุนสูงสุด 6 รายการ ในที่นี้เป็น 3 การลงทุนใหม่ สร้าง ESG ที่เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งมาจาก Environment, Social, และ Governance และสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยีรักษ์โลกที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้ ในเชิงกลยุทธ์ไปสู่ AI และความปลอดภัยทางไซเบอร์”
“นอกจากเปิดกองทุนแล้ว ก็จะเปิด Accelerator ที่ชื่อว่า “Finno Efra Accelerator” เพื่อให้สตาร์ทอัพเหล่านี้ มาบ่มเพาะในโปรแกรมของเรา และก็ได้รับเงินทุนเช่นเดียวกัน โดยมีเป้าหมายจะลงทุนทั้งหมดถึง 50 กิจการสตาร์ทอัพ เพื่อให้เติบโต จาก Early Stage เข้าสู่ Series A ถัดไป ซึ่ง Series A จะมีกองทุนแม่ในการรับเข้าไปลงทุนต่อ”
“สำหรับ Accelerator ปีหน้า เราจะมีอย่างน้อย 10 สตาร์ทอัพ ที่จะได้เข้าร่วมในกิจกรรม Accelerator ที่ชื่อว่า “Finno Efra Accelerator” และเมื่อผ่านโรงเรียนนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ก็มีสิทธิ์มากที่จะได้รับการลงทุนต่อในกองทุนนี้ โดยจะสอนเป็นเวลา 4 เดือน มีเมนเทอร์ โดยเลือกสตาร์ทอัพเข้าทีม และจะเริ่มการสอนตั้งแต่เรื่อง mindset และการจะเป็นผู้ประกอบการต้องทำอย่างไรบ้าง ให้ลงตลาดจริง สอนเรื่องการพัฒนาโปรดักส์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
“แน่นอนสำหรับสตาร์ทอัพ ตอนนี้เตรียมตัวได้เลย ถ้าท่านอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Seed Stage ถึง Pre-Series A ก็คือเริ่มมี Traction แล้ว เริ่มขายของได้แล้ว แล้วก็อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Digital Transformation หรือกลุ่ม Impact ไม่ว่าจะเป็น Tech อะไรก็แล้วแต่ สามารถเตรียมตัว เตรียมความพร้อมที่จะสมัคร ติดตามพวกเราได้ใน Facebook: Krungsri Finnovate และติดตามเรื่องการสมัครได้ภายในต้นปี โดย “Krungsri Finnovate” หวังว่าจะได้รับการตอบรับอย่างมากมาย และแน่นอนผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ 10 ทีมสุดท้าย และสามารถจบ Accelerator อย่างสวยงาม ก็จะได้รับเงินลงทุนจากกองทุน Finno Efra Fund เช่นเดียวกัน”
“สุดท้ายแล้ว “Krungsri Finnovate” ยังมีแผนกลยุทธ์ในปี 2024 เกี่ยวกับ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และนักลงทุนสัมพันธ์ (Strategic Partnership & Investor Relations) เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในภูมิภาค โดยมี
สตาร์ทอัพกว่า 150 โครงการ และสร้าง 1 เมกะโปรเจ็กต์ กิจการร่วมค้า (Joint Venture) และ New Business Model โดยพร้อมเทหมดหน้าตักลงทุนอย่างน้อย 1,000 ล้านบาท” คุณแซม ตันสกุล ปิดท้าย
ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I (Finnoventure Fund I) บริหารโดย กรุงศรี ฟินโนเวต ประกาศเข้าลงทุนใน MFast สตาร์ทอัพชั้นนำผู้พัฒนาแพลตฟอร์มด้านเครือข่ายการขายในประเทศเวียดนาม ในรอบ Series A ร่วมกับผู้ลงทุนต่างชาติอีก 5 ราย โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ
MFast เป็นสตาร์ทอัพแถวหน้าและเป็นที่รู้จักทั้งจากผู้บริโภคและองค์กรชั้นนำในประเทศเวียดนาม โดยมีเครือข่ายตัวแทนขายที่แข็งแกร่งกว่า 160,000 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าผู้บริโภคในกลุ่มเมืองรองในเวียดนามได้เป็นอย่างดี และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม
นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า “เวียดนามมีการจัดกลุ่มเมืองต่างๆ ออกเป็น tier ในแต่ละภูมิภาค ซึ่งกลุ่มเมืองรองในหลายพื้นที่อาจจะเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มหัวเมืองใหญ่ MFast เห็นโอกาสในส่วนนี้และได้เข้าไปพัฒนาแพลตฟอร์ม วางโครงสร้างในเรื่องเทคโนโลยี รวมทั้งเข้าไปให้ความรู้และฝึกอบรมตัวแทนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้กับลูกค้าที่ความต้องการและกระจายอยู่ในพื้นที่เมืองรองต่างๆ”
นายหลง พัน ธาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MFast กล่าวว่า “ท่ามกลางโลกที่เงินลงทุนในสตาร์ทอัพลดลง เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหม่อย่างกองทุนฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ ซึ่งบริหารโดย กรุงศรี ฟินโนเวต ทำให้การระดมครั้งนี้ประสบผลสำเร็จและผ่านไปด้วยดี ก้าวต่อไปนับเป็นก้าวที่สำคัญของ MFast อีกครั้ง เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจะเป็นการเดินหน้าตามแผนในการขยายธุรกิจของเราไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2567 นี้ด้วย”
“MFast เป็นสตาร์ทอัพจากต่างประเทศรายแรกที่ ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I เข้าไปลงทุน การลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการบริหารกองทุน โดยเราเห็นศักยภาพและโอกาสเติบโตที่สูง ทั้งนี้ด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่งและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพันธมิตร ซึ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำในประเทศเวียดนาม ในจำนวนดังกล่าวยังรวมถึง SHB Finance บริษัทสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในเครือกรุงศรีด้วย ทำให้ MFast สามารถปลดล็อคข้อกำจัดในเรื่องของการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้กับผู้บริโภคชาวเวียดนามได้ และ MFast กำลังขยายไปสู่ตลาดในประเทศฟิลิปปินส์อีกด้วย ทั้งนี้ เราเชื่อมั่นว่า การสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเหมาะสมนั้น ไม่เพียงเป็นการส่งเสริมศักยภาพของคน แต่ยังเป็นช่วยส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนทางเศรษฐกิจด้วย”
ปัจจุบัน ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I ลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งสิ้นแล้ว 10 ราย มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท และมีแผนที่จะลงทุนในสตาร์ทอัพอีก 5-6 รายในปีนี้
จับมือ 2 พาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่ กรุงศรี ฟินโนเวต และ เทค แมทริกซ์ เร่งพัฒนาโซลูชั่นขยายตลาด มุ่งสู่การเป็นเทคสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างยั่งยืน